ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 54 เยี่ยมชมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 56 ทำให้มีข้อยกเว้น!

STY-ตอนที่ 55 สัญญาหมั้นหมาย!


หลังจากที่ เย่เฉิน กลับไปที่ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เขาก็ได้ลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่อง

เขาฝึกฝนในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ในทุกวัน จนกระทั่งเวลาได้ไหลผ่านไป 2 วัน ในที่สุด เย่เฉิน ก็ได้รับข่าวว่า ตระกูลซ่ง นายน้อยซ่งอวี๋เซียง ที่อยู่ในเมืองฉิงซาน ก่อนหน้านี้ ได้ขึ้นมาบนภูเขาแล้ว

เย่เฉิน ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับ ตระกูลซ่ง เลย แม้ว่าตระกูลซ่งจะเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองหยุนไท่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเมืองหยุนไท่แล้ว แต่ท้ายที่สุด ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถเดินตามวิถีของราชาได้

หากตระกูลซ่ง กล้าที่จะวางแผนต่อต้านแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เขาก็สามารถทำลายอีกฝ่ายได้โดยตรง

ในขณะที่ ตระกูลซ่ง พาคนขึ้นมาภูเขา

พวกเขาก็มาถึงประตูภูเขาเช่นเดียวกัน

ซ่งอวี๋เซียง ได้พบกับ ประมุขนิกายอวี๋เซียว จากนั้นเขาก็ขอพบกับปรมาจารย์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทาน

“ประมุขนิกายอวี๋เซียว พวกเราได้ยินมาว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มีปรมาจารย์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทาน ดังนั้น เราอยากจะขอเชิญท่านปรมาจารย์ยุทธ์ออกมาพบหน่อยจะได้รึไม่?”อัจฉริยะหนุ่มที่มาจากตระกูลซ่ง ได้กล่าวพูดขึ้น

ในขณะนี้ ประมุขนิกายอวี๋เซียว ได้ยิ้มและตอบกลับ “ท่านปรมาจารย์เป็นคนรักสันโดษ เขามักจะมาและไปอย่างไร้ร่องรอย พูดตามตรงแม้แต่ข้าก็ยังไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านปรมาจารย์เลย เกรงว่าเรื่องนี้คงจะยากสักหน่อย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งอวี๋เซียง ก็ค่อนข้างผิดหวัง

จากนั้นเขาก็โบกมือ

ทันใดนั้น ทหารองค์รักษ์ที่อยู่ใต้เขาก็ได้ถือหีบขนาดใหญ่เดินเข้ามาที่ด้านหน้าของประมุขนิกายอวี๋เซียว “ประมุขนิกายอวี๋เซียว นี่เป็นของขวัญเล็กน้อยที่ผู้เยาว์เตรียมไว้ให้กับท่านปรมาจารย์ ดังนั้นท่านพอจะช่วยส่งต่อสินน้ำใจเล็กน้อยนี้ให้เขาจะได้หรือไม่?”

“และนี่คือส่วนของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ดังนั้นได้โปรดท่านรับมันไปด้วย!”

ประมุขนิกายอวี๋เซียว ไม่ได้ปฏิเสธ ซึ่งเขาได้ยอมรับของขวัญ

ในขณะนี้ ซ่งอวี๋เซียง ก็กล่าวพูดต่อ “ประมุขนิกายอวี๋เซียว อันที่จริงข้ามีอีกเรื่องที่จะหารือกับท่าน!”

“เชิญกล่าวมาได้เลย!”ประมุขนิกายอวี๋เซียว ยิ้มและตอบกลับ

ซ่งอวี๋เซียง ได้โค้งคำนับ ประมุขนิกายอวี๋เซียว และ กล่าวออกมา “บังเอิญก่อนหน้านี้ข้าได้พบศิษย์หญิงของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ที่มีนามว่า ซู่ชิวหยา ในเมืองหยุนไท่ ดังนั้น ข้าจึงรู้สึกตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกพบ เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต้องการที่จะสู่ขอนางแต่งงาน!”

ประมุขนิกายอวี๋เซียว รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เขาก็เข้าใจได้ในทันที

เหตุผลที่ ตระกูลซ่ง มาสู่ขอแต่งงานเช่นนี้กับทางแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ก็เพราะ ขุมพลังอาณาจักรเทวะ ได้ปรากฏตัวขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

นี่เป็นเพราะว่า ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ มีพลังในอาณาจักรเทวะ ดังนั้น ตระกูลซ่ง เลยต้องการที่จะประจบประแจงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

มิฉะนั้น ตระกูลซ่งที่ไม่ได้ติดต่อคบค้าสมาคมกับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี เหตุใดพวกเขาถึงได้มาสู่ขอแต่งงานอย่างกระทันหันเช่นนี้?

นอกจากนี้ ตระกูลซ่งยังเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในเมืองหยุนไท่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาค่อนข้างยากที่จะหยั่งถึง อีกทั้งว่ากันว่า ในตระกูลของพวกเขา มีผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรเทวะอยู่ด้วย

ประมุขนิกายอวี๋เซียว ยิ้มและตอบกลับ “แม้ว่า ซู่ชิวหยา จะเป็นศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ แต่ทว่า เรื่องนี้ จะต้องได้รับการยินยอมจากอาจารย์ของนางและตัวนางเอง!”

ซ่งอวี๋เซียง ได้พยักหน้าและตอบกลับ “ผู้เยาว์เข้าใจแล้ว เช่นนั้นผู้เยาว์จะไปที่ยอดเขาหยกอมตะเพื่อเยี่ยมเยือนเซียนหยกอมตะด้วยตัวเอง!”

ยอดเขาหยกอมตะ

พระราชวังหยกอมตะ

ซ่งอวี๋เซียง ได้นำกลุ่มคนมาที่พระราชวังหยกอมตะ

ซ่งอวี๋เซียง ได้โค้งคำนับให้กับ เซียนหยกอมตะ และ กล่าวออกมา “ผู้เยาว์ซ่งอวี๋เซียง จากตระกูลซ่ง ขอแสดงความเคารพต่อ เซียนหยกอมตะ!”

เซียนหยกอมตะ ได้เพ่งสายตาไปที่ ซ่งอวี๋เซียง โดยนางได้มองดูและพบว่า มีผู้เชี่ยวชาญ 2 คน ที่อยู่เบื้องหลังซ่งอวี๋เซียง และ พวกเขาทั้งสองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรมหายาน

ตระกูลซ่งเป็นตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหยุนไท่ เมื่อเทียบกับ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ที่เป็นเพียงนิกายขนาดเล็กแล้ว พวกเขาไม่สามารถที่จะเทียบเคียงตระกูลซ่งได้เลย

หลังจากการมาถึงของ ซ่งอวี๋เซียง เขาก็กล่าวพูดอย่างตรงไปตรงมา “เหตุผลที่ผู้เยาว์มาที่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์แห่งนี้ ก็เพื่อมองหา ศิษย์ที่มีนามว่า ซู่ชิวหยา ก่อนหน้านี้ ข้าบังเอิญพบนางที่เมืองหยุนไท่ และ ได้ตกหลุมรัก คุณหนูซู่ชิวหยา ดังนั้น ผู้เยาว์จึงได้เดินทางมาที่นี่เพื่อสู่ขอนางแต่งงาน”

เมื่อเสียงของเขาจางหายไป ทุกคนก็กลายเป็นตกตะลึง

เซียนหยกอมตะ ได้มองไปที่ ซ่งอวี๋เซียง และตอบกลับ “เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของ หยาเอ๋อร์ ถ้านางตอบตกลง ข้าก็จะเห็นด้วย”

ในขณะนี้ ก็มีหญิงสาวที่มีท่าทีที่สง่างามในชุดยาวสีแดง ได้เดินเข้ามาที่พระราชวังหยกอมตะ

นางได้โค้งคำนับต่อ เซียนหยกอมตะ และ จากนั้น ก็หันหลังไปโค้งคำนับให้กับ ซ่งอวี๋เซียง และ ตอบกลับ “ข้ารู้สึกซาบซึ้งในความตั้งใจดีของนายน้อยซ่ง เพียงแต่ข้ามีหัวใจที่ยึดมั่นใจเต๋า และ ไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ดังนั้นขอคงต้องขอปฏิเสธ!”

ซ่งอวี๋เซียว รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่า ซู่ชิวหยา จะปฏิเสธเขาอย่างรวดเร็ว

บรรพบุรุษของตระกูลซ่ง ก็มีพลังอยู่ในอาณาจักรเทวะ ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลซ่ง พวกเขาย่อมเหนือชั้นกว่า แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ อย่างแน่นอน ทว่า ซู่ชิวหยา คนนี้ กลับไม่เห็นถึงน้ำใจที่ดีของเขาและปฏิเสธเขาอย่างง่ายดาย

ในเวลานี้ ซ่งอวี๋เซียง ยิ้มและกล่าวออกมา “ข้ารู้ดีว่าคุณหนูซู่ ค่อนข้างโดดเด่นและบางทีข้าอาจจะไม่ดีพอ แต่ทว่าสิ่งที่ข้ามีก็คือความจริงใจที่มีต่อท่าน ดังนั้นท่านพอจะให้โอกาสข้าได้หรือไม่?”

ซู่ชิวหยา ได้ยิ้มปลอม ๆ ออกมาและปฏิเสธ “นายน้อยซ่ง โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าไม่เต็มใจจริง ๆ!”

อย่างไรก็ตาม ซ่งอวี๋เซียง ไม่ได้จากไป

ในขณะนี้ เขาก็ได้ปรบมือ

มีชายชราได้เดินถือกล่องหยกที่สวยงามมาก่อนที่เขาจะกล่าวพูดขึ้น “เซียนหยกอมตะ ได้โปรดพิจารณาดูสิ่งนี้!”

ชายชราได้ยื่นกล่องหยกให้กับเซียนหยกอมตะ

เซียนหยกอมตะ ได้รับกล่องหยกมาและพบสัญญาแต่งงานที่อยู่ข้างใน

ในเวลานี้ ซ่งอวี๋เซียง ได้กล่าวพูดต่อ “ในตอนนั้น ตระกูลซ่งของข้า และ ตระกูลซู่ เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้น ข้าและชิวหยา ก็เลยหมั้นหมายกันเอาไว้ แต่หลังจากที่ตระกูลซู่ถูกกำจัดออกไป ข้าก็เริ่มค้นหาที่อยู่ของ ชิวหยา จนในที่สุด ข้าก็พบว่า ชิวหยา ได้กลายเป็นศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ การแต่งงานล้วนเป็นคำสั่งของบิดาและมารดา ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บิดามารดาของชิวหยา ได้ตัดสินใจ ดังนั้นหวังว่า แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จะให้การยินยอมกับเรื่องนี้”

ก่อนที่ ซู่ชิวหยา จะเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ นางเคยเป็นสมาชิกของตระกูลซู่เมืองหยุนไท่

อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของ ซู่ชิวหยา ก็ค่อนข้างอาภัพ

เมื่อตอนที่ ซู่ชิวหยา ยังเด็ก ตระกูลของนางได้เผชิญหน้ากับการทำลายล้าง และ มีเพียง ซู่ชิวหยา ที่โชคดีพอที่จะรอดมาได้

ในเวลานั้น ซู่ชิวหยา ยังเป็นเพียงแค่เด็กทารก

และ เซียนหยกอมตะ ที่เดินทางไปที่ เมืองหยุนไท่ ก็บังเอิญได้พบกับ ซู่ชิวหยา และ ได้เก็บนางมาเลี้ยงดูที่ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

เมื่อ ซู่ชิวหยา ลงจากเขาไปฝึกฝน นางก็ได้ไปตรวจสอบเรื่องโศกนาฏกรรมของตระกูลซู่ของนาง โดย นางพบว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับตระกูลชนชั้นสูงหลายตระกูลในเมืองหยุนไท่

ดังนั้น เมื่อ ซู่ชิวหยา เห็น ซ่งอวี๋เซียง หยิบเอาสัญญาหมั้นหมายออกมา นางก็รู้สึกตกใจ

นางไม่ได้คาดหวังเลยว่า ตระกูลซ่ง และ ตระกูลซู่ จะมีความสัมพันธ์กันเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาหมั้น มันก็เป็นของแค่ไว้ใช้สานสัมพันธ์กันอยู่แล้ว และ นางก็ไม่เชื่อว่า ตระกูลซ่ง อยากจะเกี่ยวดองกับนางที่เป็นคนจากตระกูลซู่ที่ล่มสลายไปแล้วจริง ๆ

ดูเหมือนว่าโศกนาฏกรรมการทำลายล้างตระกูลซู่ บางที ตระกูลซ่ง ก็อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

อีกอย่าง ซู่ชิวหยา ในตอนนั้นยังเป็นเพียงแค่ทารก นอกจากนี้ เรื่องมันยังเกิดมาได้ 20 กว่าปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ ซู่ชิวหยา จะค้นหาเบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงจนเจอ

ในขณะนี้ ซ่งอวี๋เซียง ได้กล่าวออกมา “ในเมื่อมันเป็นสัญญหมั้นหมายระหว่างข้าและชิวหยา ที่ถูกกำหนดโดยบิดามารดา ทางแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มีอะไรที่จะโต้แย้งหรือไม่?”

หลังจากที่ เซียนหยกอมตะ อ่านสัญญาหมั้นหมาย นางก็เก็บใส่เข้าไปในกล่อง และ กล่าวพูดอย่างใจเย็น “สิ่งที่นายน้อยซ่งกล่าวมามันก็ถูก แต่ทว่า เป็นอาจารย์ 1 วันเท่ากับเป็นพ่อแม่ไปตลอดชีวิต พ่อแม่ของชิวหยา ในปัจจุบันล้วนไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ข้าก็คือผู้ปกครองของนาง ดังนั้น ข้ามีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการแต่งงานของชิวหยา”

“และในเมื่อหยาเอ๋อร์ไม่ชอบมัน ข้าก็ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด