ตอนที่แล้วย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 37 ฉิบหายแล้ว!!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 39 บัดซบ!! พวกมันจะตายง่ายกันเกินไปแล้ว

ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 38 พี่เป่าสุดยอดนักแสดง


ตอนที่ 38 พี่เป่าสุดยอดนักแสดง

หนิงซิวเย่ จางต๋าหมิงและทหารอีก 7 คน ลงจากรถฮัมวี่อย่างรวดเร็ว ทหารที่เดินทางมาครั้งนี้มีทั้งหมด 10 คน บวกกับหนิงซิวเย่ด้วยก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 คน

2 คน ได้รับหน้าที่เฝ้ารถเอาไว้

รวมแล้วทีมช่วยเหลือมีทั้งหมด 9 คน

ทหารที่ออกมาจากรถทุกคนต่างก็มีอาวุธครบมือ ปืน มีด ชุดเกราะ ทหารทุกคนมีพร้อมทุกอย่าง ส่วนหนิงซิวเย่ก็ใส่เพียงชุดเกราะอย่างเดียวเท่านั้น เธอใช้ปืนไม่เป็น แถมถ้าจะใช้มีดฆ่าซอมบี้สู้ใช้ดาบน้ำแข็งจากทักษะฆ่าพวกมันก็มีประโยชน์มากกว่า เพราะแบบนี้ เธอจึงใส่แค่ชุดเกราะเพียงอย่างเดียว

“พอระบุตำแหน่งคร่าวๆ ให้ได้ไหมครับ?”

จางต๋าหมิงถามหนิงซิวเย่

หนิงซิเย่พยายามใช้ความคิดของเธอ พูดตามตรง แค่จำได้ว่าน้องสาวของเธอเรียนอยู่ตึกตรงไหนมันก็สุดยอดมากแล้ว เพราะเธอมาที่นี่ก็แค่วันเปิดเทอมของน้องสาว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย

หนิงซิวเย่ใช้ความคิดอยู่สักพัก เธอพยายามเค้นจากความทรงจำให้มากที่สุดจากนั้นตอบว่า

“น่าจะชั้น 4 หรือไม่ก็ 5 ฉันเองก็จำได้ไม่แม่น”

“ครับ!!”

จางต๋าหมิงตอบรับ

ถึงจะไม่พอใจที่ตำแหน่งระบุแน่นอนไม่ได้ แต่ทำอะไรได้ เขาไม่อยากทำให้หนิงซิวเย่ไม่พอใจ เมื่อได้รับตำแหน่งชั้นจากหนิงซิวเย่ จางต๋าหมิงก็เริ่มจัดตำแหน่งการเดิน จางต๋าหมิงจัดให้ตัวเองและทหาร 3 คน อยู่ด้านหน้า ส่วนทหารอีก 4 คน ก็อยู่ด้านหลัง

ส่วนหนิงซิวเย่ เธอได้รับตำแหน่งให้อยู่ตรงกลาง

หนิงซิวเย่ไม่ได้ไม่พอใจอะไร เธอมาที่นี่เพื่อช่วยน้องสาว เธอไม่ได้มาเพื่อฆ่าซอมบี้เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวเอง และหากต้องการเพิ่มเลเวลจริงๆ เอาไว้ทำหลังช่วยน้องสาวของเธอมันก็ยังไม่สาย

หน่วยทหารเริ่มออกเดินอย่างช้าๆ ระหว่างทางก็มีซอมบี้วิ่งเข้ามาบ้าง แต่ซอมบี้ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ พวกทหารจึงสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างรวดเร็ว

ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงชั้นที่ 3

“ทหาร!! นั่นมันทหาร!!”

“ทหารมาช่วยพวกเราแล้ว!!”

“จริงด้วย!! พวกเรารอดแล้ว!!”

เมื่อพวกเขามาถึงชั้น 3 เสียงตะโกนของกลุ่มผู้ชายก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ

พวกที่ตะโกนเป็นกลุ่มของผู้ชายประมาณสิบกว่าคน แถมในหมู่พวกนั้นยังมีคนที่ตัวใหญ่กว่าคนอื่นๆ มันก็คือพี่เป่า พี่เป่าและพวกลูกน้องของมันลงมาชั้น 3 เพื่อมาแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

จางต๋าหมิงอดถอนหายใจไม่ได้หลังจากเห็นภาพด้านหน้า ก่อนมาที่นี่ จางหยานพ่อของเขาได้ย้ำเตือนแล้วย้ำเตือนอีกว่าคนที่ต้องช่วยมีเพียงน้องสาวของหนิงซิวเย่ คนอื่นๆ ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องช่วย

แต่พอมาเจอประชาชนที่ดีใจที่พวกเขาเจอทหาร จางต๋าหมิงก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ ทว่า เมื่อดูจากร่างกายของคนกลุ่มนี้บวกกับอาวุธประเภทท่อนไม้และท่อนเหล็กในมือ คนพวกนี้ก็ไม่น่าจะต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน

จางต๋าหมิงถามขึ้นว่า

“พวกคุณเป็นใคร? แล้วมาอยู่ในโรงเรียนได้ยังไง?”

พี่เป่าเดินมาอยู่หน้ากลุ่มคน จากนั้นก็ตอบว่า

“ พวกเราทำงานอยู่ที่โรงงานใกล้ๆ โรงเรียนมัธยมปลายนกน้อง พอเกิดเรื่องขึ้นพวกเราก็หนีซอมบี้จนมาที่ถึงที่นี่ พวกเรารู้ว่ากองทัพต้องมาช่วยแน่ๆ พวกเรารู้ว่ากองทัพของประเทศเราแข็งแกร่ง พวกเราเลยพยายามไม่ออกไปไหนและพยายามสร้างที่ปลอดภัย

“ตอนนี้เมื่อพวกคุณขึ้นมาที่นี่ ชั้นล่างก็คงไม่มีซอมบี้แล้วสินะ ส่วนชั้นบนหลังจากนี้มันมีซอมบี้จำนวนมาก พวกเรามีเพียงแค่ท่อนไม้และท่อนเหล็ก พวกเราไม่กล้าขึ้นไปชั้นบน ชั้นบนมันมีจำนวนซอมบี้มากเกินไป”

พี่เป่าเริ่มปั้นน้ำเป็นตัว

เมื่อครู่ เมื่อรู้ว่าพวกทหารมาถึงพี่เป่าก็คิดแผนอย่างรวดเร็ว มันเรียกลูกน้องตัวเองที่กำลังสนุกกับพวกผู้หญิงกลับมาในห้องและเริ่มวางแผน แผนของมันก็คือ ไม่ต้องให้พวกทหารเจอกับพวกนักเรียน

เพียงแค่พวกทหารไม่เจอกับพวกนักเรียน พวกทหารก็จะไม่รู้ว่ามันและพวกพ้องทำเรื่องเลวๆ อะไรเอาไว้ เมื่อทหารไม่รู้พวกมันก็ไม่โดนลงโทษ และการใช้ข้ออ้างอย่างมีซอมบี้จำนวนมากเพื่อไม่ให้พวกทหารขึ้นไปยังชั้นที่ 5 ชั้นที่ขังพวกนักเรียนเอาไว้ ข้ออ้างนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

จางต๋าหมิงมองหนิงซิวเย่ เขาไม่ได้กลัวซอมบี้แต่เขามองเธอเพราะต้องการให้เธอตัดสินใจ หากด้านบนเต็มไปด้วยซอมบี้จริงๆ น้องเธอคงไม่รอดแล้วแน่ๆ หากคิดตามหลักการปกติก็ควรหยุดและถอนกำลัง

“อย่างน้อยฉันก็ต้องการเห็นศพน้องสาวตัวเอง!!”

หนิงซิวเย่พูดด้วยน้ำเสียงตั้งมั่น

ได้ยินดังนั้น จางต๋าหมิงก็ไม่มีทางเลือกเขาเริ่มออกคำสั่งกับพวกทหารว่า

“พวกเราจะขึ้นไปด้านบน ครั้งนี้พวกนายสามารถใช้ปืนได้เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อน หากพวกเราสามารถยืนยันตัวตนเป้าหมายของพวกเราได้แล้ว พวกเราก็จะกลับทันที”

“ครับ!!”

ทหารทุกคนตอบรับคำสั่งพร้อมกัน

ทางด้านของพี่เป่าและคนอื่นๆ ตอนนี้พวกมันทำหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก บางคนก็ทำหน้าซีดขาวออกมา คนพวกนี้มันบ้าหรือไง!? ก็บอกไปแล้วว่าด้านบนมันมีซอมบี้เยอะพวกมันยังจะขึ้นไปกันอีก!?

พี่เป่าและคนอื่นๆ รู้ตัวดีว่าตัวเองต้องหยุดเอาไว้ เพราะหากพวกทหารไปเจอกับพวกนักเรียนพวกมันไม่รอดกันแน่ๆ กฎหมายประเทศจีนไม่ได้อ่อนเหมือนประเทศบางประเทศ การข่มขืนผู้อื่นก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ พวกสวะสังคมแบบนี้ ประเทศจีนจะตราหน้าว่าพวกมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นภัยต่อสังคมอีก

ระหว่างกำลังมองพวกทหารเตรียมตัวจากไป พี่เป่าก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รถฮัมวี่! ใช่แล้ว! พวกทหารมาที่นี่ด้วยรถฮัมวี่!! พี่เป่าได้แผนใหม่ทันที

พวกทหารด้านหน้าต่างก็มีอาวุธครบมือ ปืน มีด และเกราะป้องกันร่างกาย คนธรรมดาแบบพวกมันถึงจะมีเยอะกว่าเกือบเท่าตัวแต่ก็คงไม่ใช่คู่มือ เพราะงั้นเมื่อไม่สามารถหยุดเอาไว้ได้ ทางออกก็คือไปขโมยรถพวกทหารและหนีไป

รถฮัมวี่คันหนึ่งอัดคนได้ประมาณ 5 – 6 คน พวกที่อยู่นี่ก็ปาเข้าไป 9 คน เข้าไปแล้ว พวกที่เฝ้ารถอยู่ก็คงมีไม่เกิน 3 คน แทนที่จะสู้กับทหารพร้อมรบตรงหน้า พี่เป่ามันเลยเลือกไปเสี่ยงดวงขโมยรถฮัมวี่ดีกว่า

พี่เป่าปั้นหน้ายิ้ม จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

“คุณทหารระวังตัวกันด้วยนะครับ ด้านบนมันมีพวกซอมบี้เยอะจริงๆ แถมพวกซอมบี้ยังไวต่อเสียงด้วย ถ้างั้นพวกผะ-”

“หัวหน้า!! มีผู้หญิงกระโดดลงมาจากตึกครับ!! ซ่า…”

ก่อนที่พี่เป่าจะพูดจบ วิทยุในมือของจางต๋าหมิงก็ดังขึ้นมาก่อน คนที่ติดต่อกับจางต๋าหมิงตอนนี้ก็คือทหารที่ให้เฝ้ารถฮัมวี่เอาไว้

เมื่อได้ยินรายงานจากทหาร จางต๋าหมิงก็ชี้ปืนในมือของเขาไปที่พวกพี่เป่าและนักเลงคนอื่นๆ ก่อนจะตะโกนออกคำสั่งว่า

“คุกเข่าแล้วยกมือขึ้น!!!”

ทหารคนอื่นๆ เมื่อเห็นจางต๋าหมิงทำ พวกเขาก็ชี้ปืนตามไปเช่นกัน

พี่เป่าและพวกนักเลงหน้าซีด ใคร??? ใครมันกระโดดลงจากตึกตอนนี้???

พี่เป่าและพวกนักเลงต่างก็อยากฉีกร่างของคนที่กระโดดลงจากตึกออกเป็นชิ้นๆ พวกมันจะรอดแล้วแท้ๆ ดันมาทำให้พวกมันซวยซะได้

พวกนักเลงไม่มีทางเลือก ถึงจะไม่กลัวทหารแต่พวกมันก็กลัวปืน พวกมันทุกคนเริ่มทำตามคำสั่งของจางต๋าหมิงทันที พี่เป่าก็ทำด้วยเหมือนกัน

เหตุผลที่จางต๋าหมิงตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะเขาไม่ใช่คนโง่ พวกนี้บอกว่าชั้นบนมีซอมบี้จำนวนมากแล้วมันจะไปมีคนกระโดดลงมาได้ยังไง จะว่าโดดจากชั้น 1 – 2 ก็ไม่น่าใช่เพราะพวกเขาผ่านมาแล้วและไม่เจอคน จะว่าโดดจากชั้น 3 ก็ไม่น่าใช่ เพราะหากมีคนอยู่ชั้นนี้ คนคนนั้นก็ต้องมารวมตัวกับคนพวกนี้

จางต๋าหมิงยังไม่มั่นใจอะไรสักอย่างว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ตั้งแต่ที่เห็นคนพวกนี้ เขาก็บอกได้ทันทีว่าทำงานโรงงานเป็นเรื่องโกหกแน่นอน ร่างกายแบบพวกมันมีหรือทำงานโรงงาน บางคนก็มีแผลบนใบหน้า บางคนก็มีแผลที่ตา นี่มันไม่ใช่สภาพของคนที่ทำงานโรงงานเลยสักนิด

เมื่อครู่ จางต๋าหมิงไม่จำเป็นต้องสงสัยหรือถามให้มากความ เพราะพวกนี้จะโกหกไปมันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรต่อเขาและทีม

แต่เมื่อมีคนกระโดดลงมาจากตึกแบบนี้ จางต๋าหมิงคงไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ การที่มีคนกระโดดลงมาจากตึกก็หมายถึงยังมีคนอื่นๆ อยู่ชั้นบน และคนที่อยู่ชั้นบนอาจมีน้องสาวของหนิงซิวเย่อยู่ที่นั่นด้วย

จางต๋าหมิงเลยไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้

จางต๋าหมิงกดวิทยุและถามคำถามว่า

“คนที่กระโดดลงไปตายหรือยัง? หน้าตาเป็นยังไง?”

“ไม่รอดครับ!! ใบหน้าของเธอไม่เหมือนคุณหนิงไม่น่าจะใช่น้องสาวของเธอ ดูจากใบหน้าของเธอ เธอน่าจะเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ ด้วยสภาพร่างกายที่เห็นเธอคงกระโดดลงมาจากชั้น 4 เป็นอย่างน้อย แถมบนร่างกายของเธอยังมีน้ำอสุจิของผู้ชายติดอยู่ด้วยครับ ซ่า…”

ทหารรายงานตามที่เห็น

คนที่กระโดดลงจากตึกก็คือหญิงสาวโชคร้ายที่โดนพี่เป่าขมขื่นคนแรก เธอคิดว่าชีวิตตัวเองจบสิ้นแล้ว เธอเลยเลือกตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ต่ออย่างอัปยศ

เมื่อได้ยินรายงานจากทหาร จางต๋าหมิงก็พอปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้ ผู้ชายพวกนี้คงขมขื่นเธอและขังเธอเอาไว้ และเมื่อพวกมันไม่มีคนเฝ้าเธอ เธอก็เลยเลือกฆ่าตัวตายเพราะทนความอัปยศไม่ไหว

จางต๋าหมิงมองพวกที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นก็ถามขึ้นว่า

“ได้ยินคนของฉันรายงานมากันแล้วใช่ไหม ไอ้สารเลวตัวไหนที่มันขมขื่นเธอ!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด