ตอนที่แล้วตอนที่ 20 ลอบเคลื่อนไหว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 แผนของเสิ่นหยวน

ตอนที่ 21 เสิ่นหยวนผู้ประมาท


ความจริง นักเรียนสถาบันเทียนเจียงฐานะดีกันทุกคน

หยางหย่งเขามีการ์ดวิญญาณสีฉูดฉาดสามใบ และทั้งหมดเป็นการ์ดชั้นเงิน  วิชาตัวเบาระดับสอง “ปักหลักกลางหาว”,วิชาตัวเบาระดับสาม “8 ก้าวไล่จักจั่น” วิชาดรรชนีระดับสาม “ดรรชนีทะลวงเหล็ก”

การ์ดวิญญาณวิชาตัวเบาทั้งสองใบอาจกล่าวได้ว่าช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของถังเทียน  ตอนนี้เขายังขาดการ์ดวิญญาณวิชาตัวเบา คาดไม่ถึงเลยว่าการ์ดวิญญาณเหล่านั้นจะมีคนส่งมาให้เขา  ถังเทียนรู้สึกเอาเองว่าหยางหย่งที่หมดสติอยู่บนพื้นคงยินดีที่ได้เจอ

ดรรชนีทะลวงเหล็กเป็นวิชาดรรชนีสายธาตุทองซึ่งถังเทียนไม่ได้เรียน  แต่โชคดีที่เคล็ดวิชาดรรชนีสายธาตุทองนั้นเป็นที่นิยมฝึกกันและถังเทียนก็สามารถเอาไปแลกเปลี่ยนการ์ดวิญญาณที่เขาใช้ได้

เป็นคนดีจริงๆ

หัวใจและความคิดของถังเทียนเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

ขณะที่เขาหันไปมองเสิ่นหยวน นัยน์ตาเขาเป็นประกายลุกโชนทันที อย่างไรก็ตามถังเทียนสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว  พลังที่เสิ่นหยวนแสดงออกมานั้นประหลาดมาก

เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเห็นอาโมรี่ถูกคนอื่นกดดัน

เสิ่นหยวนคู่ควรกับฉายาว่า ฝ่ามือเหล็กเสิ่น แม้ว่าฝ่ามือของเขาดูเหมือนเป็นวิชาระดับปานกลางธรรมดา  แต่ทุกฝ่ามือมั่นคงและแข็งแกร่ง  อาโมรี่มีพรสวรรค์ตามธรรมชาติ  เขาใช้ดาบไม้ยักษ์ที่หนักเป็นพิเศษ  ขณะที่เขาใช้ปราณเที่ยงแท้เพื่อเคลื่อนไหวถ้าพูดถึงความดุดัน ถังเทียนยอมรับว่ายังเป็นรอง อย่างไรก็ตามแม้อาโมรี่ควงดาบฟาดฟันคอยกดดัน  แต่ก็ถูกเสิ่นหยวนใช้ฝ่ามือป้องกันไว้ได้หมด

ปราณแท้ของเสิ่นหยวนกระจายไปทั่วร่าง การขยับเท้าดูเหมือนจะเชื่องช้า แต่ความจริงล้วนหนักแน่น  ทุกย่างก้าวทิ้งรอยเท้าอยู่บนพื้นอย่างเห็นได้ชัด เขาขยับเข้ามาใกล้อาโมรี่ในแต่ละย่างก้าวขณะที่ฝ่ามือทั้งสองนั้นเปล่งเสียงทึบ

ทรงพลังมาก

ถังเทียนมองดูพวกเขาอย่างว่างเปล่า   เสิ่นหยวนสร้างความรู้สึกให้เขาว่าเขาไม่สามารถป้องกันขัดขวางได้เลย กระบวนท่าดาบของอาโมรี่เริ่มสับสน ขณะที่ฝ่ามือเหล็กของเสิ่นหยวนธรรมดาและเรียบง่าย แต่แฝงพลังที่น่าทึ่งทุกฝ่ามือที่ปล่อยออกจะครอบคลุมระยะสิบฟุต

เสิ่นหยวนไม่สนใจการเปลี่ยนแปรในกระบวนท่าดาบของอาโมรี่  ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าไล่ตามกันมา ทำให้พลังดาบของอาโมรี่ช้าลงไม่สามารถป้องกันพลังฝ่ามือของเขาได้

ถังเทียนมองดูเขา ฝ่ามือเหล็กของเสิ่นหยวนนับว่าน่าทึ่งจริงๆ แต่เหตุผลที่แท้จริงที่อาโมรี่ถูกกดดันอย่างที่เป็นอยู่เป็นเพราะพลังปราณเที่ยงแท้ที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดาของเสิ่นหยวนต่างหาก

ถังเทียนเพิ่งจะสำเร็จการฝึกฝนลมปราณขั้นร่างกระเรียนเขาดูฉากต่อสู้ข้างหน้าอย่างเพลิดเพลินใจ

ถ้าเสิ่นหยวนไม่ได้ฝึกวิชาลมปราณใดๆ มาโดยเฉพาะ  ก็หมายความว่า เขามีพลังปราณเที่ยงแท้ระดับสี่

พลังปราณเที่ยงแท้ของอาโมรี่ก็ทำนองเดียวกันไม่ได้อ่อนแอ  เป็นพลังปราณระดับสาม สำหรับวัยอย่างเขานับว่าไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย  พลังปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนแม้จะอ่อนกว่าแต่เขาเพิ่งจะเข้าสู่ระดับสามของปราณเที่ยงแท้ได้ไม่นาน  แม้ว่าเขาจะฝึกถึงขั้นร่างกระเรียน และพลังปราณเที่ยงแท้ของเขาสามารถปล่อยพลังที่น่ากลัวได้ทันทีการปล่อยพลังของเขาแทบจะเทียบเท่ากับคนที่ฝึกปราณเที่ยงแท้ระดับสามช่วงกลางๆ  อย่างไรก็ตามจากตรงนั้น  เมื่อเทียบกับปราณเที่ยงแท้ระดับสามช่วงกลางๆเขาก็ยังด้อยอยู่

ที่ขั้นปลายของระดับสามอย่างอาโมรี่ยังถูกเสิ่นหยวนกดดันเสียอยู่หมัด   พลังปราณเที่ยงแท้ปริมาณน้อยกว่าของเขาถูกปัดและกวาดออกไปด้านข้างจากลมฝ่ามือของเสิ่นหยวน

สถาบันเทียนเจียงนับว่าเป็นที่ชุมนุมพยัคฆ์และซ่อนมังกรอย่างแท้จริง

เสิ่นหยวนไม่ได้ลำพองตัวเอง แต่พลังปราณเที่ยงแท้ของเขาอยู่ในระดับที่น่ากลัวแล้ว

ทันทีที่เขาเห็นว่าท่าดาบของอาโมรี่ผิดไปจากที่ตั้งใจ  เขาถึงกับห่วงกังวล  ถ้าอาโมรี่พ่ายแพ้ของที่ริบมาก็ต้องคืนและเสิ่นหยวนคงไม่ปล่อยพวกเขาแน่

ถังเทียนกัดฟัน ย่ำเท้าอย่างรุนแรงและพุ่งตัวไปข้างหน้าเหมือนกับเสือชีตาห์

หมัดประกายไฟ

เสิ่นหยวนเห็นถังเทียนวิ่งตรงเข้าหาเขา หัวใจถึงกับสั่นสะท้าน แต่พอถังเทียนปล่อยหมัดประกายไฟใส่เขา เขาอดยิ้มไม่ได้

วิทยายุทธระดับสอง ในสายตาของเขาเป็นวิทยายุทธที่ไร้ประโยชน์

มีพรสวรรค์อยู่แค่นี้ พวกมันก็บังอาจท้าทายเทียนเจียงเชียวหรือ?

หลังจากวันนี้ไป พวกแกทั้งสองคนจะได้รู้ว่า ความคิดและความปรารถนาของพวกแกก็แค่เรื่องตลก

นัยน์ของเสิ่นหยวนเต็มไปด้วยความเดือดดาลและเขาปลดปล่อยปราณเที่ยงแท้ทั่วร่าง ผมทั้งหมดของเขาตั้งชัน และกระบวนท่าฝ่ามือกลายเป็นหนักหน่วงยิ่งขึ้นและขณะเดียวกันอากาศรอบตัวเขาเพิ่มความหนืดยิ่งขึ้น

ถังเทียนเป็นเหมือนแมลงวันตัวเล็กที่หล่นลงไปในบึงทำให้ปีกของมันไม่สามารถขยับได้  หมัดประกายไฟของเขาไม่สามารถเข้าใกล้เสิ่นหยวนได้ และทั้งตัวเขาถูกเหวี่ยงไปอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดจากพลังลมของฝ่ามือเหล็กทั้งสอง

หมัดประกายไฟถูกทำลายก่อนจะได้โจมตีเสียอีก

ในชั่วพริบตาทั้งสองคนก็ตกอยู่ในอันตราย

※※※※※※※※※※※※※※※※※※

อาโมรี่ป้องกันพลังฝ่ามือเหล็กซึ่งดูเหมือนจะมีอยู่ทุกที่ของเสิ่นหยวนติดต่อกัน  ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าดาบมากเพียงไหน ก็เปล่าประโยชน์ ดาบผ่าปฐพีที่เขาคิดว่ามีพลังและรุนแรงยังไร้ประโยชน์ในการต่อสู้

ในสายตาของยอดฝีมือของเทียนเจียงเสิ่นหยวนไม่มีอะไรมากมีชื่อเสียงน้อย แต่อาโมรี่ไม่เคยคาดคิดว่า พลังของเสิ่นหยวนจะน่ากลัวขนาดนี้

ขณะที่เขาเห็นถังพื้นฐานเข้าร่วมต่อสู้  อาโมรี่กัดริมฝีปากจนเจ็บ

แค่พลังของถังพื้นฐานเข้าร่วมต่อสู้  แต่กลับเหมือนเข้ามาหาที่ตาย

บัดซบ

อาโมรี่ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจเขาและจิตใจเขาถึงได้รู้สึกโกรธ, ใช่แล้ว, แค้น  แค้นที่ตัวเขาอ่อนแอนัก  โกรธที่พลังของเขายังอ่อนและต่ำมากโกรธที่ตัวเองกลัว

ความโกรธของเขาปะทุออกมาเหมือนลาวาพุ่งออกมาจากภูเขาไฟและร่างของเขาเริ่มสั่น

ในทำนองเดียวกันมีเสียงก้องอยู่ในใจเขา

ความอัปยศอย่างนี้

อาโมรี่

แกเป็นลูกผู้ชายที่มุ่งมั่นผู้จะสร้างมรรคาวิชาบู๊

แกไร้ประโยชน์ขนาดนี้ได้ยังไง?แกบังอาจขลาดกลัวอย่างนั้นหรือ?

แกทำได้ไง

และฝันของแกเล่า?   แกสาบานไว้ว่ายังไง?

แกไม่กล้าต่อสู้  อาโมรี่ แกมันขี้ขลาด

แกก็แค่ไอ้ขี้ขลาด

“...แกล้มเหลวในระยะสั้นเมื่อเทียบกับความเหี้ยมหาญของเขา

คำพูดของผู้เฒ่าเว่ยผุดขึ้นมาในความคิดของอาโมรี่ทันที

สายตาเขามองไปที่ถังพื้นฐานโดยไม่รู้ตัว

※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนยามที่ยืนดูอยู่ด้านข้างก็ได้รับผลกระทบที่มากพออยู่แล้ว  แต่ทันทีที่เข้าร่วมวงต่อสู้  หลังจากทิ้งเรื่องรกสมองออกไปทั้งหมด เขาเบิกตากว้างและปล่อยหมัดของเขาอย่างต่อเนื่อง

หมัดประกายไฟ

ความถี่ที่น่าทึ่งของหมัดประกายไฟของเขาทำให้มันหายไปหมดในอากาศ  และจากนั้นก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีที่มาที่ไป

พอเข้าร่วมวงต่อสู้ด้วยตนเอง ถังเทียนพบว่าฝ่ามือเหล็กของเสิ่นหยวนให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง  ดูเหมือนเสิ่นหยวนจะปล่อยพลังฝ่ามือในแนวนอนแต่เสียงหวีดหวิวจากลมฝ่ามือให้ความรู้สึกเหมือนมีกำแพงลมบดอัดจนหายใจไม่ออก

ไม่มีโอกาสจะหลบได้

ปัง ปัง ปัง!

หมัดประกายไฟของถังเทียนระดมต่อใส่กำแพงลมและปล่อยแรงบีบอัดเหมือนโซนิคบูม พื้นที่โปร่งแสงหน้าเขากระเพื่อมเป็นระลอก

ปัง

กำแพงลมแตกสลายคมมีดอากาศนับไม่ถ้วนปลิวออกมาเหมือนกระจกแตกกระจายไปทุกทิศ ชี่ ชี่ ชี่เสื้อผ้าของถังเทียนขาดรุ่งริ่ง และมีเลือดไหลออกมาจากแผลเล็กแผลน้อย

ถังเทียนไม่สามารถพักในช่วงเวลาสั้นๆได้  ขณะที่เสิ่นหยวนยังคงปล่อยฝ่าตามมาอีก

และหมัดประกายไฟอีกหมัดหนึ่ง

ความสงสัยประหลาดใจฉายอยู่ในแววตาของเสิ่นหยวน ระดับหมัดของถังเทียนทำให้เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาทำได้  จนกระทั่งบัดนี้ ถังเทียนออกหมัดประกายไฟยังไม่พลาดเลยสักหมัดเดียว ซึ่งก็หมายความว่าหมัดประกายไฟของถังเทียนมีระดับความสำเร็จเต็มร้อย

นี่คือระดับสูงสุดตามทฤษฎี  แต่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน  ขณะที่ตอนนี้สถิติสูงสุดในเมืองซิงฟงเป็นหวังเจิ้นที่ออกหมัดประกายไฟได้สำเร็จถึง 83%

ถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขาสามารถปล่อยหมัดประกายไฟได้สำเร็จเต็มร้อย

เขาประเมินถังเทียนผิดไปจริงๆ

แต่แววประหลาดใจในดวงตาของเสิ่นหยวนหายไปในพริบตา  ในสถาบันเทียนเจียงอัจฉริยะหาได้ไม่ยากเขาเห็นอัจฉริยะทุกชนิดทุกประเภทมาแล้ว วิชาหมัดประกายไฟเป็นเพียงวิทยายุทธระดับสอง  อาจจะดึงดูดความสนใจนักเรียนใหม่จำนวนน้อย  แต่สำหรับนักเรียนรุ่นพี่ระดับสูง  แค่วิทยายุทธระดับสามวิชาหนึ่งจึงนับเป็นวิชาที่สำคัญ ยิ่งวิทยายุทธระดับสี่ยิ่งถูกมองว่าเป็นวิทยายุทธชั้นสูง

หมัดประกายไฟที่มีระดับความสำเร็จเต็มร้อยกับฝ่ามือเหล็กก็ยังอ่อนและเปราะบางอยู่ดี ปกติเสิ่นหยวนจะไม่ทำตัวให้เด่นอยู่ในกลุ่มอัจฉริยะในสถาบันเทียนเจียงขณะที่เขาจะไม่เปิดเผยพลังของตนเอง ความแข็งแกร่งของเขามักถูกปรามาสอยู่เสมอ แต่เขาไม่สนใจ  ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนขอร้องเขา  เขาคงไม่แสดงตนเองเป็นแน่

ถ้าไม่ใช่เพราะเขารับจัดการถังเทียนและอาโมรี่ทั้งคู่  ถังเทียนคงไม่มีโอกาสได้สู้  แต่เมื่อต้องจัดการพวกเขาทั้งสอง  เขาไม่คิดเลยว่าถังเทียนจะมีความสามารถพอคุกคามเขาได้ การใช้พลังหมัดประกายไฟโจมตีได้อย่างต่อเนื่องมีความกดดันสูงและสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก

มาดูกันว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน?

นัยน์ตาของเสิ่นหยวนเยือกเย็นและเขาปล่อยพลังฝ่ามืออีกครั้ง

ถังเทียนไม่รามือและไม่สนใจพลังงานร่างกายของเขา กลับใช้หมัดประกายไฟระดมโจมตี  แต่ในทุกย่างก้าวเขาต้องทุ่มเทไปมากเช่นกัน  ทุกครั้งที่กำแพงลมถูกทำลายจำนวนบาดแผลบนตัวถังเทียนก็เพิ่มขึ้น

นอกจากที่หลังของเขา  ร่างกายส่วนที่เหลือเต็มไปด้วยบาดแผล  ทั้งเหงื่อและเลือดย้อมเสื้อผ้าเขาไปหมด

ถังเทียนชาไปทั้งตัวและสายตาเขายังจับจ้องเสิ่นหยวนไม่วางตา และทุ่มเทพลังของเขาค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้า

※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“...แกจะล้มเหลวในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเทียบกับความดุดันของเขา”

อาโมรี่มองดูหลังของถังเทียนที่เปียกชุ่ม  ร่างของเขามีเลือดท่วมแต่เขาก็ยังดันทุรังเดินหน้าต่อไป เนื่องจากถังเทียนกระโดดเข้ามาร่วมในสนามต่อสู้  เขาจึงไม่ถอนถอยทันที  เขาเดินหน้าสู้อย่างยากลำบาก  ขณะที่เขาเดิน น่าประหลาดใจที่เขาแซงเราได้

ถังพื้นฐาน.....

ความโกรธในอกของอาโมรี่ลุกกระพือแล้วและในหัวของเขามีภาพหนึ่งวาบขึ้นมา เป็นภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่งชูแขนและตะโกน

“ว้าว, พ่อหนุ่มน้อย, เอาเลย”

เสียงคำรามของเด็กหนุ่มดูเหมือนจะก้องอยู่ในใจเขา

ถังพื้นฐาน....

ไม่รู้ว่าทำไม  แต่สายตาของอาโมรี่สงบลงบ้างและมั่นคงขึ้น  มือซ้ายขวาทั้งสองของเขายื่นออกไปจับดาบไม้

เขายกอาวุธในระดับเอวรวบมือทั้งสองจับด้ามดาบและยกขึ้น

ด้วยรูปร่างที่เหมือนกับสัตว์ป่า นี่เขาดูคล้ายกับนักรบโบราณเต็มไปด้วยความสง่าและพลังเกินกว่าจะบรรยายได้

สีหน้าที่เคร่งขรึมและสายตาที่เด็ดเดี่ยวเขาส่งพลังเย็นยะเยือกไปตามแนวกระดูกสันหลังขณะที่พลังกระจายออกจากตัวอาโมรี่ทุกทิศทางเหมือนกับว่าเขาเรียพลังสายลมออกมา

หืม?

คนแรกที่รู้สึกถึงสิ่งที่ผิดปกติก็คือเสิ่นหยวน ตอนนี้พลังของอาโมรี่ที่ปล่อยออกมามีกลิ่นอายพิเศษ ทำให้หัวใจของผู้คนรู้สึกกดดัน

นี่มัน....

ถังเทียนไม่ทันสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของอาโมรี่ สิ่งเดียวที่เขาเห็นและรู้สึกได้ก็คือเสิ่นหยวนกำลังวอกแวก  และในทันใด เขาเพิ่มความเร็วของหมัดประกายไฟทันที  กำแพงลมปราณแตกทำลายอย่างต่อเนื่อง  เลือดกระเซ็นไปทั่ว  ถังเทียนเบิกตากว้างและเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างปราดเปรียวว่องไวเหมือนสัตว์ป่า

ปราณเที่ยงแท้รอบตัวอาโมรี่เพิ่มสูงขึ้นและพลังที่ไม่รู้จักเริ่มถูกปล่อยออกมาจากใต้เท้าของเขา

ขณะนั้นพลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด และอาโมรี่คำรามลึกดึงพลังที่น่ากลัวนี้ออกมาใช้

เขายักดาบไม้ยักษ์เหนือศีรษะเหมือนกับยกขวานหนักแล้วสับลงพื้นเสียงดังสนั่น

รอยแยกลึกและดำเป็นกลุ่มเหมือนงูสายฟ้ากระจายออกพุ่งตรงใส่เสิ่นหยวน

กำแพงลมข้างหน้าเสิ่นหยวนถูกคมมีดทำลายหมดสิ้นราวกับเศษกระดาษ

วิชาดาบสังหารผ่าปฐพี –ผ่าหุบเหว

สีหน้าเสิ่นหยวนเปลี่ยนแปลงไปมากในชั่วขณะที่ตื่นตระหนก เขาดันปราณเที่ยงแท้ของตนสู่สุดขีดจำกัด  อยู่ในท่านั่งม้า (หม่าปู้)และประกบฝ่ามือทั้งสองเข้าด้วยกัน จากนั้นเริ่มผลักฝ่ามือทั้งสองออกช้าๆ  เหมือนกับว่าเขากำลังผลักประตูเหล็กที่หนักอึ้ง  และเขาต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายในขอบเขตที่เสื้อผ้าของเขาใกล้จะฉีกขาด

เมื่อมองตาเปล่าจะเห็นว่ากำแพงลมที่ถูกบดสลายลงไปก็เหมือนกับประตูโลหะ

วิชาฝ่ามือเหล็กสังหาร –ขยี้ประตูเหล็ก

วิชาสังหารปะทะกับวิชาสังหาร!

แก้มของถังเทียนถูกกรีดโดยพลังที่ไม่รู้จัก  เลือดไหลช้าลง ถังเทียนไม่ได้รู้สึกอะไรตาของเขาเป็นประกาย ทันใดนั้นเขาปล่อยรังสีฆ่าฟันออกมาชั่วขณะหนึ่ง

โอกาสมาแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด