ตอนที่แล้วบทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 26 พบกับสายเลือดราชสีห์ (Meet the lion Bloodline)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 28 ความไม่สงบในอาณานิคม (Colonial unrest)

บทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 27 แผนการของคุณหนูแห่งตระกูลสกาเล็ต (Young Lady of Scarlet Plan)


แผนการของคุณหนูแห่งตระกูลสกาเล็ต

(Young lady of Scarlet Plan)

ล้าหลังสุดในอองโทราล อันตรายเสียยิ่งกว่าโดสสเลเลน ดินแดนของเหล่าผู้หนีสงคราม สถานที่แห่งความตายของนักโทษ บ้านหลังใหม่ของผู้รักในผจญภัย และบ้านหลังแรกของชนพื้นเมือง พวกเขาคาดเรียกมันว่า อาริกาเซีย

เมืองอันสวยงามถูกก่อสร้างในบริเวณใกล้ทะเล เกิดเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ ซึ่งก็มีเมืองเช่นนี้เต็มไปทั่วขอบอาริกาเซีย ลึกเข้าไปในทวีปก็จะเจอเมืองขนาดเล็กกลาง จนไปถึงหมู่บ้าน และมันก็มีมากขึ้นทั่วปลายสุดของเขตแดน อาณานิคมขนาดใหญ่แห่งนี้คืออัญมณีแห่งสหจักรวรรดิลีโอเนีย

และเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแห่งนี้ก็คงไม่พ้น บอสตัน ซึ่งถูกตั้งชื่อตามตระกูลนักผจญภัย บอสตัน ไฟน์เดีย จากอาณานิคมที่เป็นเหมือนแค่แคมป์ที่พักเล็กกลางเกาะกลายมาเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่ตั้งของฝ่ายปกครองที่ถูกแต่งตั้งโดยสภาสูงแห่งลีโอเนีย หากเรียกเป็นเมืองหลวงของอาริกเซียก็คงจะได้

หาเป็นช่วงเวลาปกติแล้ว บอสตันคงเป็นเมืองที่สวยงามเช่นเดียวกับใบหน้าของชาวเมือง แต่ตอนนี้เมืองบอสตันนั้นกำลังอยู่ในความตึงเครียดอย่างยาวนาน ใบหน้าของชาวเมืองที่ไม่อยากจะอยู่ ใบหน้าของชาวเมืองที่อดยาก ผู้คนที่ผอมแห้งใกล้ที่จะหมดลมหายใจ ในขณะที่อีกกลุ่มของชาวเมืองที่ดูมีฐานะต่างไม่ได้อยู่ในสภาพที่ยํ่าแย่ และสุดท้ายก็คือกลุ่มชนชั้นสูง ตระกูลใหญ่และข้าราชการจากลีโอเนียที่ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ

ภายในเมืองบอสตัน เสียงเดินของชายสองคนที่สวมผ้าคลุมปกปิด จนไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครกันแน่ พวกเขาเดินตามถนนของเมืองไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าชาวเมืองหลายคนจะดูยํ่าแย่แต่ก็ไม่ได้ทำให้เมืองบอสตันกลายเป็นเมืองผีแต่อย่างใด เมืองบอสตันยังคงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งพ่อค้าจากสมาพันธ์การค้าและชาวเมืองที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

ทั้งสองเดินไปยังคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในเมืองบอสตัน หันมองตรวจสอบผู้คนรอบๆ ก่อนจะเปลี่ยนทางไปยังด้านหลังของคฤหาสน์ ก่อนจะคนที่อยู่ด้านหน้าจะเคาะประตูเบาๆ

“ผู้ใดกัน?” เสียงชายชราข้างหลังประตูของคฤหาสน์ดังออกมา

“ผมพาท่านริชาร์ด มาพบแล้วครับ” เสียงภายใต้ผ้าคลุมนั้นเป็นของผู้ชายอายุน้อย

ไม่นานประตูไม้ก็ถูกเปิดออก ทั้งสองเดินเข้าไปข้างในก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าวทักทายคนข้างใน

“กลับมาแล้วครับ คุณสมชาย” ชายหนุ่มถอดผ้าคลุมตัวเองออก สีผมนํ้าตาลและใบหูของสุนัข ใบหน้าที่เหมือนคนขี้กลัว บูลล์ ส่วนอีกคนเป็นชายชราอมนุษย์เช่นเดียวกับบูลล์หากเป็นหมาป่าแทน นามของเขาคือ ริชาร์ด ผู้นำกองกำลังแบ่งแยกไคโยตี

“ยินดีต้อนรับกลับบูลล์ ยินดีที่ได้พบท่านริชาร์ด เรียกข้าว่าสมชายก็พอแล้ว”

“เช่นกัน ประธานสมาพันธ์การค้า…” หมาป่าชราชะงัก “ ช่างน่าแปลก

คนสำคัญเช่นท่านกลับไม่มีคนคุมกัน ข้าสามารถปลิดชีพท่านได้ง่ายๆเลย

“ ฮ่าๆ ตัวข้าไม่ได้สำคัญอะไรมากเสียหน่อย อีกอย่างถึงข้าตายไป เดียวก็มีการเลือกประธานขึ้นมาใหม่อยู่ดี หึหึ” ลุงสมชายกล่าวอย่างไร้ความกลัว ซึ่งบูลล์ก็ได้แต่ถอนหายใจกับชายหน้าเงินคนนี้ ถือเกิดตายคนมาแล้วใครจะช่วยพวกเขากัน? อย่างน้อยช่วยคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองสักหน่อยก็ได้!

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหมาป่าชราจะรู้สึกได้ถึงปืนพกฟลินท์ล็อคที่ถูกเล็งโดยชายหนุ่มถูกเก็บลง เขาจึงไม่ได้ลงมืออะไร แน่นอนว่าลุงสมชายก็รู้ดีอยู่แล้วว่าบูลล์จะรีบเข้าปกป้องได้ทันอย่างแน่นอนหากหมาป่าชราตรงหน้ากล้าที่จะสังหารเขา

“เฮ้อ… ระวังโดนคุณไวท์บ่นจนหูชานะครับ” บูลล์เอ่ยเตือนลุงสมชายทันทีเหมือนบรรยากาศภายในห้องนั้นเริ่มตึงเครียด

“นั่นแหละ! เชิญนั่งเสียก่อนท่านริชาร์ด เรามาคุยเครื่องธุระสำคัญจะดีกว่า” ชายแก่ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ ในห้องรับแขก โดยมีบูลล์ที่ยืนอยู่ห่างๆ บนโต๊ะคือแผนที่ของเมืองบอสตัน แต่ที่น่าสนใจกว่าแผนที่ของเมืองก็คือ เป้าหมายที่ถูกเขียนเอาไว้ ไม่ช้าหมาป่าชราริชาร์ดกล่าวออกมาเป็นคนแรก

“คนของข้าได้ทำการลักลอบเข้าไปยังพื้นที่ทุกส่วน ที่สำคัญต่อแผนการของคุณหนูเฟลิเซียเรียบร้อย เหลือเพียงคำสั่งของท่านข้าก็พร้อมที่จะเข้าร่วมสู้ทันที” หมาป่าชราชะงัก “ของที่พวกท่านให้มาข้าก็เตรียมความพร้อมที่จะใช้งานแล้วเช่นกัน”

“ส่วนผมได้ยกอาวุธที่ถูกซ่อนเอาไว้ ให้กับกองกำลังแบ่งแยกเรียบร้อยแล้วครับ” บูลล์พูดเสริม

“เฮ้อ… ให้ตายสิ จะทำการวินาศกรรมภายในเมืองบอสตัน ก็อย่าทำให้ส่วนพ่อค้าบ้างจุดต้องเดือดร้อนหน่อยนะ ข้าไม่อยากที่จะดูแลพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นหลังร้านหรือสินค้าของพวกนั้นเสียหาย เพราะลูกหลงของแผนการเฟลิเซีย” ประธานแห่งสมาพันธ์การค้าถอนหายใจกับสิ่งที่กำลังจะขึ้นในไม่ช้า เพราะสุดท้ายที่ต้องส่งเงินมาช่วยคนที่โดนลูกหลงก็ไม่พ้นทางสมาพันธ์การค้าอยู่ดี

…แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเช่นกัน มือหยิบจดหมายที่เขียนถึงแผนการออกมาอ่านอีกครั้ง

แผนของคุณหนูเฟลิเซียคือการก่อวินาศกรรม ปล้นคลังอาวุธ สังหารบุคลากรสำคัญของลีโอเนีย แผนที่บนโต๊ะนั้นคือสถานที่ของกำลังทหารลีโอเนียที่ประจำการอยู่ในเมืองบอสตัน รวมไปถึงสุนัขรับใช้สหจักรวรรดิ อย่างไรก็ตามแผนการนี้ก็ไม่เรื่องหัวข้อหลักของการก่อวินาศกรรมในครั้งนี้

ประธานสมาพันธ์การค้ายกยิ้มกว้างที่สามารถทำให้หลายๆคนต้องรู้สึกไม่ดี เรือนจำเซอร์บีรุส พื้นที่ของเหล่าผู้ที่ถูกส่งมาในอาริกาเซีบ เรือนจำเซอร์บีรุสคือทัณฑนิคมของลีโอเนีย…

“เช่นนั้นเรามาเริ่มกันเลยไหมครับ?” บูลล์เอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทั้งสองไม่มีธุระอะไรเพิ่มเติม เขาอยากจะไปช่วยเหลือชาวเมืองที่มีโอกาสโดนลูกลงของแผนการคุณเฟลิเซีย

“นั้นสินะ” ริชาร์ดลุกยืนขึ้นก่อนจะกล่าวต่อ

“ข้าขอตัวไปดูผลงานก่อน อย่างไรก็ตามช่วยอย่าทำตัวขว้างทางด้วยก็แล้วกัน” หมาป่าชรากล่าวกับบูลล์เสร็จก็เดินออกจากข้างหลังคฤหาสน์ของลุงสมชายทันที ที่เขาพูดเช่นนี้ก็เพราะว่าบูลล์นั้นไม่เห็นด้วยกับแผนการของเฟลิเซีย เขาไม่เชื่อว่าการปลดปล่อยนักโทษออกมาจะเป็นเรื่องดี และการก่อวินาศกรรมก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีอีกด้วย

แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจให้กับใครได้เลย ขนาดไวท์ก็ยังไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ มันทำให้บูลล์รู้สึกเศร้าหมองลง ถ้าเกิดว่าเป็นคุณลาสเขาจะทำเช่นไรกันแน่?

……

.

.

.

.

.

.

ท่าเรือบอสตัน อาคารส่วนปกครองพิเศษแห่งลีโอเนีย

เป็นอีกวันที่เหล่าข้าราชแห่งลีโอเนีย ผู้ซึงถูกส่งมาทำงานในดินแดนอันล้าหลัง อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถรับเงินใต้โต๊ะได้เยอะเสียยิ่งกว่าทวีปบ้านเกินพวกเขา นั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าข้าราชเหล่านี้ไม่อยากกลับสหจักรวรรดิลีโอเนียก็เป็นไปได้

หน้าอาคารปกครองพิเศษ ทหารยามในเครื่องแบบสีแดงเวนิส ยืนเฝ้าหน้าทางเข้าอย่างไร้ระเบียบวินัยผิดแตกต่างจากทหารลีโอเนียทั่วไป เป็นอีกวันที่น่าเบื่อสำหรับทหารยามผู้นี้ นอกจากจะถูกส่งมายังทวีปสุดห่างไกลแล้ว เขายังได้งานที่น่าเบื่ออย่างเช่นเฝ้ายามอีก หากเป็นไปได้เขาอยากจะกลับไปยังบ้านเกิดโดยเร็วเสียจะดีกว่า

ขณะที่กำลังยืนเฝ้าด้วยอาการสะลึมสะลือ เสียงของชายก็เรียกสติเขา

“โอ้ว! ข้าขออภัยนายท่าน ข้าอยากจะสอบถามท่านเสียหน่อยขอรับ ข้ามาส่งของ ที่… ที่อาคารส่วนปกครองพิเศษ ท่านช่วยบอกทางให้ข้าหน่อยจะได้หรือไม่?” ทหารยามชาวลีโอในตอนแรกก็ตกใจแต่หลังจากที่เห็นอมนุษย์เผ่าสุนัขที่แต่งตัวเหมือนชาวอาณานิคม เขาก็เปล่งเสียงความไม่พอใจ

“เห้ย! ดวงตาแกบอดมองไม่เห็นหรือไง นี่นี้คืออาคารปกครองพิเศษ หัดใช้สมองซะบ้าง! แก่ควรที่จะเรียนรู้และจดจำในสมองน้อยๆของแก”

“ขะ ข้าขอประทานโทษจริงๆ ! ข้าจะจดจำไว้ชั่วชีวิตเลยขอรับ!” อมนุษย์สุนัขคนนั้นรีบก้มหัวขอโทษทหารยามก่อนจะรีบเข้าไปข้างในตัวอาคารอย่างรีบร้อน

ไม่นานนักอมนุษย์ผู้ส่งของก็รีบเดินออกจากอาคารอย่างรวดเร็วโดยที่มีเสียงด่าถอจากทหารยามตามติดจากด้านหลังของเขา “ชิ… พวกชั้นตํ่าไม่มีการศึกษา สมควรเป็นพลเมืองชั้นตํ่ากว่าทาสในลีโอ-”

อ๊ากก!! ตูมม!! เสียงที่เหมือนกับฟ้าร้อง พร้อมกับแรงดันจำนวนมาก แรงดันนั้นผลักไฟเผาไหม้ร่างของทหารยามที่ไม่ทันสังเกต อาคารอันสวยกลายเป็นซากเถ้าถ่าน ไฟที่โหมไหม้ไปทั่วท่าเรือ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ใกล้อาคารปกครองพิเศษต่างพากันร้องด้วยความเจ็บปวด อนิจจาเหล่าข้าราชการลีโอเนียผู้อยู่ข้างในไม่เหลือแม้ซากให้เก็บ

ภายในเมืองเกิดความวุ่นวายอย่างสุดขีด ทหารรอบตัวเมืองเริ่มเข้าควบคุมสถานการณ์การทันที หากแต่เมื่อกลุ่มทหารวิ่งเข้าท่าเรือนั้น ไม่เพียงแค่เจอกับความโกลาหลของฝูงชนที่หนีตาย แต่เป็นลูกปืนปริศนาที่สังหารสหายของพวกเขา

ปัง! เสียงปืนจำนวนตามบ้านเรือนที่ลับ สังหารทหารลีโอเนียอย่างโหดเหี้ยม กลุ่มผู้บุกรุกปริศนาเหล่านี้ยิงสังหารไปได้ไม่กี่นาทีก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!” “ข้าศึกบุก!” เสียงของเหล่าทหารลีโอเนียที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ศัตรูผู้บุกรุกที่ไหนมันกล้าจู่โจมภายในเมืองของสหจักรวรรดิกัน? หรือจะเป็นชนพื้นเมืองที่ลักลอบเข้ามาก่อความไม่สงบ? คำถามมากมายเกิดขึ้นภายในหัวของทหารลีโอเนีย

“ร้อยตรี! รีบไปบอกให้ทหารทุกหน่วยเข้าควบคุมสถานการณ์ในเมืองบอสตันเดียวนี้! ไปเรียกมาให้หมดทุกคนเลย!” หนึ่งในผู้การเรือของท่าเรือบอสตัน วิ่งเข้ามาสั่งนายทหารลีโอเนียที่กำลังตกใจและงงงวยไปชั่วขณะ แต่ก็รีบทำตามสายการบัญชาของพวกเขาอย่างเคร่งครัด

“เฮ้! พวกที่ยังทำหน้าที่ได้ หาพบผู้ต้องสงสัยไม่ต้องจับเป็น! สังหารพวกมันทันที!” คำสั่งจากปากของผู้การเรือลีโอเนียนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ตอนนี้พวกเขาไม่สนแล้วว่าจะเกิดอะไรกับเมืองบอสตัน ขอแค่ได้ล้างแค้นคนที่กล้าโจมตีพวกเขาก็พอแล้ว

เพียงแค่ 3 ชั่วโมง เมืองบอสตันที่สวยงามก็เต็มไปด้วยทหารชุดแดงของลีโอเนีย เสียงปืนยังคงได้ยินอยู่เป็นระยะ นอกจากการสังหารโดยปืนคาบศิลาแล้วระเบิดเพลิงก็ถูกใช้งานกับตึกสำคัญของชาวลีโอเนียอีกด้วย ความตึงเครียดของอาณานิคมถูกเร่งถึงขีดสุด กองกำลังทหารเข้าควบคุมทุกส่วนของเมือง

พวกเขาสังหารชาวเมืองที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยที่ไม่รู้เลยว่าบางคนนั้นเป็นเพียงแค่ชาวอาณานิคมที่บริสุทธิ์ พวกเขากลับต้องมารับความโกรธของเจ้าอาณานิคมแทนผู้ก่อวินาศกรรมที่แท้จริง

มาตรการบังคับหรือจำกัดการเดินทางเริ่มถูกใช้งาน ปิดกันไม่ให้ชาวเมืองออกไปไหน และปิดไม่ให้ใครเข้าเมืองทำให้ไม่มีพ่อค้าหรืออาหารเข้าเมือง แน่นอนว่าหากกองกำลังลีโอเนียยังคงปิดอยู่แบบเช่นนี้อีกไม่กี่วัน สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาอดยากมากกว่าเดิมหลายเท่า

นี่คือการลงโทษเขงเจ้าอาณานิคมที่โกรธเกรี้ยวจริงแน่หรือ? แต่ท้ายที่สุด

ยิ่งความโกรธของเจ้าอาณานิคมมากเท่าใด 

ความแค้นของผู้ที่อยู่ใต้เท้าก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

……

.

.

.

.

.

.

กลิ่นแห่งความตาย ทัณฑนิคมบนอาริกาเซีย แคมป์ไม้ขนาดใหญ่ที่เหมือนกับหมู่บ้านขนาดกลาง ตั้งอยู่กลางป่าลึก กำแพงไม้สูงที่ไม่ได้มีไว้เพื่อกันผู้บุกรุกหากเป็น กันเพื่อคนข้างในออก ข้างในแคมป์แห่งนี้ติดกับเหมืองแร่ และคนที่ขุดแร่พวกนั้นขึ้นมาก็คือเหล่านักโทษผู้ผอมแห้ง

อย่างไรก็ตามเรือนจำแห่งในตอนนี้ได้ต่างออกไปจากเดิม กองเลือดและซากศพจำนวนมาก ถูกลากมากองรวมกันมืออันอ่อนแอโดยนักโทษ ศพของเหล่าผู้คุมและทหารลีโอเนียจำนวนมากถูกสังหารโดยกลุ่มกำลังปริศนา

“ผมขอบคุณพวกคุณที่ปลดปล่อยพวกเราออกจากนรกแห่งนี้ แต่ผมอยากจะรู้ว่าทำไมพวกคุณถึงได้ช่วยเหลือพวกเรากัน? คุณกล้าที่จะสู้กับมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนอองโทราลอย่างนั้นหรือ?” นักโทษผู้มีร่างกายเล็กและดูอดอาหารมานานกล่าวกับกองกำลังปริศนา ผู้ที่เช็ดอาวุธปืนของเขาอยู่

“แล้วนักโทษอย่างพวกเจ้า ที่เป็นชาวเดียวกับโลกเก่า เหตุใดถึงถูกจับขังเหมือนกับอันเดดที่ไร้ความหวัง” ชายคนหนึ่งของกองกำลังปริศนากล่าวคำถามกลับ

“พะ เพราะว่าพวกผมต่อต้าน สภาสูง… ขุนนางและข้าราชที่เป็นภัยต่อพวกเขาล้วนถูกส่งมาตายบนโลกใหม่ พวกเขาใส่ร้ายข้าและเพื่อนของข้า จนถูกส่งมานักโทษเหมืองแร่… มันคือการสังหารยกตระกูล…  ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยนํ้าตา ต่อให้พวกเขาถูกปลดปล่อยจากการเป็นนักโทษ แต่สุดท้ายแล้วสหจักรวรรดิก็จะส่งกองทหารมาสังหารพวกเขาอยู่ดี

“งั้นพวกเจ้าก็เป็นศัตรูต่อสหจักรวรรดิ!” เขายืนปกไปที่อกของอดีตนักโทษและกล่าวด้วยนํ้าเสียงที่หนักแน่น

“ตั้งแต่พวกเจ้าได้ก้าวมายังดินแดนแห่งโอกาส พวกเจ้าก็คืออิสรเสรีชนแล้ว!! ทิ้งอดีตบ้านเกินอันโหดร้ายของพวกเจ้าเสีย! นี่คือโอกาสของพวกเจ้าที่จะได้ลุกขึ้นจากเถ้าธุลี และเฉิดฉายบนหน้าเรื่องเล่าของความหวัง!” การพูดของเขาทำให้นักโทษหลายคน เริ่มมีใจกันมากขึ้น แต่พวกเขาก็ยังมีความลังเลอยู่บ้าง

นั้นก็เพราะว่า เหล่านักโทษเหล่านี้ล้วนรู้ถึกความสามารถของสหจักรวรรดิลีโอเนีย เป็นอย่างดี พวกเขาเกิดที่นั่น พวกเขาทำงานที่นั่น พวกเขาเคยภูมิใจกับการเรียกตัวเองว่าเป็นผู้รับใช้ลีโอเนีย หากแต่ตอนนี้เต็มไปด้วยความผิดหวังแทน

“แล้วพวกเราจะไปช่วยอะไรได้กันครับ?” อดีตนักโทษกล่าวด้วยนํ้าเสียงที่สั่นกลัวเหมือนยังไม่แน่ใจ

“การศึกษา และ ข้อมูล”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด