ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 53 ลงอย่างอย่างเงียบเชียบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 55 สัญญาหมั้นหมาย!

STY-ตอนที่ 54 เยี่ยมชมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!


เย่เฉิน และ ศิษย์พี่หญิงสามอันเหมี่ยวหาน ได้ออกจาก ย่านเริงรมย์เฟิงหยา หลังจากที่อารมณ์ของพวกเขาได้ถูกรบกวน

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่งดงาม ทั้งสองได้เดินเคียงข้างกันและมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียว

“เฮ้อ อารมณ์สุนทรีย์ของข้ากำลังมาเลย ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาถูกรบกวนแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ข้ายังอยากดื่มอีกหน่อยแท้ ๆ!”อันเหมี่ยวหาน ได้บ่นออกมา

“ศิษย์พี่ ไม่ต้องหงุดหงิดไป ไว้เรากลับไปข้าจะดื่มกับท่านเป็นอย่างไร?”เย่เฉิน ได้กล่าวออกมา

ในขณะนี้ อันเหมี่ยวหาน ก็ได้มองไปที่ เย่เฉิน โดยดวงตาของนางได้เป็นประกายในขณะที่ตอบกลับ “ทำไมพวกเราไม่มุ่งหน้าไปที่ซ่องกันเลยล่ะ?”

“ท่านว่าอะไรนะ?”

เย่เฉิน คิดว่าเขาได้ยินผิดไปจึงได้กล่าวถามอีกครั้ง

“ศิษย์พี่ เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ?”เย่เฉินมองไปที่ศิษย์พี่หญิงสามของเขา

“ข้าพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ไปที่ซ่องกันเลยล่ะ?”อันเหมี่ยวหาน ได้ทวนคำพูดของนางอีกครั้ง

“ศิษย์พี่ ท่านเสียสติไปแล้วงั้นเหรอ?ข้ายังเป็นผู้เยาว์ ส่วนท่านก็เป็นผู้หญิง พวกเราจะไปทำอะไรกันที่ซ่อง?”เย่เฉิน ได้มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงสามของเขาและกล่าวถาม

“เห้อ แม้จะเป็น ซ่อง ก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะนอกจากการร่วมรักเจ้าไม่คิดงั้นเหรอ”อันเหมี่ยวหาน ได้ตอบกลับ

อันที่จริง อันเหมี่ยวหาน ไม่เคยไปที่ ซ่องโสเภณีมาก่อน และ นางเคยไปที่ ย่านเริงรมย์เพียงเท่านั้น

ดังนั้น อันเหมี่ยวหาน จึงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับซ่องนี้มาก

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”

อันเหมี่ยวหาน ได้ดึง เย่เฉิน และ เดินไปที่ซ่องโสเภณีในทันที

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านหน้าซ่อง

พวกเขาตระหนักได้ว่าซ่องในวันนี้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก

เพราะว่าพวกเขาเห็น ชายชุดดำหลายคนยืนอยู่ที่ด้านบนของซ่องโสเภณี และ หญิงสาวเหล่านั้นก็ไม่ได้ออกมาชักชวนลูกค้า ทำให้ ซ่องนี้ค่อนข้างเงียบอย่างผิดปกติ

“เฉินน้อย พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”

อันเหมี่ยวหาน ได้ดึง เย่เฉิน เดินไปที่ ซ่อง

ในขณะนี้ ชายชุดดำสองคนที่ยืนอยู่ที่ด้านหน้าประตูได้หยุดพวกเขาในทันที

“หยุด ซ่องแห่งนี้ถูกเหมาโดยนายท่านของข้าแล้ว รีบไปซะ!”ชายชุดดำคนนึงได้ตะโกนใส่ เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน

ขณะที่ เย่เฉิน กำลังจะโจมตี

ในขณะนั้นเอง ชายหนุ่มคนนึงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าประตู

เขาแต่งกายด้วยชุดยาวสีขาวและดูเป็นสุภาพบุรุษเป็นอย่างมาก เขาได้ยิ้มและกล่าวพูดออกมาอย่างแผ่วเบา “พวกเขาทั้งสองเป็นแขก ดังนั้น ปล่อยให้พวกเขาเข้ามา!”

“แต่…”

“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดงั้นเหรอ?”ผู้ชายคนนั้นรู้สึกโกรธมากและกล่าวออกมา

“ขอรับ!”

ทุกคนได้ปล่อยให้ เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน เข้ามา

เย่เฉิน ได้พา อันเหมี่ยวหาน เดินเข้าไปข้างใน ในเวลานี้ ชายคนนั้นได้ยิ้มและมองไปที่ เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน “พวกท่านสองคนมาที่นี่เพื่อมองหาผู้หญิงใช่หรือไม่?”

เย่เฉิน ยิ้มและตอบกลับ “นอกจากเรื่องนี้สถานที่แห่งนี้ยังมีสิ่งอื่นอีกรึไม่?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…คุณชายท่านนี้กล่าวได้ถูกแล้ว เชิญ!”

เย่เฉิน ได้มองไปที่ ชายหนุ่ม และ พบว่าความแข็งแกร่งของชายหนุ่มคนนี้ไม่เลว อีกฝ่าย มีฐานการบ่มเพาะพลังอยู่ในอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ ตั้งแต่อายุยังน้อย และ ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ธรรมดา

เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน ได้เดินเข้าไปในซ่อง ในเวลานี้ ชายชุดดำได้เดินเข้ามาและกล่าวกระซิบบางอย่าง

จากนั้นชายชุดดำทั้งหมดก็พยักหน้าและตอบรับในทันที

ในขณะนั้น ชายคนนั้น ก็เชิญพวก เย่เฉิน นั่ง พร้อมกับกล่าวพูดออกมา “ข้ามีนามว่า ซ่งอวี๋เซียง พอดีข้าเล็งเห็นสหายเต๋าทั้ง 2 มีลักษณะพิเศษและดูไม่ธรรมดา เกรงว่าพวกท่านคงเป็นคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ใช่หรือไม่?”

เย่เฉิน ได้มองไปที่ ซ่งอวี๋เซียง และ รู้สึกแปลกใจ

ผู้ชายคนนี้มีสายตาที่เฉียบแหลม และสามารถบอกได้ในทันทีว่าพวก เย่เฉิน มาจากไหน อีกทั้ง ดูจากการแต่งกายขององค์รักษ์ชุดดำเหล่านี้ ดูเหมือนว่าภูมิหลังของนายน้อยคนนี้จะไม่ธรรมดา

เย่เฉิน ไม่ได้พูดอะไร โดยเขาได้มองไปยังพื้นที่โดยรอบ

เขาพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรมหายานซ่อนตัวอยู่ในอาคารแห่งนี้

มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะพบเห็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังในอาณาจักรมหายานอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดูเหมือนว่า จุดประสงค์ในการมาของ ซ่งอวี๋เซียง คงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้พยักหน้าและตอบกลับโดยตรง “ข้าสงสัยว่า นายน้อยซ่ง มีจุดประสงค์อะไรถึงได้มาเยือนที่เมืองฉิงซานเล็ก ๆ แห่งนี้?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…ในเมื่อพวกท่านทั้งสองเป็นศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ข้าก็จะไม่ขอปิดบังอีกต่อไป ข้าซ่งอวี๋เซียงมาจากตระกูลซ่งของเมืองหยุนไท่ เหตุผลที่ ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อเยี่ยมชมปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!”ซ่งอวี๋เซียง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

‘ปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์?’

‘นั่นไม่ใช่เขาหรอกเหรอ?’

‘เมื่อไหร่กันที่ชื่อเสียงของเขายิ่งใหญ่เสียจนแพร่กระจายไปยังเมืองหยุนไท่?’

“ข้าสงสัยว่าท่านมีธุระอันใดถึงต้องการพบท่านปรมาจารย์ของพวกเรา?”เย่เฉิน ได้กล่าวถาม

ในขณะนี้ ซ่งอวี๋เซียง ได้ยิ้มและตอบกลับ “เรื่องนี้เป็นความลับของตระกูลซ่งของข้า ดังนั้น ข้าจึงไม่สะดวกที่จะเปิดเผย หวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้าด้วย!”

เย่เฉิน มองไปที่ ซ่งอวี๋เซียง และ ไม่ได้พูดอะไร

แม้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร แต่เขาก็จะไม่มีทางได้พบปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์อย่างง่ายดาย

เนื่องเพราะตัวตนของ เย่เฉิน ได้ถูกปกปิดเป็นอย่างดี แม้แต่ ประมุขนิกายอวี๋เซียว ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ดังนั้น ทำไม เย่เฉิน จะต้องเปิดเผยตัวสำหรับอีกฝ่ายด้วย?

ในขณะนี้

ซ่งอวี๋เซียง ได้ปรบมือ

หญิงสาวที่มีเสน่ห์ 2-3 คน ได้เดินมาที่ด้านข้างของ เย่เฉิน โดยจับแขนของ เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน เอาไว้พร้อมกับกล่าวพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “เชิญแขกทั้งสองท่านเข้ามา!”

เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน ได้ถูกพาไปที่ห้องโดยหญิงสาวทั้งสองคน

ที่ห้องพักนี้ได้ตกแต่งตามสไตล์โบราณ

ในเวลานี้ ซ่งอวี๋เซียง ก็เดินเข้ามาและกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยทั้งสอง ข้าจะขอร่วมวงดื่มด้วยได้หรือไม่?”

เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน ได้พยักหน้า

ในเวลานี้ หญิงสาว 2-3 คน ก็ได้ยกจอกเหล้ามาเติมถ้วยของ เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน ในทันที

“เชิญ!”ซ่งอวี๋เซียง ได้เป็นผู้นำในการดื่ม

เย่เฉิน และ อันเหมี่ยวหาน ก็ดื่มด้วยเช่นเดียวกัน

หลังจากดื่มไป 2-3 รอบ เย่เฉิน ก็รู้สึกเบื่อและออกจากซ่องไปพร้อมกับศิษย์พี่หญิงสามของเขา

ขณะที่พวกเขาเดินออกจากซ่อง ชายชุดดำ 2-3 คน ก็เดินมาที่ด้านหน้าของ ซ่งอวี๋เซียง และกล่าวถามอย่างใจเย็น “นายน้อย พวกเราควร…?”

ซ่งอวี๋เซียง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับอย่างใจเย็น “พวกเขาทั้ง 2 มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ พวกเราไม่ควรสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น”

เย่เฉิน และ ศิษย์พี่หญิงสามของเขา หลังจากหมดอารมณ์ที่จะสนุก พวกเขาก็ขี่กระบี่บินมุ่งหน้าไปยัง แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์โดยตรง

“เฮ้อ วันนี้สนุกไม่เลว เฉินน้อย ไว้พวกเราค่อยมาคราวหน้าด้วยกันอีกครั้งนะ!”

เย่เฉิน ได้พยักหน้า

คนจาก เมืองหยุนไท่ คิดจะมาเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างแน่นอน ดังนั้น เย่เฉิน จึงขอให้ ศิษย์พี่หญิงสามของเขาไปแจ้งต่อประมุขนิกายอวี๋เซียว

เพราะอย่างไรก็ตาม สำหรับ เย่เฉิน เรื่องนี้ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา

ปัจจุบันเขามีพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะ อีกทั้งยังมี ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่มีพลังอยู่ในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ แม้ว่า ผู้บ่มเพาะพลังที่มีพลังในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ต้องการที่จะโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เย่เฉิน ก็ไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

โดย เย่เฉิน ยังคงลงชื่อเข้าใช้และฝึกฝนในทุกวัน

จนกระทั่ง 2 วันผ่านไป

เย่เฉิน ก็ได้รับข่าว

ว่ากันว่า ตระกูลซ่งจากเมืองหยุนไท่ ได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ โดยหวังว่าจะได้พบ ปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

อย่างไรก็ตาม ประมุขนิกายอวี๋เซียว ก็ไม่เคยพบปรมาจารย์ยุทธ์มาก่อน ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถรับปากในเรื่องนี้ได้

อีกอย่าง นอกเหนือจากการพบปะปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ยงคงกระพันแล้ว ซ่งอวี๋เซียง ก็ยังมีเรื่องอื่นอยู่อีก โดย ตระกูลซ่ง ต้องการที่จะสร้างสัมพันธ์ไมตรีกับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

ตระกูลซ่ง เป็นตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหยุนไท่ และ ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เทียบเท่ากับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ตอนนี้ เหตุผลที่พวกเขาต้องการที่จะสร้างสัมพันธ์ไมตรีกับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ก็เพราะว่าต้องการใช้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนี้ในการได้รับการคุ้มครองจากปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ยงคงกระพัน

นอกจาก ตระกูลซ่ง แล้ว นิกายอมตะ และ ตระกูลชนชั้นสูง รวมถึงขุมพลังอื่น ๆ ต่างก็มุ่งหน้าเข้าหา แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

โดยเป้าหมายของพวกเขาก็เหมือนกับตระกูลซ่ง พวกเขาทั้งหมดต่างก็รู้ว่า แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มีปรมาจารย์ยุทธ์ที่มีพลังในอาณาจักรเทวะ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด