ตอนที่แล้วตอนที่ 21 เสิ่นหยวนผู้ประมาท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 ครูสอนพิเศษ

ตอนที่ 22 แผนของเสิ่นหยวน


ดาบผ่าหุบเหวของอาโมรี่และฝ่ามือขยี้ประตูเหล็กของเสิ่นหยวนปะทะกันรุนแรง

ปัง!

พลังปราณเที่ยงแท้ปะทะกันอย่างรุนแรง กระแสอากาศเล็กๆ นับไม่ถ้วนกระเด็นไปทุกทิศทางพร้อมกับเสียงปัง

ทั้งเลือดและปราณปั่นป่วน ขณะที่ร่างของพวกเขาถอยไป 2-3ก้าวอย่างมิอาจควบคุมได้

ไม่มีใครสังเกตว่าภายในกระแสอากาศที่ปั่นป่วน เงาดำร่างหนึ่งเคลื่อนทวนกระแสพลังไปข้างหน้า

เสิ่นหยวนหน้ามืดไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีเงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่หน้าของเขา  ม่านตาเขาหรี่แคบลง  ถังเทียนถูก กระแสอากาศเล็กน้อยกรีดหน้าและคอของเขาแต่เขาไม่ได้โต้ตอบอะไร

เสิ่นหยวนตอบสนองอย่างรวดเร็วที่สุด แม้ว่าพลังปราณเที่ยงแท้ของเขายังไม่คืนสภาพดี  เขาก็ยังหยุดถังเทียนด้วยฝ่ามือขวาของเขา

สายตาของเสิ่นหยวนมองดูตาที่สงบของถังเทียนและหัวใจของเขาสั่นสะท้าน  ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว

โชคดีที่เขารู้จักแต่เพียงหมัดประกายไฟ...

แม้ว่าเขาจะคิดไว้ในใจ แต่เขาก็เห็นหมัดของถังเทียน

หมัดที่มีแสงขาวคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง เสิ่นหยวนตะลึง นั่นคือรังสีหมัด

เป็นไปได้ยังไงที่มีรังสีหมัดหุ้มอยู่บนหมัดประกายไฟ?

ปัง!

รังสีหมัดสีขาวคลุมหมัดประกายไฟหายไปกลางอากาศ และแทบจะในเวลาเดียวกันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเสิ่นหยวน

ด้วยไหวพริบฉับไว เสิ่นหยวนพลิกฝ่ามือและป้องกันหมัดของถังเทียนไว้

ฝ่ามือและหมัดปะทะกันเสิ่นหยวนรู้สึกแต่เพียงฝ่ามือเขาเจ็บปวดและพลังปราณเที่ยงแท้ที่เข้มข้นชำแรกเข้ามาในฝ่ามือของเขาจากหมัดของถังเทียน  จากนั้นพลังป้องกันของเขาก็ถูกกดดันทันที

เสิ่นหยวนตะโกนขอความช่วยเหลือในความเงียบ

น่าเศร้าที่ถังเทียนไม่ให้เวลาเขาได้ตั้งตัวก่อนที่หมัดที่สองโผล่ออกมาจากเสื้อผ้าที่ฉีกขาดของเขากระแทกเข้าที่ไหล่ของเสิ่นหยวน

เสิ่นหยวนครางขณะที่เขารู้สึกเจ็บแปลบในไหล่ของเขา  พลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขาแตกกระจายออกเหมือนกับเขาเป็นกระสอบทราย

ความเคลื่อนไหวของถังเทียนไวกว่า  ขณะที่เขาลอยออกไปพร้อมกับเสิ่นหยวน  เขาปล่อยหมัดกลางอากาศอีกหมัดหนึ่ง  หมัดที่เดินทางได้เหมือนสายฟ้า

เสิ่นหยวนสูญเสียการทรงตัวได้แต่จ้องหมัดของถังเทียนที่พุ่งเข้ามาเหมือนกับดาวตกหน้าของเขากำลังจะถูกหมัดซัดใส่ เขาจึงได้แต่หลับตา

“ฉันยอมแพ้!”

ปัง!

เสิ่นหยวนรู้สึกเจ็บระบมบนใบหน้าใจเขารู้สึกโหวงเหวงว่างเปล่าและล้มลงกับพื้นเหมือนค้อนหนักที่ทุบลงไปในดินเหลว

ก่อนที่เขาจะล้มลงหมดสติ  เขาคิดว่า “ก็เรายอมแพ้แล้วไม่ใช่หรือ?  ทำไมเขายังใช้วิธีที่ป่าเถื่อนอยู่อีก”

เท้าทั้งสองของถังเทียนจิกลงบนพื้น

แฮกๆ... เขาหอบเหมือนเครื่องสูบลม และหลั่งเหงื่อเปียกโชกทั้งตัว

“ถังพื้นฐาน,  เขายอมรับความพ่ายแพ้แล้วไม่ใช่เหรอ?”  อาโมรี่พูดจากข้างหลังอย่างอ่อนเพลีย

ในที่สุดอาการหอบหายใจของถังเทียนก็สงบได้ เขายืดตัวตรงและยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ถ้าเราปล่อยให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ แล้วเราจะตรวจสอบสินสงครามได้ยังไง?  ขอเพียงริบทรัพย์สินสงครามได้เราถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชนะการต่อสู้ครั้งนี้

“แต่ว่า...” อาโมรี่มีนิสัยสัตย์ซื่อบริสุทธิ์ ระงับความคิดอยากจะพูด

“ถ้าไม่มีอะไรอื่น  รีบๆช่วยฉันหาเชือกด้วย”  ถังเทียนรีบบอก

※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ด้วยความรู้สึกเย็นที่หน้า เสิ่นหยวนฟื้นขึ้นและที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็คือใบหน้าของคนสองคน หน้าของอาโมรี่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและสำนึกผิด  ขณะที่หน้าของถังเทียนเข้มราวกับก้นหม้อดำ  เป็นใบหน้าของคนที่เจตนาไม่ดี

“พวกแกเป็นใคร ถึงได้บังอาจแอบอ้างเป็นนักเรียนสถาบันเทียนเจียง”  ถังเทียนตะโกนอย่างใส่อารมณ์ไม่ได้

“ฉันไม่ได้แอบอ้างเลย”  เสิ่นหยวนที่ยังสลึมสะลือตอบ

ถังเทียนยิ่งโมโหกว่าเดิม “แกยังกล้าโกหกฉัน!  นักเรียนสถาบันเทียนเจียงคนไหนกันที่จนอย่างแกบ้าง  ไม่มีสมบัติอะไรในตัวสักอย่าง”

“ฉัน....”  เสิ่นหยวนอ้าปาก  แต่ไม่รู้จะพูดอะไร

“ถังพื้นฐาน  เขามาจากสถาบันเทียนเจียงจริงๆ  ฉันจำเขาได้” อาโมรี่พูดอยู่ด้านข้าง

ถังเทียนเปลี่ยนสีหน้าเป็นเสียใจและเจ็บปวด “อย่างนั้นก็แย่จริง เมื่อนักเรียนสถาบันเทียนเจียงตกต่ำ ถึงขนาดที่ไม่มีทรัพย์สินสงครามจะให้ยึดเมื่อพวกเขาแพ้?  นี่คุ้มค่ากับความอับอายและความยิ่งใหญ่ของสถาบันเทียนเจียงหรือเปล่า?”

เสิ่นหยวนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี งั้นเจ้านี้พยายามค้นหาของในตัวของเขาแล้วอ้างว่าเป็นของริบจากการต่อสู้  เสิ่นหยวนฝึกฝนอย่างยากลำบากทุกวัน  ขณะที่เขาดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายเขามีนิสัยที่ไม่ชอบพกอะไรติดตัว

“ฉันจะจับเจ้าสองคนนี้แก้ผ้า แล้วเอาไปแขวนไว้ที่ทางเข้าสถาบันเทียนเจียงระบายความโกรธในใจฉัน”  ถังเทียนพูดในลำคอ

อาโมรี่ลิ้นพันกัน และพูดติดอ่าง..“ถะ..ถะ.ถังพื้นฐาน  นี่มันไม่โหดไปหน่อยเหรอ?”

ถังเทียนหน้างอและถลึงตากล่าว “โหดรึ? ลูกผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ ต้องโหดไว้ก่อน”

เสิ่นหยวนอ้าปากค้าง หน้าซีดเหมือนคนตายด้วยความตกใจ

ไม่ต้องรอจนกระทั่งพวกเขาลงมือจับเขาแก้ผ้า เสิ่นหยวนมีปฏิกิริยาทันที รีบกล่าวว่า“เดี๋ยวก่อน!  ฉันยินดีไถ่ตัว!  ฉันยินดีไถ่ถอนตัวเอง”

เสิ่นหยวนตื่นเต้นขณะที่เขาคิดถึงภาพที่เขาตัวเปล่าล่อนจ้อนและถูกแขวนอยู่ทางเข้าสถาบันเทียนเจียงอดสะท้านใจไม่ได้

“หัวใจฉันกำลังร้อนรนเหมือนถูกไฟแผดเผาพ่อหนุ่ม! นายจะเอาใจฉันได้ยังไง?” ถังเทียนคุกเข่าลง ใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองดูเสิ่นหยวน

“นายอยากได้อะไร?”  เสิ่นหยวนยังคงทำเป็นหนักแน่นแต่น้ำเสียงสั่นและรู้สึกกลัวอยู่ในใจ

อาโมรี่ลอบมาอยู่ข้างๆ หน้าของเขาเต็มไปด้วยแววเห็นอกเห็นใจ เสิ่นหยวน เอ่อ.. สถาบันเทียนเจียงรู้จักวิธีสร้างเสริมบุรุษเหล็ก  แต่นายก็ยังถูกถังพื้นฐานรังแกเอาได้น่าเห็นใจจริงๆ

โชคดีนะ ที่ฉันอยู่ข้างเดียวกับถังพื้นฐาน

ทันใดนั้น หัวใจของอาโมรี่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

“ทุกคนที่นี่คือผู้ฝึกวิทยายุทธกันทั้งนั้น อย่างนั้นก็ใช้การ์ดวิญญาณก็แล้วกัน” ถังเทียนแกล้งเป็นกระแอมเบาๆ “อย่างไรก็ตามนายต้องคำนึงถึงสถานะของตัวนายด้วย นายต้องรู้ว่าการ์ดวิญญาณแบบไหนที่จะไม่สร้างความอับอายให้กับนาย โอ,แน่นอน  ความเดือดดาลของฉันย่อมสำคัญกว่าสถานะของตัวนาย”

“การ์ดวิญญาณ...” เสิ่นหยวนถอนหายใจโล่งอก เขาเป็นคนบ้าวิทยายุทธ เขาอาจจะไม่มีของมีค่ามากนัก, แต่เขาสะสมการ์ดวิญญาณไว้พอสมควร “นายอยากได้การ์ดวิญญาณแบบไหน?”

ถังเทียนมองดูสีหน้าเสิ่นหยวนและกัดฟันขณะที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขที่จับแพะอ้วนได้

อย่างไรก็ตาม เขายังหน้าตายเหมือนเดิม “นายเคยได้ยินเรื่องยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดมาบ้างไหม?”

“ยอดฝีมือสู้ระยะประชิด” นัยน์ตาเสิ่นหยวนดูว่างเปล่า เขาจ้องหน้าถังเทียนไม่พูดอะไรอยู่นาน ถังเทียนคิดว่าเขามีอะไรบางอย่างบนใบหน้าเสิ่นหยวนถึงได้จ้องหน้าเขาแบบนั้น

“ความจริงนายเลือกเส้นทางยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดนี่เอง!”  น้ำเสียงของเสิ่นหยวนเต็มไปด้วยความนับถือ  “ฉันไม่ได้พ่ายแพ้อย่างงมงาย”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ว่า “สู้ระยะประชิด” ดูเหมือนจะประทับอยู่ในใจถังเทียนดูเหมือนผู้เฒ่าเว่ยจะไม่ได้โกหกเรา

เสิ่นหยวนพูดโยกคลอนจิตใจว่า “ถ้านายกำลังพูดถึงการเป็นยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิด  นายก็ต้องมีวิทยายุทธพื้นฐานที่สำคัญห้าอย่างคือ วิชาตัวเบา, วิชาดรรชนี, วิชาฝ่ามือ, วิชาหมัดมวยและวิชาข้อต่อนายมีการ์ดวิญญาณเหล่านี้หรือยัง?”

ถังเทียนตั้งข้อสังเกตว่าเสิ่นหยวนตื่นเต้นยิ่งกว่าตัวเขาเองและใจเขารู้สึกอ่อนไหว  เขาล้วงการ์ดวิญญาณสามใบที่พบอยู่ในตัวหยางหย่ง  “นี่ไงเล่า, ฉันมีอยู่สามใบ  แต่ตั้งใจจะขายดรรชนีทะลวงเหล็กเนื่องจากคุณสมบัติองค์ประกอบธาตุของฉัน ไม่เหมาะสมจะฝึกฝนได้”

“โอว, การ์ดวิชาตัวเบาทั้งสองใบนี้ถือว่าเป็นของดี  สำหรับคนที่ไม่มีคุณสมบัติธาตุสัมพันธ์วิชาดรรชนีทะลวงเหล็กสามารถเปลี่ยนเป็นวิชากรงเล็บเหยี่ยวได้ เนื่องจากทั้งสองวิชานี้คล้ายกัน วิชากรงเล็บเหยี่ยวระดับสามถือว่าเป็นวิชาที่ทรงพลัง”

“นี่คือองค์ประกอบที่สมบูรณ์มาก วิชาหลักไม้กลางหาวจะช่วยในเรื่องก้าวย่างของนาย,วิชาแปดก้าวไล่จั๊กจั่นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็ว วิชากรงเล็บเหยี่ยวใช้ความคล่องตัวในการต่อสู้  ทุกๆ นิ้วของผู้ใช้ก็เป็นเหมือนกับตะขอ  วิชาฝ่ามือสลายเงาใช้ภาพลวงตาซ่อนการจู่โจมที่แท้จริง จึงทำให้ศัตรูสับสนได้  ”หมัดพิฆาตเล็ก“มีพลังปานฟ้าผ่าและมีอาจทำลายล้าง ใช้เป็นหมัดพิชิตได้    วิชาพลังลูกโซ่สร้างความทึ่งให้กับศัตรูระหว่างต่อสู้ประชิดตัว มีพลังที่น่าพิศวงโดยวิชานี้ใช้ร่างกายทุกส่วนเป็นอาวุธรวมทั้งข้อต่อร่างกายด้วย”

“นายคุ้นเคยวิชาทั้งหมดนี้นี่นา”  ถังเทียนมีตาเป็นประกายขณะที่เขาฟังเรื่องที่เสิ่นหยวนพูด

“สุดยอด” อาโมรี่ชมเชย  เป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่สามารถบอกเล่าความรู้ได้มากมาย  มีวิทยายุทธมากมายในทุกระบบ  และการจะเรียนรู้วิทยายุทธได้มากมายนั้นเห็นได้ว่าเสิ่นหยวนได้รับมาตามวิถีของเขาเอง

“ฉันไม่เคยคิดว่านายจะมีความกล้าหาญท้าทายเดินตามเส้นทางยอดฝีมือด้านต่อสู้ระยะประชิด  นี่น่าชมเชยมากจริงๆ” หน้าของเสิ่นหยวนเต็มไปด้วยความชื่นชมและเขากล่าวจริงจังว่า “ฉันมีการ์ดวิญญาณสามใบวิชาฝ่ามือสลายเงา, หมัดพิฆาตเล็กและวิชาพลังลูกโซ่ ฉันจะมอบให้นายทั้งหมด!สบายใจได้ทั้งหมดเป็นการ์ดระดับเงิน”

ถังเทียนยิ้ม “หึหึ, ฉันเข้าใจนายผิดไป, นายเป็นคนดีจริงๆ”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ในบ้านของเสิ่นหยวน

“การ์ดวิญญาณทั้งสามใบนี้ นายรับไปได้เลย” เสิ่นหยวนเสนอการ์ดวิญญาณทั้งสามใบให้ด้วยท่าทีเคร่งขรึม  ขณะที่หยางหย่งอยู่ที่มุมห้องแสดงสีหน้าไม่พอใจ

ถังเทียนรับการ์ดวิญญาณทั้งสามใบและออกมาพร้อมกับอาโมรี่อย่างอารมณ์ดี

หยางหย่งอดถามไม่ได้ “พี่เสิ่น ทำไมยอมให้การ์ดพวกมันจริงๆ ล่ะ? ถ้าเราลงมือตอนนี้ เราอาจพลิกสถานการณ์เอาชนะได้จริงๆ นะ”

เสิ่นหยวนตอบ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ? เราฆ่าพวกมันแล้วเรื่องจะจบไหม? นี่ถือเป็นความล้มเหลวที่กลายเป็นความอัปยศที่เราไม่มีวันล้างได้อีกต่อไป”

หยางหย่งตะลึงและไม่รู้จะพูดสิ่งใดต่อ

เสิ่นหยวนพูดถูก   ถ้าพวกเขาเอาชนะอาโมรี่และถังเทียนได้ตอนนี้  แต่สถานะของพวกเขาเล่า  ชนะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ล้มเหลวเป็นเรื่องน่าอับอาย ล้มเหลวครั้งเดียวจะกลายเป็นความอัปยศที่ติดตัวไปอย่างถาวร

“ฉันสงสัยว่าพวกมันกำลังคิดอะไรอยู่?” เสิ่นหยวนพูดโพล่งออกมา “เขาบอกว่าถ้าฉันไม่ได้ระบายความโกรธของพวกเขาพวกเขาจะจับฉันแก้ผ้าแล้วแขวนไว้ที่ประตูทางเข้าสถาบันเทียนเจียง”

หน้าของหยางหย่งซีดเหมือนหิมะ เมื่อเขาคิดถึงภาพที่เสิ่นหยวนอธิบาย เขาถึงกับสั่น  เมื่อไม่สามารถระบายความโกรธได้เขาตะโกนทั้งที่เสียงสั่น “พวกมันกล้าดียังไง ถึงได้ใช้วิธีชั่วร้ายกับนาย!”

เสิ่นหยวนตบไหล่หยางหย่งและปลอบโยนเขา “การ์ดเหล่านี้ สำหรับฉันไม่นับว่าเท่าไหร่?  ฉันถือว่าสูญเสียเงินไปบ้างเพื่อป้องกันหายนะ”

หยางหย่งยังคงเงียบ ทันใดนั้นเขารู้สึกโล่งใจ  ถูกแล้วการ์ดวิญญาณไม่กี่ใบจะมีความหมายอะไรกับเขาเล่า?

“อีกอย่าง ถ้าเขาฝึกฝนตามการ์ดวิญญาณเหล่านี้จริงๆ หึหึ”   เสิ่นหยวนยิ้มมีเลศนัย“อย่างนั้นเขาจะเจอแต่ความทรมาน”

“อย่าบอกฉันนะว่า การ์ดวิญญาณเหล่านั้นมีปัญหา?”  หยางหย่งถามด้วยความสงสัย

“การ์ดวิญญาณไม่มีปัญหาอะไร ฉันช่วยให้เขาได้เลือกฝึกวิทยายุทธ นั่นก็สมเหตุผลดีอยู่แล้ว”เสิ่นหยวนแค่นเสียงเย็นชา

หยางหย่งถามอย่างไม่เข้าใจ “งั้นทำไมเขาถึงต้องเจ็บตัวทรมานด้วย?”

เสิ่นหยวนส่ายหน้ากล่าว “นายยังไม่เข้าใจเรื่องความชำนาญของยอดฝีมือด้านสู้ระยะประชิด   ความชำนาญนี้มีความซับซ้อนสูงและยากมาก  หากไม่มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งก็ไม่มีทางอยู่ในเส้นทางนี้ได้  วิทยายุทธเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะที่ยากมาก  ตามทฤษฎีดูเหมือนจะเข้าได้เป็นอย่างดี  และถ้าเขาสามารถฝึกพร้อมกันได้ทั้งหมด  ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มสูงพรวดพราดแน่นอนและไม่มีจุดอ่อนให้เล่นงานเลย”

หยางหย่งยิ่งสับสนขึ้น ขณะที่เขาฟัง

“อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ตัวอย่างเช่น ฉันอยู่ในช่วงฝึกฝ่ามือเหล็กเป็นพิเศษ  ถ้าฉันเริ่มฝึกวิชาหมัดมวยฉันก็ต้องฝึกวิทยายุทธที่สามารถปล่อยหมัดเหล็กและฝ่ามือเหล็กและอื่นๆ ได้  เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็จะลดระยะเวลาที่ฉันใช้ในการฝึกฝนได้ ถ้าฉันเรียนวิชาหมัดมวยอย่างหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับหมัดเหล็ก  อย่างนั้นฉันก็จะใช้เวลาฝึกฝนนานมากขึ้นแน่นอน และถ้าเพิ่มเป็นห้าวิชาฝีมือที่แตกต่างกันล่ะ?  นั่นก็ต้องใช้เวลาที่มากขึ้นๆ”

“มีแต่สุดยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริงถึงจะฝึกฝนเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดได้  เพราะวิชาต่อสู้ที่เขาเรียนทุกวิชา  พวกเขาต้องใช้ระยะเวลาช่วงสั้นๆ ก่อนที่ฝึกฝนอย่างจริงจัง เมื่อประเมินพรสวรรค์ของถังเทียนกับวิชาต่อสู้ห้าวิชาที่แตกต่างกันหึหึ  เขาก็แค่หัวระดับปานกลางเท่านั้น”

เสิ่นหยวนพูดพลางหรี่ตา

หยางหย่งไม่รู้เหตุผล แต่จู่ๆ เขารู้สึกหนาวสะท้านในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด