ตอนที่แล้วตอนที่ 143 เจ้าขวา ข้าซ้าย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 145 พลังสายเลือดแคระ

ตอนที่ 144  อันตราย


เขามาปรากฏตรงนั้นได้อย่างไร?

ม่านตาของหัวซาฉายประกายสับสน

ถังเทียนตัวขนานพื้นเท้าเขาอยู่ด้านหน้า ตัวโน้มหงายด้านหลังเหมือนสะพานเหล็กขาทั้งสองมีรังสีสว่างขาวเหมือนหิมะและไขว้ตัดขวางกลางอากาศเหมือนกรรไกรเข้าใกล้เข้ามา

ปัง

หัวซาเพียงแต่รู้สึกว่าขาซ้ายถูกแรงยันยกขึ้นตลอดทั้งตัวของเขาเหมือนถูกแรงเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ

จังหวะนั้นของถังเทียนได้ใช้พลังทั้งหมด  เขาไม่สามารถยั้งหยุดร่างกายเขาได้ในตอนนี้ถึงกับลอยสูงกว่าพื้นเกินกว่า 30 เมตร

หลังของเขาลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง  น่าเสียดายโอกาสดีๆในการตามจู่โจมผ่านไปแล้ว  ถังเทียนกลับคืนสู่ความสงบทันทีสามารถทำให้หัวซาหกคะเมนได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว ถังเทียนรู้ดีว่าการต่อสู้แค่เพิ่งเริ่ม

เมื่อถังเทียนหันไปดูอีกที  หัวซาก็ลุกจากพื้นแล้ว

"ข้ามองเห็นไม่ค่อยถนัด....สายตาคงไม่ดีแน่..."

"เป็นไปได้อย่างไร...เขาสามารถเล่นงานหัวซาได้...."

"พระเจ้า....คุณพระช่วย,ข้าเพิ่งเห็นอะไรกันนี่...."

เสียงอุทานทำนองนี้ดังอื้ออึงในหมู่คนที่มองดูจากที่ไกล

ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อและงงกับสิ่งที่ได้เห็น  ปากของพวกเขาส่งเสียงอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวภาพนั้นเพิ่งเกิดขึ้น ทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างสิ้นเชิง  เมื่อมองเห็นหัวซาดิ้นรนลุกขึ้นจากพื้น  ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น  ใครๆก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาถูกจับโยนลงพื้นอย่างหนัก

"ดูหลิงซิ่วสิ!"  ทันใดนั้น บางคนในหมู่ผู้คนร้องลั่นตื่นเต้น

สายตาของทุกคนหันไปทางหลิงซิ่วและหัวหรงโดยไม่รู้ตัว

※※※※

แม้ว่าหัวหรงจะดูแคลนหลิงซิ่ว  แต่เขามีนิสัยเจ้าเล่ห์และช่างสงสัยและไม่ได้โจมตีใส่สุดกำลังเหมือนหัวซา พลองในมือของเขาไวเหมือนสายฟ้า

วิชาพลองที่เขาฝึกก็คือพลองปีกจั๊กจั่น  นี่คือวิชาพลองที่เบาและว่องไว   แต่เขาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างแทนที่จะใช้ความหนักหน่วงของพลอง แม้ว่าพลังของเขาจะไม่น่ากลัวเท่ากับหัวซาแต่พลังแขนของเขาก็ยังน่ากลัว ความและน้ำหนักถูกเขาผสานใช้เข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง

ความเร็วราวสายฟ้าเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจ  เมื่อเทียบกับหัวซา  พลังความแข็งแรงของเขายังห่างไกลนัก  แต่ในแง่ของความเร็วหัวซาก็คงร้องไห้แน่ถ้าจะมาเทียบกับเขาแม้แต่ในยอดฝีมือห้าสิบอันดับแรกของดาวไพรมายา แม้จะมีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา แต่มีน้อยคนมากที่ไวกว่าเขา

อย่างไรก็ตาม....

ในที่สุดเขาก็พบคู่มือในวันนี้จนได้ คนที่สามารถสู้กับเขาได้ในสิ่งที่เขาภูมิใจมากที่สุด

หน้าของหัวหรงเคร่งเครียดพลองใหญ่ของเขารวดเร็วน่าทึ่ง แสงที่ออกมาจากพลองนั้นบางและโปร่งเหมือนกับปีกของจั๊กจั่น  แต่วันนี้เขากลับพบกับการต้านทานที่เหนียวแน่น

ปลายหอกแตกประกายเหมือนดวงดาวประกายแสงสีเงินเย็นเป็นประกายในท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่จากสี่เป็นแปด ในพริบตามเดียวก็เป็นทะเลดวงดาวอยู่ต่อหน้าของเขา

วิชาหอกที่มีความเร็วขนาดนั้น

วิชาพลองของหัวหรงป้องกันทะเลปลายหอกได้อย่างแข็งขันมั่นคง

เป็นไปได้อย่างไร?

ถ้าใครบางคนบอกเขามาก่อนว่ายังมีคนที่ไวกว่าเขาในดาวไพรมายา  ถามใครไปก็คงไม่มีผู้ใดเชื่อ

แต่ตอนนี้ ภาพนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา

พลังต้านทานของทะเลปลายหอกแน่นหนากว้างขวางหอกและพลองปะทะกันหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่หัวหรงรู้สึกว่าพลองของเขากระทบพื้นที่มั่นคง

เขาเริ่มคิดว่าภารกิจนี้จะต้องลงมือเหนื่อยแน่ หัวหรงและหัวซามีสิทธิ์ออกจากดาวไพรมายานานแล้ว ด้วยความเก่งกล้าของพวกเขาย่อมได้ตำแหน่งรถศึกขององค์การวิญญาณมืดได้อย่างไม่มีปัญญหา  แต่เมื่อพวกเขาออกจากดาวไพรมายาไป  แม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำเงินได้มาก  แต่ความเสี่ยงก็สูงและไม่สะดวกสบายเหมือนในดาวไพรมายา

ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เข้าไปตอแยคนน่ากลัวอย่างไซอา  ยอดฝีมือสองพี่น้องก็ยังอาจใช้ชีวิตดุจราชาได้

หลิงซิ่ว..... เจ้าหมอนี่มาจากไหนกัน?

หัวหรงประหลาดใจและสงสัย

※※※※

ถังเทียนล้มหัวซาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันทำให้หลายๆ คนถึงกับนั่งไม่ติด ในการต่อสู้ระหว่างหลิงซิ่วและหัวเรง หลิงซิ่วไม่ได้แพ้แต่อย่างใด! เสียงหอกและพลองปะทะกันราวกับเสียงฝนตกและดาวในท้องฟ้าหลายดวงระเบิดต่อเนื่องไม่หยุด

ทุกคนงุนงง

ความคาดหวังที่มีต่อชัยชนะของพี่น้องตระกูลหัวยังไม่ปรากฏสถานการณ์ที่พวกเขาคาดไว้ยังไม่ปรากฏเช่นกัน

ทุกคนเพิ่งตื่นจากอาการตกตะลึง

นี่คือสองพี่น้องตระกูลหัว....พวกเขาสามารถเข้าสู่ห้าสิบอันดับแรกในสุดยอดฝีมือของดาวไพรมายา พวกเขาสามารถทำผิดกฎหมายได้ในดาวไพรมายานี้  แค่ในเมืองเฮยซานเล็กๆ นี้ พวกเขาก็สามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมืออย่างสองคนนี้ถูกต่อต้านป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยฝีมือของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีสองคน....

เสียงอุทานค่อยๆ เงียบลงทุกคนตระหนักทันทีว่าพวกเขาต้องเริ่มสำรวจดูการต่อสู้นี้ว่าพวกเขาจะสามารถผ่านไปได้อย่างไม่มีข้อสงสัย

เด็กหนุ่มสองคนนี้จะทนอยู่ได้นานเท่าไหร่?

ยี่สิบท่า?  ห้าสิบท่า?

ถ้าพวกเขาทั้งสองคนสามารถทนต้านรับได้เกินร้อยกระบวนท่า  ก็คงเพียงพอทำให้มีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน

หรือบางที อาจชนะ?

มีไม่กี่คนนักที่แว่บความคิดนี้ขึ้นมาในใจ  แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดว่าจินตนาการของพวกเขามองโลกในแง่ดีเกินไป จึงผลักความคิดเช่นนี้ออกไปจากใจ  เด็กหนุ่มสองคนนี้แค่ป้องกันต้านรับพี่น้องตระกูลหัวก็จะได้ชัยชนะแล้วหรือ? พวกเขายังอยู่ไกลจากจุดนั้น

อย่างไรก็ตามการสู้กันครั้งนี้กลายเป็นที่สนใจในไม่ช้า

พวกที่ชมดูการต่อสู้มีแต่ความเบิกบาน

※※※※

หัวซาจ้องมองถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขาเขาน่าเกลียดและดูดุร้ายอยู่แล้วบวกกับใบหน้าที่บูดบึ้งทำให้ยิ่งน่ากลัวขึ้นอีก  ขากางเกงท่อนล่างซ้ายขาดออกไป  รอยแผลกากบาทลึกถึงกระดูกเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลไหลลงตามเท้าซ้ายนองเต็มเท้าซ้ายเขา

หัวซาไม่รู้ตัวเลยว่านัยน์ตาสัตว์ป่าของเขากำลังจ้องมองถังเทียนอย่างดุร้าย เขาไม่ได้พยายามปิดบังรังสีฆ่าฟันและความโกรธไว้  เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ

ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เขาระเบิดอารมณ์อย่างต่อเนื่อง  หัวซาคำรามด้วยความโกรธ  เขาทุบกำปั้นซ้ายที่หน้าอกและพุ่งเข้าหาถังเทียนทันที

กระบองเขี้ยวสุนัขป่าหนักเกือบสามร้อยกิโลกรัมในมือของเขาถูกลากออกมาทันที

วิ้ว วิ้ว วิ้ว!

เสียงหวีดหวิวต่ำที่น่ากลัวทำให้ผู้ได้ยินรู้สึกหัวใจชา   แสงสีกากีหม่นครอบคลุมกระบอง  ในพริบตาก็ครอบคลุมถังเทียน  พื้นที่รัศมี 17เมตรตกอยู่ในขอบเขตการโจมตีของหัวซา

สีหน้าของถังเทียนเปลี่ยน สัญชาตญาณของเขารู้สึกได้ถึงอันตรายซึ่งกล้าแข็งมากจนพลังปราณเที่ยงแท้ภายในของเขากระตุกโดยไม่รู้ตัว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังเทียนรู้สึกถึงอันตรายกล้าแข็ง

ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงทุกครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงอันตรายรุนแรงอย่างนี้นั่นหมายความว่าเขาจะโดนรุกโจมตีในไม่ช้า

แทบจะในเสี้ยววินาที ถังเทียนตัดสินใจคำรามเสียงต่ำ "นกยูง"

ร่างของถังเทียนเปล่งแสงสีน้ำเงินออกมาอย่างเงียบกริบในชั่วพริบตาเกราะนกยูงก็คลุมทั้งร่างของเขา ตอนนี้ เขาไม่สนใจแล้วว่าคนอื่นจะพบว่าเขามาจากสมาพันธ์ชาวยุทธหรือไม่  เพราะการต่อสู้ในวันนี้ถ้าเขาแพ้ก็หมายถึงความตาย

ตรงกันข้าม ถังเทียนต้องการชัยชนะ

ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะเจ้าผู้นี้ได้  แล้วเขาจะท้าทายไซอาได้อย่างไร?

เกราะนกยูงฟื้นคืนสู่สภาพดีแล้วหลังจากถังเทียนจิตวิญญาณพลังยุทธเงินหล่อเลี้ยอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างถูกครอบคลุมไปด้วยปราณเที่ยงแท้ที่มีชีวิตชีวาและสัมผัสที่คล่องแคล่วของเขาขยายออกไปไกล

นี่คือจุดแข็งพลังที่แท้จริงของสมาพันธ์ชาวยุทธ

สมบัติดวงดาวที่แข็งแกร่ง,พลังของตนเองและจิตวิญญาณพลังยุทธสามารถแบ่งปันความพลังให้กับนักสู้

เมื่อมีเกราะติดตั้งอยู่บนตัวเขา  ถังเทียนมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมากเขาคำรามกราดเกรี้ยวและย่อเอวในท่านั่งม้าแล้วใช้พลังประทับหัตถ์ใหญ่ต้านทานกระบองเขี้ยวสุนัขป่า

เมื่อเทียบกันในด้านกำลังแล้ว  หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ไม่เคยหวั่นเกรงใคร

พลังที่รุดหน้าซึ่งครอบคลุมตัวถังเทียนถูกนำมาใช้ทันที

พลังประทับรูปลักษณ์สี่เหลี่ยมปรากฏอยู่เหนือตัวถังเทียน

บึ้ม!

แขนทั้งสองรู้สึกชา ถังเทียนครางออกมา  ตาของเขาถลึงมองด้วยความโกรธ  ท่านั่งม้าของเขาดูเหมือนจะล้มแต่เขาก็จัดท่าตั้งมั่นได้ทันที นอกจากนี่พลังที่รุนแรงถ่ายผ่านตัวเขาลงไปและเท้าของเขาถึงกับจมลงไปในเนื้อหิน

หินแข็งรอบตัวถังเทียนในรัศมี 17เมตรถูกป่นเป็นผง

พลังโจมตีนี้ หัวซาไม่ได้ยั้งออมพลังเลยแม้แต่น้อยแต่ตอนนี้มันกลับถูกต้านรับอย่างแข็งขันและน่ากลัวมาก เขาถึงกับผงะถอยหลังออกไปถึงเจ็ดแปดก้าวถึงตั้งหลักได้

รอยแตกปรากฏอยู่บนผนึกของประทับหัตถ์ใหญ่เหนือหัวถังเทียนและมันแตกเป็นเสี่ยงๆฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ของเขาแข็งแกร่งมากไม่เคยแตกสลายมาก่อน  แต่วันนี้กลับแตกเป็นเสี่ยงๆ

เรี่ยวแรงถึกของเจ้าผู้นี้ยังมากกว่าอาโมรี่เสียอีก

ถังเทียนข่มความตกใจ ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยฝุ่นบนตัวเขาฟุ้งขึ้นบนท้องฟ้าจนเป็นรูปคนและหายไปช้าๆ  ถึงตอนนี้ เขาค่อยๆยืดตัวตรงและผ่อนลมหายใจยาว แต่สายตาของเขาเยือกเย็น

แขนของเขาตอนนี้ชาจนแทบไร้ความรู้สึก

แรงปะทะล้วนๆ เช่นนั้น ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ

ถังเทียนเชื่อมั่นในพลังแขนของเขาสายตาของเขาจ้องมองหัวซา เพราะว่าหัวซาก็คงไม่รู้สึกว่าดีไปกว่าเขาแน่นอน  อย่างไรก็ตาม ถ้ามีพลังโจมตีติดตามมาอีก ครั้งนี้เขาคงได้รับบาดเจ็บแน่นอน

ตาของหัวซาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างมาก นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับนักสู้ที่ตั้งใจประชันกับเขาในด้านความแข็งแกร่งของร่างกายนอกจากนี้ เจ้าคนที่อยู่ต่อหน้าเขา รูปร่างของเขาดูแล้วช่างหลอกตา

และเขายังคงสวมเกราะ...

ตาของเขาเป็นประกายด้วยความโลภ  ชุดเกราะเป็นของหาได้ยากในดาวไพรมายา  นอกจากในดาวไพรมายาแล้วแม้แต่ในองการวิญญาณมืดก็ยังตั้งราคาชุดเกราะไว้ค่อนข้างแพงและชุดเกราะของเจ้าเด็กนี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของธรรมดา

แม้ว่าพลังของถังเทียนจะทำให้หัวซาประหลาดใจ  แต่เขาก็ยังยิ้มได้

ถ้าเจ้ามีฝีมือทั้งหมดเพียงแค่นี้  อย่างนั้นเจ้าเสร็จแน่

ในดวงตาของเขาเปล่งแววกระหายเลือด  และยิ้มของเขาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย

ปง ปง ปง....

ทันใดนั้น เสียงที่คล้ายกับเสียงเต้นของหัวใจที่รุนแรงดังเข้ามาในหูของถังเทียน  ถังเทียนตะลึง, อะไรกันนี่?  เมื่อเขาตรวจสอบที่มาของเสียงสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หัวใจของหัวซา!

นี่คือ...

หัวซาสายตาที่โกรธและรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมร่างขนาดเนินเขาย่อมๆ ของเขาหดลงอย่างรวดเร็ว

ถังเทียนตะลึง

ในพริบตาหัวซาที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนก็หดขนาดจาก 1.95 เมตรเหลือเพียง 1.6 เมตร!

หัวซาที่มีขนาดร่าง 1.6 เมตรหดขนาดลงอย่างมากมาย  และไม่รู้หยิ่งอีกต่อไป  แม้แต่ความโกรธ ดูเหมือนเขาจะควบคุมได้แล้ว

นั่นคือพลังสายเลือดหรือ?  ถังเทียนไม่แน่ใจ แต่ความรู้สึกถึงอันตรายดั้งเดิมจากในใจเขายังเหมือนเมฆในท้องฟ้าที่กดดันมาจากทุกด้าน

เจ้าผู้นี้.....อันตราย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด