ตอนที่แล้วEp.367 - ทุ่มเงินทองเพื่อความแข็งแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.369 - บดขยี้

Ep.368 - มหาสงครามเริ่มต้นอีกครั้ง


1/3

Ep.368 - มหาสงครามเริ่มต้นอีกครั้ง

ฮังอวี่ทำการเรียนรู้เทคนิคโยกย้ายจนเลเวลเต็ม

เทคนิคโยกย้้ายสามารถเทเลพอร์ตได้ในชั่วพริบตา ผลของมันคล้ายคลึงกับเทคนิคบลิงค์

อย่างไรก็ตาม

เจ้าสิ่งนี้ใช้กับตัวเองไม่ได้ แต่จะส่งผลต่อวัตถุแทน มีประโยชน์ทั้งในด้านป้องกันและเป็นตัวช่วยที่ดี

แม้ว่ามันจะเป็นสกิลขั้น 1

แต่ถ้าใช้งานดีๆ สามารถมีบทบาทสำคัญ

“สืบทอดมรดกขั้น 1 จอมเวทย์บลิงค์สำเร็จแล้ว!”

[จอมเวทย์บลิงค์] มรดกขั้น 1 , สติปัญญา  +2 , จิตวิญญาณ +3 , ค่าพลังจิต +4

สำหรับมรดกขั้น 1 เอฟเฟกต์ที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติค่อนข้างจำกัด

ค่าคุณสมบัติสติปัญญาไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฮังอวี่ ยังไงก็ตาม ค่าคุณสมบัติจิตวิญญาณและค่าพลังจิตนั้นมีประโยชน์มาก มีเพิ่มไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันจะช่วยให้การใช้งานสกิลระหว่างสู้รบของฮังอวี่ยาวนานขึ้น

หลังจากนั้น ฮังอวี่เรียนรู้สกิลขั้น 3 อื่นๆที่ซื้อมาอันได้แก่สังหารลมกรด , ปราณกระบี่ลมกรด และกายาเกราะ

พลังรบของเขาพัฒนาได้อีกขั้น

แน่นอน

แค่เรียนรู้สกิลทั้ง 3 นี้ ก็ต้องจ่ายแต้มวิญญาณไปมหาศาลแล้ว หากต้องอัพเลเวลสกิลขั้น 3 ให้เต็มทั้งหมดในคราเดียว เกรงว่าคงไม่พอ

เพราะงั้นเรื่องสืบทอดมรดกนักรบเงาลมกรด คงต้องวางมันไว้เบื้องหลังก่อน

ฮังอวี่ใช้หินคริสตัลที่เหลือซื้อสูตรโพชั่นฟื้นฟูระดับกลาง บวกกับเม็ดยาสัตว์วิญญาณอีกนิดหน่อย

อย่างแรกมีไว้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มมังกรฟ้า ปัจจุบันเริ่มมีนักผจญภัยเลเวล 10 เพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าโพชั่นฟื้นฟูระดับต่ำไม่สามารถตอบสนองต่อการบริโภคได้ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะยกเรื่องการผลิตโพชั่นขั้นกลางเข้าสู่วาระการประชุม

อย่างหลังซื้อไว้ให้หวังเอ๋อ เพราะมันใกล้วิวัฒนาการอีกครั้ง

เม็ดยาสัตว์วิญญาณสีเขียวสามารถช่วยเร่งกระบวนการนี้ได้ และที่ผ่านๆมาเจ้าหมาทำได้ดี ช่วยแบ่งเบาภาระให้ฮังอวี่มากมาย ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องมอบประโยชน์ให้กับมันบ้าง

หลังจากนั้นเขายังช่วยซูหยุนปิงกับคนอื่นๆซื้อของที่ต้องการ

สำหรับฮังอวี่ จุดประสงค์ของการช็อปปิ้งในครั้งนี้ถือว่าลุล่วงไปด้วยดีแล้ว

เขาพบว่าสินค้าที่พ่อค้าลึกลับนำมานั้นเริ่มมีจำกัด

ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของเมืองหุบเขาเดียวดาย ทำให้ของหมดเอาง่ายๆ ผู้คนจำนวนมากไม่ได้ซื้อในสิ่งที่ต้องการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่แถวหลังๆ

ฮังอวี่พิจารณาว่าจะเพิ่มเกณฑ์สำหรับการเข้าร่วมในการซื้อ เขาอาจทำให้ร้านค้าลับเป็นบริการพิเศษประจำเมืองหุบเขาเดียวดาย เก็บค่าซื้อขายจากทุกคน นี่อาจทำเงินได้ดี สามารถสร้างโบนัสเล็กๆมาสู่ตัวเอง

ฮังอวี่เอ่ยถาม “เพื่อนบ้านของเรามีการเคลื่อนไหวยังไงบ้าง?”

ฉูเทียนหัวตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ยังไงก็ตามน่าจะอีกไม่นานแล้ว หน่วยสอดแนมของพวกเราตรวจเจออยู่หลายครั้ง ว่าพวกมันกำลังระดมกำลังพล จะบุกเข้าโจมตีเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา”

“จับตาดูให้ผมต่อไป” ฮังอวี่กล่าว “บอกทุกคนให้ระวังเรื่องเวลาออนไลน์หลังจากนี้ด้วย ถ้าออฟไลน์ต้องพร้อมรับสายตลอดเวลา”

ฉูเทียนหัวกล่าว “รับทราบ!”

จ้าวหมิงเดินเข้ามาและพูดว่า “ตั้งแต่เมื่อวาน จำนวนสมุนทหารของเมืองหุบเขาเดียวดายเต็มแล้ว พวกเราควรขยายเพดานการสร้างทหารไหม?”

ทหาร 2000 นายถูกสร้างครบแล้วหรือ?

ฮังอวี่คิดพักหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้พวกเรามีวัสดุเหลืออยู่เท่าไหร่?”

“จำนวนวัสดุพื้นฐานทั้ง 5 อย่างมีประมาณ 20000 ชิ้น” จ้าวหมิงกล่าว “ส่วนใหญ่ได้มากจากสงครามครั้งก่อน รองลงมาได้จากการนำเข้าจากโลกจริง ถ้าพวกเราทุ่มเต็มที่ อย่างมากที่สุดสามารถอัพเกรดอาคารที่พักได้ครึ่งหนึ่ง หรือเพิ่มเพดานทหารได้ราวๆ 1000 นาย”

แน่นอน

แม้กล่าวว่ามีวัสดุที่ใช้สร้างทหารจำนวนไม่น้อยมาจากโลกจริง แต่วัสดุในเจียงเฉิงโดยทั่วไปแล้วมีเลเวลไม่เกิน 6 7  เท่านั้น พวกมันเลยต้องผ่านกระบวนการกลั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้มาตรฐานเลเวล 10

“อืม ไม่ต้องใส่ใจเรื่องวัสดุพื้นฐานมากเกินไป ส่งพวกมันทั้งหมดให้ผม พวกเราจะอัพเกรดความจุประชากรของเมืองกันก่อน แล้วขยายกองกำลังทหารต่อไป เกณฑ์การสร้างหารหลังจากนั้น ขอให้เน้นไปที่ทหารราบ 50%!”

“รับทราบ!”

คนอื่นๆไม่ได้อยู่เฉย

คนที่ควรอัพเลเวลก็รีบอัพเลเวลอย่างรวดเร็ว

คนที่ควรอัพเลเวลสกิลก็เร่งมือโดยเร็วที่สุด

บรรดาผู้ที่ควรเตรียมโพชั่น คัมภีร์ และอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้

ทุกคนต่างรอคอยที่จะมีส่วนร่วมในสงครามครั้งต่อไป

และไม่ต้องรอนาน

เพื่อนบ้านแสนดีของเมืองหุบเขาเดียวดายก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

ในวันที่สาม

หน่วยสอดแนมส่งข่าวกลับมา ว่าในที่สุดพวกมันก็รวมตัวกัน

กองทัพทหารจำนวนมหาศาล ได้ตราทัพผ่านเข้ามาในอาณาเขตหุบเขา มุ่งหน้าสู่เมืองหุบเขาเดียวดาย

ทุกคนต่างตื่นเต้น!

ข่าวแพร่กระจายไปในโลกจริงอย่างรวดเร็ว

คนดังทางเน็ตและเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงต่างรัวข้อความถึงเรื่องนี้

สื่อหลายสาขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว แจ้งข่าวด่วนออกไป และมันได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง

《ข่าวล่าสุด :กองทัพพันธิมตรสามเมืองมุ่งเป้ามายังเมืองหุบเขาเดียวดาย!》

《กองทัพใหญ่รุกราน มนุษย์ในโลกวิญญาณกำลังเผชิญกับความท้าทายที่หนักหนาที่สุด!》

《จำนวนกองทัพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! ขนาดของกองทหารพันธมิตรชาวโลกวิญญาณมีมากถึง 7000 นาย! สำนักข่าวด่วนโลกวิญญาณจะทำการถ่ายทอดสด!》

《เมืองหุบเขาเดียวดาย ยอดฝีมือชาวจีนผู้มีชื่อเสียง บอสฮังจะสามารถทนต่อแรงกดดันครั้งนี้ได้หรือไม่? คืนนี้ผู้เชี่ยวชาญสามคนจากโลกวิญญาณจะอธิบายให้คุณฟังทางออนไลน์》

《ช็อก!:นี่คือรายงานแผนการรบของบอสฮังในเมืองหุบเขาเดียวดาย ...》

...

ฮังอวี่รู้มานานแล้วว่าเรื่องนี้ต้องดึงดูดความสนใจของคนทั่วโลก

แต่ที่เขาประหลาดใจ คือข่าวพึ่งมาถึงเมืองหุบเขาเดียวดาย แต่มันกลับลุกลามออกสู่โลกจริงเสียแล้ว

ในยุคอินเตอร์เน็ตก็เป็นอย่างนี้ ผู้คนพูดถึงมันอย่างบ้าคลั่ง จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เซิร์ฟล่มชั่วขณะ

ฮังอวี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่บ้าน คอยไถแท็บเล็ตนั่งอ่านข่าว ดูชาวเน็ตโต้เถียงกัน มองหลายคนที่แสร้งทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วอดหัวเราะไม่ได้ “คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉันที่ใช้เมื่อก่อนชีวิตอย่างไร้ความฝัน ไร้ตัวตนมาโดยตลอด วันหนึ่งจะได้รับความนิยมราวกับดาราดังแบบนี้”

หวังเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆเองก็กำลังไถแท็บเล็ตของมันเหมือนกัน เอ่ยอย่างภาคภูมิใจว่า “ฮ่ง เจ้านาย ขนาดเปิ่นหวังตอนนี้ยังมีคนติดตามในเว่ยป๋อทะลุ 10 ล้านคนแล้ว เปิ่นหวังกล้าพูดเลย ว่าถ้าเจ้านายเปิดเผยตัวตน เจ้านายจะกลายเป็นดาวเด่นในยุคสมัยนี้ได้ในเวลาไม่กี่นาที”

“เหอ เหอ ไม่ล่ะแบบนี้ก็ดีแล้ว ทุกคนบอกว่าฉันคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของจีนไม่ใช่หรอ? ยอดฝีมือน่ะต้องปิดบังตัวตน ไม่จำเป็นต้องลดตัววิ่งเข้าหาแสงไฟ”

สุนัขรีบตบตูดยกยอ “เจ้านายพูดถูก!”

ฮังเสี่ยวไป๋ไม่สนใจเรื่องนี้ นั่งดูการ์ตูนอย่างเงียบๆ

ซูหยุนปิงกลับมาแล้ว เมื่อเธอเห็นฮังอวี่นั่งอยู่บนโซฟา แถมยังมีอารมณ์สั่งสอนสุนัขก็เอ่ยว่า “เฮ้ ทำไมนายยังอยู่บ้านอีก มีข่าวว่ากองทัพพันธมิตรรุกคืบเข้าอาณาเขตหุบเขาแล้วนะ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะถึงเมืองหุบเขาเดียวดายแล้ว”

“อีกไม่ถึงสองชั่วโมง?”

ฮังอวี่ทำตัวสงบมาก

เขาทานอาหารเย็นอย่างสบายๆ จนเวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับชาโลกวิญญาณ ข้อความหนึ่งก็ถูกส่งข้ามมิติเข้ามา มันบอกว่ากองกำลังศัตรูเข้าใกล้เมืองหุบเขาเดียวดายแล้ว และจะมาถึงในอีกภายในหนึ่งชั่วโมง

“ใกล้ได้เวลาแล้ว เสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อ ไปกันเถอะ” ฮังอวี่รู้ว่าเขาไม่สามารถทำตัวสบายๆได้อีกต่อไป เรียกเสี่ยวไป๋กับเจ้าหมา เตรียมเข้าสู่โลกวิญญาณ

“อาจารย์ซู รอฟังข่าวดีจากผมได้เลย”

ซูหยุนปิงมองฮังอวี่ซึ่งมีสีหน้าผ่อนคลายอย่างลึกล้ำ “ฉันรู้ว่านายมักทำสิ่งต่างๆด้วยความมั่นใจเสมอ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ ... สถานการณ์ของนายในอาณาจักรมังกรโลกาละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังให้ดี”

เมื่อฮังอวี่ได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็เริ่มตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย

จริงด้วยสิ

ผลของการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่มีทางปกปิดได้เป็นระยะเวลานาน

เป็นไปไม่ไดที่ขุนนางต่างๆในพื้นที่จะไม่สังเกตเห็นการกระทำของมนุษย์

เมื่อจบศึกนี้ หากคิดอยากพัฒนาต่อไปอย่างเงียบๆ เกรงว่าจะไม่ง่ายอีกแล้ว

กลุ่มของฮังอวี่ได้เข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม

ถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาขยายดินแดนเพิ่มเสียที!