ตอนที่แล้วตอนที่ 142 พี่น้องตระกูลหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 144  อันตราย

ตอนที่ 143 เจ้าขวา ข้าซ้าย!


“หืม?”

ถังเทียนชะเง้อคอทันที  เขายืนและจ้องไปที่ท้ายถนนครึ่งวินาทีต่อมาหลิงซิ่วค่อยรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายเขาตกตะลึงขณะยืนถือหอกเงิน เขาจ้องมองถังเทียนด้วยความประหลาดใจสัญชาตญาณของเจ้าผู้นี้ปราดเปรียวจริงๆ

ความจริงเขายังช้ากว่าถังเทียนครึ่งวินาที!

อย่าดูถูกเพียงครึ่งวินาทีนี้ในการต่อสู้ในหมู่ของยอดฝีมือ ช่องโหว่ในเสี้ยววินาทีก็ถือว่าอันตรายมากแล้ว

เจ้าผู้นี้...ไม่ง่ายอย่างที่เห็น

หลิงซิ่วหันสายตามองไปที่ไกล  เขาค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง  ด้วยความที่เข้าใจผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลดี  เขาจะต้องสู้โต้ตอบกลับมาอย่างหนักแน่นอน

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกกลัว สายลมเย็นพัดต้องใบหน้าเขา ผมสั้นสีฟ้าพลิ้วเป็นระลอก  นัยน์ตาสีแดงเพลิงเป็นประกายเหมือนเปลวไฟ

ชีวิตแบบใหม่เริ่มต้นด้วยการต่อสู้ ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้...

อาจารย์....

หลิงซิ่วเบิกบานใจเหมือนเกิดใหม่ขณะที่รัศมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านท้องฟ้าที่มีหมอกคลุม  เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกปลื้มนัก แต่ในไม่ช้าเขาก็ดึงความรู้สึกกลับมาอยู่กับตัวและเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ที่จะมาถึง

เมื่อมีเงาร่างปรากฏอยู่บนถนน  นัยน์ตาของหลิงซิ่วหรี่แคบทันที หัวใจเขาตกวูบ

“พี่น้องตระกูลหัว!”

ท่าทีเตรียมพร้อมของหลิงซิ่วทำให้ถังเทียนประหลาดใจและรีบถามทันที“พวกเขาน่ากลัวหรือ?”

คนที่ตอบถังเทียนคือเมอเรย์  หน้าของบุรุษเหล็กผู้นี้สิ้นหวังอย่างที่สุดเสียงของเขาแหบแห้ง “น่ากลัวมาก! พวกเขาคือสองพี่น้องที่เข้าสู่ทำเนียบสุดยอดฝีมือห้าสิบคนแรกของดาวไพรมายา”

หน้าของกู้เสวี่ยซีดราวกับกระดาษ แต่นางยังคงนั่งอย่างใจเย็นและไม่แตกตื่นจนเกินไป

“สุดยอดฝีมือห้าสิบคนแรก”  หน้าของถังเทียนก็ซีดขาวเช่นกัน

ไม่ว่าจะดาวดวงใดหากสามารถติดทำเนียบยอดฝีมือห้าสิบอันดับแรกย่อมต้องเก่งกล้าแน่นอน  แม้ว่าดาวไพรมายาจะเป็นเพียงดาวอันดับล่างๆขององค์การวิญญาณมืด แต่มาตรฐานทั่วไปของนักสู้ ก็ยังสูงกว่าหมู่ดาวเพอร์ซูสมากนัก

อย่างไรก็ตาม...

จู่ๆเขาเอียงคอถามทันที “ระหว่างพวกเขากับไซอา ใครมีพลังมากกว่ากัน?”

“ไซอา!”กำลังใจของเมอเรย์ค่อยดีขึ้นมาบ้าง เขาจำได้ว่าถังเทียนคือคนที่สามารถหนีรอดชีวิตจากเงื้อมมือไซอาได้

“โอว” สายตาถังเทียนจับจ้องอยู่ที่พี่น้องตระกูลหัวที่เดินตรงมาทางพวกเขาตามปกติ   เขาแทบไม่มีความกลัวแต่อย่างใดและมีแต่ความต้องการสู้เผาลนใจเขา  “น่าเสียดาย ไว้ข้าค่อยหาไซอามาซ้อมฝีมืออีกครั้งก็แล้วกัน”

เมอเรย์จ้องมาถังเทียนอย่างประหลาดใจ  เขาตะลึงต่อระดับความผยองของถังเทียน

ตามหาเพื่อซ้อมมือกับไซอา..คำพูดแบบนี้ ในช่วงสิบปีมานี้ ทั่วทั้งดาวไพรมายาไม่เคยมีใครกล้าพูดอย่างนั้น

แต่เจ้าผู้นี้....ช่างผยองจริงๆ!

