ตอนที่แล้วบทที่ 2 สู่การปฏิวัติ : ตอนที่ 13 ความสงบก่อนพายุจะมา (Calm before the storm)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 สู่การปฏิวัติ : ตอนที่ 15 ประตูสู่วอลตัน (ฺGate to Walton)

บทที่ 2 สู่การปฏิวัติ : ตอนที่ 14 เริ่มต้นการรุกรานวัลเทอร์ของลีโอเนีย (The Leonia began the invasion of Walter)


เริ่มต้นการรุกรานวัลเทอร์ของลีโอเนีย

(The Leonia began the invasion of Walter)

  

เดือนเมษายน ศักราชอองโทราลที่ 3926

ทวีปอาริกาเซีย ดินแดนที่ห่างไกลความเจริญ กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ วิกฤตการณ์ที่อาจจะทำให้พวกเขาได้สูญสิ้นดินแดนบ้านเกิด

อาณานิคมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเด็กกำพร้าและผู้อพยพ ชนพื้นเมืองและชาวอาริกาเซียรุ่นแรก การที่พวกเขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายอันเป็นความฝันได้ พวกเขาจะต้องแลกกับหลายสิ่งหลายอย่าง เดือดเนื้อและชีวิตที่กำลังจะสูญหายในอีกไม่ช้า

แต่ชาวอาริกาเซียก็เลือกที่จะทำมันด้วยมือของตนเอง สงครามคือสิ่งที่พวกเขาเลือก…

ทหารยามชายฝั่ง แล่นเรือเล็กอยู่กลางมหาสมุทร พวกเขาเป็นอดีตนักเดินเรือของสมาพันธ์การค้า เรือสกูเนอร์เป็นเรือขนส่งที่มีขนาดเล็ก แต่มีความเร็วที่สูงอย่างมาก มันถูกใช้เป็นเรือตรวจการของกองกำลังภาคพื้นทวีป

กะลาสีผู้มีประสบการณ์รับรู้ว่าพวกลีโอเนียกำลังจะมาถึงในไม่ช้า แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะมาถึงตอนไหนเวลาใด เพราะงั้นแล้ว หน้าที่ของทหารยามชายฝั่งคือการสอดส่องหากองเรือข้าศึก หากเป็นไปได้ก็ทำการยับยั้ง ถ่วงเวลาเอาไว้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าท้องฟ้าที่สดใสของทะเลใกล้อาริกาเซียจะถูกปกปิดด้วยความมืดมิดของพายุ ใบหน้าของเหล่าทหารยามชายฝั่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กะลาสีตะโกนลั่น “พวกมันมาถึงแล้ว!” เหล่าศัตรูคู่อาฆาตของอาริกาเซีย

กองเรือลีโอเนียจำนวนนับไม่ทวนได้มาถึงอาริกาเซีย เหล่ากองเรือที่สามารถปกปิดขอบฟ้าทะเลที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงอำนาจทางทะเลที่ไม่มีผู้ใดกล้าต่อต้าน

กัปตันเรือสังเกตและคิดวิเคราะห์ เรือตรวจการไม่มีทางเอาชนะกองเรือของสหจักรวรรดิได้ กัปตันเรือจึงเร่งรีบถอนตัวกลับชายฝั่งของอาริกาเซียทันที ด้วยความเร็วของเรือประเภทสกูเนอร์ ทำให้ถึงเขตของอาริกาเซียก่อนที่กองเรือลีโอเนียจะมาถึงหลายวัน

พวกเขาเดินเรือขึ้นแม่นํ้าสวนทางลึกเข้าไปในดินแดน ทุกอย่างถูกฝึกอย่างรอบคอบ แม้ว่าจะมีข้อมูลจากสายลับแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะรู้ว่าลีโอเนียจะบุกยกพลขึ้นบกที่ใด แต่ตอนนี้คำตอบก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

รัฐอิสระวัลเทอร์จากตอนเหนือ

กัปตันสั่งให้คนของเขาแจ้งข่าวให้กับกองกำลังภาคพื้นทวีปในรัฐวัลเทอร์ พวกเขาทำการทำการระดมกองพลในละแวกใกล้เคียง เพื่อเตรียมรับมือกองทัพสหจักรวรรดิ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถย้ายแนวป้องกันไปยังจุดจุดเดียวได้

ดักลาสและผู้บัญชาการหลายคนหลังจากที่รับข่าวสารก็รีบเร่งเดินทางไปยังวัลเทอร์เพื่อควบคุมแผนการป้องกันทันที แต่กว่าที่ดักลาสจะไปถึง การศึกก็คงจะเริ่มต้นไปแล้ว…

ผู้บัญชาการในรัฐวัลเทอร์ คือพลตรีมาร์ค แอลลิสัน ลูกชายคนโตของจอห์น แอลลิสัน เขาและกองกำลังภาคพื้นทวีปและทหารอาสาในรัฐใกล้เคียง เตรียมทำการเข้าต่อสู้กับกองกำลังลีโอเนียที่จะยกพลขึ้นบก พวกเขาต้องเลือกที่จะรอให้ดักลาสและผู้บัญชาการคนอื่นมาถึง หรือจะเข้าตั้งแนวป้องกันก่อน

ซึ่งดูเหมือนว่าผู้บัญชาการในรัฐวัลเทอร์จะเป็นคนที่หวังเกียรติยศอย่างมาก เขาเลือกอันที่จะเผชิญหน้ากับลีโอเนียอย่างกล้าหาญ… สั่งทหารภาคพื้นทวีปโดยไม่รอ นายพลดักลาสและผู้บัญชาการคนอื่น

พลตรีมาร์คสั่งตั้งแนวป้องกันที่ชายฝั่ง สนามเพลาะอันเป็นการรบที่ดักลาสคิดค้นขึ้นถูกใช้งานอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามความคิดของผู้บัญชาการในขณะนั้นกลับกลายมาเป็นวิบัติของกองกำลังภาคพื้นทวีปทันทีเมื่อเรือรบของลีโอเนียทำการยิงปืนใหญ่ใส่แนวป้องกันที่ชายหาด…

……

.

.

.

.

.

.

“พวกนายบ้าไปแล้วหรือไง แนวป้องกันยกพลขึ้นบกเหรอ!? ถ้าเกิดว่าตั้งแนวป้องกันใกล้ชายหาดก็ต้องถูกปืนใหญ่จากเรือยิงอยู่แล้วไม่ใช่หรือ! ใครมันคิดเรื่องบ้าๆเช่นนี้กัน!” ภายในกระโจมสีขาว มีเสียงดังออกมา เสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง นํ้าเสียงของดักลาสที่ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินมาก่อน

เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในการรบครั้งแรกทำให้นายพลสูงสุดได้แต่กุมขมับด้วยความปวดหัวปนเครียด

การรบครั้งแรกของกองกำลังภาคพื้นทวีปก็กลายเป็นหายนะไปเสียแล้ว 

แนวป้องกันถูกปืนใหญ่เรือรบของลีโอเนียยิงถล่มใส่เพราะว่าพวกเขาอยู่ใกล้ทะเลเกินไป ไม่พอแค่นั้น หลังจากถูกปืนใหญ่ของกองเรือลีโอเนียยิงปูพรม พวกเขาถูกทหารเครื่องแบบสีแดงเวนิสจู่โจม กำลังภาคพื้นทวีปจำนวน 1 กองพลสูญเสียไป 6000 กว่า ในขณะที่ ลีโอเนียคาดว่าเสียไปไม่ถึง 1000 คน

ทหารลีโอเนียที่มากประสบการณ์เข้าตีกองพลของมาร์ค แอลลิสัน จะต้องล่าถอยออกจากแนวป้องกัน และในตอนนี้พวกลีโอเนียก็กำลังเหยียบย่ำพื้นดินของทวีปอาริกาเซียอยู่

“พลตรีมาร์ค แอลลิสัน เสียชีวิตในการรบไปแล้วครับ เขาเป็นคนสั่งให้ขุดแนวป้องกันเพื่อสังหารพวกลีโอขณะที่มันพยายามขึ้นชายฝั่ง” นายทหารผู้กล่าวอยู่ในยศพันตรี เขามีใบหน้าที่อ่อนล้าและบาดเจ็บแต่ก็ยังมายื่นรายงานความเสียหายให้กับดักลาส

“ท่านนายพล!” ม้าเร็วส่งข่าวสารวิ่งตรงมายังกระโจมของดักลาส เขากระโจนลงจากม้าส่วนตัวของเขาและทำความเคารพลาสและเริ่มรายงานแม้ว่าเขาจะดูเหนื่อยอย่างมาก

“พวกเสื้อแดงเดินทัพเข้าตีเมืองคอนวิเลีย กองกำลังอาสาวัลเทอร์เข้าลอบโจมตีท่วงเวลา พวกเขาต้องการความช่วยเหลือครับ!” สิ้นเสียงลาสก็หันไปมองแผนที่บนโต๊ะทันที

เมืองคอนวิเลียเป็นเมืองขนาดกลางที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไม่ไกลมาก ก่อนจะสายตาของลาสจะเปลี่ยนไปเส้นทาง และกองกำลังภาคพื้นที่ทวีปที่กำลังจัดกลุ่มใหม่อยู่ไม่ไกลมากนัก ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ดักลาสก็มีสีหน้าซีดขาวเหมือนรู้สึกตัวได้

“พวกเขาจะสร้างฐานหลักที่คอนวิเลีย…” ลาสชะงักและหันไปสั่งผู้ใต้บังคับบัญชา “กองอาสาในวัลเทอร์ที่ยังไม่ได้เข้ารวมศึก สั่งให้พวกเขาเข้าร่วมกับพวกเราในเมืองคอนวิเลีย ในตอนนี้มีกองกำลังเหลือเท่าไร!”

“กองพลที่ 5 จากชาร์ลส กองพลที่ 6 จากวัลเทอร์มีเพียงแค่ 1 กรมที่พร้อมรบ จากการรบครั้งแรกทำให้พวกเขาสูญเสียไปจำนวนมาก และสุดท้ายคือกองกำลังอาสาจากหัวเมืองรัฐวัลเทอร์ประมาณ 3 กองร้อย” ชายในยศพลตรีกล่าว

“ชิ! ไม่ทันแล้ว” ลาสเดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจ

“แถวข้างเมืองคอนวิเลียมีเนินสูงอยู่ เราจะทำการป้องกันในจุดๆนั้น หากเราสามารถป้องกันได้ ต่อให้เมืองคอนวิเลียจะถูกยึดก็คงเสี่ยงถูกปืนใหญ่เรายิงใส่” สิ้นเสียงดักลาสก็เริ่มทำการสั่งการออกเคลื่อนทัพที่มีอยู่ทันที

กองกำลังภาคพื้นทวีปจำนวนประมาณ 1 หมื่น 2 พันกว่าคน เดินทางไปยังเนินเขาข้างๆเมืองคอนวิเลีย ด้วยความคุ้นเคยกับพื้นที่ กองกำลังภาคพื้นทวีปก็ได้มาถึงเนินเขาก่อนลีโอเนีย ดักลาสเริ่มสั่งการให้ตัดไม้แล้วนำมาทำเป็นที่กำบัง ถึงแม้จะสร้างแนวป้องกันไม่ทันกาล แต่อย่างน้อยก็สามารถเป็นที่กำบังพื้นฐานได้ก็ดีพอแล้ว

อย่างไรก็ตามกองกำลังลีโอเนียก็ได้มาถึงฝั่งตรงข้ามของเนินเขาเป็นที่เรียบร้อย ผู้บัญชาการลีโอเนียที่เห็นกองกำลังภาคพื้นทวีปตั้งการป้องกันอยู่บนเนินเขา ก็รับรู้ว่าพวกกบฏกำลังคิดจะทำอะไร ผู้บัญชาการลีโอเนียสั่งจัดทัพที่หน้าเนินเขาก่อนจะแปรขบวนเตรียมเข้ายึดเนินเขาของกองกำลังกบฏ

ดักลาสมองธงสิงโตทองด้วยความกังวล ชายหนุ่มใช้กล้องส่องธงและเริ่มนับจากสายตาของตน

“2 4 6… 8 ธง… ให้ตายสิ 20000 กว่าคน” ลาสถอนหายใจดังเฮือก “ยังไม่รวมกองกำลังหลักที่คาดว่าจะมาเสริมอีก ฉันอยากจะหนีจากตำแหน่งนายพลบ้าๆแล้วไปใช้ชีวิตห่างไกลบ้านเมืองเสียจริง!”

ไม่นานกองกำลังลีโอเนียก็เคลื่อนตัวเขาใกล้เนินเขา การรบที่เนินเขาเมืองคอนวิเลีย ฝ่ายกองกำลังภาคพื้นทวีปจับอาวุธแน่น หลายคนยังไม่เคยเจอสงครามจริงๆมาก่อน หากไม่นับกองพันของลาสและกองพลที่ 6 กองกำลังภาคพื้นทวีปก็ไม่มีทหารผู้ใดเคยยิงปืนในสนามรบ

กองกำลังภาคพื้นทวีปเล็งอาวุธจากที่กำบังที่สร้างขึ้นมาอย่างลวกๆ เสียงกลองศึก เสียงยำเท้าของกองทัพลีโอเนีย สร้างความกลัวในจิตใจของทหารหน้าใหม่ โดยอย่างยิ่ง กองพันที่ 23 'วิลลี่โฮป' ที่รอดชีวิตจากศึกยกพลขึ้นบกเพียงแค่กองพันเดียว

“เด็กๆฟังทางนี้ ! จงใจเย็นและอย่าได้ตื่นกลัว ทำตามที่สั่งหากต้องการที่จะมีชีวิตต่อไป!” เสียงของพลตรีในแนวหน้า มันทำให้นายทหารชั้นผู้น้อยแปลกใจอย่างมาก ไม่พอแค่นั้นเมื่อเหล่าทหารมองตามเสียงที่ว่าพวกเขาก็พบกับผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังภาคพื้นทวีปที่อยู่แนวหน้าเสี่ยงตายเช่นเดียวกับพวกเขา

ดักลาสที่อยู่ข้างๆพลตรีคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะการพูดของพลตรีที่สร้างกำลังใจได้ตกเวลา กองกำลังภาคพื้นทวีปที่อยู่เนินเขาคอนวิเลีย ควรที่จะมีผู้บัญชาการสูงสุดสี่คน ตอนนี้เหลือเพียงแค่สามคนเท่านั้น

นายพล ดักลาส แมริแลนร์ (General Douglas Maryland)

พลตรี ทาลอส กาลานิดิส (Major General Talos Galanidis)

พลตรี เจมส์ ไม่นามสกุล  (Major General James)

พลตรี มาร์ค แอลลิสัน (Major General Mark Allison) (เสียชีวิตแล้ว)

พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว เสียงกลองศึกและเครื่องดนตรีดังไปทั่วทางขึ้นเนินเขา สายลมตีธงรูปสิงโตพะเยิบพะยาบ การเคลื่อนทัพของลีโอเนียสง่างามและเกรียงไกร

พวกเขาเข้าใกล้แนวป้องกันอย่างไม่เร่งรีบ ด้วยการเคลื่อนทัพที่เป็นระเบียบนั้นได้สร้างอิทธิพลความเกรงกลัวต่อฝั่งที่เป็นข้าศึกอย่างมาก

“กองกำลังเล็ง !!” เสียงสั่งการดังส่งต่อกันเป็นทอดๆ กองกำลังภาคพื้นทวีปเล็งอาวุธหลังแนวป้องกันของตน หยดน้ำ หยาดเหงื่อที่มาจากร่างกายมีเต็มใบหน้าของชาวอาริกาเซีย ด้วยความร้อนจากแสงแดดที่ร้อนอบอ้าว ดูเหมือนว่าฤดูร้อนปีนี้จะร้อนเป็นพิเศษ

“เราสามารถทำให้ไอ้พวกขี้ขลาดประหลาดได้ ถ้าพวกเจ้าไม่ยิงปืนคาบศิลาจนกว่าจะเห็นตาขาวของพวกมัน!!” พลตรีทาลอสตะโกนขึ้น ‘ เป็นคำพูดที่ดี! ’ ดักลาสยกนิ้วให้กับพลตรีข้างๆตัวเขาภายในใจ พลตรีคนนี้จะกลายเป็นนายทหารที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ไม่แน่เขาอาจจะโยนงานภาระของการศึกสงครามให้ชายผู้นี้แทนเสีย-

“รอก่อน…”

พลตรีทาลอสกล่าว ทหารลีโอเนียเข้าใกล้พวกเขา แต่พลตรีก็ยังกล่าวเช่นเดิม

“รอก่อน!”

กองกำลังลีโอเนียชุดแรกเดินทัพเลยแนวยิงมาใกล้จนเรียกได้ว่าเห็นใบหน้าของฝั่งตรงข้ามชัดเจนจนสามารถพูดคุยกันได้ ไม่รอช้าพลตรีทาลอสและดักลาสก็ตะโกนสั่งพร้อมกัน

“ยิง!” “ยิง!!” พร้อมกับเสียงนายกองที่สั่งชุดยิง แนวหน้าของที่กำบังไม้ถูกปกคลุมไปด้วยเขม่าจากดินปืนสีขาว

เหมือนกับโลกหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ทุกคนบนแนวป้องกันสามารถเห็นเหมือนกันหมด พวกเขาต่างคิดไปในทางเดียวกันหมด

กองกำลังลีโอเนียล้มลงเป็นแถบ สุดยอดมหาอํานาจสิ้นชีพไปจำนวนมาก อย่างง่ายดาย!

ไม่รอให้แถวแรกของลีโอเนียยิงตอบโต้ พลตรีทาลอสสั่งยิงระลอกที่สองทันที กระสุนลูกกลมถูกปลดปล่อยจากปากกระบอกปืน สังหารแนวหน้าของลีโออีกครั้ง

ศึกบนเนินเขาคอนวิเลียในครั้งนี้ยังคงห่างไกลคำว่าสิ้นสุด!

กองกำลังภาคพื้นทวีปปลดปล่อยนรกบนดินให้แก่กองกำลังลีโอเนียชุดแรกที่อยู่ข้างล่างเนินเขา การยิงที่ไม่ต้องสนใจความแม่นยำเพราะว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องยิงให้โดนแถวแรกของข้าศึก เพราะว่ากระสุนปืนพุ่งตรงผ่านแนวหน้าไปยังแนวหลังของลีโอเนีย

เสียงปืนดังก้องยาวนานไปครึ่งวัน กองกำลังลีโอเนียยังคงไม่สามารถเข้ายึดเนินเขาได้ แถมแนวป้องกันยังถูกเติมแต่งระหว่างการรบ เมื่อเห็นความเสียหายที่มาก เสียงสัญญาณถอนกำลังและจัดกลุ่มใหม่อีกครั้ง

กองกำลังภาคพื้นทวีปสูญเสียและบาดเจ็บจำนวนที่น้อย ผิดกับร่างอันไร้ชีวิตที่อยู่ข้างหน้าเนินเขา เครื่องแบบสีแดงที่ไม่รู้ว่าเป็นสีแดงเวนิสหรือสีของเลือด กองกำลังลีโอเนียระลอกแรกนอกจากจะไม่สามารถตีแนวป้องกันให้แตกได้ พวกเขาจะเสียคนไปจำนวนมาก

กองกำลังภาคพื้นทวีป ปรับเปลี่ยนแนวป้องกันอีกครั้ง เสริมส่วนที่สูญเสียจำนวนมาก ลาสสั่งให้พวกเขาพักเล็กน้อย แต่เพราะว่าชายหนุ่มรู้ว่าเสียงสัญญาณของลีโอเนีย ทำให้เขารู้ว่าอีกไม่นานจะมีการบุกอีกครั้ง นี้อาจจะเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงของลีโอเนีย ดักลาสเรียนรู้จากกองทัพสหจักรวรรดิลีโอเนีย ความรู้ที่ลาสมีติดตัวเป็นสิ่งที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับกองกำลังภาคพื้นทวีป

แน่นอนว่าเป็นอย่างที่นายพลแห่งอาริกาเซียคิดเอาไว้ กองกำลังลีโอเนียชุดใหม่เคลื่อนตัวเข้าเนินเขาอีกครั้ง

“ท่านนายพล จุดยิงปืนใหญ่สร้างเสร็จแล้วครับ! แต่ว่ากองกำลังปืนใหญ่เราจะมาตอนไหนหรือครับ?” พลตรีทาลอสกล่าวถามผู้บัญชาการสูงสุด

“อ๊า! เราลืมบอกนายเลย!” ลาสหันไปหาพลตรีด้วยใบหน้าที่มีเลศนัย ทำให้พลตรีทาลอสรู้สึกจั๊กจี้เพราะว่า ชายหนุ่มตรงหน้า ยิ้มเหมือนหญิงสาวน่ารักมากกว่านายพลสูงสุดของกองกำลังภาคพื้นทวีป ผู้เข้าร่วมศึกสงครามหลายแห่ง ผู้ที่มากไปด้วยประสบการณ์

“กองกำลังเราไม่ได้มีกองพลปืนใหญ่เสียหน่อย”

“ ห๊ะ… ?” ไม่รู้ว่าพลตรีทาลอสควรจะรู้สึกเช่นไรกับคำตอบของดักลาส เขามีใบหน้าที่มึนงงกับความคิดของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างมาก

“เราสู้ลีโอเนียในศึกครั้งนี้ไม่ได้หรอก” ลาสชะงัก “แต่ว่าเราทำให้พวกเขาสูญเสียจำนวนที่มากได้ ปล่อยให้เลือดของชาวลีโอเนียไหลเต็มเนินเขาแห่งนี้…” ลาสกระซิบข้างๆหูของพลตรี ก่อนที่พลตรีทาลอสจะเข้าใจความหมายของดักลาส

“เช่นนั้นก็มาสู้ให้เต็มกันเถอะครับ!” หันกลับมองนอกแนวป้องกัน ทั้งสองมองทหารลีโอเนียเดินหน้าขึ้นเนินเขาเพื่อเข้าตีอีกครั้ง

การต่อสู้ยาวจนถึงตอนกลางคืน แสงไฟจากปืนคาบศิลาจากทั้งสองฝั่งยังคงสามารถมองเห็นได้จากในเมือง และพื้นที่ใกล้ๆเนินเขา กองกำลังลีโอเนียยังคงไม่ยอมหยุดส่งคนเข้าตีเนินเขาคอนวิเลีย การต่อสู้บนเนินเขาคอนวิเลียกลายเป็นศึกที่มีการสูญเสียจำนวนในฝั่งของลีโอเนีย เป้าหมายของกองกำลังลีโอเนียเปลี่ยนจากเมืองคอนวิเลียไปเป็นเนินเขาแห่งนี้ มิใช่เพราะพวกเขาเห็นข้าศึกที่ง่ายต่อการกำจัด

แต่เป็นเพราะเนินเขาแห่งนี้ถูกตั้งปืนใหญ่ที่สามารถยิงไปยังเมืองคอนวิเลียได้ นั้นจึงทำให้กองกำลังรุกรานของลีโอเนียต้องเข้ายึดแนวป้องกันของพวกกบฏบนเนินเขา การต่อสู้นั้นมาถึงจุดแตกหักเมื่อ กองกำลังที่ดักลาสกังวลปรากฏตัว หน่วยทะลวงลีโอ แน่นอนว่าเนินเขาแห่งนี้ไม่มีพื้นที่ให้หลบกระสุนปืนของกองกำลังภาคพื้นทวีป หน่วยทะลวงที่ตีแนวป้องกันกลายเป็นเป้าหลักทันที

เที่ยงวันของการต่อสู้ แนวป้องกันบนเนินเขาก็ถูกตีแตก ดักลาสสั่งถอนกำลังหนีออกพื้นที่ทันที ธงสิงโตถูกตั้งบนเนินเขาคอนวิเลียแสดงให้เห็นว่าชัยชนะในศึกครั้งนี้ยังคงเป็นชัยชนะของสหจักรวรรดิลีโอเนีย แต่มันใช่ชัยชนะที่ยอดเยี่ยมจริงๆหรือ?

เพราะว่าเมื่อพวกเขายึดเนินเขาได้ก็พบกับคลังกระสุนที่ถูกใช้จนหมด แนวป้องกันปืนใหญ่ที่ไม่มีปืนใหญ่ตั้ง นอกจากไม้ที่เป็นปืนใหญ่ปลอม กว่าจะรู้ตัว กองกำลังภาคพื้นทวีปก็ถอนตัวออกจากสนามรบไปไกลแล้ว อาริกาเซียพ่ายแพ้เพราะว่าไม่มีกระสุนเพียงพอ และยังสูญเสียจุดป้องกัน และเมืองคอนวิเลียไป แต่โอเนียเสียทหารไปมากกว่า 2000 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ในขณะที่ศพของอาริกาเซียมีเพียง 300 กว่าเท่านั้น…


0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด