ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 44 ผู้นำนิกายถ้ำมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 46 คนอ่อนแอมักเย่อหยิ่งและไม่สุภาพ

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 45 ขายตัว


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 45 ขายตัว

แปลโดย iPAT  

“ศิษย์พี่ใหญ่ โปรดระงับโทสะ!” หลี่หลงพยายามหยุดศิษย์พี่ใหญ่ของเขา เขาคว้าไหล่ของฝ่ายหลังแต่กลับถูกโยนออกไปด้านข้างเหมือนเศษขยะ จากนั้นศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้ก็เหวี่ยงหมัดไปที่หลี่ฉิงซาน

“หยุด!” หลิวหงตะโกน หมัดของศิษย์เอกของเขาหยุดลงก่อนจะถึงใบหน้าของหลี่ฉิงซาน เขากรีดร้อง “ท่านอาจารย์ ให้ข้ามอบบทเรียนให้เด็กอวดดีคนนี้!”

หลี่ฉิงซานรู้สึกรำคาญ “เดิมทีข้าเพียงต้องการสอบถามบางเรื่อง แต่เนื่องจากพวกเจ้ายุ่งมาก เช่นนั้นข้าลาล่ะ” หากพวกเขามีบางสิ่งที่ต้องการพูด เพียงพูดออกมา ไม่จำเป็นต้องแสดงละครที่น่ารำคาญเช่นนี้

“เจ้าหนู ชีวิตของเจ้าอาจจบลงในไม่ช้า”

ดังคาด หลี่ฉิงซานหยุด “โอ้ มาแล้ว”

หลิวหงกล่าว “คนของป้อมวายุทมิฬกำลังตามหาเจ้า มันไม่เป็นไรหากเจ้าซ่อนตัว แต่ตอนนี้เจ้าแสดงตัวออกมาแล้ว เจ้าจะตายอย่างแน่นอน”

หลี่ฉิงซานกล่าว “หากเป็นดังที่ท่านกล่าว ข้าควรทำอย่างไร?”

“ตราบเท่าที่เจ้าเข้าร่วมสำนักกำปั้นเหล็ก ข้ามีวิธีช่วยชีวิตเจ้า” นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของหลิวหง ด้วยความสามารถของหลี่ฉิงซาน มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนในยุทธภพสนใจ

อย่างไรก็ตามในฐานะผู้อาวุโส หลิวหงจะไม่อ้อนวอนให้หลี่ฉิงซานเข้าร่วมแต่เขาจะพยายามสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายหลังและทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความต่ำต้อยของตนเอง นี่จะทำให้หลี่ฉิงซานเข้าใจความใหญ่โตของโลกใบนี้ จากนั้นหลิวหงจะให้คำแนะนำเขาด้วยความปรารถนาดี สุดท้ายหลี่ฉิงซานจะตระหนักถึงอนาคตอันรุ่งโรจน์จากการเข้าร่วมสำนักกำปั้นเหล็กและขอเข้าร่วมด้วยความต้องการของเขาเอง

แต่ความหยาบคายของหลี่ฉิงซานทำให้หลิวหงโกรธ “แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” เขาคิด ‘เจ้าคิดว่าตนเองใหญ่โตเพียงเพราะสามารถฆ่าโจรไม่กี่คนและนายน้อยสามของป้อมวายุทมิฬงั้นหรือ?’

หลี่ฉิงซานตอบ “เยี่ยม! หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

“หยุด!” ในที่สุดหลิวหงก็ไม่สามารถอดทน ตอนนี้เขาเหมือนราชสีห์ที่กำลังคำราม เพียงพริบตาเขาก็ไปอยู่ด้านหน้าหลี่ฉิงซานแล้ว

ขนทั่วร่างของหลี่ฉิงซานชูชันขึ้น เขารู้สึกเหมือนตกเป็นเหยื่อของสัตว์ป่าที่ดุร้าย แต่เขายังเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “ท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นคนของยุทธภพ เมื่อคำพูดไม่ได้ผล เจ้าก็ใช้กำลังบังคับ”

“กินกำปั้นของข้า!” แม้หลิวหงวางแผนที่จะรับสมัครหลี่ฉิงซานและไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับเขา แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ลงโทษเด็กรุ่นน้องที่หยาบคายผู้นี้ เขาต้องการให้อีกฝ่ายตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างนักสู้ชั้นสองกับนักสู้ชั้นสาม

“เดี๋ยว!”

“กระไร กลัวงั้นหรือ?” หลิวหงคำราม

“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่!” ศิษย์พี่ใหญ่หวังเล่ยตะโกนขณะมองหลี่ฉิงซานด้วยสายตาเย้ยหยัน

คนอื่นๆตะโกนยกย่องเช่นกัน “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่!”

หลี่ฉิงซานกล่าว “ข้าเคยให้หลี่หลงชกก่อนสามหมัด!”

หลิวหงหรี่ตามองพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่อันตรายออกมา “นั่นเป็นเพราะศิษย์ของข้าไร้ประโยชน์ เดี๋ยว! เจ้าอยากบอกว่าให้ข้าชกก่อนสามหมัดงั้นหรือ?”

“ไม่!” หลี่ฉิงซานชิงขัดจังหวะ “เมื่อพิจารณาถึงอายุของเจ้า ข้าจะต่อให้สิบหมัด!”

‘นี่เป็นการดูหมิ่นที่อภัยให้ไม่ได้!’ ตอนนี้หลิวหงพร้อมที่จะฆ่าแล้ว เขาตะโกน “งั้นก็รับไป!”

“รอก่อน!”

“เจ้าต้องการสิ่งใดอีก!?”

“ตาแก่หลิว เจ้ามีชื่อเสียงในยุทธภพมานาน ดังนั้นข้าจะให้มันสูญเปล่าไม่ได้!” หลี่ฉิงซานตัดสินใจ “สิบตำลึงต่อการชกหนึ่งครั้ง! นี่ไม่น่าจะแพงเกินไป”

หลี่ฉิงซานคิด ‘ข้าไม่มีความรู้สึกไม่ดีต่อเจ้า แต่ข้าจะไม่ต่อสู้กับเจ้าอย่างไร้ประโยชน์ แม้ข้าจะชนะ แต่ข้าจะยังรู้สึกคับข้องใจ นอกจากนั้นข้าก็ยังไม่มีเงินซื้ออาวุธ ข้าควรหาเงินเล็กนน้อย’

คำพูดของหลี่ฉิงซานทำให้หลิวหงโกรธอย่างสมบูรณ์ เขาหัวเราะ “ก็ได้ ก็ได้ ข้าแค่กลัวว่าชีวิตของเจ้าจะไม่เพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้!”

หลี่หลงรีบเข้าไปหยุดพวกเขา เขาเคยเห็นหลิวหงต่อยหินด้วยตาของเขาเอง หากคนผู้หนึ่งถูกต่อยในลักษณะนั้น เขาจะไม่เละเป็นโจ๊กงั้นหรือ? “ท่านอา...”

แต่มันสายเกินไปแล้ว “ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!” หมัดที่หนักหน่วงห้าหมัดพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซานก่อนที่หลี่หลงจะสามารถกล่าวคำว่าท่านอาจารย์ออกมา

พายุหมัดทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆต้องปิดเปลือกตาลง แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาหยุดมัน

หมัดถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน หลิวหงยืนมือไพล่หลังอยู่อีกด้านหนึ่งและถอนหายใจเบาๆ “อนิจจา วันนี้ข้าฆ่าคนอีกแล้ว”

หลี่หลงตกตะลึง เขาไม่สามารถแม้แต่จะกล่าวคำว่าโปรดเมตตาด้วยออกมา หวังเล่ยเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เขาตะโกน “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่!”

“ห้าสิบตำลึง!” ทันใดนั้นเสียงของหลี่ฉิงซานก็ดังขึ้น หลิวหงเบิกตากว้าง แต่สิ่งที่เขาได้ยินหลังจากนั้นคือคำชมของหลี่ฉิงซาน “เป็นหมัดที่ค่อนข้างหนัก ข้าแทบทนไม่ไหว”

ร่างกายของเขายังปกติดีทุกประการ มันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าแทบทนไม่ไหวเลยแม้แต่น้อย นี่ทำให้เขาดูเหมือนพ่อค้าขี้โกงที่หลอกให้ลูกค้าซื้อของ

หลังจากได้รับความแข็งแกร่งของกระทิงหนึ่งตัว ร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ตอนนี้มันเริ่มแสดงร่องรอยของพลังเหนือธรรมชาติออกมาแล้ว

เนื้อเยื้อบางๆก่อตัวขึ้นระหว่างชั้นผิวหนังและเนื้อของเขา เมื่อหมัดของฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้ามา มันเหมือนก้อนหินปะทะแผ่นยาง พลังโจมตีทั้งหมดกลายเป็นไร้ผล หมัดของนักสู้ชั้นสองไม่สามารถทำร้ายเขาได้อีกต่อไป

ด้วยวิธีนี้เขาจึงทำเงินได้อย่างรวดเร็ว เขาหาเงินห้าสิบตำลึงได้ในหนึ่งวินาที ปล้นคนมีเงินก็ยังไม่รวยเร็วเท่านี้! หากไม่มีทางเลือกอื่น เขาก็ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเช่นการปล้นสะดมหรือลักขโมย

‘แต่นี่เป็นการขายตัวหรือไม่?’

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะคิดมากไปกว่านี้ ราชสีห์เหล็กก็คำรามและพุ่งเข้ามาอีกครั้ง กี่ปีแล้วตั้งแต่เขากลับเมืองชิงหยางหลังเกษียณอายุ เขาไม่เคยถูกทำให้ขายหน้ามากถึงเพียงนี้มาก่อน สิ่งสำคัญที่สุดมันเกิดขึ้นต่อหน้าศิษย์ทั้งหมดของเขา!

กำปั้นเหล็กกระหน่ำชกไปที่หลี่ฉิงซาน

“แปดสิบ! เก้าสิบ! หนึ่งร้อย! หือ เจ้ายังไม่หยุด...สามร้อย...ห้าร้อย!” เสียงของหลี่ฉิงซานดังขึ้นท่ามกลางพายุหมัดและกระตุ้นหลิวหงอย่างต่อเนื่อง ศิษย์ทั้งสำนักตกตะลึงไปนานแล้ว

หลิวหงเอาจริงตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตามเขาแก่แล้ว นั่นทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลง หลังจากไม่นานเขาก็หอบหายใจอย่างหนักหน่วงพร้อมกับเหงื่อที่สาดกระเซ็นเหมือนกระสุนปืน

หลี่ฉิงซานทนดูไม่ได้อีกต่อไป เขาต้องการกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ลุงๆ ท่านไม่สามารถทำลายการป้องกันของข้า!” อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงเงินก้อนโต เขาก็ทำได้เพียงหุบปากเอาไว้และปล่อยให้มนุษย์ลุงต่อยต่อไป

เพียงพิจารณาจากชื่อของสำนักกำปั้นเหล็ก หลี่ฉิงซานก็มีข้อได้เปรียบที่ท่วมท้นอยู่แล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าหมัดด้อยกว่าอาวุธ ในความเป็นจริง สำหรับผู้เชี่ยวชาญการใช้หมัด พวกเขาจะสามารถทำลายอวัยวะภายในของศัตรูได้ในหมัดเดียว

ตราบเท่าที่พวกเขาอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ พวกเขาจะสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามหลิวหงพึ่งเคยต่อสู้กับหลี่ฉิงซาน สิ่งสำคัญที่สุดคือหลิวหงฝึกเคล็ดวิชาทั่วไปขณะที่หลี่ฉิงซานฝึกทักษะเหนือมนุษย์

หลิวหงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงหลังจากใช้หมัดที่ไร้เรี่ยวแรงชกที่หน้าอกของหลี่ฉิงซาน

หลี่ฉิงซานต้องเปิดปากกล่าวในที่สุด “นี่น่าจะพอแล้ว!” จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองหลี่หลง

หลี่หลงรีบวิ่งเข้าไปประคองหลิวหงและนำชายชราไปนั่งที่เก้าอี้ หลิวหงยังจ้องมองหลี่ฉิงซานอย่างไม่ละสายตาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “จะ...เจ้าฝึกมาอย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้ที่นักสู้ชั้นสอง ไม่! กระทั่งนักสู้ชั้นหนึ่งก็ทำเช่นนี้ไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!”