ตอนที่แล้วEp.366 - เตรียมตัวให้พร้อม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.368 - มหาสงครามเริ่มต้นอีกครั้ง

Ep.367 - ทุ่มเงินทองเพื่อความแข็งแกร่ง


3/3

Ep.367 - ทุ่มเงินทองเพื่อความแข็งแกร่ง

ณ เมืองหุบเขาเดียวดาย

ฮังอวี่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง

ปืนใหญ่องค์รักษ์ทั้งห้าจากสกายเน็ตได้รับการติดตั้งแล้ว

ทีมวิศกรมดกว่า 30 ตัวกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ โดยมีหวังเอ๋อคอยบังคับบัญชาร่วมกับเสี่ยวไป๋ ฝังถังเชื้อเพลิงเมือกสไลม์ความเข้นข้นสูง

เนื่องจากทางเดินในหุบเขาค่อนข้างแคบ เหมาะแก่การซุ่มโจมตีโดยธรรมชาติ

ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามา และต้องเผชิญกับกับดักดังกล่าว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยง

“ฮัง นายอยู่ที่นี่เอง!”

ร่างสูงหุ่นนางแบบเดินมาจากข้างหลัง

ไดอาน่าส่งรอยยิ้มเป็นมิตรและมีเสน่ห์แก่ฮังอวี่

ฮังอวี่มองอีกฝ่ายแบบไม่หลบตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สนิทและไม่แยแส “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

สำหรับคนของสำนักกระบี่วิญญาณ ฮังอวี่ไม่กล้าประมาท

โดยเฉพาะระดับผู้นำของอีกฝ่าย ในด้านความสามารถและพลังรบพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าจ้าวหมิงกับฉูเทียนหัวเลย  หากไม่ใช่เพราะถูกฮังอวี่และมังกรครามสะกดรัศมีเอาไว้ พวกเขาคงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกตั้งนานแล้ว

อีกทั้งคนจากอเมริกากลุ่มนี้ยังไงก็ไม่มีวันอยู่ภายใต้มังกรคราม ดังนั้นสำหรับพวกเขา แม้ฮังอวี่จะไม่หวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าประมาท

หากเป็นในช่วงเวลาปกติ ฮังอวี่จะไม่ติดต่อกับพวกเขาเป็นการส่วนตัว

ทุกการติดต่อจะมอบหมายให้จ้าวหมิง ฉูเทียนหัวจัดการ

จุดประสงค์ที่ทำเช่นนั้น ก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูลึกลับคาดเดาไม่ได้

ไดอาน่ากล่าว “ผู้บริหารระดับสูงของสำนักกระบี่วิญญาณได้ให้ความสำคัญกับสงครามที่กำลังมาถึงมาก ครั้งนี้พวกเราเลยนำอุปกรณ์ล้ำสมัยมาเพียบ ในฐานะที่นายคือขุนนางเมืองหุบเขาเดียวดาย แน่นอนว่าต้องมาดู”

“งั้นพวกเราไปดูกัน”

ฮังอวี่รู้ดี ว่าไม่นานมานี้ ทุกประเทศจากทั่วทุกมุมโลกสามารถตั้งหลักในโลกวิญญาณได้แล้ว แต่มีหลายคนเลือกเข้าร่วมกับกองกำลังใหญ่ของชาวพื้นเมืองในโลกวิญญาณ เพราะน้อยนักที่จะยึดดินแดนได้เหมือนกับฮังอวี่

แต่ไม่ต้องสงสัยเลย

เมืองหุบเขาเดียวดายคือสถานที่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด

ฮังอวี่และกลุ่มของเขาเองก็จัดอยู่ในยอดฝีมือระดับสูงเช่นกัน

ดังนั้นจึงได้รับแสงมากมายจากสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น

และกระบวนการส่วนใหญ่จะได้รับการถ่ายทอดสด โดยไม่มีปิดบัง

นี่คือโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์!

เดิมอเมริกาคือประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก

แต่ด้วยการมาเยือนของโลกวิญญาณ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสูญเสียคุณสมบัตินี้ไป

ฮังอวี่นำคนของตัวเองคว้าชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ไม่ใช่แค่การสะกดขุมกำลังจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศอย่างต่อเนื่อง

ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่สามารถทนต่อผลงานของสำนักดาบวิญญาณแห่งนิวยอร์ก ตอนนี้ต่อให้แย่งแสงไฟจากฮังอวี่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่าอเมริกาแข็งแกร่ง!

ฮังอวี่เดินไปยังจัตุรัสกลางเมืองหุบเขาเดียวดาย

ผู้คนหลายร้อยมารวมตัวกันที่นี่ เฝ้าชมบางอย่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ

ฮังอวี่กวาดมอง และอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

“หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา? นี่พวกคุณสร้างมันขึ้นมาได้จริงๆ?”

สมาชิกหลายคนจากสำนักกระบี่วิญญาณแห่งอเมริกายืนหยัดอย่างภาคภูมิใจอยู่ท่ามกลางจัตุรัส พวกเขานั่งอยู่ในหุ่นบรบสีดำขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง

หุ่นรบตัวนี้สูงสามเมตร  เกินพอที่จะยัดคนเข้าไปทั้งตัว ตรงหน้าอกมีฝาครอบเปิดปิดโปร่งใส สามารถมองเห็นคนข้างในได้อย่างชัดเจน

พวกมันทำจากเหล็กเย็นและทองแดงไฟที่สูงกว่าเลเวล 10

ผิวโลหะของมันถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายอันซับซ้อนซึ่งมีหน้าที่คอยนำพลังงาน

ไดอาน่าเริ่มแนะนำ

“นี่คือหุ่นรบพิฆาต -10 ที่ได้รับการพัฒนาจากสถาบันวิญญาณแห่งอเมริกา!”

“มันคือหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราคุณภาพสีเขียวเลเวล 10 เกราะบนตัวไม่ใช่แค่ทรงพลัง แต่ยังมาพร้อมกับปืนกลพลังงานวิญญาณในมือซ้าย มือขวามาพร้อมกับดาบความร้อนไฟฟ้าที่เกิดจากการเหนี่ยวนำมนตรา”

“ข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดของอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราก็คือมันไม่หลอมรวมเข้ากับร่างกาย แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดอย่างนักรบเลเวล 1 ก็ใช้งานได้”

“ตราบใดที่สวมใส่หุ่นรบนี้ ก็มีโอกาสที่จะเอาชนะมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นในเลเวล 10!”

ระหว่างพูด

หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรายกมือซ้ายขึ้น ลำกล้องปืนสีดำที่ไหลเวียนไปด้วยอักษรรูนสามกระบอกยื่นออกมา กราดยิงพื้นดินในระยะไกล

กระสุนพลังงานส่งเสียงหวีดหวิว พื้นดินปกคลุมไปด้วยควันและละอองฝุ่น

ฝูงชนต่างตื่นตาตื่นใจ พากันถ่ายภาพและวิดีโอเอาไว้

นี่มันน่าตกใจจริงๆ

ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณเตรียมหุ่นรบพวกนี้มากี่ตัว?”

ไดอาน่าตอบว่า “คราวนี้เวลากระชั้นชิด เลยนำมาได้แค่ 5 ตัว แต่นอกจากหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราแล้ว ทางเรายังได้เตรียมปืนไรเฟิลเหนี่ยวนำมนตรากับระเบิดเหนี่ยวนำมนตรา ฯลฯ มาด้วยนะ”

“ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของสถานบันวิญญาณ ฉันเชื่อว่าพวกมันต้องมีบทบาทนการต่อสู้แน่นอน”

ในอเมริกามี 5 แผนกที่รับผิดชอบด้านโลกวิญญาณ

สำนักกระบี่วิญญาณคือหนึ่งในนั้น

ส่วนชื่อเต็มของสถาบันวิญญาณที่ไดอาน่าพูดถึงคือ ‘สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโลกวิญญาณ’

มันจัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาการใช้วัสดุต่างๆ วิจัยการผลิตที่สำคัญ และให้ผลสำเร็จนับไม่ถ้วน มีชื่อเสียงมาก

หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราตัวนี้ก็ของดี

แต่เสียดายที่มันมีราคาแพงเกินไป

ถ้าให้ฮังอวี่ขับหุ่นรบออกไปในพื้นที่รกร้างเพื่อล่ามนอสเตอร์ เกรงว่ามันคงหมดพลังงานในวันเดียว และนั่นคงได้กำไรไม่เท่ากับที่เสียไป

และสำหรับคนอื่นๆ หากจะใช้งานมันให้คุ้ม เกรงว่าคงต้องใช้เวลาสู้กับ BOSS ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในตอนนี้ ไม่ก็ใช้ในสงครามใหญ่ มิฉะนั้นการใช้หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา อาจทำให้คุณต้องเอาของทุกอย่างในตัวไปจำนำไม่เว้นกระทั่งกางเกงในเพื่อจ่ายค่าใช้งานมัน

“ไม่เลว!”

“มีพลังทำลายที่ดี”

“ในบรรดาเมืองทรายดำ , เมืองเตาหลอมศิลา และเมืองขุนเขาเหล็ก”

“หลังจากยึดทั้งสามเมืองได้แล้ว พวกคุณสามารถขึ้นเป็นขุนนางในเมืองใดเมืองหนึ่งได้”

ไดอาน่าพอได้ยินคำสัญญาจากปากฮังอวี่ สีหน้าแววตาเธอปรากฏความสุขขึ้นมาทันที

ในเวลาเดียวกันถอนหายใจยาว แสดงความโล่งอก

สิ่งที่สำนักกระบี่วิญญาณกังวัลมากที่สุดคือมังกรครามขัดขวางไม่ให้พวกเขาแยกตัวออกไป

เพราะท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกมังกรครามตอนนี้มีอยู่แค่ 1500 คน ขณะที่ประชากรทั้งเมืองหุบเขาเดียวดายมีถึง 3000 คน

สามารถกล่าวได้ว่ามังกรครามคือขุมกำลังหลักอย่างแท้จริง

และจะเกิดอะไรขึ้นหากฮังอวี่ไม่ยอมพยักหน้าอนุญาต

จะให้หักดิบกับพวกมังกรครามคงไม่ได้ถูกไหม?

และแบบนั้นมันไม่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย!

ดังนั้น ไดอาน่าเลยมาคุยกับฮังอวี่ เพื่อที่จะเลียบเคียงถามเรื่องนี้

แต่ใครจะทันคาดคิดว่า โดยไม่ต้องรอให้เธอบอกใบ้ ฮังอวี่ก็สามารถเดาความคิดของเธอได้ ตกปากให้คำมั่นสัญญาออกมาตรงๆ

ยอดเยี่ยม!

ตราบใดที่สำนักกระบี่วิญญาณสามารถมีเมืองได้ แม้จะช้ากว่า แต่สุดท้ายก็จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่ได้แย่ไปกว่ามังกรคราม

ลุค คริส ไดอาน่าต่างมีความมั่นใจเช่นนี้

อย่างไรเสียพวกเขาและเธออยู่ในองค์กรที่ดำเนินการโดยรัฐ เมื่อมีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา เมื่อไหร่ก็ตามที่มีดินแดนเป็นของตัวเอง สำนักกระบี่วิญญาณไม่ต้องกังวลใดๆเรื่องทรัพยากรในการสร้างเมือง

จ้าวหมิงวิ่งเข้ามาและพูดว่า “คนมารวมตัวกันเกือบครบแล้ว”

ฮังอวี่พยักหน้า “ดีล่ะ งั้นให้ทุกคนมา ผมจะเปิดร้านค้าลับ”

คูลดาวน์สิบห้าวันสิ้นสุดลงแล้ว

ร้านค้าลับได้เปิดขึ้นอีกครั้ง

ฮังอวี่เตรียมหินคริสตัลขาวมูลค่ารวมกว่า 20000 ก้อนมาซื้อเฉพาะของตัวเอง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเตรียมหินคริสตัลได้มากกว่านี้ แต่ปัจจุบันมีที่ให้ใช้เงินมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นองค์กรมังกรครามหรือกลุ่มมังกรฟ้า ดังนั้นนำหินคริสตัลขาวมากมายขนาดนี้มาใช้ซื้อของให้ตัวเองถือว่ามากพอแล้ว

ไม่จำเป็นต้องพล่ามไร้สาระ

อันดับแรกฮังอวี่เลือกซื้อหินสกิลขั้น 3 จำนวนสามก้อน

สกิล ‘ปราณกระบี่ลมกรด’ ของนักรบเงาลมกรด ราคา 5000 หินคริสตัลขาว

สกิล ‘สังหารลมกรด’ ของนักรบเงาลมกรด ราคา 4500 หินคริสตัลขาว

สกิล ‘กายาเกราะ’ ของปรมาจารย์เลือดเหล็ก ราคา 4500 หินคริสตัลขาว

ถัดมาเขาเลือกซื้อหินสกิลขั้น 1

อันได้แก่ ‘เทคนิคโยกย้าย’ ของจอมเวทย์บลิงค์ ราคา 1000 หินตริสตัลขาว

ฮังอวี่มีสกิลหลัก ‘เนตรแห่งเงา’ ของนักรบเงาลมกรดแล้ว

ตอนนี้เขาต้องการแค่สกิลเสริมอีกสองสกิลเพื่อสืบทอดมรดกขั้น 3

นักรบเงาลมกรดมีทั้งหมด 5 สกิล

นอกเหนือจากเนตรแห่งเงาแล้วก็มี : ปราณสงครามพายุ , ปราณกระบี่ลมกรด , สังหารลมกรด , ท่าร่างระบำเงาลมกรด

สกิลปราณสงครามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือหากคุณครอบครองมันอยู่แล้ว เมื่อใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง อีกสกิลก็จะเข้าสู่เวลาคูลดาวน์เช่นกัน ดังนั้นเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปที่จะเรียนรู้มันซ้ำสอง

ฮังอวี่มีปราณสงครามคลั่งของขุนนางคลั่งอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้สกิลปราณสงครามเพิ่มอีก ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องตัดคือปราณสงครามลมกรด ขณะที่ฮังอวี่ยังขาดสกิลปราณกระบี่

และปราณกระบี่เป็นสกิลโจมตีระยะกลางที่มีประโยชน์และระยะเวลาคูลดาวน์ที่ดีมาก

ฉูเทียนหัวเองก็มีสกิลขั้น 3 ปราณกระบี่วินาศ

ปราณกระบี่วินาศแก่กล้าและรุนแรงที่สุดในบรรดาสกิลประเภทเดียวกันและในเลเวลเดียวกัน

เพราะยังไงซะมันคือสกิลหลักที่ใช้ปราณกระบี่เข้าทำลายล้าง

ขณะที่ปราณกระบี่ของฮังอวี่จะมีพลังน้อยกว่ามาก

แต่มันช่วยในการเสริมแทคติค นับเป็นทางเลือกที่ดีมาก

นี่คือสกิลยกระดับของโจมตีลมกรด รุนแรงกว่าโจมตีลมกรดหลายเท่า นับว่าก้าวร้าวมาก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแกร่งได้มากกว่าท่าร่างระบำเงาลมกรด

แล้วอีกอย่าง พ่อค้าลึกลับไม่ได้นำหินสกิลท่าร่างระบำเงาลมกรดมาด้วยในครั้งนี้

ดังนั้นนี่คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ส่วนสกิล ‘กายาเหล็ก’ ของปรมาจารย์เลือดเหล็กเป็นสกิลสถานะ

มันสามารเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน พละกำลัง และการโจมตีทางกายภาพได้ มีประโยชน์มากระหว่างการต่อสู้

ตั้งแต่ได้เจอมัน ฮังอวี่ตัดสินใจซื้อทันที

ส่วนสกิลโยกย้ายที่เป็นสกิลของจอมเวทย์บลิงค์

เนื่องจากฮังอวี่มีเทคนิคบลิงค์กับสกิลรับรู้พื้นที่อยู่แล้ว ดังนั้นตัดสินใจซื้อมันทันที

หลังจากได้รับหินสกิลทั้งสี่ก้อน

พลังรบของฮังอวี่ย่อมสูงไปอีกขั้น

การทุ่มเงินทองอย่างบ้าคลั่งบวกกับความได้เปรียบจากสกิลพรสวรรค์ที่สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญได้เต็ม ทำให้เขาเหนือกว่าคนอื่นๆมาก

ฮังอวี่คิดในใจ “ดูเหมือนของที่พ่อค้าลึกลับวางขายจะโดนจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ฉันซื้อได้สูงสุดแค่สกิลขั้น 3 เท่านั้น แถมส่วนใหญ่ยังเป็นสกิลรอง ถ้าต้องการแกร่งกว่านี้ คงต้องพึ่งพาความพยายามของตัวเองเพื่อค้นหาพวกมัน! ’

อย่างไรก็ตาม

ความท้าทายครั้งใหญ่กำลังรออยู่เบื้องหน้า

การที่สามารถสืบทอดมรดกขั้น 3 มรดกที่สองได้ทันเวลา

และได้รับสกิลใหม่อีกหลายอย่าง มันก็เกินพอแล้ว!