บทที่ 8 ต่อสู้กับทหารรับจ้าง
เสียงฝีเท้าของคนเหล่านั้นดังขึ้นเรื่อยๆ เย่เฉินหันไปทางต้นเสียง กลุ่มคนที่แต่งตัวคล้ายกับสองคนที่เพิ่งถูกเย่เฉินทุบตีปรากฏตัวขึ้นและชี้อาวุธมาที่เย่เฉิน
เมื่อเห็นอาวุธหลายสิบกระบอกชี้มาที่เขา เย่เฉินไม่ได้แสดงออกถึงความทุกข์หรือความกลัวใดๆ เขาเพียงแสดงรอยยิ้มออกมา
“กรุณาลดอาวุธลงก่อน เราสามารถคุยกันดีๆได้” เย่เฉินพยายามทำลายบรรยากาศที่เย็นยะเยือกด้วยรอยยิ้ม
ทหารรับจ้างเพียงมองหน้ากัน และชายร่างกำยำคนหนึ่งก็ออกมาจากฝูงชน เขาเป็นชายหัวโล้นที่มีรอยสักรูปแมงป่องอยู่บนใบหน้า
เขามองไปที่คนสองคนที่หมดสติอยู่บนพื้นและพูดว่า “แกคือคนที่ทำร้ายลูกน้องสองคนของฉันหรือเปล่า?”
เมื่อเห็นชายหัวโล้น เย่เฉินก็อยากล้อเล่นกับเขา "ฉันไม่ได้ทำ ฉันที่ไม่มีอาวุธจะปราบคนสองคนที่มีอาวุธปืนลงได้ยังไง?"
“แกคิดว่าแกจะหลอกคนอย่างฉันได้หรือไง? ฉันได้ยินเสียงปืนและมีแต่แกเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ ดังนั้นถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร!”
“ฆ่ามันแล้วโยนศพไปให้หมากินซะ!” ชายหัวโล้นสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขา
ได้ยินคำพูดของชายหัวโล้น เย่เฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย "พวกแกจะได้รับรู้ถึงความพิโรธของเทพเจ้าก็วันนี้แหละ"
ผู้ก่อการร้ายฟังสิ่งที่เย่เฉินพูดแล้วหัวเราะ แต่ก่อนที่นิ้วมือของพวกเขาจะลั่นไกปืน พวกเขารู้สึกราวกับถูกค้อนหนักทุบเข้าที่อก และพวกเขาก็ลอยละลิ่วถอยหลังออกไปหลายเมตร
ชายหัวโล้นที่ออกคำสั่งรู้สึกสับสน เพราะแม้จะผ่านไปนานเขาก็ไม่ได้ยินเสียงปืน ชายหัวโล้นจึงมองย้อนกลับไปและเห็นว่าลูกน้องของเขาทั้งหมดนอนอยู่บนพื้นดินพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากปาก
เมื่อเห็นสิ่งนี้ชายหัวโล้นก็กลัวเล็กน้อย เขาเห็นร่างของเย่เฉินยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิมและไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
“เห็นไหมล่ะ เป็นไปตามที่ฉันพูดเลย พวกเขาทั้งหมดได้รับผลกระทบจากความพิโรธของเทพเจ้า และตอนนี้ก็อาจจะเป็นตาของแกแล้วก็ได้”
แน่นอนว่าคนที่ทำร้ายคนเหล่านั้นคือเย่เฉิน เย่เฉินใช้ท่าเท้าเก้ามายาเข้าไปชกร่างเหล่าชายฉกรรจ์ลงไปนอนบนพื้นภายในไม่กี่วินาที ทักษะนี้จะสร้างเงาที่สามารถหลอกล่อศัตรู และเงาทั้งหมดที่สร้างขึ้นสามารถทำได้ถึงเก้าร่าง
เมื่อใช้ทักษะนี้ เย่เฉินเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร็วมากและเอาชนะทุกคนก่อนที่ชายหัวโล้นจะรู้ตัว เย่เฉินทำทั้งหมดนี้ภายในเวลาไม่ถึง 2 วินาที
“แกเป็นใครกันแน่?” ชายหัวโล้นเริ่มกลัวเย่เฉิน
“ฉันเป็นแค่นักเรียนที่หลงทางอยู่ในป่า” เย่เฉินตอบตามความเป็นจริง
“โรงเรียนบ้าอะไรมันจะไปมีนักเรียนแบบแกวะ?” ชายหัวโล้นยังคงไม่พอใจกับคำตอบของเย่เฉิน
“อยู่ที่แกจะเชื่อหรือไม่ มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉัน จริงๆแล้วฉันไม่ค่อยชอบความรุนแรง แต่เพราะแกพยายามจะฆ่าฉัน ฉันก็จะให้บทเรียนที่แกจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต” เย่เฉินยิ้มราวกับปีศาจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายหัวโล้นก็ดึงดาบออกมาจากด้านหลังของเขา ชายหัวโล้นปรับท่าทางเตรียมที่จะต่อสู้
ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปข้างหน้าและเหวี่ยงดาบในมือซ้ายของเขาไปทางเย่เฉิน
ในขณะที่เย่เฉินยังคงผ่อนคลาย เขาเหยียดมือขวาออกมาและจับดาบโดยตรง
เมื่อชายหัวโล้นเห็นว่าเย่เฉินกำลังจะทำอะไร เขาก็ยิ้มเยาะและคิดว่าเย่เฉินอวดดีเกินไป
แคร้งง!
ดาบสั้นถูกจับด้วยนิ้วของเย่เฉิน ชายหัวโล้นรู้สึกประหลาดใจ และด้วยความตื่นตระหนกเขาจึงพยายามจะฟันดาบลงไป
เย่เฉินใช้มืออีกข้างจับข้อมือของชายหัวโล้นและบีบมัน
แคร่ก... แคร่ก...
เสียงกระดูกแตกดึงขึ้นในป่าอันเงียบสงบ จากนั้นเย่เฉินก็ขว้างชายหัวโล้นไปเหมือนกับโยนฝ้าย
ชายหัวโล้นล้มลงและขดตัวอยู่บนพื้นดินด้วยความความทรมาน เขาเห็นแขนของตัวเองงอจนผิดรูป เขาหันไปมองเย่เฉินด้วยความสยดสยอง
เมื่อเห็นเย่เฉินเดินเข้ามาใกล้ ด้วยความกลัว ชายหัวโล้นจึงพยายามลุกและวิ่งหนีจากเย่เฉิน
“อย่าเข้ามาใกล้ ท่านซาตาน ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าเข้ามา” ไม่ว่าชายหัวโล้นจะอ้อนวอนเพียงใด เย่เฉินก็เพิกเฉยและเดินหน้าต่อ
เย่เฉินไม่ต้องการที่จะโหดร้าย แต่คนเหล่านี้มักจะฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเพียงเพื่อความพึงพอใจของตัวเอง
เย่เฉินยกเท้าขึ้นและเหยียบลงไปที่ขาของชายหัวโล้น
“อ๊ากกก” ชายหัวโล้นรู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
“ท่านปู่ตัวน้อย ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ” ความเย่อหยิ่งของชายหัวโล้นหายไปหมดแล้ว เขาทำได้เพียงหวังที่จะหนีไปจากปีศาจตนนี้
เย่เฉิน: "ฮี่ฮี่ แกบอกว่าจะฆ่าฉันและโยนให้สุนัขกินไม่ใช่หรือไง? ทำไมแกไม่ลองมันตอนนี้เลยล่ะ?"
“ไม่ ไม่ ผมแค่ล้อเล่น ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ” ชายหัวโล้นร่างกำยำขอร้องเย่เฉินด้วยท่าทางที่เจ็บปวด
“ใช่แล้ว ถ้ารู้ตัวว่าผิดแล้วยังจะทำอีกไหม?”
“ไม่ๆๆ ผมไม่กล้าทำแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ”
“น่าเสียดาย ถ้าฉันปล่อยแกไป แน่นอนว่าแกคงจะไปฆ่าคนอีกมากมาย ฉันก็เลยตัดสินใจจะทำให้แกเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”
แคร่กก...
เสียงกระดูกแตกดึงขึ้นมาอีกครั้ง
“อ๊ากกกกกกก”
“ฆ่าฉันซะ” แทนที่จะรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้ เขายอมตายเสียดีกว่า
“ความตายนั้นหรูหราเกินไปสำหรับแก” พร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของเย่เฉิน เขาเหยียบข้อเท้าของชายหัวโล้นอีกครั้ง
“ไอ้ปีศาจ! องค์กรของฉันไม่มีวันปล่อยแกไปอย่างแน่นอน!” ชายหัวโล้นยังคงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ้ ฉันไม่รังเกียจที่จะทำลายองค์กรของแกหรอกนะ แกคงเคยทรมานเหยื่อของแกเหมือนกับที่ฉันทำในตอนนี้ล่ะสิ ลองรับรู้ถึงมันด้วยตัวเองดูบ้าง นี่แหละผลจากการกระทำของแก”
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดก็ดังขึ้นในป่า กระดูกบางส่วนและมือของชายหัวโล้นหักแบบไม่เหลือชิ้นดี แม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ชายหัวโล้นก็เป็นได้เพียงคนพิการตลอดชีวิตเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าชายหัวโล้นได้เรียนรู้บทเรียนแล้ว เย่เฉินก็เดินไปหาหญิงสาวที่สลบอยู่
**********