ตอนที่แล้วตอนที่ 6-24 บรรลุขอบเขตใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6–26  วางแผน

ตอนที่ 6-25 ผลิตผงพิษ


เห็ดเมฆา เหตุผลที่แท้จริงที่ลินลี่ย์หามันก็เพื่อใช้ปรุงผงพิษสะบั้นโลหิต  และเหตุผลที่ต้องการผลิตพิษสะบั้นโลหิตก็เพราะเขาก็การเอามาใช้กับเคลย์

แต่ในที่สุดกลับเป็นเคลย์ที่มอบเห็ดเมฆาให้กับเขา

“เป็นไปได้หรือว่าแม้ซ่อนตัวอยู่ในโลกส่วนลึก ก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่ากงเกวียนกำเกวียนตามสนองอย่างนั้นหรือ?”  ทันใดนั้นลินลี่ย์คิดถึงคำสอนของวิหารเจิดจรัส  มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงชะตากรรม  ในอดีตลินลี่ย์ไม่เคยเชื่อในศาสนาใดๆ ทั้งนั้น แต่สัจจธรรมนี้มีวิวัฒนาการที่แปลกประหลาดเหลือเกิน

เมื่อถูกกำหนดว่าเห็ดเมฆาถูกส่งเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของเขา เขาจะไม่รับมันไว้ได้ยังไง?

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ลินลี่ย์ยิ้มคำนับขอบคุณ ขณะที่เขารับเห็ดเมฆาไว้

แต่ในใจแล้ว ลินลี่ย์กำลังหัวเราะอย่างเย็นชา “เพราะท่านเป็นผู้มอบมันให้ข้าเอง นี่ก็หมายความว่า สวรรค์ต้องการจะให้ท่านตายแน่นอน ท่านตำหนิข้าไม่ได้”

ลินลี่ย์แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมารดาของเขาเลย แต่นั่นไม่อาจหยุดลินลี่ย์จากความโหยหาความรักของมารดาที่อยู่ลึกในใจเขา เนื่องจากเขาไม่เคยรู้เรื่องของมารดา ลินลี่ย์จึงรู้สึกว้าเหว่อยู่เสมอ  เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นคนอื่นมีมารดา เขามักไม่ค่อยสบายใจ เขามักคิดอยู่เงียบๆ คิดถึงมารดาของเขาอย่างเดียวดาย

เมื่อจับเคลย์ได้  เขาคงจะได้พบเบาะแสของมารดาเขาแน่นอน!

“ลินลี่ย์! ข้าได้เชิญมหาเสนาบดีขวามาร่วมทานอาหารกลางวันในวันนี้ ทำไมเจ้าไม่ถือโอกาสอยู่ที่นี่ต่อเพื่อทานอาหารกลางวันกับเราเล่า” เคลย์ยิ้มให้ลินลี่ย์

“พะย่ะค่ะ, ฝ่าบาท” ลินลี่ย์แสดงความนอบน้อมถ่อมตน

ราชินีพยักหน้าให้ลินลี่ย์อย่างสง่างาม  จากนั้นพูดกับเคลย์ด้วยน้ำเสียงสุภาพ “พระองค์กับลินลี่ย์เชิญอยู่ต่อเถิด, หม่อมฉันขอตัวกลับก่อน” เคลย์พยักหน้าให้อย่างสงบเช่นกัน ในอาณาจักรเฟนไล อำนาจของกษัตริย์มีมากมายเหนือกว่าราชินี

อากาศในเดือนพฤศจิกายนเริ่มหนาวเย็น

แต่ลินลี่ย์และเคลย์ทั้งสองคนอยู่ในชุดเบา ไม่กลัวความหนาวเย็นแม้แต่น้อย ตอนนี้ลินลี่ย์เป็นนักรบระดับเจ็ด  ขณะที่เคลย์ก็เป็นนักรบระดับเก้าที่มีพลังยิ่งใหญ่กว่า

“ฝ่าบาท, ทำไมพระองค์ถึงเชิญเมอร์ริทมาร่วมทานข้าวกับพระองค์ด้วย?”  ลินลี่ย์สนทนากับเคลย์อย่างเป็นธรรมชาติและปกติ

เมื่อได้ยินคำพูดของลินลี่ย์ เคลย์มีใบหน้ายิ้มพอใจ  เขาชำเลืองมองนางกำนัลที่เพิ่งเดินออกไปอย่างว่าง่าย จากนั้นเคลย์จึงพูดเสียงเบาๆ “ลินลีย์! เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อเร็วๆ นี้เมอร์ริทเพิ่งแต่งกับภรรยาคนที่สิบสาม?”

“คนที่สิบสาม?”  ลินลี่ย์ตะลึง

เขาไม่รู้ว่าผู้พิพากษาที่เคร่งครัดจริงจังอย่างเห็นได้ชัด อย่างมหาเสนาบดีขวาจะมากรักไม่แน่นอน

“ภรรยาคนใหม่ของเขาเป็นสตรีที่มีสีสันมาก” เคลย์เผยอยิ้มให้กับลินลี่ย์ เป็นรอยยิ้มที่บุรุษทุกคนเข้าใจกันได้เอง

เมื่อเห็นสีหน้าของเคลย์แล้ว ลินลี่ย์อดสะดุ้งไม่ได้

“ฮ่าฮ่า...” เคลย์ตบไหล่ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ ปีหน้าเจ้าจะอายุสิบแปดปีแล้ว  อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่เคยมีสัมพันธ์กับสตรีมาก่อน”

ลินลี่ย์ได้แต่อึดอัดอย่างช่วยไม่ได้

เคลย์ถอนหายใจ “เมอร์ริท เจ้าเด็กคนนั้นสามารถได้ตัวนางจิ้งจอกน้อยเจ้าเสน่ห์อย่างนั้น ช่างน่าอิจฉาเสียจริง แต่เนื่องจากข้าคิดจะครอบครองนาง  จิ้งจอกน้อยเจ้าเสน่ห์นั้นก็จะตกเป็นของข้า  เมอร์ริทจะไม่กล้าแตะต้องนาง นับตั้งแต่นี้ไป”

เคลย์พูดเรื่องเช่นนี้กับลินลี่ย์อย่างไม่ปิดบัง

“ฝ่าบาท?  ทำอย่างนั้น...จะดีหรือ?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจเล็กน้อย

ที่สำคัญคือ นางเป็นภรรยาของมหาเสนาบดีขวา  แต่จากที่ได้ยิน เคลย์ตั้งใจจะยึดนางไว้เพื่อตัวเขาเองโดยตรง

“เรื่องนี้มีอะไรไม่เหมาะสมเล่า?  เมอร์ริทไต่ฐานะมาจนอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันก็ผ่านภรรยามาหลายคนแล้ว  เขาควรจะรู้สถานะของตนเองดี  แต่ลินลี่ย์ วันนั้นที่เมอร์ริทแต่งงานและมีงานเลี้ยง ข้าคิดว่าเจ้าไม่ได้ไปร่วมด้วยนะ”เคลย์พูดอย่างสงสัย

ในช่วงเวลานี้ ลินลี่ย์กำลังขบคิดปัญหาเรื่องส่วนผสมสมุนไพร เขาไม่มีความคิดไปร่วมงานแต่งงานเลยแม้แต่น้อย กล่าวโดยทั่วไปก็คือ ลินลี่ย์ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงจากบรรดาขุนนางทั้งหลาย

งานเลี้ยงฉลองแต่งงานของมหาเสนาบดีขวาหรือ?

ปฏิเสธเหมือนๆ กันทั้งหมด

“ลินลี่ย์!  วันนี้เป็นยังไง, ระหว่างช่วงเวลาอาหารกลางวัน เจ้าลองมองดูวินด์เซอร์ภรรยาใหม่ของเมอร์ริท  ถ้าเจ้าชอบนาง  ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะยกนางให้เจ้า  ข้ารับรองได้ว่า ไม่ว่าเมอร์ริทจะกล้าและห้าวเพียงไหน เขาจะไม่กล้าแตะต้องวินด์เซอร์แม้แต่ครั้งเดียว” เคลย์พูดอย่างมั่นใจ

เคลย์ครองอำนาจในราชอาณาจักรเฟนไลแบบเบ็ดเสร็จ

วันแต่งงานของเมอร์ริท เคลย์ฉวยโอกาสชิงตัววินด์เซอร์  คืนนั้นเคลย์ส่งคนมารับตัววินด์เซอร์ไปที่ตำหนักชั้นนอก และเขา เคลย์ร่วมอภิรมย์ทั้งคืน

สำหรับเมอร์ริท เขาไม่กล้าแสดงความไม่พอใจแม้แต่น้อย

ยิ่งกว่านั้น ตั้งแต่คืนนั้นมา เมอร์ริทก็ไม่กล้าแตะต้องวินด์เซอร์อีกเลย

เสนาบดีบางคนที่รับตำแหน่งสำคัญในราชอาณาจักรเฟนไล บางคนก็ได้เลื่อนตำแหน่งผ่านความสามารถของตนเอง  พวกเหล่านั้นนับว่าเป็นเสนาบดีที่มีฝีมือแน่นอน  แต่เสนาบดีบางคนก็ได้ยศตำแหน่งผ่านการกระทำที่น่าเกลียด

ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจต่อความเอาแต่ใจของเคลย์

แต่ครั้งหนึ่ง เคลย์มีสมญานามว่า “ราชสีห์ทอง” เต็มไปด้วยพละกำลังของพญาราชสีห์  ใครจะคาดคิดถึงวิธีที่เขาดำเนินการได้เล่า หากเขาพอใจที่จะทำ

“ทูลฝ่าบาท, ดยุคเมอร์ริทและดัชเชสเดินทางมาถึงแล้ว” มหาดเล็กวิ่งเข้ามารายงานด้วยความเคารพ

“ฮ่าฮ่า, มาเถอะ, ลินลี่ย์” เคลย์ยืนขึ้นทันที

ลินลี่ย์ได้แต่คว้าห่อเห็ดเมฆาและเดินตามออกไป  หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงลานสีแดงสดใสสวยงามภายในวัง

เมอร์ริทและมาดามวินด์เซอร์รออยู่ตรงนั้น ที่ประตูทางเข้าลานวัง

ลินลี่ย์อดเหลือบมองมาดามวินด์เซอร์ไม่ได้  นางได้รับความสนใจจากเคลย์

รูปร่างของมาดามวินด์เซอร์เพรียวบางมาก แม้ว่านางจะแต่งกายมิดชิดตามรูปแบบจารีตอนุรักษ์นิยม  แต่ชุดนั้นก็ขับเน้นส่วนเว้าโค้งรูปร่างที่โปร่งบางของนาง  เอวของนางบอบบางมากขับเน้นหน้าอกให้ดูอวบเต็ม

ผมแดงเข้มของนางมีเสน่ห์น่าดู

โดยเฉพาะนัยน์ตาของมาดามวินด์เซอร์นี้ดึงดูดใจนัก ทุกคนที่เห็นนางคงได้คิดฟุ้งซ่านอย่างควบคุมสติไว้ไม่ได้

“ถวายบังคมฝ่าบาท, ใต้เท้าลินลี่ย์” เมอร์ริทพูดเสียงก้องพร้อมกับเสียงเบานุ่มนวลของมาดามวินด์เซอร์

“นางเป็นจิ้งจอกสาวพราวเสน่ห์จริงๆ” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

เคลย์เหลือบมองลินลี่ย์อย่างยินดี และกระซิบใกล้หูลินลี่ย์ “เจ้าคิดว่าไงบ้าง?   รู้สึกมีแรงกระตุ้นที่จะ...?”

“ฝ่าบาท!  เชิญเสวยกระยาหารกลางวันเถิด” ลินลี่ย์กระซิบตอบ

“ฮ่าฮ่า...”  เคลย์เริ่มหัวเราะลั่น

วินด์เซอร์อดไม่ได้ที่จะเพ่งมองลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาหยาดเยิ้ม ดูเหมือนนางจะให้ความสนใจลินลี่ย์  ถ้าเมอร์ริทกับเคลย์ไม่อยู่ตรงนั้น บางทีนางอาจจะตรงเข้าไปสนทนากับเขาก็เป็นได้

“ว้าว, ช่างเป็นสาวงามหยาดเยิ้มเสียจริง”  บีบีอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ตลอด  เวลากล่าว นัยน์ตาของมันกลมเป็นประกาย

“ควิช.”

บีบีกระโจนออกจากไหล่ของลินลี่ย์ลงบนอกของวินด์เซอร์โดยตรง

“เบ้อเริ่มเลย....” เสียงของบีบีดังขึ้นในใจลินลี่ย์

ลินลี่ย์งุนงง

“ช่างเป็นหนูที่น่ารักจริงๆ!”  วินด์เซอร์กอดบีบีด้วยความตื่นเต้น  มันใช้ศีรษะถูบนอกที่อวบอูมของนาง ดูเหมือนมันจะมีความสุขมาก

….

“ฟิ้ว”

ลินลี่ย์คว้าตัวบีบีได้ในที่สุดก็รีบออกจากวัง  ตลอดเวลาที่อยู่ในวัง วินด์เซอร์พยายามใช้สายตาที่หยาดเยิ้มมองดูเขา  แม้แต่ลินลี่ย์เองก็ยังรู้สึกว่ายากจะรับได้

เขาเข้าไปนั่งในรถม้าโดยสาร

“กลับ” ลินลี่ย์ออกคำสั่งให้ยามคุ้มกันเขาให้เริ่มออกรถทันที

“เฮ้! เจ้านาย จะรีบไปถึงไหน? ก็เคลย์ผู้นั้นบอกเองว่ายินดีจะยกวินด์เซอร์ให้ท่านไม่ใช่หรือ?  ท่านน่าจะรับไว้นะ” บีบีใช้ตาน้อยๆ ของมันจ้องมองลินลี่ย์

ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะตบหัวมันเบาๆ  “เจ้าหนูน้อยลามก”

“ฮื่ม.. ข้ากำลังจะเป็นหนุ่มแล้ว เจ้านายก็รู้” บีบีพูดอย่างไม่พอใจ

ลินลี่ย์ตะลึง ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แต่เมื่อคิดย้อนไปถึงสิ่งที่เขาได้รับจากการเข้าวัง ลินลี่ย์อดยิ้มเต็มหน้ามิได้ เขาเอากล่องออกมาไว้ข้างตัวเขา

ภายในกล่องนี้ก็คือเห็ดเมฆากอหนึ่ง

“ตอนนี้ข้ามีเห็ดเมฆาอยู่ในมือแล้ว  ส่วนผสมทั้งแปดเตรียมพร้อมแล้ว  ข้ามีสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการปรุงผงพิษสลายโลหิตแล้ว”  ลินลี่ย์ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเริ่มปรุงผงพิษทันทีเมื่อเขากลับไปถึงบ้าน

“เจ้านาย!  ข้ารู้สึกเหมือนว่าเคลย์คล้ายกับพี่น้องที่ยืนเคียงข้างท่าน ท่านจะฆ่าเขาจริงๆ หรือ?” บีบีกระซิบ

ลินลี่ย์ขมวดคิ้วมองดูบีบี

“บีบี!  เคลย์เป็นกษัตริย์ปกครองราชอาณาจักร  ตราบใดที่เขายังมีสมองอยู่บ้าง เขาจะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับข้าเป็นธรรมดา  เขาแสดงความเป็นมิตรและทำดีกับข้า ก็เพราะสถานะและศักยภาพของข้า  ถ้าข้าไม่มีศักยภาพ อย่างนั้นเคลย์อาจจะไม่ให้ความสนใจข้าเลยด้วยซ้ำ  บางทีถ้าข้ามีภรรยาที่งดงาม  เขาอาจจะชิงไปเป็นสมบัติตนเองก็ได้  เหมือนที่ทำกับเมอร์ริท”

ลินลี่ย์เข้าใจเคลย์อย่างเห็นได้ชัด

ความจริง คนอย่างเคลย์อำมหิตไร้ความปราณี  แต่เขาก็นับได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อย เขาสามารถแยกแยะระหว่างเสนาบดีผู้มีความสามารถและไร้ความสามารถออกจากกันได้

“ความจริง ข้ายังเริ่มสงสัยว่าในอดีต เคลย์เห็นท่านแม่ข้างดงามจึงต้องการลักพาตัวไปเพื่อตัวเอง” เมื่อเห็นวินด์เซอร์ ลินลี่ย์คิดถึงความเป็นไปได้นี้

เกี่ยวกับนิสัยของเคลย์ เรื่องนี้มิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

“บีบี! บอกข้าซิว่า ข้าจะยอมไว้ชีวิตเคลย์ได้อย่างไร?” ลินลี่ย์จ้องบีบี แค่คิดถึงความเป็นไปได้เช่นนั้นก็ทำให้ความต้องการฆ่าของลินลี่ย์พรั่งพรูเต็มหัวใจ

บางทีเพราะมันรู้สึกได้ถึงความต้องการฆ่าเคลย์ของลินลี่ย์  บีบีพูดทันที “ฆ่าเขา, ฆ่าเขา  ข้าบีบีจะเป็นคนแรกที่จัดการเขา” บีบียกอุ้งเท้าหน้าตะกุยลมไปมาพร้อมกับแยกเขี้ยว เพื่อแสดงให้ลินลี่ย์เห็นว่ามันก็รู้สึกเกลียดชังเคลย์เหมือนกัน

“เจ้าไม่จำเป็นต้องออกตัวหรอก หลังจากพบเบาะแสเกี่ยวกับท่านแม่แล้ว ข้าจะเป็นคนแรกที่ลงมือ” ลินลี่ย์กล่าวเย็นชา

ภายในห้องลับคฤหาสน์ของลินลี่ย์ ภายใต้โคมสิบแปดดวงส่องสว่างไสวไปทั้งห้อง  ลินลี่ย์ปรุงผงพิษสลายโลหิตอย่างระมัดระวัง

ขั้นตอนในการปรุงพิษมีความซับซ้อนมาก แต่ละขั้นตอนต้องระมัดระวังรอบคอบเป็นพิเศษ

หากมีข้อผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย ส่วนผสมก็อาจสูญเสียเปล่าก็เป็นได้

ตอนนี้ บนโต๊ะภายในห้องลับ มีอุปกรณ์เครื่องมือของนักเล่นแร่แปรธาตุและส่วนผสมทั้งแปด  ทั้งหมดถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กน้อยจำนวนมาก

“ฉับ ฉับ”

ลินลี่ย์กรองน้ำสมุนไพรออกจากหม้อกรอง จากนั้นใส่น้ำที่คั้นไว้ในหม้อต้มใบใหม่และเริ่มต้ม ขณะเดียวกันลินลี่ย์ก็เริ่มเพิ่มส่วนผสมที่เหลืออีกสามอย่างเพื่อผสมเข้าด้วยกัน

“เพื่อไม่ให้เก็บของผิด  ข้าควรใส่หญ้าใจฟ้า จากนั้นก็ขมิ้นแล้วตามด้วยเม็ดกระวาน”

เมื่อลินลี่ย์จ้องมองหม้อปรุงยา  เขาทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการนี้ มองดูว่าจะมีผลตอบสนองเช่นไร แต่ละขั้นตอนจะต้องแม่นยำไม่ผิดพลาด

ผ่านไปตลอดทั้งคืน

“ในที่สุดก็ได้น้ำยาที่สมบูรณ์จนได้”  ลินลี่ย์จ้องเขม็งดูของเหลวใสปริมาณน้อยในหม้อต้มยา ที่ไหลลงในถาดสีขาว

“ของเหลวโปร่งใสนี้ใสเหมือนกับน้ำแยกความแตกต่างไม่ออกเลยจริงๆ” ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างตื่นเต้น

ตามพื้นฐานคำแนะนำในการปรุงผงพิษสลายโลหิต ของเหลวขั้นตอนสุดท้ายนับได้ว่าเป็นพิษสลายโลหิตรูปแบบหนึ่ง  อย่างไรก็ตามขอเพียงทำให้มันเหือดแห้งจนเหลือแต่ผง ถึงจะนับได้ว่าเป็นพิษระดับสุดยอด

ตอนนี้ ของเหลวชุดนี้ผ่านการต้มมาครั้งหนึ่งแล้ว และมีน้ำเหลืออยู่ภายในไม่มากนัก  ส่วนใหญ่ภายในเวลาสิบวันก็จะเหือดแห้งไปหมดเหลือแต่ผงพิษสลายโลหิต

“น้ำยานี้ถือว่าเป็นความสำเร็จชุดแรก  พรุ่งนี้ข้าจะปรุงชุดที่สอง”  ลินลี่ย์ระมัดระวังมาก

เขาไม่กล้าใช้วัสดุทั้งหมดในการปรุงรวดเดียว  ที่สำคัญคือ ถ้าเขาล้มเหลว ก็นับว่าเป็นหายนะ แต่โดยวิธีแบ่งวัสดุและใช้ความพยายามทำหลายครั้ง  อย่างน้อยผิดพลาดครั้งเดียวก็ไม่ถึงกับเสียหาย

ความจริงผงพิษที่ปรุงออกมาก็น่าจะพอแล้ว  แต่เพื่อความระมัดระวัง ลินลี่ย์ตัดสินใจเตรียมยาไว้หลายชุด

สิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 9999 ตามปฏิทินยูลาน

ลินลี่ย์ปรุงพิษสลายโลหิตไว้หกชุด โดยลินลี่ย์ปรุงได้สำเร็จและผลิตออกมาในสภาพผงพิษ  แค่มองดูเฉยๆ จะเห็นเป็นผลึกโปร่งแสง ยากจะนึกภาพออกว่ามันมีพลังอำนาจทำลายนักรบระดับเก้าได้

“เฮ้อ,  แม้ว่าเราต้องใช้ส่วนผสมของเราจนหมดสิ้น ผงพิษหกชุดนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว”  เมื่อมองดูผงพิษทั้งหกชุดบนโต๊ะของเขา ลินลี่ย์ถอนหายใจเฮือก

เพื่อให้ได้ผงพิษสลายโลหิตมา ลินลี่ย์ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วง และตอนนี้ เขาทำได้สำเร็จแล้ว

“ตอนนี้ สิ่งเดียวที่เรายังขาดก็คือโอกาสที่เราจะใช้กับเคลย์”  ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะเริ่มไตร่ตรองหาวิธีใช้ยาพิษกับเคลย์และจับเขาโดยไม่มีผู้ใดสงสัยว่าลินลี่ย์เป็นคนทำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด