Ep.65 - โรคจิตสวมหน้ากาก

1/3

Ep.65 - โรคจิตสวมหน้ากาก

เจียงเฉิงเป็นเมืองใหญ่ที่สร้างขึ้นขนาบแม่น้ำแยงซี (มีสองฝั่งโดยมีแม่น้ำสายใหญ่คั่นกลาง)

การที่หมอกลงตัดผ่านสะพาน และมีเรือผีอยู่ในน้ำ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก

พวกเถ้าแก่ใหญ่และคนระดับสูงในเจียงเฉิงให้ความสำคัญกับมันเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เรือบรรทุกทหารกำลังทยอยกันแล่นไปยังสะพานแม่น้ำแยงซี

เหล่าทหารติดอาวุธมากมายถูกส่งไป การเคลื่อนพลของพวกเขา ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์!

สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีจะหายไปไม่ได้! มิฉะนั้นการจราจรระหว่างเมืองทั้งสองฟากจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง!

ริมน้ำในรัศมีสิบไมล์ได้รับการจัดตั้งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย คนที่อาศัยอยู่ข้างใน ส่วนใหญ่ได้รับการอพยพชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ๆอยู่วงนอกรัศมีขณะนี้ กลับเต็มไปด้วยฝูงชนที่เข้ามาดูความสนุกสนาน

“เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง ทุกอย่างชามละ 8 หยวนจ้า!”

“น้ำแร่! น้ำโค้ก! สไปรท์! เย็นๆจ้า”

“เห็นท้องฟ้านั่นไหมพี่ชาย? ฝนกำลังจะตก ซื้อเสื้อกันฝนไปซักตัวสิ!”

ฮังอวี่อึ้งเมื่อพบว่าที่นี่มีคนอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาสามสี่คนกำลังถือกล้องถ่ายวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่ตั้งร้านขายเครื่องดื่มและอาหารว่างบนรถสามล้อขนาดเล็ก

เชี่ยเถอะ! นี่ไม่กลัวตายกันรึไง!? พวกเขาไม่รู้ตัวกันเลยหรือว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย!

พวกรัฐบาลเล่า? พวกผู้บริหารของเมืองไม่มีใครคิดสนใจเลยหรือ!

ฮังอวี่ประเมินข่าวลือและความอยากรู้อยากเห็นของพลเมืองต่ำไป

แต่ท้ายที่สุดแล้ว เนื่องจากที่นี่มีทั้งสกายเน็ต , กองทัพ และสมาคมโลกวิญญาณอยู่เบื้องหน้า ไหนจะตำรวจติดอาวุธที่คอยรักษาความปลอดภัย และระยะห่างจากแม่น้ำเกือบ 10 ไมล์

ทำให้ดูอย่างไรก็ไม่น่ามีอันตราย หลายคนที่สอดรู้สอดเห็น อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในแม่น้ำกันแน่? เรือผีลึกลับคืออะไร? พากันแวะเข้ามารับชมความสนุก

แน่นอน คนที่มาที่นี่ไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาเพื่อความสนุกสนาน

ฮังอวี่พบจุดลงทะเบียน เขากรอกเอกสาร แและลงนามปฏิเสธความรับผิดชอบหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับตนเอง

มีแต่ต้องทำแบบนี้ ถึงสามารถเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างอิสระ

สมาคมโลกวิญญาณและพลเมืองไม่กลัวตายข้างใน ทั้งหมดล้วนเข้าไปโดยผ่านช่องทางนี้

ฮังอวี่กรอกข้อมูลเสร็จก็ได้รับบัตรผ่านมา แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นข้างหูเขา “ดูนั่น! นั่นคนของสกายเน็ต!”

“นั่นเทพธิดาเหลียงชิวที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์!”

หน่านี๊?

ฮังอวี่หันมองตาม และพบรถจิ๊ปสีดำขับเข้ามายังพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมกับมีสามคนเดินลงจากรถ

พวกเขาไม่ใส่ชุดทหาร ไม่ได้แต่งตัวเป็นตำรวจ แต่สวมเสื้อกันลมตัวยาวสีดำ สะพายอาวุธติดตัว และพวกมันเป็นอาวุธจากโลกวิญญาณ ดูเท่สุดๆ

หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง หน้าอกและบั้นท้ายนูนทะลุเสื้อกันลม ดูเซ็กซี่และร้อนแรง

เธอมีผมสั้นยาวถึงแค่ช่วงไหล่ อากัปกิริยากล้าหาญและหน้าตาดูมีเสน่ห์โดดเด่นเหนือใคร

บุคคลนี้มิใช่ใครอื่น เป็นเหลียงชิว รองหัวหน้าทีมปฏิบัติการที่เจ็ดของสกายเน็ต

ข้างกายเธอคือเหลียงตง ชายร่างสูงหน้าตาดุดัน วันนี้สองพี่น้องติดตามชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ดูจากการที่พวกเขายืนอยู่เบื้องหลังคนๆนั้นแล้ว คาดว่าสถานะของอีกฝ่ายน่าจะสูงกว่า

คนหน้าสุดดวงตาเฉียบแหลมราวกับนกอินทรี ไม่ว่าจะนั่ง นอน เดิน ยกแขนหรือขยับเท้า ทุกการกระทำให้อารมณ์แบบเดียวกับทหารเหล็กไหล

โชคไม่ดีจริงๆ ดันมาเจอคนรู้จักเข้าซะได้ ต้องหลบก่อนพวกเขาจะมองเห็น!

แต่จะแอบยังไง? ใช้สกิลล่องหนหรือ? นั่นไม่ฉลาดเอาซะเลย เพราะมันมีระยะเวลาแสดงผลแค่ 30 วินาที เกรงว่าจะไม่เพียงพอ

ฮังอวี่เกาแก้ม ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาหันไปมองรอบๆ ก่อนหยุดสายตาตรงแผงลอยร้านหนึ่ง แล้วก้าวเข้าไป

“หน้ากากอุลตร้าแมนตัวนี้ราคาเท่าไหร่?”

ลุงแผงลอย “ถูกๆ แค่ 80 หยวน!”

“80 หยวน!? นั่นยังเรียกว่าถูกอีกหรอ?” ฮังอวี่ตกใจมาก พูดต่อว่า “นี่มันรีดไถกันชัดๆ!”

“เฮ้ เฮ้ เจ้าหนุ่มพูดงี้ได้ไง? นายไม่รู้หรอว่าเดี๋ยวนี้สินค้ามันหายากขนาดไหน? ของพวกนี้ไม่มีสต็อกแล้ว วันนี้ราคา 80 หยวน แต่อีกไม่กี่วันราคาจะขึ้นเป็น 100 หยวน!”

ฮังอวี่ลองคิดตาม และพบว่าลุงขายของพูดถูก

โครงข่ายคมมาคมของมนุษย์แทบจะเป็นอัมพาต ทุกเมืองใหญ่มีสภาพไม่ต่างจากเกาะที่ถูกแยกตัวอย่างโดดเดี่ยว

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนั้น แน่นอนว่าสินค้าจากผู้ผลิตย่อมไม่สามารถนำเข้าหรือส่งออก ตัวแทนจำหน่ายและผู้ค้าปลีกในทุกระดับชั้นไม่สามารถซื้อสินค้าเข้าสต็อก

อีกอย่างค่าเงินในปัจจุบันนับวันยิ่งด้อยค่าลง ใครที่พอมีความรู้ด้านเศรษศาสตร์นิดๆหน่อยก็น่าจะพอเข้าใจ

เมื่อเงินค่อยๆสูญเสียสภาพคล่อง วิกฤตเศรษกิจร้ายแรงจะเกิดขึ้น 100% ได้ตลอดเวลา

สินค้าทุกชนิดไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานจะเปลี่ยนไปอย่างมาก

ด้วยการปรากฏขึ้นของโลกวิญญาณ ส่งผลให้เงินขาดสภาพคล่อง หากปล่อยทิ้งไว้โดยที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ สุดท้ายเงินก็จะไร้ค่าเหมือนกระดาษ เกรงว่าเศรษฐกิจคงพังทลาย

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาทรัพย์สินจากโลกวิญญาณถึงได้แพงนัก

“ช่างเหอะ แปดสิบก็แปดสิบ ผมขอซื้อหน้ากากอุลตร้าแมน”

ฮังอวี่จ่ายเงินผ่าน Wechat ยื่นสลิปออนไลน์ให้ลุงแผงลอยดู สวมหน้ากากอุลตร้าแมนแล้วเดินจากไป

...

ขณะนี้สองพี่น้องตระกูลเหลียงกำลังติดตามชายสายตาเฉียบแหลม

เหลียงชิวกวาดมองฝูงชน สังเกตประชาชนที่ทยอยกันตบเท้าผ่านทางเข้าไม่หยุดหย่อน ในสายตาเริ่มแสดงถึงความกังวล

“หัวหน้าทีมลั่ว มันเหมาะสมแล้วหรือที่เราปล่อยให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงภัย?”

เหลียงตงกล่าวว่า “ผมก็ติดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาล่ะ!”

“สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างพิเศษ บางเรื่องพวกเราก็ห้ามไม่ได้ คนในมือเรามีน้อยเกินไป” หัวหน้าทีมลั่วส่ายหัว “ทุกวันนี้สถานการณ์นับวันยิ่งแย่ลง พวกเราไม่สามารถปกป้องทุกคนได้ ประชาชนต้องเติบโตด้วยตัวเอง และราคาของการเติบโตที่ว่าย่อมต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง”

สองพี่น้องตระกูลเหลียงเงียบ

ก่อนเข้าร่วมสกายเน็ต คนหนึ่งเป็นตำรวจสายอาชญากรรม อีกคนเป็นหน่วยสวาท สองพี่น้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีสำนึกในความยุติธรรม เลยรู้สึกแย่ที่ต้องจำใจปล่อยเลยตามเลยแบบนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หัวหน้าทีมลั่วพูดเป็นความจริง คนของสกายเน็ตยังคงน้อยเกินไป

“ไม่ต้องกังวล ทุกวันนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ในหมู่ประชาชนก็มียอดฝีมือแฝงตัวอยู่เช่นกัน อย่างคนที่ช่วยชีวิตพวกนายครั้งก่อน เขาไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีหรอกหรอ? พวกนายไม่ควรดูถูกความสามารถของประชาชน” กล่าวถึงจุดนี้ หัวหน้าทีมลั่วดูเสียใจเล็กน้อย “น่าเสียดายที่เราไม่รู้ตัวตนของเขา มันคงจะดีถ้าสกายเน็ตสามารถดึงยอดฝีมือแบบนั้นมาเข้าร่วมได้”

แต่ในขณะนั้นเอง เกิดเสียงหัวเราะขึ้นในฝูงชน

ทั้งสามมองตามทิศทางเสียงและอึ้งไป

ณ ขณะนี้ ชายสวมหน้ากากอุลตร้าแมน กำลังเดินผ่านประตู เข้าสู่เขตเสี่ยงภัย

หลังจากเขาเข้ามาในเขตเสี่ยงภัยแล้ว ก็ตรงไปขึ้นคร่อมจักรยานสาธารณะ ขับผ่านคนของสกายเน็ตทั้งสาม พร้อมผิวปากอย่างผ่อนคลาย

เหลียงชิว “...”

เหลียงตง “...”

หัวหน้าทีมลั่ว “...”

ทั้งสามตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศน่าอึดอัดดำเนินต่อไปพักหนึ่ง

สุดท้ายหัวหน้าทีมลั่วกระแอมแล้วพูดว่า “เอ่อ ก็โลกมันเปลี่ยนไปแล้วนี่เนอะ หลายคนอาจจิตใจไม่มั่นคง บางครั้งเลยมีคนโรคจิตออกมาเพ่นพ่านเป็นธรรมดา พวกเราอย่าเข้าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่า”

...

ฮังอวี่สามารถเข้ามายังพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างราบรื่น

เขาขี่จักรยานกว่า 20 นาที สุดท้ายก็มาถึงริมแม่น้ำ

เจ้าตัวพบว่ายิ่งเข้าใกล้แม่น้ำ หมอกก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนที่โลกยังสงบสุข บริเวณนี้เรียงรายได้ด้วยอาคารสำนักงานสุดหรู และวิลล่าวิวแม่น้ำสุดแพง

นับเป็นความใฝ่ฝันของคนหนุ่มสาวมากมายในเจียงเฉิง

แต่สำหรับตอนนี้เล่า? เหอะ เหอะ  ที่นี่กลายเป็นรกร้างและว่างเปล่า วัชพืชขึ้นเต็มไปหมด แถมหมอกก็หนา บรรยากาศเงียบสงัดอย่างกับสถานที่แห่งนี้ได้ตายไปแล้ว

ฮังอวี่รู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้เข้ามาอยู่ในโลกของภาพยนต์เรื่อง Silent Hill!

ฮังอวี่คิดว่าอาจารย์ซูและยอดฝีมือของสมาคมโลกวิญญาณเองก็น่าจะอยู่ที่นี่เช่นกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่บริเวณไหน

แต่ในเวลาสั้นเอง ร่างของสิ่งมีชีวิตที่กระดูกสันหลังโค้งงอ จนเวลายืนต้องโก่งตัวมาข้างหน้าตนหนึ่ง ได้ปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอกขาว

ฮังอวี่เบบนสายตามองมัน และผู้มาเยือนมิใช่ใครอื่น แต่เป็น ‘มนุษย์ปลาคนงาน’ ที่เขาเคยเห็นในเน็ต

มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาไม่ต่างจากก็อบลิน เป็นแค่มอนสเตอร์อ่อนแอเลเวล 1

ฮังอวี่สังเกตเห็นอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็สังเกตเห็นฮังอวี่เช่นกัน

มนุษย์ปลาส่งเสียงฟู่แปลกๆ มันถือค้อนแล้วกระโจนเข้ามายังตำแหน่งของฮังอวี่

วูซซซ!

คมมีดทอประกายเย็นยะเยือก มนุษย์ปลาคนงานล้มฟุบลงกับพื้น มีดเสียบคากลางหน้าผากมัน โดยเหลือเพียงด้ามมีดที่ยังอยู่ฝั่งด้านนอก คมมีดส่วนที่เหลือเจาะเข้าไปในกะโหลก

เพียงการโจมตีเดียวก็สามารถสังหารมันลงได้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฮังอวี่เป็นถึงนักรบเลเวล 3

ขณะที่ศัตรูเป็นเพียงมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 1 เท่านั้น

ฮังอวี่เพียงขว้างมีดบินเต็มกำลัง เล็งเข้าจุดสำคัญ ก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารมันลงได้

เอี๊ยดดด!

จักรยานเบรกกะทันหัน

ฮังอวี่จอดหน้าศพมนุษย์ปลาคนงาน และได้เห็นรูปร่างเต็มๆของมัน

ร่างกายของมันมีสภาพเหมือนครึ่งคนครึ่งปลา นอกจากค้อนในมือแล้ว ก็ไม่ได้สวมอุปกรณ์อะไรอีก

ผิวหนังของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดปลา ระหว่างฝ่ามือ ฝ่าเท้า และนิ้วเท้า มีเยื่อหุ้มบางอย่างที่เหมือนใยเป็ด ส่วนหัวโตเหมือนปลาตาย น่าเกลียดสุดๆ!

ฮังอวี่หยิบค้อนขึ้นมา โยนมันเข้าพื้นที่เก็บของผ่านผู้ช่วยโลกวิญญาณ ตรวจสอบคุณสมบัติ

[ค้อนเหล็กคนงานสภาพเสียหาย] อุปกรณ์เลเวล 1 การโจมตีทางกายภาพ +1 ค่าความทนทาน 2/10

ฮังอวี่ขมวดคิ้ว ค้อนเหล็กนี่ตกอยู่ในสภาพเสียหายยับเยิน ที่น่าสะเทือนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ค่าความทนทานของมันเหลือน้อยมาก

ฮังอวี่ประเมินว่าที่เป็นแบบนี้คงเพราะมันเกิดความเสียหายในตอนฝืนฝ่าบาเรียอุปสรรคของโลกมนุษย์เข้ามา

มูลค่าของอุปกรณ์ชิ้นนี้แม้ไม่สูงมาก แต่ก็ยังพอสามารถนำไปขายแลกเงินได้ หรือไม่ก็นำไปให้ย่าหวางย่อยสลายและรีไซเคิลเอาวัสดุบางส่วนของมันกลับมา

หรือหากโชคดี อาจย่อยสลายได้เป็นหินคริสตัลเทา