“คิดจะซ้อมมือกับไซอาน่ะหรือ?”  หลิงซิ่วหัวเราะเย็นชา  “คิดให้ได้ก่อนว่าวันนี้เราจะสู้ศึกนี้อย่างไรก่อน  เจ้าหมีสองตัวนี้ ไม่ใช่หมีธรรมดา แค่ความแข็งแกร่งเล็กน้อยของเจ้าเทียบกับพวกมันไม่ได้เลย”

ถังเทียนโต้เถียงไม่ลดละ  “หลีกไปเลย ทุบตีเจ้าพวกขี้แพ้เอ่.. ขาเจ้ากำลังสั่นอยู่หรือนี่? ฮะฮะ ถ้าเจ้ากลัวล่ะสิ มาซ่อนข้างหลังข้าก็ได้  หยาหยาจะปกป้องเจ้าเอง”

"เหลวไหล!ใครสั่นกัน?" หลิงซิ่วโกรธ  "ข้าจะกลัวด้วยเหรอ?  แค่เพราะสองคนนี้จะทำให้ข้ากลัวด้วยหรือ?  ข้าจะเอาชนะพวกมันด้วยมือของข้า"

"พูดได้เด็ดขาดดี"ถังเทียนปรบมือด้วยสีหน้ายินดี "ในฐานะพี่ใหญ่ ข้าชื่นชมเจ้ามาก เจ้าต้องการคนซ้ายหรือขวา? ให้เจ้าเลือกก่อนเผื่อในกรณีเจ้าพลาดท่าข้าจะได้มาช่วยเจ้าได้"

"ช่วยข้าหรือ?"  ตาของหลิงซิ่วแดงแล้วในตอนนี้  "เจ้ากำลังบอกว่าข้าจะแพ้งั้นหรือ?  เจ้ากับมาตรฐานห่วยๆยังจะต้องการช่วยข้าหรือ?  มาเลย มาสู้กันยกหนึ่งก่อน  ข้าจะบอกให้ว่าข้ารำคาญหูรำคาญตาเจ้ามานานแล้ว"

กู้เสวี่ยตะลึงมองทั้งคู่ขัดแย้งกัน

"ไม่"ถังเทียนชูนิ้วแล้วสั่นเบาๆ "มีการประลองที่ยุติธรรมมากอยู่ต่อหน้าเจ้าเราจะเลือกคู่ต่อสู้กันคนละคน ใครก็ตามเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ก่อน คนนั้นจะชนะ อย่างนั้นเป็นไง  ซิ่วซิ่วน้อย เจ้ากล้าหรือเปล่า?"

ก่อนที่หลิงซิ่วจะอ้าปากพูด  ถังเทียนใช้หัวแม่มือชี้ตัวเองด้วยสีหน้ากวนโมโห "ซิ่วซิ่วน้อยต้องกล้าหาญและสู้ให้เหมือนหนุ่มน้อยชาวฟ้า"

"ไสหัวไปเลย!"  หลิงซิ่วโกรธ

"ความโกรธไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าหรอกนะเด็กน้อย" สายตาของถังเทียนจับจ้องคู่หูที่กำลังเดินเข้า  สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา และเขาพึมพำ  "ข้าขอคนซ้าย  เจ้าจัดการคนขวา"

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค  หลิงซิ่วก็วิ่งออกไปแล้ว

"ลุงเมอเรย์ปกป้องกู้เสวี่ยให้ดีนะ"

ถังเทียนพูดโดยไม่หันหน้ามาดู สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่หัวซาที่อยู่ข้างซ้าย  ความต้องการต่อสู้ของเขากำลังลุกฮือ

ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะหัวซาได้  เขาจะไปท้าทายไซอาได้อย่างไร?

เป้าหมายของข้าคือไซอา!

มาเลยเจ้าหมียักษ์เตรียมตัวพบกับความลำบากด้วยพลังของเด็กๆ ชาวฟ้ากัน

ถังเทียนพุ่งตรงเข้าหาหัวซาเหมือนสายฟ้า

※※※※

เมื่อเห็นหลิงซิ่วและถังเทียนกำลังเดินตรงมาที่พวกเขาใบหน้าเฉยเมยของหัวหรงเผยให้เห็นรอยยิ้มเย้ยหยัน "ข้าสามารถบอกได้ว่าสหายน้อยสองคนค่อนข้างจะกล้าทีเดียว"

"ฆ่าพวกมัน" หัวซาแค่นเสียง

"ไม่ ไม่ ไม่,เราต้องร่วมเล่นสนุกกับพวกเขาเราไม่พบกับเด็กผู้กล้าหาญมานานแล้ว" หัวหรงหรี่ตาและมีท่าทางล้อเล่น"เด็กๆ แบบนั้นสามารถมาเล่นสนุกกับเราได้ชั่วขณะ"

หัวซาส่ายศีรษะและคำราม "ข้าไม่ชอบเล่น"

"ก็ได้ ก็ได้" หัวหรงมองดูสิ้นหวัง  "แล้วแต่เจ้าแต่อย่ามาชิงของข้าไปก็แลวกัน"

เสียงของเขาเปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้น  "เขาชื่อว่าอะไร? หลิงซิ่วเหรอ? ได้ยินว่าเขาเป็นเด็กมีพรสวรรค์และมีศักยภาพมากไม่มีอะไรทำให้ข้าได้ตื่นเต้นมากไปกว่าได้ทำลายพรสวรรค์เช่นนั้น"

ปง!

พื้นสั่นสะเทือนและขัดจังหวะหัวหรง  เขาหันมาอย่างไม่พอใจ  ตอนนี้หัวซากระแทกกระบองเขี้ยวหมาป่าลงกับพื้น

สองพี่น้องมีบุคลิกแตกต่างกันอย่างมาก  หัวหรงมีฝีมือและฉลาดขณะที่หัวซาจะน่าเบื่อมากกว่า แต่หัวซาไม่เพียงแต่แข็งแรงอย่างน่าทึ่งตั้งแต่เกิดเขายังมีพรสวรรค์ในวิชาฝีมือต่อสู้มากอีกด้วย ดังนั้นเขาแทบจะเหมือนสัตว์ร้ายในขณะต่อสู้

หัวซาถือกระบองเขี้ยวสุนัขป่าไว้ในมือข้างเดียวและเริ่มวิ่ง

ตึง ตึง

ส่วนสูงขนาดขนาดเนินเขาย่อมๆ คู่กับกระบองขนาดหนัก  แต่ละก้าวของหัวซาทำให้พื้นเป็นรอยแตก

"เหลืออดขนาดนั้นเชียว" หัวหรงส่ายศีรษะเขาไม่รู้จะทำยังไงกับน้องชายของเขา แต่ชั่วเวลาต่อมา  เขาก็เลิกห่วงในจุดนั้น

※※※※

"หลิงซิ่วและเจ้านั่นบ้าไปแล้วหรือ? เขา... พวกเขาพุ่งเข้าต่อสู้"  กู้อู่จ้องมองที่ถนนข้างล่างอย่างงุนงงหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

หน้าของกู้อันสวงฉาบไปด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ทุกคนให้ความสนใจกับการต่อสู้  ไม่อยากจะเชื่อสายตาของพวกเขาตอนนี้

"พระเจ้า?พวกเขาไม่ยอมหนีจริงๆ ด้วย"

"อย่าบอกข้านะว่าพวกเขาไม่รู้จักพี่น้องตระกูลหัว?"

"มีความเป็นไปได้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นพวกเขาเช่นกัน..."

"รีบๆ มาดูกันเร็ว เฮ้.. พวกเขาโจมตีแล้ว"

"ไม่มีอะไรให้ดูมากแล้วสิบกระบวนท่าข้าพนันได้ว่าพวกเขาอยู่ได้ไม่เกินสิบกระบวนท่า ใครจะพนันกับข้าบ้าง?"

"ข้าว่าห้ากระบวนท่า!"

……

ขณะที่ระยะของทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วเสียงสนทนาก็หายไป

นี่คือการต่อสู้โดยไม่ได้ตั้งใจของยอดฝีมือในห้าสิบอันดับแรกของดาวไพรมายา ในห่วงโซ่อาหารของดาวไพรมายาพวกเขาอยู่จุดสูงที่สุดแม้แต่ยอดฝีมือในเมืองเฮยซาน เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับนี้คงดูอ่อนแอเหมือนตุ๊กตา หลิงซิ่วอาจมีอนาคตรุ่งเรืองรออยู่ข้างหน้า  แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงอาละวาดในเมืองเฮยซานเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทุกคนกลั้นลมหายใจโดยไม่ได้ตั้งใจ สายตาทุกคนจับจ้องอยู่ที่พี่น้องตระกูลหัวไม่มีการยกเว้นสักคนตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายหลงใหลคลั่งไคล้ พวกเขาไม่สงสัยผลของการต่อสู้เลย  แต่พวกเขาต้องการเห็นด้วยตาตนเองยอดฝีมือระดับสูงของดาวไพรมายาเหล่านี้ ผู้แทบจะกลายเป็นตำนานไม่ปรากฏตัวให้เห็นโดยทั่วไป  จะประสบความสำเร็จในชัยชนะของพวกเขาได้อย่างไร!

ยิ่งทั้งสองฝ่ายเข้ามาใกล้กัน  กลุ่มที่ดูก็ยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะระบายลมหายใจ

หัวหรงวิ่งพลางผ่อนคลายข้อมือ แรงกดที่พลองบรอนซ์ผ่อนลงสีหน้าที่สงบของเขาค่อยๆ หายไปและรังสีฆ่าฟันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพลองทองแดงหนักในมือของเขาเบาเหมือนขนนกและสั่นรุนแรง

หัวซาลากกระบองเขี้ยวสุนัขป่าของเขาเขาเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายมากกว่ากระบองที่เขาลากตามหลังเสียดสีสร้างประกายไฟบนพื้นเขาลากจนเกิดประกายไฟตลอดทางเดินและ...วิ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแค่คนดู แต่รังสีอำมหิตและกลิ่นอายฆ่าฟันของพี่น้องตระกูลหัว ก็แทบทำให้ทุกคนคลั่ง

ในหมู่พวกเขาไม่มีใครสามารถอยู่ได้อย่างสงบก่อนการโจมตีที่ป่าเถื่อนนั้นจะเริ่มขึ้น

และคนเหล่านี้เป็นสุดยอดฝีมือ....

เงาทั้งสองที่กำลังเผชิญหน้ากับสองพี่น้องตระกูลหัวที่วิ่งตะลุยใส่  ดูเหมือนจะเล็ก ไร้ความสำคัญและอ่อนแอมาก

ทั้งสองฝ่ายระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ทุกคนสามารถนึกภาพได้ว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น หลิงซิ่วและถังเทียนจะกลายเป็นเหมือนหุ่นไล่กาที่ถูกทึ้งถูกฉีกโดยสองพี่น้องตระกูลหัว

※※※※

แม้ขณะวิ่งใส่ร่างถังเทียนจะโน้มไปข้างหน้าขณะที่ศีรษะตั้งตรง ตาของเขาเบิกกว้างอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเห็นว่าหัวซาแสดงอย่างแน่ชัดว่ามีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงเพียงพอต่อการทำลายทุกอย่าง  อันตรายที่กล้าแข็งรุนแรงปรากฏกับเขาและสัญชาตญาณของเขาก็เตือนเขาอีกด้วย

แต่สายตาของเขาไม่มีวันหวั่นไหว

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เงาร่างอันตราย  สายลมพัดผ่านหูเขาอื้ออึง เขาพุ่งไปข้างหน้า

เลือดลมกำลังพลุกพล่านและความต้องการต่อสู้กำลังลุกโชน

เอาชนะเขาให้ได้

ความคิดเช่นนี้ก้องอยู่ในสมองของถังเทียน รุนแรงและกล้าแข็งมากจนเขาเกือบจะแผดเสียงออกมา

ความเร็วของทั้งสองฝ่ายรวดเร็วเหมือนสายฟ้าเหมือนกับดาวตกที่พุ่งเข้าปะทะกัน

ภาพรอบๆ พร่าเลือนออกไป มีแต่เพียงภาพการเคลื่อนไหวของหัวซาเท่านั้นที่แจ่มชัด  ทันใดนั้น ม่านตาของถังเทียนหดแคบลงตาของเขาจับการเคลื่อนไหวที่ข้อมือหัวซา

ตอนนี้แหละ!

ถังเทียนใช้กำลังทั้งหมดเหวี่ยงตัวอย่างไม่ลังเลใจ

ใช่แล้วเหวี่ยงออกไป

ถังเทียนก้าวย่างสุดท้ายบนพื้นเป็นเหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่หายไปทันที

ม่านตาของหัวซาหดแคบลงทันทีก้าวสุดท้ายของถังเทียนเกิดขึ้นเพื่อเปิดการโจมตีทันที  เขาไม่มีเวลาเปลี่ยนการโจมตีของเขา

กระบองเขี้ยวหมาป่าที่ลากเป็นประกายกับพื้นถูกเหวี่ยงออกมาจากขาขวาด้านล่างของเขา

โอวไม่!

รังสีฆ่าฟันที่บ้าคลั่งของหัวซาชะงักกระทันหัน

เงาร่างที่ชาญฉลาดร่างหนึ่งปรากฏตัวอยู่ในสายตาของหัวซาโดยไม่มีการเตือนเหมือนกับกรรไกรไม่ทราบว่าปรากฏมาจากไหน กลับปรากฏอยู่ขาซ้ายของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด