ตอนที่แล้วบทที่ 41: งานชุมนุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43: ความเสื่อมของหลี่เต๋าหรัน

บทที่ 42: อาจารย์ลุงผู้ร่ำรวย


บทที่ 42: อาจารย์ลุงผู้ร่ำรวย

ลู่เสี่ยวหรันเดินออกมาจากห้องโถงและเดินตรงไปที่ห้องเก็บสมบัติของนิกายเพื่อไปรับหินวิญญาณตามที่ผู้นำนิกายบอก

เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงควรจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอาไว้ให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากเขาปล้นคลังสมบัติของนิกายอสูรกระดูกขาวเมื่อคืนนี้ แม้ว่ามันจะด้อยกว่าคลังสมบัติของนิกายอสูรสวรรค์ แต่เขาก็น่าจะได้รับหินวิญญาณมาอย่างน้อยสองถึงสามล้านก้อน

อย่างไรก็ตาม นั่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

สิ่งที่เขาต้องการคือการทำลายล้างนิกายอสูรกระดูกขาวเพื่อทำให้แน่ใจว่าความลับของยอดเขาจื่อฉุ่ยนั้นจะไม่รั่วไหลออกไป ถ้าเขาเกิดโลภในสมบัติของนิกายอสูรกระดูกขาวและเกิดทำแผนแตกขึ้นมา มันก็จะเป็นการ

“โอ้ เสี่ยวหรัน เจ้านี่เอง มานั่งก่อนสิ”

ลู่เสี่ยวหรันเพิ่งมาถึงห้องเก็บสมบัติของนิกาย และพวกผู้อาวุโสก็ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น พวกเขาดึงเก้าอี้ออกมาและรินชาให้กับเขา มันเป็นฉากที่ดูอบอุ่นเป็นพิเศษ

มันแตกต่างจากครั้งก่อนมาก

เหตุผลนี้เป็นเพราะความสำเร็จของลุ่เสี่ยวหรันในการสร้างค่ายกลนั้นทรงพลังมาก และนั่นก็ทำให้เขากลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิกายอสูรสวรรค์

พวกผู้อาวุโสที่รับผิดชอบดูแลห้องเก็บสมบัติล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ทั้งหมด พวกเขารู้วิธีปฏิบัติตนตามสถานการณ์และสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

“เสี่ยวหรัน ไม่ใช่ว่าเจ้าทำงานเสร็จแล้วหรอ? ทำไมเจ้าถึงมาที่ห้องเก็บสมบัติอีกล่ะ?”

ลู่เสี่ยวหรันรับชาจากผู้อาวุโสและจิบชาก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย

“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผู้นำนิกายได้สั่งให้ข้ามารับหินวิญญาณระดับสูง 300,000 ก้อน เขาบอกว่าเขาต้องการให้ข้าฝึกสร้างค่ายกลเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานชุมนุมค่ายกลที่จะจัดขึ้นที่นิกายเต่าทมิฬในเดือนหน้า”

“อย่างนี้นี่เอง ได้ เราจะไปเอามันมาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ”

ในไม่ช้า ผู้อาวุโสก็เตรียมถุงเล็กๆ ให้กับลู่เสี่ยวหรัน

ลู่เสี่ยวหรันชั่งน้ำหนักถุงเก็บของและรู้สึกว่าน้ำหนักของมันนั้นดูค่อนข้างผิดปกติ เขากวาดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้าไปข้างในและพบว่ามันมีหินวิญญาณระดับสูงทั้งหมด 800,000 ก้อน!

บัดสบ นี่มันมากกว่าสองเท่าของจำนวนที่ผู้นำนิกายกล่าวถึงอีก!

“ผู้อาวุโส หินวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้มันไม่ผิดปกติไปหน่อยหรอ? ผู้นำนิกายบอกว่าเขาจะมอบหินวิญญาณระดับสูง 300,000 ก้อนให้แก่ข้า แต่พวกท่านก็มอบพวกมันถึง 800,000 ก้อนให้แก่ข้า ถ้าผู้นำนิกายรู้เรื่องนี้เข้า…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ พวกผู้อาวุโสก็โบกมือและยิ้ม

“ไม่ต้องกังวล จำนวนนั้นแหละถูกต้องแล้ว เราเอาหินวิญญาณออกมาจากคลังแค่ 300,000 ก้อนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 500,000 ก้อนนั้นถูกรวบรวมมาโดยพวกเราเอง นี่ถือว่าเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับเจ้าที่สามารถเข้าร่วมกับสมาคมผู้อาวุโสได้สำเร็จ”

ลู่เสี่ยวหรันพยายามจะปฏิเสธ

“ไม่ได้หรอก ข้าไม่สามารถรับหินวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้เอาไว้ได้!”

“ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น!”

“ถ้าอย่างนั้น… ข้าก็ควรจะรับมันใช่ไหม?”

“เอาเลย เอาเลย ถ้าเจ้าไม่รับมัน พวกเราก็คงจะรู้สึกแย่เอา”

“เอาล่ะ ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ข้ายังต้องกลับไปฝึกสร้างค่ายกลอีก ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”

“ไปเถอะ ไปเถอะ ธุระของเจ้ามีความสำคัญมาก ในอนาคต หากเจ้าต้องการสิ่งใดและไม่สะดวกที่จะบอกผู้นำนิกาย เจ้าก็สามารถมาบอกเราได้โดยตรงเลย เราอาจจะไม่สามารถช่วยเจ้าได้มากนัก แต่ตราบใดที่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เราก็สามารถช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน!”

“ขอบคุณพวกท่านจริงๆ”

หลังจากออกจากห้องเก็บสมบัติแล้ว ลู่เสี่ยวหรันก็รู้สึกว่าสภาพอากาศในวันนี้มีแดดจัดเป็นพิเศษ

ไม่แปลกใจเลยที่มนุษย์ทุกคนบนโลกจะหมกมุ่นอยู่กับอำนาจ

สิ่งนี้ช่างดึงดูดใจเสียเหลือเกิน!

เขาจำได้ว่าเมื่อหนึ่งถึงสองเดือนก่อน ในตอนที่เขาและหลี่เต๋าหรันมาที่ห้องเก็บสมบัติเพื่อขอหินวิญญาณ พวกเขาก็ยังตกเป็นเป้าหมายของการฉ้อฉล พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องติดสินบนอีกฝ่ายเพื่อให้ปัญหานั้นผ่านพ้นไป

อย่างไรก็ตาม พอมาตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาก็ยังยินดีที่จะมอบหินวิญญาณให้กับเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากหน้าตีนเป็นหลังมือนี้ ไม่ว่าอารมณ์ของลู่เสี่ยวหรันจะมั่นคงแค่ไหน แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะถูกมันดึงดูด

อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ดีว่าต้นไม้ที่สูงที่สุดในป่าจะถูกโค่นได้โดยสายลม

แม้ว่าฉากหน้ามันจะดูดีมาก แต่เมื่อเวลาผ่านนานไป ผู้คนที่มีเจตนาร้ายก็จะเริ่มมุ่งเป้ามาที่เขา และวันหนึ่ง เขาก็อาจถูกแทงที่ด้านหลังได้

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงยังคงต้องเก็บตัวและอยู่เงียบๆ เข้าไว้

ในขณะเดียวกัน ก่อนที่ลู่เสี่ยวหรันจะกลับไปที่ยอดเขาจื่อฉุ่ย หลี่เต๋าหรันก็ได้มาหาเขาที่ยอดเขาซะก่อน

“ผู้อาวุโสลู่ ผู้อาวุโสลู่ ออกมานี่เร็ว ข้ามีข่าวดีจะบอก!”

ในขณะนี้ บนยอดเขาจื่อฉุ่ยก็มีเพียงหยุนหลี่เกอและอีกสองคนเท่านั้นที่กำลังคัดลอกกฎของยอดเขาจื่อฉุ่ยอยู่

เมื่อได้ยินเสียงนี้ จื่ออู๋เซียก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“นี่คือใครกัน? ทำไมเขาถึงกล้าเรียกชื่อท่านอาจารย์ห้วนๆ แบบนั้น?”

หยุนหลี่เกอกล่าวว่า “เมื่อฟังจากเสียงนี้แล้ว นั่นก็น่าจะเป็นอาจารย์ลุงหลี่เต๋าหรันจากยอดเขาศิลาประหลาด”

ฟางเทียนหยวนกล่าวเสริมว่า “ใช่เขาแน่ๆ”

จื่ออู๋เซียกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถเรียกอาจารย์ของเราด้วยนามสกุลห้วนๆ แบบนี้ได้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็กำลังพูดถึงชื่อของอาจารย์ของเรานะ! เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน?”

ฟางเทียนหยวนส่ายหัวด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ศิษย์พี่ ท่านอย่าประมาทเขาไป อันที่จริงท่านอาจารย์ลุงหลี่ก็เป็นผู้ฝึกตนที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เมื่อนึกย้อนกลับไป ในตอนที่ข้าได้กลายมาเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ ข้าก็ได้พบกับเขามาก่อน ในตอนนั้น เขาก็ได้มอบหินวิญญาณระดับสูงจำนวน 6666 ก้อนแก่ข้าเป็นของขวัญต้อนรับ เมื่อคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ถ้าเขาเป็นแค่ลูกปลาตัวเล็กๆ เขาจะสามารถมอบของขวัญชิ้นใหญ่แบบนี้ให้ข้าได้อย่างไร?”

“ห้ะ! เขามอบหินวิญญาณจำนวนมากขนาดนั้นเป็นของขวัญต้อนรับให้เจ้าอย่างงั้นหรอ? เขาจะไม่ร่ำรวยเกินไปหน่อยหรอ?”

ดวงตาของหยุนหลี่เกอแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า

“ออกไปต้อนรับท่านอาจารย์ลุงหลี่กันเถอะ ข้าไม่สามารถละเลยท่านอาจารย์ลุงหลี่ได้จริงๆ!”

เมื่อพูดจบ หยุนลี่เกอก็วิ่งออกไปในทันที

ทั้งสองคนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่? อย่างไรก็ตาม ฟางเทียนหยวนก็ได้รับของขวัญต้อนรับไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะออกไปหาอีก นอกจากนี้ จื่ออู๋เซียก็ยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิง ผิวหน้าของเธอไม่ได้หนาและด้านเท่ากับหยุนหลี่เกอ ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงไม่ได้ออกไปตาม

หยุนหลี่เกอมาถึงข้างนอกและโค้งคำนับทันที

“หลี่เกอทำความเคารพท่านอาจารย์ลุงหลี่!”

“เจ้าคือ…?”

หลี่เต๋าหรันตกตะลึง เขามองไปที่หยุนหลี่เกอที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นและสับสนไปชั่วขณะหนึ่ง

“ข้าน้อยหยุนหลี่เกอเป็นศิษย์คนโตของยอดเขาจื่อฉุ่ย!”

“โอ้ ข้าจำได้แล้ว ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสลู่รับศิษย์ที่เส้นลมปราณถูกตัดขาดเข้ามา นั่นคือเจ้าเองหรอ?”

“ถูกต้องแล้วท่านอาจารย์ลุง!”

หลี่เต๋าหรันพยักหน้า

“ดูเจ้าตอนนี้สิ เจ้าดูมีพลังและมีสุขภาพดีมาก เจ้าเริ่มกลับมาฝึกตนได้อีกครั้งแล้วใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ลู่”

“ไหนๆ เจ้าก็สามารถกลับมาฝึกตนได้แล้ว งั้นข้าก็จะไม่ตระหนี่เช่นกัน เอาของขวัญชิ้นนี้ไป”

ขณะที่เขาพูด หลี่เต๋าหรันก็โยนถุงเก็บของให้กับหยุนหลี่เกอ

หยุนหลี่เกอกวาดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้าไปและตกใจในทันที

มันคือหินวิญญาณระดับสูงจำนวน 6666 ก้อน

มันเป็นความจริง ศิษย์น้องของเขาพูดจริง อาจารย์ลุงหลี่เป็นผู้ฝึกตนที่ไม่มีใครเทียบได้ตัวจริง!

อันที่จริง เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้หลี่เต๋าหรันกล้าที่จะทำเช่นนี้ก็เป็นเพราะลู่เสี่ยวหรันมักจะไม่ค่อยรับศิษย์เข้ามา ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงมีศิษย์เพียงคนเดียวหรือสองคนเท่านั้น ถ้าลู่เสี่ยวหรันมีศิษย์มากกว่านี้ มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแจกหินวิญญาณระดับสูงถึง 6666 ก้อน

ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อลู่เสี่ยวหรันล้วนๆ

อย่างไรก็ตาม หยุนหลี่เกอก็ไม่ทราบเรื่องนี้ เขารีบคำนับขอบคุณหลี่เต๋าหรันในทันที

“ขอบคุณท่านอาจารย์ลุงหลี่!”

“ไม่เป็นไรๆ”

หลี่เต๋าหรันพยักหน้า

“ว่าแต่อาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด