ตอนที่ 243 ทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง
เซรีนรู้ว่าเกี่ยวกับอะไร การทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งเป็นการทดสอบของการเข้าแข่งขันที่มีความยากสูงสุด ปกติจะใช้เพื่อจัดการคู่แข่งพิเศษ
ถ้าเป็นปิงเซรีนมั่นใจไม่ว่าจะเป็นการทดสอบเบื้องต้นชั้นไหนก็ตามพวกเขาก็ผ่านได้ แต่ถังเทียนเป็นคนที่เพิ่งฝึกฝนมาได้เจ็ดวัน เขาจะผ่านทดสอบด้วยระดับความยากสูงสุดได้อย่างไร? เซรีนได้ยินปิงพูดถึงพรสวรรค์การต่อสู้ที่โดดเด่นของถังเทียนมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นแต่เดิมทีนางหวังว่าถังเทียนจะสามารถเข้าแข่งขันได้หลังจากผ่านไปไม่กี่รอบ แม้ว่าความก้าวหน้าจะไม่มาก แต่อย่างน้อยนางหวังว่านางจะก้าวหน้ามากขึ้น
เมื่อมาถึงจริงๆกลับเป็นการทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งทันที...
นั่นหมายความว่าการเดินทางของพวกเราสิ้นสุดลงในวันนี้ใช่หรือไม่?
เซรีนโกรธ “นี่หมายความว่ายังไง? การทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งใช้กับผู้เข้าแข่งขันพิเศษไม่ใช่หรือพื้นแบบนั้น...”
ชายชราตอบอย่างใจเย็น “หากมั่นใจว่าการเอาอาวุธจักรกลชำรุดนี้เข้าแข่งขันก็ต้องถือว่าเจ้าเป็นคู่แข่งขันพิเศษเป็นธรรมดา”
ทุกคนหัวเราะลั่น
เซรีนหน้าแดงปกตินางเป็นผู้หญิงฉลาดและสามารถโต้ฝีปากได้เร็ว การนำอาวุธจักรกลชำรุดนี้เข้าแข่งขัน สำหรับผู้จัดการแข่งขันถือเป็นการท้าทาย และในการแข่งขันมักจะมีการต่อสู้ทะเลาะกันเป็นปกติแม้ว่าการต่อสู้นี้จะไม่ชัดเจนนัก แต่การแข่งขันในที่มืดก็มีจำนวนมาก
“ผู้เข้าแข่งพิเศษ?ท่านกำลังพูดถึงยอดฝีมือใช่ไหม?” ถังเทียนถามตัดบททันที
คอของเซรีนแดงไปหมด คำถามของถังเทียนทำให้นางอับอายอีกครั้ง และนางอยากจะมุดดินลงไปซ่อนตัวเสียให้ได้ เจ้างี่เง่านี่อยากตายหรือไง...เจ้าไม่เข้าใจหรือว่าพวกเขากำลังพูดอะไร?ข้าจะไม่มีทางออกมาพร้อมกับเขาอีกต่อไปแล้ว!
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“โอย..ไม่ไหวแล้ว ..ข้าหัวเราะมากเกินไปจนท้องคัดท้องแข็งหมดแล้ว! ฮ่า ฮ่า ฮ่า....”
“ข้า..ข้า..ข้าก็หยุดหัวเราะไม่ได้ฮ่าฮ่าฮ่า...”
รอบๆตัวพวกเขาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่มียั้ง
ใบหน้าชายชรามีแววเย้ยหยันขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ “แน่นอน, จากที่เห็นแล้วข้าบอกได้เลยว่าเจ้าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง!”
“ตาถึงจริงๆ ท่านถึงได้เห็นขนาดนั้น!” ถังเทียนทึ่ง
“ก๊ากๆๆๆๆๆ...”
“ไอ้หนูนั่น มันตลกจริงๆ เว้ย”
“เฮ้ย, ยอดฝีมือ! รีบๆ แสดงฝีมือให้เราชมเร็วๆ”
…
เซรีนบัดเดี๋ยวหน้าเขียวบัดเดี๋ยวหน้าแดง ตั้งแต่เด็กจนโตมานางไม่เคยขายหน้าขนาดนี้ เจ้างี่เง่านี่ก็ช่างงี่เง่าเสียจริง! หัวใจนางรู้สึกสิ้นหวังอย่างแรง การเผชิญหน้าสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้น่าขายหน้า แต่นางก็ไม่สามารถหนีไปได้
แครก แครก!
เสียงฝีเท้าโลหะหนักดังพร้อมกับเสียงโลหะกระทบกันขณะที่ทั่วทั้งตัวหิมะสายฟ้ามีส่วนชำรุดรุ่งริ่งดูราวกับว่าเหมือนเสื้อผ้าที่มีขยะมาแขวนไว้
เสียงหัวเราะค่อยๆหยุดลง
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลายๆคนเริ่มจางหายไป ขณะที่อาวุธจักรกลชำรุดเริ่มเดินออกมา
เจ้าเด็กนี่จะเอาจริงๆหรือนี่?
ความคิดนี้ติดอยู่ในใจของหลายๆคน การทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งถูกสร้างมาเป็นพิเศษสำหรับจัดการนักสู้สายจักรกลที่กร่างท้าทายให้เกิดการประชันขันแข่งและมีน้อยคนมากที่จะผ่านไปได้ จนกระทั่งบัดนี้มีคนใช้วิธีนี้ถึง 249ครั้งและจำนวนคนที่ประสบความสำเร็จมีเพียงหกคน
ดังนั้น มันจึงมีอีกชื่อว่าบททดสอบมรณะ
หลังจากที่เงียบไประยะสั้นๆเสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าเด็กนี่ช่างโง่เขลาจริงๆ เขาไม่รู้เรื่องการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งเลย
จะมีการแสดงดีๆให้ดูแล้ว
บททดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งนอกจากความยากอยู่ในระดับสูงแล้ว ยังมีส่วนที่พิเศษคือ ในทะเลสาบจะมีฝูงปลาฟันเหล็กจอมเขมือบอยู่ร้อยตัวขนาดนิ้วมือพวกมันไม่สนใจเนื้อสัตว์ แต่กลับอารมณ์เสียได้ง่ายและตื่นเต้นเล่นงานกับของสิ่งอื่น
ทันที่ใครก็ตามร่วงลงไปในทะเลสาบปลาฟันเหล็กทั้งร้อยตัวจะกัดอาวุธจักรกลทุกอย่าง เสื้อผ้า รองเท้าและสิ่งของทุกอย่างจนหลุดกระจุยเหลือแต่ตัวเปล่า
ทะเลสาบนี้ยังคงมีอีกชื่อก็คือ“ทะเลสาบชำระหนี้”
ทันใดนั้นเซรีนนึกถึงเรื่องราวนี้ได้และนางหน้าซีดขาวทันที นางตะโกนอย่างกังวล “อย่าไป!”
ถังเทียนไม่สนใจเสียงตะโกนของนางไม่แม้แต่จะอุ่นเครื่อง หิมะสายฟ้ายังคงยืนอยู่ประจำจุดเริ่มต้น เสียงพึมพำของเขาไม่ดัง แต่เสียงเหล่านั้นถูกลมพัดกรอกหูทุกคน
“ช่างเป็นการแข่งขันที่น่าหลงใหล! ทำให้คนรู้สึกเลือดลมพลุกพล่านได้จริงๆ”
คำพูดไร้ความรู้สึกนี้ทำให้ทุกคนตะลึง หลังจากนั้นชั่วขณะพวกเขาก็รู้สึกตัว เจ้าบ้านี่โง่ขนาดแยกไม่ออก เขาไม่รู้จักเสียงเยาะเย้ยถากถางจริงๆ หรือนี่?
พวกเขาต้องการจะก่อกวนต่อ แต่จู่ๆ หิมะสายฟ้าหันหัวสกปรกของมันและจ้องดูชายชรา
“ข้าเริ่มได้หรือยัง?”
ชายชราตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าคนผู้นี้จะไม่มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยหรือไม่มีความต้องการจะถอนตัวแม้แต่น้อย ทันใดนั้นชายชรามีความรู้สึกแปลกบางอย่างเว้นแต่...
เขาลอบส่ายหน้า จะเป็นไปได้อย่างไร?เจ้าเด็กนี่ผู้อยู่ต่อหน้าเขายี่ห้อก็บอกอยู่แล้วว่าบ้านนอก เจ้าเด็กนี่ยังจะผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้อย่างไร? เขาทำงานมาเกินสิบปีแล้วผ่านงานแข่งขันมาห้าครั้ง ในห้าครั้งเหล่านี้เขาไม่เคยเห็นผู้เข้าแข่งขันสอบผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้เลย ตามคำเล่าลือกล่าวไว้ว่ามีเพียงหกคนที่สอบผ่านแต่ใครจะรู้กันเล่าว่าผ่านมานานแค่ไหนแล้ว
นั่นเป็นเพราะพอมีการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก็ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายด้วย
ก็มีเจ้าเด็กที่ดูโง่งมนี่น่ะหรือ?
ชายชรารู้สึกละอายอย่างช่วยไม่ได้ที่เขาสงสัยและคลางแคลงใจก่อนหน้านั้น เขาเกือบคล้อยตามเจ้าเด็กที่เด็กร้ายกาจนี่แล้ว
ชายชราไม่ทำท่าเย้ยหยันอีกต่อไปเขากลับเข้าทำหน้าที่และกล่าว “งั้นเชิญ..เริ่มได้”
ทุกคนเบิกตากว้างอย่างช่วยไม่ได้เห็นได้ชัดว่าหน้าของทุกคนตื่นเต้นนานมากแล้วที่ไม่มีคนเข้ามาขอแข่งทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง การแสดงดีๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
“ข้าเริ่มได้จริงๆ เหรอ?” ถังเทียนยืนยัน
ชายชราสำทับเขา“ผ่านไปสามวินาทีแล้ว”
“สามวินาที อา.. เวลาเดินเร็วนัก..” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียดาย และเหมือนกับใบไม้ที่ล่องลอยอยู่ในสายลมเสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจไปกับสายลม
หกวินาที
“หิมะสายฟ้า เราต้องไปแล้ว
หิมะสายฟ้าตั้งท่าเตรียมออกตัวมันชะงักอยู่ในท่านั้น
สิบวินาทีผ่านไป
พวกผู้ชมระบายลมหายใจกันหมด ครึ่งหนึ่งของพวกเขาแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ดูไปอย่างนั้นเอง สำหรับพวกเขาแล้ว เจ้าอาวุธจักรกลชำรุดนี้ก็แค่ตั้งท่าเสแสร้งเก๊กท่าแต่ไม่ได้ทำจริงๆ
พวกเขาถูกหลอก!
บางคนเตรียมหันหลังจากไป แววผิดหวังปรากฏอยู่ในใบหน้าของพวกเขาดูต่อไปก็ไม่มีอะไรดี
พอถึงเวลานี้เสียงคำรามลั่นราวฟ้าลั่นดังออกมาทันที เสียงระเบิดนั้นดังเข้าหูของทุกคน“หิมะสายฟ้า!”
คลื่นเสียงดังระเบิดออกมาเป็นปริมณฑลอาวุธจักรกลที่ชิ้นส่วนรุ่งริ่งพลันยืดตัวอยู่ในท่าตั้งตรง หิมะสายฟ้าที่ชำรุดกลายเป็นกราดเกรี้ยวในทันทีเหมือนกับแมวดำขนพองด้วยความดุร้าย รอยยิ้มเหมือนปรากฏตามเขี้ยวแหลมคมและกรงเล็บที่คมที่ยื่นออกมาจากอุ้งมืออุ้งเท้า รังสีฆ่าฟันกวาดผ่านไปทั่วบริเวณ
ร่างของทุกคนแข็งค้าง
พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าของพวกเขาซีดขาวเหมือนกระดาษ พวกเขาไม่รู้ตัวว่าขาของพวกเขากำลังสั่นเพราะความคิดของพวกเขาพังทลาย คลื่นพลังจิตโจมตีที่ดุร้ายและรุนแรงทำให้พวกเขาสูญเสียความรับรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดที่สุดขั้วนี้ไม่มีใครเตรียมตัวมาก่อนและในความเป็นจริง ทุกคนเหมือนถูกขู่จนขวัญกระเจิง
ในท่ามกลางการจ้องมองอย่างว่างเปล่าเสียงแหลมเหมือนกับธนูแหวกอากาศพุ่งผ่านโสตประสาทพวกเขาไปสายฟ้าสีน้ำเงินเจิดจ้าพุ่งวาบผ่านสายตาพวกเขาไป
เสียงโห่ร้องจากมุมเวทีในด้านต่างๆดังระงมพร้อมัน
“ไวมาก!”
คนสองสามคนเหล่านี้เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ตกใจไปด้วย นักสู้สายจักรกลเหล่านี้ยังคงรักษาความสงบอยู่ได้ พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน! แต่ในช่วงเวลานี้ พวกเขาก็เหมือนกันไม่สามารถสงบจิตใจอยู่ได้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างขณะที่ตั้งใจจ้องดูสายฟ้าสีน้ำเงิน สีหน้าของพวกเขาอยู่ในอาการตกตะลึง
เงาสายฟ้าสีน้ำเงินนั้นไวมากจนพวกเขาเกือบมองไม่ทัน
ไวเหลือเกิน!
สายลมหวีดหวิวกรอกเข้าหูเขา นัยน์ตาถังเทียนแดงเหมือนเลือด ความโกรธเขารุ่มร้อนในอกเพิ่มขึ้นจนแทบเผาผลาญเขาให้มอดไหม้ ผิวบนร่างกายของเขาทุกตารางนิ้วร้อนขึ้น
เจ้าพวกบัดซบเหล่านี้..บังอาจเยาะเย้ยหิมะสายฟ้า!
พวกเขาบังอาจเห็นหิมะสายฟ้าเป็นตัวตลก!
นี่คือเหตุผลที่เขาโกรธ ไม่กี่วันมานี้ หิมะสายฟ้ากับเขาอดทนกับบทฝึกที่โหดหินทนเจ็บปวดร่วมกัน ในใจถังเทียนแล้ว หิมะสายฟ้าก็คือสหายร่วมศึกของเขา
และในวันนี้หิมะสายฟ้ายังถูกหัวเราะเยาะอีก
เขาไม่อาจยอมรับได้! ไม่ยอมรับแน่นอน!
วิ่ง!
วิ่งต่อไป!
ถังเทียนกับหิมะสายฟ้าพุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงส่งจากการตีลังกาหลายตลบไวจนเขาเป็นเหมือนกับดาบ เป็นกระบวนการที่ทำได้สมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นฝูงผึ้งภูตเขียวที่อยู่ข้างหน้าเขานัยน์ตาถังเทียนเบิกกว้าง แต่ไม่มีความกลัวอยู่ในใจของเขาเลยไม่มีความลังเลอยู่ในใจเหมือนทหารที่กล้าฆ่าตัวตาย เขากางแขนด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดเขาระเบิดพลังเข้าไปในฝูงผึ้งภูตเขียวอย่างเด็ดเดี่ยว
หิมะสายฟ้า ลุยเข้าไป!
หัวใจของถังเทียนเต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่สิ้นสุด หิมะสายฟ้าเร็วจริงๆสายฟ้าสีน้ำเงินสมบูรณ์พลันสว่างเจิดจ้าชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ตรงเข้าไปในฝูงผึ้งภูตเขียว!
ผึ้งภูตเขียวประหลาดใจรีบกระพือปีกอย่างรวดเร็วพวกมันตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วรวมตัวกันเหมือนเมฆดำ และเตรียมกวดไล่ตามหิมะสายฟ้าอย่างไม่ลดละ
ถังเทียนเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่งไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายที่รออยู่ขณะที่เขาพุ่งผ่านไป ฝูงผึ้งภูตเขียวพุ่งออกมาข้างหน้าเหล็กในนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาเปล่งรังสีที่มองไม่เห็นขณะที่พวกมันรวมตัวกัน
ตอนนี้แหละ
ถังเทียนตะโกนระบายความโกรธในใจออกมาปราณแท้ของเขาทะลักเข้าไปในหิมะสายฟ้าอย่างรุนแรง หิมะสายฟ้าเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่งพุ่งเข้าไปพร้อมกับกางแขน อาศัยแรงเฉื่อยร่างใหญ่โตของมันปั่นหมุนด้วยความเร็วสูงมาก
ผึ้งภูตเขียวคาดไม่ถึงว่าเจ้าอาวุธจักรกลชำรุดจะโจมตีก่อนจริงๆ พวกมันตั้งรับทันทีและถูกดูดเข้าไปหาร่างสีน้ำเงินที่กำลังปั่นด้วยความเร็วสูง
ปราณแท้ระดับหกที่คมบางม้วนครอบคลุมแขนของหิมะสายฟ้าแม้แต่ชิ้นส่วนที่ห้อยรุ่งริ่งก็ยังมีปราณบางๆครอบคลุมไว้ทำให้เป็นเหมือนใบมีดเล็กๆ หิมะสายฟ้าที่กำลังปั่นหมุนด้วยความเร็วสูงกลายเป็นเครื่องปั่นเนื้อที่น่ากลัวทันที
ติง ติง ติง!
เสียงโลหะปะทะกันภายในตัวของเงาสีน้ำเงินเกิดประกายไฟนับไม่ถ้วนผึ้งภูตเขียวที่บิดเบี้ยวและแตกหักถูกปั่นกระแทกออกมาด้วยความเร็วสูง เกิดเป็นกลุ่มหมอกขนาด 300เมตรเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน
ร่างน้ำเงินไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขณะที่มันวิ่งออกจากกลุ่มหมอกเขียว
ถังเทียนสังหารด้วยความโกรธและด้วยความตั้งใจ หิมะสายฟ้าร่วงลงจากอากาศอย่างรวดเร็ว บึ้ม เหมือนหวดกระแทกกลองอย่างแรง หิมะสายฟ้าก้าวไปบนพื้นอย่างหนักหน่วงการลงพื้นอย่างทรงพลังทำให้เกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนและแรงระเบิดใต้เท้าของมัน เกิดรอยแตกกินเส้นผ่าศูนย์กลางเกินกว่าเจ็ดเมตรดูราวกับใยแมงมุมขึ้นทันที
เมื่อยืมพลังที่ถ่ายลงจากขาของเขาถังเทียนบังคับให้มันหยุดหมุนปั่นและฉวยโอกาสพุ่งไปข้างหน้า
วิ่ง!
ในช่วงนี้ความเร็วของหิมะสายฟ้าพุ่งขึ้นถึงขีดสุดของมัน
ร่างที่เหมือนอาบรังสีน้ำเงินพุ่งวาบคล้ายกับธนูสีน้ำเงินขณะพุ่งเข้าหากลุ่มลูกโป่ง
ด้วยความเร็วขนาดมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นมันบิดเอวปล่อยหมัดออกไป
ลูกโป่งทองจำนวนมหาศาลแน่นขนัดเหมือนกับกำแพงแก้วเมื่อรวมตัวกันแน่น พอสะเทือนก็เปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนของกำแพงทันที
ร่างสีฟ้าทรงพลังวิ่งไปถึงจุดสุดท้ายกระแทกลงพื้นเสียงดังปังทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมาร่างน้ำเงินที่ดูตะคุ่มเลือนรางมองมองเยาะเย้ยมาทางกลุ่มคน เหมือนอสูรร้ายที่ยืนตระหง่าน เหมือนกับขุนศึกผู้ห้าวหาญที่พิชิตศัตรูทั้งสามของเขา
หยิ่งยโสเหลือประมาณจริงๆ