ตอนที่แล้วตอนที่ 6-23 พิษสะบั้นโลหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6-25 ผลิตผงพิษ

ตอนที่ 6-24 บรรลุขอบเขตใหม่


ลินลี่ย์เงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงยิ้มพยักหน้าขอโทษเยล “พี่ใหญ่เยล ข้าขอโทษด้วยที่รบกวนท่าน”

“ไม่เป็นการรบกวนเลย” เยลหัวเราะร่าเริง “ก็แค่ส่งคนไปเอาของมาเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร  หอการค้าดอว์สันของเรามักใช้ให้คนส่งข่าวไปที่สำนักงานใหญ่ด้วยวิธีนี้เสมอ เราทำมาหลายครั้งแล้ว”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“น้องสาม” เสียงของเยลจริงจังขึ้นขณะที่เขามองหน้าลินลี่ย์ “บอกข้ามาตามตรงเถอะ ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนต้องการสมุนไพรเหล่านี้?”

ถ้าเป็นคนอื่นถามเขา ลินลี่ย์อาจจะโกหกและอ้างว่าเขาจะใช้ในการปรุงยาช่วยให้เขาเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนทำให้ร่างกายของเขาได้ความแข็งแกร่งมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม ไม่เคยได้ยินเลยว่าการอาบน้ำยาสมุนไพรจะมีส่วนช่วยเหลือในการฝึกฝน  แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหนึ่งในพี่น้องของเขาเอง ลินลี่ย์ไม่ต้องการจะโกหก

“พี่ใหญ่เยล, ตอนนี้ ข้ายังบอกท่านไม่ได้ เมื่อถึงเวลาแล้ว ข้าจะบอกท่าน” ลินลี่ย์แตะไหล่เยลขณะที่เขาบอก

พี่น้องในหอพัก 1987 อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขากินด้วยกัน, อยู่ด้วยกัน, เล่นด้วยกัน จึงทำให้สนิทสนมเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ

“เข้าใจแล้ว, น้องสาม, แต่ถ้าเจ้าต้องการอะไร ขอให้บอกข้าให้ทราบด้วย” เยลไม่ถามคำถามอื่นต่อไป

วันต่อมา แม่บ้านของลินลี่ย์นำสมุนไพรที่ลินลี่ย์ขอให้ซื้อหามาให้  ยกเว้นแต่เขาไม่สามารถหาหญ้าหมอกได้เลย  แม่บ้านบอกในทำนองว่า ไม่มีหญ้าหมอกขายอยู่ในตลาดแม้แต่น้อย  ถ้าเขาต้องการซื้อหญ้าหมอก  เขาจะต้องส่งคนไปซึ้อมาจากสี่จักรวรรดิใหญ่

ที่สำคัญคือ หญ้าหมอกเพาะปลูกอยู่ในทุ่งหญ้าใหญ่ทางตะวันออกไกล บางส่วนของตลาดศูนย์กลางของสี่จักรวรรดิใหญ่ แม้จะอยู่ใกล้กับทุ่งหญ้าใหญ่ก็ยังมีหญ้าสำหรับขายเป็นจำนวนน้อย

“ตอนนี้ ส่วนผสมทั้งแปดที่จำเป็นต้องใช้ปรุงยาพิษสะบั้นโลหิต มีอยู่เจ็ดอย่างแล้ว ที่ยังขาดเพียงอย่างเดียวก็คือเห็ดเมฆา” ในห้องเรียนลับของเขา ลินลี่ย์วางสมุนไพรทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างหน้า เขาไตร่ตรองอยู่ว่าจะทำยังไง ส่วนผสมทั้งแปดมีอยู่สามอย่างที่หาได้ยาก หญ้าหมอกได้มาจากหอการค้าดอว์สัน ขณะที่หญ้าใจฟ้าเขามีมากเพียงพอแล้ว

“ถ้าเราต้องรอถึงสามเดือน  ตอนนั้นคนจากหอการค้าดอว์สันก็คงจะนำส่งเห็ดเมฆามาให้แล้ว” ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจมาก

อย่างมากสามเดือน ถึงตอนนั้น เขาคงได้ส่วนผสมที่เขาต้องการทั้งหมด และจากนั้นจะได้เตรียมผสมปรุงพิษสะบั้นโลหิตสักเล็กน้อยได้

แต่ลินลี่ย์ ไม่ใช่คนประเภทที่เอาแต่นั่งรอเฉยๆ

“ช่วยข้ากระจายข่าวที ปล่อยข่าวออกไปว่าข้ากำลังเตรียมการเริ่มฝึกฝนโดยใช้การอาบน้ำสมุนไพร และต้องการใช้เห็ดเมฆาเป็นส่วนประกอบสำคัญ  ข้ายินดีจ่ายล้านเหรียญทองเพื่อซื้อมาให้ได้” ลินลี่ย์สั่งการแม่บ้านของเขา

แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่ได้โกหกพี่น้องของเขา แต่เขาต้องหาข้ออ้างดีๆ ให้กับชาวโลกที่เหลือ

เห็ดเมฆา โดยตัวของมันเองไม่มีสรรพคุณในทางพิษ มันมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่สมุนไพรทั้งหมดมีคุณสมบัติที่มหัศจรรย์อยู่ในตนเองอยู่แล้ว  เมื่อสมุนไพรทั้งแปดนี้ถูกปรุงแต่งผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถผลิตสร้างผงพิษอย่างพิษสะบั้นโลหิตออกมาได้

“เจ้าค่ะ, ใต้เท้าลินลี่ย์” เมื่อได้ยินคำพูดว่า “ล้านเหรียญทอง” หัวใจของแม่บ้านถึงกับหวั่นไหว

สำหรับลินลี่ย์ จำนวนล้านเหรียญทองไม่ถือว่ามาก  เมื่อเขาประมูลขายงานประติมากรรมตื่นจากฝัน ก็ได้ราคาถึงสิบสองล้านเหรียญทอง  หลังจากนั้นแพตเตอร์สันแอบพบเขาเป็นการลับ  เขาได้ให้ลินลี่ย์ต่างหากอีกสิบล้านเหรียญทอง หลังจากที่ระดับฐานะของลินลี่ย์เพิ่มขึ้น เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีศาลจอมเวท ทั้งวิหารเจิดจรัส, ราชาเคลย์และขุนนางชนชั้นสูงอีกหลายคนล้วนส่งของขวัญมีค่ามาให้ลินลี่ย์มากมาย

และช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา ทางตระกูลเด็บส์ก็มอบของขวัญเป็นบัตรเครดิตเวทเป็นจำนวนเงินล้านเหรียญทอง

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้มีมากเกินกว่ายี่สิบล้านเหรียญทอง

และนี่ยังไม่นับแก่นเวทของอสูรระดับเซียนที่ลินลี่ย์ได้มาจากเซียนหมีลายม่วง  แก่นเวทที่ลินลี่ย์เก็บรักษาไว้นั้น ไม่อาจประมาณค่าได้ บางทีอาจมีมูลค่าอาจเกินกว่าร้อยล้านเหรียญทองก็เป็นได้

ข่าวว่าลินลี่ย์กำลังหาซื้อเห็ดเมฆาด้วยมูลค่าล้านเหรียญทอง เดิมทีกระจายอยู่ในหมู่พ่อค้าสมุนไพรเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มคนชั้นสูงของอาณาจักรเฟนไลก็ได้ทราบข่าวนั้นเช่นกัน  ตอนนี้พวกชนชั้นสูงทราบแล้วว่าอาจารย์ลินลี่ย์ต้องการเห็ดเมฆา

ถ้าพวกเขาสามารถหาเห็ดเมฆาให้ลินลี่ย์ได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้รับเงินล้านเหรียญทองเท่านั้น  แต่พวกเขายังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลินลี่ย์อีกด้วย

พวกขุนนางชนชั้นสูงหลายคนเริ่มเค้นสมองของพวกเขาหาวิธีที่ช่วยให้พวกเขาหาเห็ดเมฆาได้

แต่เห็ดเมฆา หาได้ยากเกินไปและราคาก็แพงสุดกู่

หลังจากสั่งให้กระจายข่าวนี้ไปแล้ว  ลินลี่ย์ยังคงใช้ชีวิตโดดเดี่ยวคร่ำเคร่งฝึกฝนอยู่ในคฤหาสน์ของเขาต่อไป  ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในอากาศเริ่มลดลงเช่นกัน  ใบไม้ของต้นไม้ในสวนน้ำพุร้อนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วร่วงลงบนพื้นหญ้าที่มีใบไม้ทับถมอยู่ก่อนแล้ว

“ฮ่าห์...!”

ลินลี่ย์ใช้นิ้วมือเดียวยันพื้นและวิดพื้นขึ้นลง  เขาใช้พลังผ่านนิ้วมือ จากนั้นพลิกตัวในอากาศ  ลินลี่ย์ตีลังกาในอากาศลงสู่พื้นได้อย่างง่ายดาย ร่างกายท่อนบนเต็มไปด้วยเหงื่อ

เขาใช้เวทสนามแม่เหล็กช่วยในการฝึกฝนมานานมากแล้ว แม้ว่าร่างของลินลี่ย์จะมีพลังเต็มเปี่ยม แต่ก็เริ่มเหนื่อยขึ้นบ้างแล้ว

“เฮ้อออ”

ลินลี่ย์กลับลงมายืนตามปกติอีกครั้ง เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อภายในและที่ใกล้กับนิ้วมือ, แขนและไหล่ของเขารู้สึกปวดและชาไปหมด เขาพบว่าความรู้สึกนี้สบายมาก  เนื่องจากเขารู้ว่าในสถานการณ์นี้กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาจะค่อยๆ สร้างความแข็งแกร่ง

วิธีฝึกร่างกายตนเองเพื่อให้เกินขีดจำกัดครั้งแล้วครั้งเล่า ตราบใดที่เขายังไม่ถึงขีดจำกัด  ก็เพียงแต่ฝึกให้มากขึ้นในแต่ละครั้ง

ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิ และเริ่มฝึกฝนตามคัมภีร์ลับเลือดมังกร ปล่อยให้ปราณเลือดมังกรในร่างของเขาเริ่มโคจรเข้าไปในจุดตันเถียนของเขา  ในช่วงเวลาสั้นๆ ขนาดนั้น ปราณยุทธเลือดมังกรเริ่มโคจรไปทั่วร่างลินลี่ย์

การฝึกครั้งแล้วครั้งเล่า  ในแต่ละครั้งปราณเลือดมังกรก็จะบริสุทธิ์ขึ้นทีละนิด  กระดูกและเลือดเนื้อของลินลี่ย์จะแข็งแกร่งขึ้นทีละนิดด้วย

ปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินเข้มโคจรเข้าไปในตันเถียนของเขาอีกครั้ง จากนั้นกระจายออกมาอีก  ตันเถียนคือจุดศูนย์กลางพลังของนักรบเลือดมังกร ลินลี่ย์เข้าถึงพลังนักรบระดับหกมานานแล้ว และในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม เขาอยู่ในระดับสูงสุดของพลังนักรบระดับหก

ตอนนี้ ลินลี่ย์มาถึงรอยต่อของระดับ เขาสามารถรุดหน้าขึ้นสู่ระดับใหม่วันไหนก็ได้

“แครก, แครก” เสียงดังแปลกประหลาดเริ่มปลดปล่อยออกมาจากร่างลินลี่ย์  กล้ามเนื้อลินลี่ย์เหมือนกับมีหนูฝังเอาไว้ในนั้น ขณะที่กล้ามเนื้อนั้นเริ่มกระเพื่อมเป็นระลอกขึ้นลงไม่หยุด แม้แต่เส้นเลือดของเขาก็ปูดออกมาเป็นไปทั่วร่างกาย หยาดเหงื่อปนเลือดเริ่มผุดออกมา!

“ในที่สุดข้ากำลังจะบรรลุเข้าสู่ขอบเขตใหม่” ลินลี่ย์ตกใจระคนยินดี

เขารอวันนี้มานานเหลือเกิน

“ปุด, ปึ้ด!”

ปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินเข้มโคจรไปอย่างแปลกประหลาด ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเจ็บไปทั่วร่าง  แต่ภายในตันเถียนของเขา ปราณเลือดมังกรที่โคจรอยู่เริ่มบีบตัวแน่นอีกครั้ง เพิ่มความหนาแน่นขึ้นอีกหลายระดับ ปราณเลือดมังกรถูกดึงกลับมาที่จุดตันเถียนไม่หยุดหย่อน และจากนั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากตันเทียนอีกครั้งวนเวียนไป

เมื่อใดก็ตามที่ปราณเลือดมังกรโคจรเข้าไปในตันเถียน ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง

หลังจากเวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง ปราณเลือดมังกรทั้งหมดในร่างลินลี่ย์ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด แม้ว่าจะมีม่านกั้นที่เบาบางระหว่างพลังนักรบระดับหกขั้นสูงสุดกับระดับเจ็ดขั้นแรกเริ่ม แต่พลังของลินลี่ย์ในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอดีตที่ผ่านมาหลายเท่านัก

ลินลี่ย์ลืมตา มีแววตื่นเต้นที่มิอาจระงับได้อยู่ในดวงตา

“ฮะฮะ ในที่สุดข้าก็บรรลุขอบเขตของนักรบระดับเจ็ด” ลินลี่ย์ตื่นเต้นยินดี

ตราบใดที่เขายังคอยกระตุ้นปราณเลือดมังกรในร่างของเขา เขาจะสามารถรองรับร่างมังกรได้ ความเร็วในการฝึกฝนของนักรบเลือดมังกรอยู่ในระดับสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในขั้นตอนก่อนหน้านี้  ลินลี่ย์ใช้เวลาประมาณครึ่งปีก่อนจะก้าวหน้าจากระดับหกขึ้นสู่ระดับเจ็ด  ผลของความก้าวหน้าเช่นนี้นับว่าน่าประหลาดใจมาก

แต่ลินลี่ย์คาดว่าการก้าวหน้าจากระดับเจ็ดไประดับแปดเป็นไปได้ว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปี

เส้นทางที่ไกลออกไปจะยิ่งยากลำบากขึ้นทุกที  แต่อย่างไรก็ตาม นักรบเลือดมังกรส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่กี่สิบปีก็มีพลังถึงระดับเซียนได้

บีบีที่หลับอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาลืมตาสะลึมสะลือของมัน และมันก็ตาสว่างด้วยความตื่นเต้นทันที คุยกับลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้นตื่นเต้นทันที “เจ้านาย, ท่านถึงระดับเจ็ดแล้วหรือนี่?”

“ถูกแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้าอย่างมีความสุข

“อย่างนั้นก็หมายความว่า เมื่อท่านอยู่ในร่างมังกร พลังก็อยู่ในระดับเก้าชั้นต้นจริงไหม?” บีบีตื่นเต้น “ตอนนี้ดูเหมือนว่าพลังของท่านจะมากกว่าข้าในตอนนี้มากเลย เจ้านาย!”

ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะเช่นกัน

ในช่วงแรก การเพิ่มพลังในร่างมังกรน่าทึ่งมาก อย่างเช่น ในฐานะนักรบระดับเจ็ด ในทวีปยูลานระดับของเขาถือว่าธรรมดาไม่มีอะไรน่าแปลก แต่พอยกระดับอยู่ในร่างมังกร  เขาจะอยู่ในระดับเดียวกับนักรบระดับเก้าขั้นต้น  จะถูกมองว่าเป็นผู้โดดเด่นในโลก

อย่างไรก็ตาม ยิ่งนักรบผู้นั้นเพิ่มพลังความแข็งแกร่งมากขึ้น การเพิ่มพลังในร่างมังกรจะลดลง

ที่สำคัญคือ ร่างมังกรไม่มีอะไรมากไปกว่าดึงเอาเลือดมังกรซึ่งนักรบเลือดมังกรที่อ่อนแอไม่สามารถดูดซับได้เต็มที่ออกมา

“ระดับเก้าเบื้องต้น และร่างมังกรของเจ้าก็ได้รับอิทธิพลจากมังกรเกราะหนาม มังกรเกราะหนามจะเด่นในเรื่องความเร็วและพลังป้องกัน  ขณะนี้เจ้ายังคงมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งและความเร็วที่สูงเหลือเชื่อ”  เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวออกมาจากแหวนตอนนี้

ลินลี่ย์มีความมั่นใจในความเร็วของตัวเองมาก

เพราะหลังจากใช้ร่างมังกร ไม่เพียงแต่เขามีความเร็วของนักรบเลือดมังกรตามปกติเท่านั้น  เขายังสามารถใช้เวทธาตุลมและบวกกับเวทความเร็วเสียงระดับเจ็ดทำให้ความเร็วโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นมาก

ลินลี่ย์ยินดีมากขณะที่ยืนยิ้มอย่างโง่งมอยู่ตรงนั้น

“เจ้านาย! เลิกหัวเราะเหมือนคนโง่เสียที  ดูตัวเองบ้างสิ ไปอาบน้ำเถอะ อึ๋ย..” บีบีจงใจทำหน้ารังเกียจขณะที่มันทำท่าอุดจมูกกระโดดขึ้นกระโดดลงขณะแยกเขี้ยวให้ลินลี่ย์

ลินลี่ย์มองดูตัวเอง

ตอนนี้ เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและเลือด  เขาดูสกปรกจริงๆ

“ตูม!”

ลินลี่ย์กระโดดลงไปในบ่อน้ำร้อน น้ำในบ่อน้ำพุร้อนไหลออกมาต่อเนื่องตลอด  ดังนั้นลินลี่ย์ไม่กังวลว่าจะทำให้บ่อสกปรก  หลังจากนั้นก็ได้พบว่าความรู้สึกในร่างของเขาเปลี่ยนแปลงไป  จากนั้นน้ำพุร้อนก็ไหลมาชะล้างมัน ลินลี่ย์รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจจนเขานอนหลับตาในบ่อน้ำพุร้อน

เขาเผลอหลับ

เขาสบายตัวจัดจนเผลอหลับไปจริงๆ

ขณะที่ลินลี่ย์ดื่มด่ำกับฝันหวาน ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านนอก “ใต้เท้าลินลี่ย์, ใต้เท้าลินลี่ย์” เสียงของคนใช้หญิงดังลั่นด้วยความห่วงใย

ลินลี่ย์ลืมตาทันที เมื่อได้ยินเสียง เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เข้ามา”

หลังจากนั้นหญิงรับใช้จึงกล้าเข้ามาในสวน นางยืนอยู่ด้านข้างบ่อน้ำพุร้อนลอบมองร่างเปลือยของลินลี่ย์ จากนั้นเรียนด้วยความเคารพ “ใต้เท้าลินลี่ย์ ผู้ส่งพระราชสารกำลังรออยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ  เขาบอกว่าได้รับบัญชาจากฝ่าบาทให้มาเชิญใต้เท้าลินลี่ย์เข้าวังเจ้าค่ะ”

“บัญชาจากฝ่าบาทหรือ?”  ลินลี่ย์ลังเลเล็กน้อย  จากนั้นขึ้นจากสระโดยตรง

“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” ลินลี่ย์มักสวมเสื้อผ้าด้วยตนเอง  เนื่องจากเขาไม่ชอบให้หญิงรับใช้ช่วยเขาแต่งตัว

“เจ้าค่ะ” นางหน้าแดง  หญิงรับใช้รีบก้มหน้าและเดินออกมาจากสวนน้ำพุร้อนโดยเร็ว

…..

เมื่อเข้าไปนั่งในรถม้าและมุ่งหน้าเข้าวังหลวง  ข้างนอกรถม้าโดยสาร นอกจากทหารจากวังสิบหกคนแล้ว ก็มีอัศวินจากวิหารเจิดจรัสสิบหกคน  ลินลี่ย์มีขบวนแวดล้อมที่ใหญ่กว่ามหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเสียอีก

“ใต้เท้าลินลี่ย์  ตอนนี้ฝ่าบาทประทับอยู่ในราชอุทยานตะวันออก” เสียงของมหาดเล็กดังออกมา

“เชิญนำทาง” ลินลี่ย์พูดทันที

มหาดเล็กประจำวังแสดงความสุภาพต่อลินลี่ย์ ยิ้มให้เขาตลอดทาง

“ตอนนี้ฝ่าบาทยังเชิญใครอื่นอีกหรือไม่?” ลินลี่ย์ถาม

“มีแต่ใต้เท้าลินลี่ย์เท่านั้น” มหาดเล็กตอบ

“ข้าเท่านั้นเองหรือ?”  ลินลี่ย์เริ่มสงสัย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ ภายใต้การนำทางของมหาดเล็ก ในที่สุดลินลี่ย์ก็มาถึงราชอุทยานตะวันออก ขณะนี้เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ยังคงมีดอกไม้บานอยู่ไม่กี่ดอก  แต่ดอกไม้นับไม่ถ้วนในราชอุทยานตะวันออกยังคงสดใสสวยงาม

และนั่น ราชสีห์ทอง ราชาเคลย์กำลังสนทนากับราชินีอยู่ในสวน

“ฮ่าฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์ เจ้าเข้ามา” เคลย์ทักทายลินลี่ย์อย่างเป็นกันเอง “มานั่งนี่สิ” ถวายบังคมฝ่าบาท, องค์ราชินี”  ลินลี่ย์แสดงความเคารพ จากนั้นจึงนั่งลง

เคลย์และราชินีต่างมองหน้ากัน จากนั้นจึงยิ้มให้ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! ข้าได้ยินว่าเจ้ากำลังหาเห็ดเมฆาเพื่อปรุงสมุนไพรสำหรับอาบใช่ไหม?”

“ถูกแล้ว ฝ่าบาท” ลินลี่ย์พยักหน้า

ทันใดนั้น ลินลี่ย์ค่อยรู้เหตุผลที่เคลย์ขอให้เขามาที่วังเป็นพิเศษ  แต่ลินลี่ย์ไม่ปักใจเชื่อนัก เขากำลังมองหาเห็ดเมฆาเพื่อใช้จัดการเคลย์  เป็นไปได้ยังไงที่เคลย์จะ....

“ฮ่าฮ่า, ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังหาเห็ดเมฆานี้  ดังนั้นข้าจึงส่งคนไปหาดู  นับว่าโชคดีจริงๆ ที่คลังหลวงของข้ามีเห็ดเมฆาอยู่กระจุกหนึ่ง” เคลย์ชำเลืองไปทางนางกำนัลที่อยู่ใกล้ๆ  นางแสดงกล่องห่อผ้าไหมทองที่นางกำลังถือให้ลินลี่ย์ดู

คราวนี้ลินลี่ย์ตะลึงจริงๆ

เห็ดเมฆาที่เขาแสวงหาอย่างสิ้นหวัง  กษัตริย์เคลย์กลับเป็นคนที่มอบให้เขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด