ตอนที่แล้วEP 12 [Stardew Valley] : ชายผู้ได้รับฉายาว่าผู้วิเศษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 14 (Stardew Valley) กลายร่างเป็นสัตวประหลาด

EP 13 (Stardew Valley) ลูกของผู้วิเศษ


EP 13 (Stardew Valley) ลูกของผู้วิเศษ

ผู้แปล วังวน

“นี่... ภารกิจนี้มันยากเกินไปหรือเปล่า มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะตามหาให้เจอได้”

  เมื่อเห็นท่าทีที่ดูกังวลของหน่านเซียวเอง ในฐานะผู้วิเศษเขาเองก็จะต้องหาตัวช่วยให้กับหน่านเซียวสักหน่อย เขาล่วงมือของไปหยิบบางอย่างออกมา “หญ้าอ่อน ตัวอ่อนตะไคร่น้ำ เห็ดพิษราดคาราเมล...” เขาหยิบสมุนไพรที่ฟังดูชื่อแปลกๆ มากองหนึ่ง โยนลงไปในหม้อควันสีเขียว แล้วเริ่มคนและปรุงอาหาร หลังจากบ่นอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาออกมาและวางลงในวงกลมเวทมนตร์บนพื้นสำหรับทำพิธี

  หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าและฟ้าร้องผ่านไป มียาเพิ่มหนึ่งขวดอยู่บนพื้น ลักษณะที่ปรากฏคือมันดูสวยงามมาก ดูมีโปร่งใส และเป็นสีฟ้าเล็กน้อย ใสราวกับท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งในต้นฤดูร้อน ผู้วิเศษหยิบยาขึ้นมาและพูดกับหนานเซียว: “นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ ยาวนี้คือ 'ยาเพิ่มความสามรถทางภาษา' การดื่มมันจะมีผลกับทักษะการแปลภาษา จากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นภาษาใดๆก็ตามคุณเองจะสามารถอ่านมันออกราวกับว่าคุณเป็นภาษาที่คุณชำนาญ”

  มีไอเทมที่สุดยอดแบบนี้อยู่ด้วยหรอเนี่ย?

  หน่านเซียวเองก็คิดย้อนไปก่อนหน้านี้และทำให้หนานเซียวเองโมโหตัวเองขึ้นมาแทบจะในทันที ถ้าฉันรู้ว่ามันมียาที่มีฤทธิ์สุดยอดขนาดนี้ ฉันก็คงไม่เสียเวลาที่จะต้องฝึกเรียนภาษาอญู่ในหลุมหลบภัยแคบเป็นเวลา 3 ปีหรอก

  แต่เมื่อคิดให้รอบคอบ ถ้าไม่ได้ฝึกษาในวอล์ตหมายเลขา 101 อย่างหนักเป็นเวลา 3 ปี เกรงว่าฉันเองก็อาจจะฟังภาษาผู้คนในสตาร์ดิวส์วอลเล่ห์ไม่ออกซึ่งภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาสากล และมันก็ใช้อยู่ในทุกแพลต์ฟอร์ม? ซึ่งถ้าไม่ได้ทักษะเหล่านนี้มา ฉันเองก็คงจะอ่านจดหมายที่ปู่ทิ้งไว้ไม่ออกและเกมคงจบที่โรงงานในเมืองหลวงไปแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นหนานเซียวเองก็ดูสบายขึ้นมานิดหน่อย

  เนื่องจากภารกิจนี้มีไอเทมประเภทยาที่สามารถทำให้เขาเข้าใจทุกภาษาได้ ทำให้ภารกิจนี้ดูน่าดึงดูดขึ้นมาหน่อย

  เอาล่ะก่อนอื่นสิ่งที่จะต้องทำคือหาวิธีก่อนว่าจะสามารถแยกแยะข้อมูลได้อย่างไร ก่อนอื่นฉันจะต้องเขาไปหาฝูงชนก่อนชาวบ้านที่นี้ชอบจับกลุ่มคุยกันนินทาเรื่องต่างๆนา สิ่งที่ฉันต้องทำคือพยายามเปิดหูฟังทุกสิ่งที่พวกเขาพูดกัน ภารกิจนี้ไม่มีการจำกัดเวลา ดังนั้นฉันเองก็มีเวลามากพอที่จะสืบหาว่าใครคือสายเลือดที่แท้จริง

  ไม่กี่วันต่อมา หน่านเสี่ยวก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมา

  จากข้อมูลที่หลากหลาย อาจมีเด็ก/ลูกสาวนอกกฎหมายอยู่ไม่กี่คน: แซม ลูกชายของโจดี้แม่บ้าน เซบาสเตียน ลูกชายของช่างไม้โรบิน และอาบิเกล ลูกสาวของแคโรไลน์ ภรรยาของพ่อค้าของชำ , ศิลปินอย่าง ลีอาห์ (ไม่ทราบพ่อแม่) และเพนนี ลูกสาวของแพมผู้ติดสุรา ซึ่งอาศัยอยู่ตามลำพังใกล้ป่าไซเดอร์

  ส่วนคนอื่น ๆ นั้นถูกตัดออกไป เพียงแค่ดูอายุของพวกเธอก็รู้แล้วว่าน่าจะไม่ใช่ลูกของผู้วิเศษ ตัวอย่างเช่น มารุ ลูกสาวคนสุดท้องของช่างไม้โรบิน  อันที่จริงดิมีเทียส์(ชายผิวดำ)เป็นสามีของเธอในตอนนี้ และน่าจะเป็นพ่อของมารุด้วย

  ขั้นตอนต่อไป หน่านเสี่ยวต้องตรวจสอบผู้ต้องสงสัยคนสำคัญเหล่านี้ทีละคน

  แซมเป็นคนแรกที่ถูกคัดออก เพราะจู่ๆ เคนท์ สามีแท้ๆ ของโจดี้ ก็กลับมา เมื่อเห็นเคนท์แวบแรก หน่านเสี่ยวก็รู้ว่านี่คงเป็นพ่อของแซมอย่างแน่นอน พวกเขาทั้งหมดมีผมสีบลอนด์หัวแหลใเหมือนซุปเปอร์ไซย่าซึ่งเอกลักษณ์ของพวกเขาเหมือนกันมาก

  เซบาสเตียนเขาเป็นลูกติดของโรบิน เพราะเธอไม่เคยพูดถึงสามีของเธอ บางทีอดีตสามีของเธออาจเป็นผู้วิเศษ ยิ่งกว่านั้น ชายหนุ่มคนนี้มีผมสีม่วงคล้ายกับผู้วิเศษราสโมดิสมาก อีกทั้งเขาเองก็ดูชอบเรื่องไสยศาสตร์และเวทมนตร์อีกด้วย

  ผู้สมัครที่เป็นไปได้อีกรายคือ อาบิเกล เธอเองก็มีผมสีม่วง และดูเหมือนจะชอบเรืองลี้ลับ ของชอบสุดโปรดของเธอคือหินอเมทิสต์ นั้นร่วมถึงเธอเองชอบทานควอตซ์ด้วย แร่ที่มีความแข็งเทียบเท่าเหล็ก! ไม่รู้ว่าเธอเอาฟันที่แข็งแรงขนาดนั้นมาจากไหนกัน

  ลีอาห์...เธอเองชอบศิลปะมาก ซึ่งก็เหมือนกับผู้วิเศษ และก็ยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอคือใครอีกด้วย และเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่งที่จะพูดถึงเรื่องนี้ และเธอไม่ค่อยไปบาร์เพื่อพูดคุยกับผู้คน มันเลยทำให้ยากที่จะทำความรู้จักกับเธอและรู้เรื่องราวของเธอไปมากกว่านี้

  เพนนีเป็นลูกสาวของแพม คุณป้าที่ติดเหล้าซึ่งกำลังตกงานอยู่นั้นเธอเองเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังมานานแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเพนนีเกิดกับใคร แพมเองก็ชอบไปเรื่อยเปื่อยตอนที่เธอเมา แต่ถ้าใครพูดถึงพ่อของเพนนี เธอเองจะกลับมามีสติและหันหน้าหนีไปในทันที

  หลังจากลองตรวจประวัติข้อมูลเชิงลึกดู ลีอาห์และเพนนีก็ถูกตัดออกไปเช่นกัน

  กัสเจ้าของโรงเตี๊ยมทำให้หนานเซียวมีข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น เกี่ยวกับลีอาห์เธอนั้นเป็นคนนอกชุมชน เธอเคยอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่พร้อมกับอดีตแฟนหนุ่มของเธอ หลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่ม เธอก็มาอยู่ที่สตาร์ดิวส์วอลเล่ห์ เพื่อทำงานศิลปะเพียงลำพัง ดังนั้นจึงเธอน่าจะไม่ใช่ลูกของผู้วิเศษอย่างแน่นอน

  พ่อของเพนนีเองก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ไหน แต่เธอดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเธอก็ยังไม่มีสีผมสีน้ำเงินอีกด้วย อีกทั้งประวัติของแพมเธอเคยเป็นคนขับรถมาก่อนและเธอก็ตั้งท้องเพนนีมาจากที่อื่นแค่มาคลอดที่นี้เท่านั้นซึ่งจากการเชื่อมโยงนี้เขาน่าจะไม่ใช่ลูกหลานของผู้วิเศษ

  เหลือแค่สองคน นั่นเซบาสเตียนหรืออบิเกล? สองคนนี้น่าสงสัย

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ว่ากันความสัมพันธ์ทางสายเลือดนั้นสามารถสื่อผ่านกันโดยใช้เพียงจิตใจสื่อหากันได้เลย

  ผู้วิเศษเองเขามีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกการที่เขาจะมีทั้งลูกชายและลูกสาวก็อาจเป็นไปได้

  ยังไงก็มาเริ่มกันที่แม่ของทั้งทั้งสอง โรบินป้าช่างไม้และแคโรไลน์ป้าขายของชำ พวกเขาต้องรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อของลูก

  หน่านเสี่ยวตัดสินใจคุยกับโรบินป้าช่างไม้ก่อน

  ทันทีที่เขาเปิดประตูและเดินเข้าไปในร้านของป้าช่างไม้ เขาเห็นโรบินยืนอยู่บนเคาน์เตอร์ เธอหันหลังกลับไปที่ประตู โดยไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

  ในร้านช่างไม้ช่างเงียบสงัด และมีเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

  เซบาสเตียนสามีของเธอเป็นนักชีววิทยาและทำงานภาคสนามตลอดทั้งวัน ลูกสาวมารุเองน่าจะไปที่คลินิกอยู่ในตอนนี้ซึ่งเธอทำงานเป็นนางพยาบาล สำหรับลูกชายของเธอ เซบาสเตียน แม้ว่าเขาจะอยู่ที่บ้านแต่เขาเป็นคนชอบเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร

  ติ้งตง กริ่งประตูดังขึ้น

  เมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตู จู่ๆ โรบินก็รู้สึกประหม่า เธอจับไหล่ แขนสั่นเล็กน้อย ราวกับแกะขาวตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะถูกเฉือด

  “ลูอิส วันนี้ฉันยังไม่พรอม...” น้ำเสียงของเธอดูน่าสงสารและอ้อนวอน

  ในขณะนั้น เธอหันกลับมาและทันใดนั้นก็เห็นหน่านเซียว ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ: “อ่าวคุณเองหรอ?”

  ทำไมเธอถึงได้ดูหวาดกลัวเช่นนั้นกัน!

  หน่านเซียวถึงกับอึ้งไปสักพักก่อนที่จะงุนงงกับสิ่งที่เขาได้ยิน ก่อนที่จะหันหน้าไปข้างๆเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

  ทำไมเธอถึงเรียกชื่อนายกเทศมนตรีล่ะ? นี่แสดงให้เห็นว่าคนที่เธอคาดว่าจะมาน่าจะเป็นนายกเทศมนตรีลูอิสที่มาหาเธอ แต่กลับกลายเป็นว่ามีบางอย่างผิดพลาดไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอเองก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  เกิดอะไรขึ้น? เธอทักคนผิดอย่างงั้นหรอ

ดูสิงที่เธอทำสิ เธอทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

  หน่านเซียวจำได้ทันทีว่าเมื่อเขามาถึง สตาร์ดิววอล์เล่ห์ เป็นครั้งแรก โรบินเป็นคนไปรับเขาจากสถานีและพูดว่า "... นายกเทศมนตรีลูอิสขอให้ฉันมารับคุณและพาคุณไปที่บ้านใหม่ของคุณ เขาอยู่รอที่นั่นเพื่อทำความสะอาดแล้ว..." เป็นต้น

  แล้วปัญหาก็มาถึง!

  1. ทำไมคุณถึงส่งโรบินถึงมารับฉันที่สถานี

  2. นายกเทศมนตรีทำไมเขาถึงต้องการทำความสะอาดบ้านให้ฉัน?

  ก่อนจะมาที่สตาร์ดิวส์วอลเล่ห์ ฟาร์มแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง กระท่อมที่ปู่ของฉันก็ตั้งอยู่โดดเดียว หรือว่าที่นั้นมีหลักฐานสำคัญอะไรบางอย่าง? การที่ลูอิสขอให้โรบินมารับอาจจะเพื่อประวิงเวลาก็เป็นได้ เขาอาจอยู่ในบ้านไม้เพื่อทำความสะอาดจริง ๆ เพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง!

  ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น - นายกเทศมนตรีและโรบินต้องมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกันแน่!

  เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ทั้งสองคนก็พูดติดตลกว่าในวันนั้นเกี่ยวกับบ้านของฉัน น้ำเสียงเจ้าชู้นั่น เหมือนกับว่าเขาพยายามปิดปังอะไรอยู่ มีสิ่งเดียวที่จะตอบข้อสงสัยนี้ได้คือการหาหลักฐาน

  หน่านเสี่ยวตัดสินใจเดินตรงเข้าไป “เซบาสเตียนเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรีหรือเปล่า” เขาตั้งใจปรับน้ำเสียงโดยคิดว่าเขาถูกโคนันเข้าสิง การแสดงออกของเขาสงบและดวงตาของเขาเย็นชา และโรบินไม่สามารถปฏิเสธได้เลย

  โรบินตื่นตระหนกทันที “ป่าวสักหน่อย ไม่ใช่” เธอปฏิเสธเสียงแข็งก่อนกลอกตาไปมา “มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายกเทศมนตรี”

  “จริงเหรอ อย่างงั้นเขาก็น่าจะเป็นลูกชายของ ผู้วิเศษมาร์ซูรี ราสโมดิสใช่หรือไม่”

  "..."

  เมื่อเห็นใบหน้าที่พันกันของโรบิน หน่านเซียวก็เริ่มมั่นใจว่าสิ่งที่เขาคาดเดานั้นน่าจะถูกต้อง มันทำให้เขาจะต้องรีบปิดเกม: "อย่ากังวลไป ผมตะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แค่ผู้วิเศษอยากรู้ว่าเขามีลูกชายหรือไม่อยู่ในเมืองเพลิแกนแห่งนี้"

  “ฉันเองก็ไม่แน่ใจ” โรบินพูดอย่างลำบากใจ “เรื่องมันนานมากแล้ว ฉันจำไม่ได้”

  ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่ปฏิเสธ หน่านเซียวคิด ตราบใดที่เขาสามารถได้ขวดยาแปลภาษานั้นมา เขาก็ไม่สนใจมากนัก

  ฉันกำลังจะกลับไปที่หอคอยเวทย์มนตร์เพื่อส่งมอบภารกิจ ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นภายนอก

  เซบาสเตียนรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกและตะโกน: "ปิดประตู! ปิดประตู! มีคนสู้กันอยู่ข้างนอก! ปิแอร์บ้าไปแล้ว!"

  การต่อสู้?

  เร่งรีบออกไปดู มีควันก็พัดมาจากทางใต้ และร้านขายของชำของปิแอร์ก็เหมือนจะเกิดไฟไหม้ขึ้นมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด