ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ติงหนานหรงที่บิดเบี้ยว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 เริ่มการแสดง!

ตอนที่ 3 ถอนหมั้น?


[อนิจจา เรื่องราวของติงหนานหรงอนาถกว่าข้าเสียอีก]

[ตอนที่นางยังเด็ก นางปลุก 'ร่างหยวนโดยกำเนิด' ซึ่งเป็นร่างฝึกตนที่หายากมาก และต่อมาถูกค้นพบโดยประมุขของนิกายเล็ก ๆ ]

[ประมุขนิกายคนนั้นมีความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของนางและต้องการใช้นางเป็นเตาหลอม ดังนั้นเขาจึงแอบฆ่าครอบครัวของนางทั้งหมดและจับนางไป]

ติงหนานหรง: “!!!”

[เมื่อนางอายุได้ 12 ขวบและโตเต็มที่ ประทุขนิกายก็พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวนาง แต่นางหนีไปได้ และต่อมานางก็กลับไปทำลายนิกายเล็กๆนั้น ด้วยตัวนางเอง]

[หลังจากการแก้แค้น นางพยายามฆ่าตัวตายเพราะนางสูญเสียครอบครัวและนางไม่สามารถหาความหมายที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้]

[เหตุผลเดียวที่ทำให้นางมีชีวิตอยู่เคียงข้างข้าคือการเฝ้าดูความเสื่อมโทรมและการล่มสลายของนิกายหวู่โหย่วของข้า และสุดท้ายก็ฆ่าข้าด้วยมือของนางเอง]

ติงหนานหรง: “!”

[เหตุผลของนางก็ยังไร้สาระอยู่ดี เพียงเพราะว่าประมุขของนิกายเล็กๆ นั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของข้า ดังนั้นนางจึงตัดสินใจว่านิกายหวู่โหย่วของข้าก็เป็นผู้ที่มีความผิดเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่นางเต็มใจที่จะเป็นสาวใช้ส่วนตัวของข้า ปกป้องขยะเช่นข้าในขณะที่เฝ้าดูว่าข้าจะทำลายนิกายหวู่โหยวลงด้วยตัวเองอย่างไร]

เขารู้ได้ยังไง!!!

ไม่เคย... นางไม่เคยบอกใครเรื่องนี้!!!

มุมมองทั้งสามของติงหนานหรงถูกทำลายแตกเป็นเสี่ยงๆ

(มุมมองทั้งสาม คือ ทัศนะต่อโลก ทัศนะเกี่ยวกับชีวิต และค่านิยม)

การล่มสลายของนิกายเล็ก ๆ นั้นไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนาง

และนางก็คยคิดที่จะฆ่าตัวตายจริงๆ

ตอนนี้การอยู่เคียงข้าง เจียงมู่และเฝ้าดูการล่มสลายของนิกายหวู่โหยวอย่างช้าๆ เป็นความหมายเดียวในชีวิตของนาง

ความลับทั้งหมดนี้เจียงมู่รู้ทุกอย่าง!

เป็นไปได้ไหมว่า…. มันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ นี่มันก็แค่…. โลกนิยาย?

โชคชะตาของข้า …. ถูกกำหนดไว้แล้ว?

ติงหนานหรงตกใจมากจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

จากนั้นนางก็ค่อยๆปรับตัว

นางวางบันทึกประจำวันลงและเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปที่เมฆสีขาวของนกกระเรียนที่โบยบินใต้หน้าผา เสียงร้องเพลงของพวกมันชัดเจนและดังกังวาน

ลมจากหน้าผาพัดสัมผัสใบหน้าที่สวยงามของนาง ขนกระโปรงหลวมของนางปลิวไสวตามสายลม และผิวของนางยังคงรู้สึกเย็นเยียบเล็กน้อย

ความเป็นจริงของความรู้สึกเหล่านี้ทำให้นางรู้

ในโลกนี้ นางติงหนานหรงมีจริง

ไม่ว่าอะไรจะเป็นอย่างไร

จุดประสงค์ของนางจะไม่เปลี่ยนแปลงเพียงเพราะเจียงมู่รู้เรื่องนี้

นอกจากนี้ เจียงมู่ไม่รู้ว่าบันทึกประจำวันของเขาถูกแอบดู

นี่ดูเหมือนค่อนข้าง…. น่าสนใจ?

เกี่ยวกับบันทึกประจำวันของเจียงมู่ ติงหนานหรงเริ่มให้ความสนใจอย่างมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มสนใจสิ่งต่างๆ หลังจากการแก้แค้นของนาง

มันคือมีความสุขที่ได้แอบดูความลับของคนอื่น

ยิ่งนางคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น

“แม่บ้านชราเหรอ” (หมายถึงหญิงสูงอายุที่ไม่เคยมีเซ็กส์ เลยถูกตราหน้าว่าเป็น " แม่บ้านชรา")

“ติดสัดเหรอ!”

นางมองลงไปที่ชุดสีม่วงที่ห้อยลง

แล้วก็ฉีกมันออก

***

ตอนกลางคืน

ในโรงอาบน้ำ.

มันเป็นวันที่เขาอายน้ำยาสมุนไพร แต่เจียงมู่ก็รู้สึกได้ถึงผลเพียงเล็กน้อย

ไม่ใช่เพราะยานั้นไม่ดี ตรงกันข้าม พวกมันทั้งหมดเป็นสมุนไพรระดับสูงสุดในนิกายหวู่โหย่ว

สาเหตุที่แท้จริงก็คือ ร่างของเขา.

มันได้รับการเสริมกำลังด้วย ': ร่างกายที่แกล้งทำเป็นโดนทุบตี'

“ข้ารู้สึกเหมือนตอนนี้ข้าสามารถทนมือทนเท้าได้เยอะมากขึ้น”

“แม้ว่าข้าจะแข็งแกร่งเหมือนติงหนานหรง ข้าก็ยังเป็นศพภายใต้การโจมตีอย่างเต็มกำลังของนาง”

เจียงมู่สวมชุดคลุมประมุขสีขาวหยกก่อรเปิดบันทึกประจำวันของเขา

และเริ่มลงมือเขียน.

[หลังจากนี้ข้าจะต้องแสดงฝีมือการถูกปฏิเสธ ข้าเก่งมากนะ]

[คราวนี้ ข้าควรพูดแบบไหนดี? และควรแสดงสีหน้ายังไง?

อืม ข้าไม่รู้ว่าข้าจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีเจ้า]

[หรือข้าควรจะพูดอย่างขมขื่น: “ระยะทางที่ไกลที่สุดในชีวิตไม่ใช่ชีวิตและความตาย แต่เป็นความจริงที่ว่าข้ายืนอยู่ต่อหน้าเจ้าแต่เจ้าไม่รู้ว่าข้ารักเจ้า”]

[หรือไม่พอใจ: “สามสิบปีในตะวันออก, สามสิบปีในตะวันตก, อย่ารังแกเด็กยากจน”]

[ว้า ฮ่าๆ]

หลังจากเขียน.

เสียงของระบบดังขึ้น

[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ที่เขียนบันทึกประจำสำเร็จ]

[อารมณ์ +1]

[มูลค่ารูปลักษณ์ +1]

ครั้งนี้ไม่มีรางวัลอื่น เพิ่มอารมณ์และมูลค่ารูปลักษณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“วันนั้นควรจะเป็นครั้งแรกที่เขียนบันทึก ดังนั้นจึงได้รางวัลดีๆ ใช่ไหม?”

เจียงมู่ไม่ค่อยเข้าใจรูปแบบการให้รางวัลนี้มากนัก

แต่มันก็ไม่สำคัญ บันทึกประจำวัน แค่เขียนมัน ของรางวัลที่ควรมีจะไม่หนีไปไหน

– เมืองเสวี่ย

คฤหาสถ์เจ้าเมือง ลานสวนดอกไม้ด้านหลัง

“คุณหญิง ทาสมองไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ”

“ลืมไปเถอะ ออกไปได้แล้ว”

เสวี่ยเมิ่งหานบอกสาวใช้ให้ออกไป

เมื่อมองไปที่บันทึกประจำวันส่วนตัวของเจียงมู่ในมือของนาง นางรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ความจริง

บันทึกประจำวันเล่มนี้มีเพียงนางเท่านั้นที่มองเห็นและสัมผัสได้!

และเมื่อนางต้องการบอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากบันทึกประจำวันให้สาวใช้

นางพบว่านางไม่สามารถเปิดปากได้เลย!

แม้ว่านางจะเขียนด้วยพู่กัน นางก็ไม่สามารถเขียนเลย!

ราวกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นกำลังปิดกั้นข้อมูลทั้งหมดในบันทึกประจำวัน!

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว นางก็นึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น

ในท้ายที่สุด นางทำได้เพียงคิดอย่างถี่ถ้วนว่านั่นคือพลังจากสวรรค์

และหลังจากที่ได้เห็นเนื้อหาเกี่ยวกับตัวนางเองแล้ว นางก็ตกตะลึง

“ข้าเพิ่งตัดสินใจยกเลิกงานหมั้นวันนี้ ข้าไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจียงมู่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง!”

“เป็นไปได้ไหม นี่คือโลกนิยายจริงๆ เหรอ?”

“ระยะทางที่ไกลที่สุดในชีวิต….”

“อย่ารังแกเด็กยากจน….”

เมื่อนางเห็นคำเหล่านี้ หัวใจของเสวี่ยเมิ่งหานรู้สึกเหมือนจะประทับใจกับบางสิ่ง

นางไม่เคยนึกเลยว่าผู้ชายที่หมั้นหมายกับนาง จะเขียนปรัชญาเช่นนี้ได้

เป็นนางที่มองผิดไป

ขณะนี้บันทึกประจำวันได้รับการอัปเดตอีกครั้ง

[ พระเอก หลิงอ่าวเทียน น่าจะอยู่ในบ้านของเจ้าเมืองแล้ว]

[ฟะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าจำได้]

[เสวี่ยเมิ่งหานงอนเพราะนางไม่พอใจกับการหมั้นหมายของนางกับข้า และ หลิงอ่าวเทียนก็บังเอิญเดินผ่านลานบ้าน ดังนั้นเขาจึงขึ้นไปปลอบนางและพูดว่า “เมิ่งหาน แม้ว่าเจ้าจะน่ารักเวลาโกรธก็ตาม แต่เจ้าจะสวยที่สุดเวลาเจ้ายิ้ม”]

[จากนั้น เสวี่ยเมิ่งหานสุนัขโง่ตัวนี้ รู้สึกว่า หลิงอ่าวเทียนหล่อเหลาและอ่อนโยน และนางก็หน้าแดงทันที]

[ก่อนที่ หลิงอ่าวเทียนจะจากไป เขายังยิ้มอย่างชั่วร้าย: “รอยยิ้มของเจ้า ข้าจะปกป้องมันเอง” ผลที่ได้คือ เสวี่ยเมิ่งหานสุนัขโง่ตัวนี้หมกมุ่นอยู่กับมันและตกหลุมรักเขาทันที]

[ขาก ถุย! เลอะเทอะ ไร้สาระ บางทีนี่อาจเป็นความรัก]

???

แกนั้นเหละสุนัขโง่ แกนั้นแหละไอ้เด็กเหลือขอ!

เสวี่ยเมิ่งหานโกรธจัด

เรียกนางว่าเด็กเหลือขอยังไม่พอ แต่ตอนนี้นางถูกเรียกว่าหมาโง่และโดนด่าว่าเลอะเทอะไร้สาระ?

ในฐานะที่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเสวี่ย ข้าจะตกหลุมรักเพียงแค่คำพูด1-2ประโยตได้อย่างไร?

เจ้ากำลังดูถูกใคร?

นางเตะบันทึกประจำวันออกไปด้วยความเกลียดชัง

ด้วยวิถีโค้งที่สวยงาม บันทึกประจำวันลอยไปถึงชายหนุ่มในชุดดำที่เดินผ่านมาและหายไปหลังจากผ่านเขาไป เด็กหนุ่มชุดดำมองไม่เห็นบันทึกประจำวันอย่างสมบูรณ์และกำลังเดินไปหาเสวี่ยเมิงหาน

เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา ร่างสูง เดินอย่างมั่นคง และบรรยากาศที่กล้าหาญ

สิ่งที่น่าดึงดูดมากที่สุดคือดวงตาที่ลึกของเขาซึ่งดูเหมือนจะแสงแห่งความชั่วร้ายและเสน่ห์

หลิงอ่าวเทียน!

พระเอกของฮาเร็มของเทพการต่อสู้กับโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา โอกาสที่ไม่รู้จบ และฮาเร็มนับไม่ถ้วน!

“นายน้อยหลิง? มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”

เสวี่ยเมิ่งหานเงยหน้าขึ้นและพยายามลดความโกรธของนางลง

พูดตามตรงสำหรับ หลิงอ่าวเทียนที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และแข็งแกร่ง เสวี่ยเมิ่งหานไม่ได้เกลียดเขา นอกจากนี้ เมื่อนางเจอปัญหาในเทือกเขาสัตว์อสูรก่อนหน้านี้ ก็เป็นหลิงอ่าวเทียนที่ช่วยนาง และนางก็ได้พัฒนาความรู้สึกดีๆ ขึ้นมาจากเหตุการณ์นั้น

หลิงอ่าวเทียนมาที่เสวี่ยเมิ่งหาน เขามองดูใบหน้าที่บวมของเสวี่ยเมิ่งหาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“เมิ่งหาน แม้ว่าเจ้าจะน่ารักเวลาโกรธก็ตาม แต่เจ้าจะสวยที่สุดเวลาเจ้ายิ้ม”

เสวี่ยเหมิงหาน: “!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด