ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0105
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0107

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0106


บทที่ 34 สหายจากวันวาน (1)

* * *

ก่อนจะข้าม ‘กำแพง’ ตะวันออก ซอจีอามาจากทางใต้

ถึงจะความจำเสื่อมเล็กน้อยเพราะต้องฝืนข้าม ‘กำแพง’ หลอนประสาทระหว่างทาง แต่อาการก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

เธอจึงทราบดี ชายแดนทิศใต้คือดินแดนที่เมล็ดพันธุ์แห่งความตายซึ่งผุดขึ้นจากนรก ค่อยๆ ขยายอาณาเขต

ช่างน่าขัน ที่นั่นกลายเป็นดินแดนสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาหลักการแห่งความตาย

ซอจีอาเคยพบเจอคนเหล่านั้น

เหล่าผู้ที่ศึกษาความตาย มักแต่งกายด้วยโค้ตยาวสีดำ อาศัยอยู่ในซากหอคอย

ส่วนใหญ่เป็นจอมเวท แต่ก็ยังมีกลุ่มคนคลั่งศาสนา

เธอได้ยินมาว่า เพื่อที่จะเข้าใจแก่นแท้ของความตาย สิ่งสำคัญคือการเข้าใจโลกแห่งความตาย ซึ่งเป็นโลกทั้งใบของพวกมัน

และเพื่อที่จะทำแบบนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเผชิญความตาย

ความรู้เกี่ยวกับโลกแห่งความตายที่คังซอนฮูสาธยายให้เธอฟัง คือสัจธรรมที่ไม่มีทางรู้ได้เลย หากไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ในโลกแห่งความตายมาก่อน

ข้อมูลเหล่านั้นลึกลับจนถึงจุดที่แทบไม่มีใครช่วยยืนยันข้อเท็จจริงให้ได้

เคยมีประสบการณ์ในโลกแห่งความตาย?

ซอจีอาที่แทบไม่ประหลาดใจกับสิ่งใดเลย เพราะเกิดมาเป็นเผ่าพันธุ์อายุยืนและมากความรู้ เริ่มตกตะลึงกับสิ่งที่คังซอนฮูแสดงให้เห็น

คังซอนฮูมักเป็นแบบนี้เสมอ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เอลฟ์ตกใจ แต่เขาทำสำเร็จทุกครั้ง

ยังกับเป็น ‘ซิตคอม’ ที่เตี๊ยมกันมา

คังซอนฮูจ้องไข่มุกสักพักก่อนจะสอดกลับเข้าไปในเสื้อ

“กลับกันเถอะ”

“คุณจะทำยังไงต่อ?”

“เตรียมตัว จากนั้นก็ล่า”

ค่อนข้างฟังดูขัดหูเมื่อนำคำว่า ‘ล่า’ มาใช้กับผี

จูฮยอนซอที่เริ่มใจเย็นลง บรรจงเปิดปากอย่างระมัดระวัง

“คุณ…”

คำแรกหลุดมาแล้ว แต่เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ

จูฮยอนซอลังเลเล็กน้อยก่อนจะรวบรวมสมาธิ

“…คุณต้องการให้เราช่วยอะไรไหม”

คังซอนฮูส่ายหน้า

“หน่วยงานของเธอคงมีคู่มืออยู่แล้วใช่ไหม ทำไปตามนั้นเลย”

การที่คังซอนฮูพูดแบบนั้น เท่าบอกเป็นนัยว่าคู่มือของ OWIC คือสิ่งที่ไร้ประโยชน์

“ถ้าปฏิบัติตามคู่มือ เธอจะไม่เดือดร้อนใช่ไหมล่ะ”

“…ค่ะ”

ต้องขอบคุณที่จูฮยอนซอหัวไว จึงเข้าใจสิ่งที่คังซอนฮูต้องการจะสื่อ

— เธอไม่ต้องกลัวว่าจะตกที่นั่งลำบาก ดังนั้นอย่ามาขวางกันและทำในสิ่งที่ตัวเองควรทำ

กล่าวคือ คังซอนฮูประเมินว่า OWIC ไม่มีประโยชน์กับการล่าของตน

จูฮยอนซอนึกทบทวนสิ่งที่เห็นผ่านไข่มุก — โลกที่เหมือนกับโลกในกระจก โลกแห่งความตายเหนือตาเปล่า

ค่อนข้างชัดเจนว่า OWIC ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้ แค่ไม่มาขวางทางก็ถือว่าทำประโยชน์แล้ว

จูฮยอนซอพยักหน้า

“ขอให้โชคดีนะคะ”

ดูเหมือนคังซอนฮูจะชอบคำตอบนั้น

ชายหนุ่มตรงกลับสำนักงานทันที

เมื่อกลับมาถึง ลิลี่กำลังอยู่ที่แปลงพืช ผมสีดำเปียกชุ่มประหนึ่งสาหร่ายทะเล คล้ายกับเพิ่งสระผม

ลิลี่กำลังยืนตัดแต่งพืชอยู่หน้าแปลงพืช

“ไปไหนมา?”

“เข้ามาข้างในสิ ฉันมีอะไรจะเล่าให้ฟัง”

ลิลี่จ้องคังซอนฮูก่อนจะถอนหายใจ

“ไม่คิดจะพักผ่อนเลยสินะ”

พูดจบ เธอตามหลังพลางเช็ดมือด้วยผ้า

ภายในบ้าน ชาโซฮีกำลังเป่าผม เสียงไดร์ที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนคำรามลั่น

“หือ? ลิลี่มานี่หน่อย ฉันจะเป่าผมให้… หือ? มีอะไรกัน?”

ท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียด ชาโซฮีปิดไดร์และวางลงบนชั้น

ทุกคนนั่งบนโซฟา

คังซอนฮูที่นั่งแยกบนโซฟาเดี่ยว วางแก่นผีลงบนโต๊ะ

“นี่คือแก่นของผีที่ฉันฆ่าไปเมื่อวาน”

“ใช่… เมื่อวานเจ้าฆ่าผีและเก็บมันมา”

ลิลี่เสริมพลางพยักหน้า

“โดยปกติแล้วผีจะไม่มีแก่น แต่ในบางกรณีก็มีได้”

“ในกรณีไหน?”

“เป็นผีจากสุสานเก่าแก่ จะเรียกดันเจี้ยน*ก็ได้” (Dungeon)

“ดันเจี้ยน?”

ถึงตรงนี้ ลิลี่เอียงคอเป็นนัยว่าไม่เข้าใจ

ชาโซฮีที่ชอบเกมเป็นทุนเดิมพอจะเข้าใจเล็กน้อย

และค่อนข้างผิดคาด ซอจีอาก็ดูเหมือนจะเข้าใจ

เป็นชาโซฮีที่พูดขึ้น

“หมายถึงดันเจี้ยนปิดในเกม?”

“เข้าใจเร็วดีนี่”

คังซอนฮูอธิบายต่อ

ผีจะไม่เกิดขึ้นถ้ามีการจัดพิธีศพอย่างถูกต้อง — นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจ

ทว่า นั่นเป็นได้แค่ความเชื่อ ในต่างโลกเต็มไปด้วยปัจจัยที่เหนือความคาดหมาย

ถึงจะเป็นหลุมศพของผู้ตายที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง ถึงจะเป็นสุสานที่ทำแบบเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนความทรงจำของผู้คนเริ่มเลือนราง พลังเวทที่ไม่บริสุทธิ์จะถูกสั่งสมทีละนิด

และเปลี่ยนให้ทั้งสุสานกลายเป็น ‘ผี’

หรือถ้าพูดในภาษาเกม สภาวะดังกล่าวจะสร้างมิติเล็กๆ ของคนตายที่คล้ายกับดันเจี้ยนปิด

“…เจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

เป็นคำถามจากลิลี่

ซอจีอาก็เพิ่งถามคำถามนี้ไป

คังซอนฮูเองก็ไม่แน่ใจว่าตนทราบได้อย่างไร เฉกเช่นความทรงจำส่วนใหญ่ที่ผ่านมา

ทว่า ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ ข้อมูลของตนคือความจริงอย่างไรข้อกังขา

“…ฉันเคยได้ยินมาว่า ตามสุสานหลวงในอาณาจักร มักมีนักบวชคอยประกอบพิธีกรรมขับไล่ผีเป็นระยะ”

ลิลี่พยักหน้าเป็นนัยเห็นด้วย

ซอจีอาผงกศีรษะประหนึ่งนี่คือสามัญสำนึก

ทว่า ความกังขาของพวกเธอยังไม่หายไป

“แล้วทำไมเราไม่เรียกนักบวชมาจัดการ? เอเจนต์แบล็ก (Agent Black) ของ OWIC น่าเคยติดต่อกับดินแดนใกล้เคียงไว้บ้าง ถึงจะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้…”

ซู่ว!

อัญมณีสีฟ้าในมือคังซอนฮูส่องแสงและกลายเป็นดาบยาวสภาพค่อนข้างเก่า

คังซอนฮูไม่ใช่นักรบ และไม่เคยมีใครคิดว่าเขาเป็น

ท่าทางการจับอาวุธชนิดนี้จึงเก้ๆ กังๆ

ตอนนี้ก็เช่นกัน

ทว่า ในแววตาชายหนุ่มปราศจากความลังเล

ดาบฟันผี — ดาบตัดนิรันดร์

คังซอนฮูทราบดี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะดึงคุณสมบัติของมันออกมาใช้งาน จึงก้มมองใบดาบด้วยความมั่นใจ

“ทำไมฉันต้องโยนขุมทรัพย์ให้ OWIC ด้วย?”

“…ขุมทรัพย์?”

ลิลี่จ้องคังซอนฮูด้วยแววตาฉงน เพราะเธอรู้ดีว่าคังซอนฮูที่ชอบทำตัวบุ่มบ่าม จะมีเหตุผลรองรับพฤติกรรมของตนเสมอ

คังซอนฮูยิ้ม เกาแก้มพลางจ้องหน้าลิลี่

“ลิลี่… ถ้าในสุสานของผีมีเหล่าวิญญาณเดินเตร็ดเตร่ และถ้าสุสานนั้นกลายเป็นมิติปิดขนาดเล็ก หมายความว่าจะต้องมีกระแสพลังเวทหนาแน่นใช่ไหมล่ะ? ถ้าเราได้เข้าไป…”

“เข้าเรื่องเลยได้ไหม”

“…”

คังซอนฮูหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็หยิบกล้องออกจากเสื้อ — กล้องที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาพกไว้ตั้งแต่ตอนไหน

“เธอไม่สงสัยบ้างหรือ ว่ากล้องถ่ายรูปจะถ่ายติดโลกของผีรึเปล่า?”

“…ไอ้คนเพี้ยน! ไม่สิ ขอด่าแรงกว่านี้ได้ไหม”

ถึงชาโซฮีจะพูดแบบนั้น แต่คังซอนฮูทำเพียงพยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ

“ทำหน้าภูมิใจทำไม? รู้วิธีเข้าไปหรือ”

คังซอนฮูเริ่มใช้ชอล์กวาดรูนบนพื้น

ทุกคนเริ่มกลั้นหายใจเพราะชายคนนี้มักแสดงอภินิหารอยู่เสมอ

ทว่า มีเพียงลิลี่ที่คิดว่ามันแปลก

สามารถกล่าวได้ว่า หากไม่นับคังซอนฮู ลิลี่รู้จักภาษารูนมากกว่าใครในที่นี้

เธออาจวาดรูนไม่เป็น แต่ก็พอจะมีเซนส์หลังจากติดตามคังซอนฮูมานาน

ลิลี่จึงบอกได้ว่า สิ่งที่คังซอนฮูกำลังวาดไม่ใช่รูนพิเศษ แต่เป็นแค่รูน ‘บาเรียกีดกัน’

จุดที่พิเศษกว่าปกติคือเส้นหนาๆ ที่ถูกวาดเสริมเข้าไป

คังซอนฮูบรรจงใช้ชอล์กวาดรูนอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็วางแก่นผีลงไปตรงกลาง

และ

หยับ!

ใช้เท้าเหยียบ

“…นี่คือวิธีเข้า?”

ลิลี่ถอยหลังพลางถาม

คังซอนฮูยิ้มและพยักหน้า

“มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร”

รูนนี้มีจุดประสงค์เพื่อ ‘ควบคุม’ ประตูทางเข้า

ถ้าไม่มีรูน ประตูมิติที่เปิดออกและหายไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้คนที่เข้าไปถูกขังอยู่ด้านใน

ซู่ว—!

ตามปกติแล้ว ประตูมิติจะมีเสียงคล้ายกระแสไฟฟ้า หรือเสียงกระดาษถูกฉีกขาดรุนแรง ตามด้วยเสียงลมพายุ

ทว่า ประตูมิติที่กำลังเปิดออก กลับมอบบรรยากาศที่แตกต่าง

ประหนึ่งกระแสน้ำวนกำลังหลั่งไหลออกจากท่อระบายน้ำอย่างเชื่องช้า

วังวนสีซีดจางที่แยกไม่ออกว่าสีฟ้า หรือเขียว หรือม่วง ยังคงหมุนวนใจกลางประตูอย่างต่อเนื่อง

ประตูบานนี้กำลังเชื่อมต่อกับดินแดนแห่งความตาย

ไม่สิ มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของโลกดังกล่าว

“ลิลี่ คราวนี้ห้ามตามมา”

คังซอนฮูเชื่อในดาบที่ตนกำลังถือ

ลิลี่ที่ไม่มีดาบจึงอาจตกอยู่ในอันตราย

“อื้อ”

เธอไม่ดื้อรั้น โฉมผู้นำทางที่ไม่ต้องการเป็นภาระ ย่อมรู้จักแยกแยะสถานการณ์ที่ตนจะเป็นได้แค่ภาระ

คังซอนฮูเข้าไปในประตูมิติ

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อข้ามประตูมิติ แสงสว่างจะท่วมท้นการมองเห็น ตามด้วยเส้นแสงที่ชวนให้เวียนหัว

แต่การข้ามประตูมิตินี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

คล้ายกับสติค่อยๆ เลือนราง

คล้ายกับกำลังลืมตาตื่นในความฝัน

คังซอนฮูลืมตาขึ้นด้วยความระมัดระวัง

มองไปทางขวา เขาเห็นภูเขาหินที่ได้พบกับเซลฟีครั้งแรกอยู่ไกลออกไป

มองไปข้างหลัง เขาเห็นภูเขาหิมะไกลลิบลับ ถูกหมอกหนาปกคลุมจนมองเห็นได้เพียงเค้าโครง

มองไปทางซ้าย เขาเห็นทุ่งกว้าง

ทว่า บนภูเขาหินไม่มีชื่อจริงของกิโฮเต้สลักอยู่

เหนือภูเขาหิมะก็ไม่มีเกาะท้องฟ้า

และไม่มีป่าเบอร์มิวด้าอยู่บนทุ่งกว้าง

จุดที่คังซอนฮูกำลังยืนคือตำแหน่งของเบสแคมป์ แต่ที่นี่ไม่ใช่ ‘โลก’

มีเพียงสุสานใหญ่ที่เต็มไปด้วยความโกลาหล

“…สร้างเบสแคมป์ในที่แบบนี้”

ทำไมถึงไม่ปรึกษาอาจารย์ฮวงจุ้ยก่อน? คังซอนฮูอดตั้งคำถามไม่ได้

ท่ามกลางกลุ่มหมอกที่ลอยตัวต่ำ สุสานซึ่งไม่รู้ว่าย้อนเวลากลับไปนานแค่ไหน เต็มไปด้วยแสงสีเขียวและฟ้าอ่อน

อากาศค่อนข้างเย็น

มีเพียงเสียงฝีก้าวของคังซอนฮูที่กำลังเดินไปรอบสุสาน

นี่คือ ‘ความทรงจำ’ ของสุสาน

อัดแน่นไปด้วยพลังเวท จนกระทั่งกลายเป็นโลกใบเล็ก

คังซอนฮูกำดาบแน่นพลางเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง

ชายหนุ่มทราบดี สุสานแห่งนี้ต้องมี ‘แก่น’

เฉกเช่น ‘ไข่มุก’ ที่เป็นสัญลักษณ์ของสุสาน

ก๊า! ก๊า! ก๊า!

เขาแหงนหน้ามอง

สิ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอีกาหรือปีศาจ บินผ่านท้องฟ้าด้านบนไป

“…”

จากนั้นก็เห็นลูกโป่งใบหนึ่ง

ตำแหน่งไกลมากจนดูเหมือนจุดสีดำ แต่คังซอนฮูสามารถระบุได้ทันที

ภาพหลอนจากความกลัว?

เขาอดสงสัยไม่ได้ เพราะในมิติแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก

ขณะเสียสมาธิไปครู่หนึ่ง

กรอบแกรบ—!

“…!”

เมื่อได้สติกลับมา คังซอนฮูตอบสนองตามสัญชาตญาณ ดาบในมือถูกกำแน่น

“…?”

สิ่งที่อยู่ตรงนั้น

“โฮ่ง!”

ลูกครึ่งระหว่างสุนัขและหมาป่า อายุปานกลาง

คังซอนฮูเหยียดดาบเตรียมฟัน

แต่ทันใดนั้น ความตึงเครียดมลายหายไปในพริบตา

ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น

เพราะหมาป่าของต่างโลก กำลังมองมาทางคังซอนฮูพร้อมกับกระดิกหาง

ระบุให้ชัดก็คือ ‘หมาป่าผี’

แถมยังเป็นหมาป่าที่คังซอนฮูรู้จัก

“…จอห์นสัน?”

“โฮ่ง!”

* * *

ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างการดิ้นรน

หลังจากพึงพอใจกับเพดานหยาบๆ ที่พอจะช่วยกันฝน และเตียงฟางหนานุ่มด้านล่างสำหรับซุกหัวนอน คังซอนฮูกำลังสร้างกำแพงหยาบๆ ที่ช่วยบดบังไม่ให้สิ่งมีชีวิตด้านนอกมองเข้ามา

ใกล้กับชายหนุ่มมีสุนัขตัวหนึ่ง กำลังกระดิกหางอย่างเอาเป็นเอาตาย

ทว่า แทนที่จะช่วยงาน สุนัขตัวดังกล่าวกลับเป็นตัวป่วน แถมยังเอาแต่ตามติดไม่ห่าง แต่ถึงอย่างนั้นคังซอนฮูก็ชื่นชอบมัน

“แกชื่อจอห์นสัน ส่วนนี่วิลสัน สนิทกันไว้ล่ะ เข้าใจไหม?”

“โฮ่ง!”

“วิลสัน ขานตอบด้วย! นิสัยแบบนี้มันอะไรกัน!”

หลังจากนั้น ชายหนุ่มยิ้มให้กับหมาล่าเนื้อแสนซื่อสัตย์ของตน ผู้มีชีวิตอยู่ได้ประมาณสองปี

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด