ตอนที่แล้วตอนที่ 165 ความอัปยศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 167 พลังสายเลือด

ตอนที่ 166 ฆ่า!


ร่างของชายหนุ่มยืนโดดเด่นที่ประตูทางเข้าห้องโถง  หลิงซิ่วรู้สถานะของเขาและยืนโอบหอกเงินปลีกตัวไปยืนด้านข้างเขาจ้องมองดูถังเทียนที่โกรธจนเกินควบคุมตนเองอย่างพูดไม่ออก

เจ้าผู้นี้เป็นคนจริง...

สายตาของถังเทียนกวาดมองทุกคนในห้องโถง  ดวงตาเขาดูราวกับจะมีไฟลุกด้วยความโกรธที่ใดก็ตามที่สายตาเขากวาดผ่าน ดูเหมือนอุณหภูมิจะร้อนแรงเพิ่มสูงขึ้น

ครั้งนี้ถังเทียนโมโหเต็มที่จริงๆ

เขารู้สึกเลือดลมพลุกพล่านอยู่ภายในตัว เผาผลาญผิวเขาจนรู้สึกเจ็บปวด  ความโมโหทำให้เขาสั่นด้วยความโกรธเหมือนกับว่ามีบางอย่างจะปะทุออกมาจากภายในตัวของเขา

อุบายทั้งหมดที่เด็กหญิงบอกเขาในตอนนี้เขาลืมไปอย่างสิ้นเชิง นัยน์ตาสีแดงของเขาจับจ้องอู๋เจ๋อสิง

“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าฝูงห่านแก่จะทำเรื่องไร้ยางอายขนาดนั้น!”  จู่ๆ ถังเทียนก็ฉีกยิ้มแม้แต่ลมหายใจที่เขาระบายออกมา ดูเหมือนจะร้อนแรงเหมือนเปลวไฟ

เขาสาวเท้ายาวเดินเข้าไปในห้องโถง

ความเร็วของเขาไม่เร็วมาก

อู๋เจ๋อสิงม่านตาหดฉับพลัน  เพราะแต่ละย่างก้าวของถังเทียนทิ้งรอยเท้าไว้บนพื้นหินอย่างชัดเจน

“ข้าได้ยินมานานแล้วว่าแม่นางกู้มีสหายที่น่ากลัวสามคนได้พบเห็นพวกเจ้าในวันนี้แล้ว พวกเจ้านับว่าโดดเด่นแน่นอน” ผู้เฒ่าหวีหัวเราะร่าเริง ดูเหมือนจะไม่สนใจ  “อย่างไรก็ตามเรื่องของตระกูลเสวี่ยจะต้องตัดสินโดยครอบครัวของตระกูลเสวี่ย เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรเข้ามาเกะกะเรื่องของผู้ใหญ่  ผู้อาวุโสตระกูล! ออกมาคุยกันเถอะ  พวกท่านเป็นผู้อาวุโสของตระกูลกู้  รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมา”

ผู้อาวุโสตระกูลทั้งสามคนเดินออกมา  ทันทีที่พวกเขามองดูถังเทียนก็มีสีหน้าหวาดกลัว  พวกเขาได้เห็นมาด้วยตาตนเองแล้วว่าถังเทียนร้ายกาจเพียงไหนใจของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความกลัวต่อถังเทียน

เมื่อสามผู้อาวุโสของตระกูลกู้เดินออกมา  กู้เสวี่ยถึงกับหน้าซีดไม่มีสีเลือด นางมองดูผู้อาวุโสตระกูลทั้งสามอย่างไม่เชื่อถือ

“อย่ากลัวไปเลย”  ผู้เฒ่าหวียิ้มอบอุ่น  “ข้าอยู่นี่แล้วมีจอมยุทธมากมายอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าคับแค้นใจแน่นอน ดังนั้นพวกท่านมีอิสระที่จะพูดตามที่ใจต้องการได้เลย”

เขาสังเกตความเปลี่ยนแปลงในตัวกู้เสวี่ยขณะเดียวก็ดูสีหน้าที่หวาดกลัวของอีกฝ่ายด้วย เขารู้ว่าวิธีการที่ไร้ยางอายของถังเทียนได้คุกคามคนเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะน่ากลัวมากในเรื่องวิทยายุทธ  แต่อยู่ต่อหน้าเขา  พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้

ผู้อาวุโสของตระกูลคนหนึ่งพึมพำ  “เสวี่ยเอ๋อถึงวัยที่ควรจะแต่งงานได้แล้ว....”

หน้าของกู้เสวี่ยซีดมากกว่าเดิม  ทำให้หัวใจอีกฝ่ายตึงเครียด

ผู้เฒ่าหวี่ยิ้มกว้าง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทันใดนั้นมีเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วห้องโถง  ทุกคนหันไปดูและเห็นถังเทียนระเบิดเสียงหัวเราะ เหมือนกับว่าเขาได้ยินเรื่องที่ตลกมาก

ผู้เฒ่าหวีหรี่ตามองในสายตาที่ขุ่นเคืองของเขาฉาบไปด้วยรังสีฆ่าฟัน แต่เพื่อเห็นแก่ภาพรวมในใจ เขาไม่กังวลใจแม้แต่น้อยและเขาลอบดึงผู้อาวุโสทั้งสามมาเป็นพวกเงียบๆ

ถังเทียนหยุดหัวเราะทันทีและจ้องมองสามผู้อาวุโสโดยไม่พูดสักคำ  ผมของผู้อาวุโสตระกูลทั้งสามถึงกับตั้งชันใบหน้าแสดงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ผู้เฒ่าหวีเตรียมตัวจะพูด  ถังเทียนก็หัวเราะขัดจังหวะ

“อย่างตระกูลกู้ไม่คู่ควรให้อาเสวี่ยปกป้องต่อไปอีกแล้ว”  ถังเทียนส่ายศีรษะและพูดตามปกติ  “เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ให้ข้ากวาดล้างละเลงเลือดตระกูลกู้เสียดีกว่า”

น้ำเสียงของถังเทียนราบเรียบ  แต่เหมือนกับว่าเขาโยนระเบิดลงในใจของทุกคน

ทุกคนตะลึงมองบุรุษหนุ่มผู้นี้  ประโยคนี้พูดอย่างปกติเหมือนกับว่ากำลังสั่งอาหารมื้อค่ำแต่คละคลุ้งไปด้วยรังสีฆ่าฟันและกลิ่นคาวเลือด ในทันใดนั้นทุกคนดูเหมือนจะเห็นถนนที่ละเลงเลือดกับบุรุษหนุ่มที่ดูคล้ายกับอสูรยืนตระหง่านด้วยความพอใจ

ลมหายใจของผู้อาวุโสทั้งสามแทบขาดห้วง  หน้าถอดสีทันที ร่างของพวกเขาเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เสียงฟันกระทบกันได้ยินชัดเจน ในห้องโถงเงียบเป็นป่าช้า

ผู้เฒ่าหวีคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะกล้าพูดกรรโชกขู่เข็ญต่อหน้าคนมากมาย

เขาตกใจและโกรธ เขาตระหนักได้ว่าเขาประมาณการผิด คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่คนวัยกลางคนที่มีความคิด  แต่เป็นคนเยาว์วัยผู้ไม่มีความกลัว ห้าวและใจร้อน!

ถ้าเขาไม่รีบกำราบอย่างรวดเร็ว  ศักดิ์ศรีของเขา...

จี่เทียนอยู่ต่อหน้าผู้เฒ่าหวี่ไม่สามารถสะกดกลั้นตัวเองได้เขาตวาดออกไป  “บังอาจนัก...”

หือ!

ถังเทียนระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้งจนเห็นฟันขาว

อาเสวี่ยตอนนี้ ต้องเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเศร้าโศก..

นางคงรู้สึกเหมือนอยู่ในภาวะจำยอม...

นางต้องรู้สึกหนาวสะท้าน...

ความโกรธความขุ่นเคืองในตัวของเขาเหมือนกับพายุหมุนที่ปั่นป่วนอยู่ภายในตัวถังเทียน

เจ้าพวกบัดซบเหล่านี้ทำไมพวกเจ้าถึงกล้าคุกคามนางขนาดนั้น...

ทำไมพวกเจ้าต้องให้นางเสียสละ  ทอดทิ้งนาง....

เพื่อโลกสกปรกของพวกเจ้าทุกคน...  เพื่ออนาคตของพวกเจ้าทุกคน...

พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะทำเช่นนั้น?

ข้า.. ไม่มีทางยอมรับ...

ถังเทียนดีดขาออก และพุ่งเข้าหาจี่เทียนอย่างเดือดดาล

ไม่มีใครคาดว่าถังเทียนจะเริ่มสู้จริงๆ เขาไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเขามากหรือ?  เมื่อเด็กหนุ่มที่กำลังโมโหนั้นนำความยุ่งยากเข้ามา  ก็สร้างความตกตะลึง มีเสียงอุทานระงมจากผู้คน

เด็กหนุ่มกระโดดขึ้นไปในอากาศเหมือนกับร่างกำลังเผาไหม้และกู้เสวี่ยพลันรู้สึกสายตาพร่าเลือน

ทันใดนั้น น้ำตาไหลนองแก้มของนาง  ใบหน้าที่สิ้นหวังเหน็บหนาวรู้สึกอบอุ่นจากสายน้ำตา

อาเทียน...

ทันใดนั้น แสงเขียวปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย  ภายในสายตาของนางมันเหมือนกับใบไผ่เขียวที่ซ่อนอยู่ในความมืด เล็งและหาโอกาสยิงอย่างมั่นเหมาะ

“อาเทียนระวัง!

กู้เสวี่ยกรีดร้องทันทีโดยไม่รู้ตัว  หัวใจของนางรู้สึกเหมือนถูกมือบีบไว้แน่น  ความกลัวความผิดหวังเต็มตัวนางและมันพรากความอบอุ่นสุดท้ายที่อยู่ในตัวนางไป

อู๋เจ๋อสิงสะดุ้ง

ตั้งแต่เริ่มแรกเขาไม่เคยพูด  แต่ตอนนี้พอเขาโจมตี  กระบี่นี้เขาไม่มีการยั้งมือแต่อย่างใด เพราะเขาเห็นชัดว่ากู้เสวี่ยมองถังเทียนยังไง ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเจ็บปวดเป็นครั้งแรกเจ็บปวดจนพูดไม่ออกและโกรธขึ้นมาทันใด

กู้เสวี่ยชอบเขา!

รังสีฆ่าฟันมากมายท่วมไปทั้งตัวเขาทุกตารางนิ้ว ตบะที่เขาบำเพ็ญมาด้วยตัวเองตามปกติถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจิตใจ

เสียงกรีดร้องตื่นตระหนกของกู้เสวี่ยเข้าหูเขาในตอนนี้  ทำให้เขามีความสุขอย่างมิอาจอธิบายได้เข้ามาแทน

ฆ่าเขา!

และกู้เสวี่ยจะเป็นของข้า!

เสียงหนึ่งยังคงดังอยู่ในใจของเขา  กระบี่นี้เขาตั้งใจมากกว่าแต่ก่อนเขายังมีความรู้สึกอีกว่า กระบี่นี้เขาตั้งใจใช้ออกมากกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์

ไม่มีผู้ใดสามารถหลบท่าแทงนี้ได้!

ไม่มีที่ไหนที่ถังเทียนสามารถยืมสภาวะจากในกลางอากาศได้  ขณะที่เขาหมิ่นเหม่จะถูกแทงตายร่างของเขาก็งอตัวฉับพลัน เพราะเขาได้คาดการณ์ถึงกระบี่นี้ไว้นานแล้ว ปลายกระบี่เฉียดผ่านเขาไป

อู๋เจ๋อสิงกำด้ามกระบี่รู้สึกถึงความว่างเปล่าจากปลายกระบี่  ความรู้สึกเช่นนั้นยังคงเหลือเชื่อ

อู๋เจ๋อสิงเหมือนกับถูกฟ้าผ่า  ร่างของเขาแข็ง จิตใจว่างเปล่า นัยน์ตาเขาพร่าเลือนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ  พลาด.... ท่ากระบี่ที่เขามั่นใจที่สุดพลาดเป้า

นี่มันเป็นไปไม่ได้... เป็นไปไม่ได้!

เมื่อพวกเขาเห็นอู๋เจ๋อสิงลอบแทงก็แทบจะทำให้ทุกคนเชื่อว่า ถังเทียนจะต้องตายแน่ เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาเห็นกับตาตนเอง ว่าท่าลอบแทงของอู๋เจ๋อสิงสามารถทำลายพลังสายเลือดจ้าวแสงสว่างของหลี่ซิ่นได้

แต่ในขณะนี้ อู๋เจ๋อสิงยังลงมืออย่างคาดไม่ถึง และลงมือโดยไม่มีคำเตือนใดๆ!

ต้องตายอย่างแน่นอน!

แต่....ถังเทียนหลบได้จริงๆ ...........เขาหลบท่าแทงนี้ได้จริงๆ......

ทุกคนไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้  ไม่แม้แต่จี่เทียน หน้าของจี่เทียนแสดงความทึ่งออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าแทงที่เหมือนภูตพรายของอู๋เจ๋อสิง

นั่นคือท่าแทงที่ยอดเยี่ยมไร้เสียง  แม้ว่าเขาจะเห็นกับตาตนเองแต่เขาไม่รู้สึกถึงการคุกคามแต่อย่างใด

การใช้กระบี่ของอู๋เจ๋อเทียนอยู่ในระดับที่เหลือเชื่อขนาดนั้น!

จี่เทียนคล้ายกับได้เห็นศิลปะที่งดงาม หน้าของเขาดูพอใจและทึ่งเพราะจุดจบของถังเทียน  เขาจึงไม่ได้คิดเรื่องอะไรอื่น

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง  หลังจากการหลบนั้น ราวกับว่าเขาคาดหวังมานานแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงนี้ฉับพลันเกินไป  แทบไม่น่าเชื่อ

จี่เทียนงง

ในที่สุดเมื่อเขาเรียกความรู้สึกกลับมา  เด็กหนุ่มผู้เหมือนมีเพลิงลุกโชนพุ่งวืดเข้ามาราวกับอุกกาบาตและปรากฏอยู่ต่อหน้าของเขาแทบจะทันที

โอวไม่!

หมัดๆหนึ่งบดบังทัศนวิสัยเขาอย่างรวดเร็ว

เขายกพลองสั้นในมือเขาอย่างตื่นเต้นและบังไว้ที่หน้าอกของเขา

ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าตาของถังเทียนแดงดุจสายเลือด

สภาวะคลั่ง!

ถังเทียนโกรธและรู้สึกแต่เพียงว่ามีสัตว์ประหลาดจำนวนมากร้องโหยหวนและขู่คำรามอยู่ภายในตัวของเขา  เหมือนมีพายุตั้งเค้าอยู่ภายในอกเขา  เขารู้สึกเหมือนจะแตกระเบิดเป็นเสี่ยง  ทันใดนั้นเมื่อเขายกหมัดพลังจากส่วนลึกในตัวของเขาก็ระเบิดออกคล้ายภูเขาไฟ

“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า!”

เสียงโหยหวนระคนไปด้วยความโกรธ กดดัน สิ้นหวัง  เขาต้องการระบายอารมณ์ทั้งหมดนี้ของเขา  ความโกรธ ความอัดอั้นตันใจในอกรวมอยู่ในหมัดนี้!

จี่เทียนมีสีหน้าหวาดผวา พลาดที่จะหยุดถังเทียน เขาเป็นเหมือนนักล่าที่มีสายตากำลังจ้องมองเหยื่อ  เป็นดวงตาที่ไม่แยแสอะไรทั้งนั้น  ประหลาดมากแต่คุ้นๆ

หมัดของถังเทียนกระแทกใส่พลองสั้นของจี่เทียน

พลังปั่นป่วนทะลักเข้ามาเหมือนกับกระแสน้ำที่ฉีดพุ่งออกมาจากประตูน้ำไม่สามารถหยุดได้  พลองสั้นของจี่เทียนเหมือนกับทำด้วยกระดาษ หมัดของถังเทียนทะลุผ่านพลองสั้นกระแทกใส่เนื้อของจี่เทียน พลังที่น่าหวาดหวั่นขวัญผวาทำให้จี่เทียนไม่มีเวลาคิดและเหมือนกับถูกแรดขวิด  เขาปลิวกระเด็นออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่และกระแทกเข้ากับเสาห้องโถง

บึ้ม!

ทุกคนรู้สึกว่าห้องโถงใหญ่สั่นสะเทือน เสาขนาดสองสามคนโอบมีจี่เทียนจมลึกอยู่ภายใน

เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของจี่เทียนตาของเขาปิดสนิทและเขาบาดเจ็บสาหัส

ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!

ผู้อาวุโสตระกูลทั้งสามคนกุมคอที่ผิดรูปหวาดกลัวขวัญผวาและลงไปกองกับพื้น

มาถึงตอนนี้ในอากาศมีขาคู่หนึ่งสวมรองเท้าทองแดงร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนจมถึงเข่า พื้นหินดินดานที่แข็งนี้ตอนนี้กลายเป็นเหมือนเต้าหู้

ปัง!

เสียงดังต่ำลึกเหมือนกลองดังตามมาทำให้ทุกคนตื่นตระหนก

จากนั้นเกิดแรงระเบิดจากใต้ขาขยายเป็นวงออกไปชิ้นส่วนหินปลิวออกไปทั่วทิศ

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

เศษหินแตกจมลึกเข้าไปในกำผนังเหมือนลูกธนู  นักสู้คนอื่นในห้องโถงดูเหมือนจะสะดุ้งตื่นและเริ่มป้องกันตนเอง แต่พลังรุนแรงของเศษหินนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง

นี่เป็นแค่เศษหินกระเด็น...

หลังจากความสับสนวุ่นวายสงบลง  ทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบราวป่าช้า

มีแต่เพียงเสียงกู่ร้องคำรามของถังเทียนที่คล้ายกับสัตว์ป่า  ก้องอยู่ในห้องโถงเหมือนกับสายฟ้ากระหึ่ม

“ยังมีใครอีกไหม?หา.. ยังมีใครอีก?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด