ตอนที่แล้วEp.63 - เรือผีบุกเจียงเฉิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.65 - โรคจิตสวมหน้ากาก

Ep.64 - ทำตัวเงียบไม่เตะตา


2/2

Ep.64 - ทำตัวเงียบไม่เตะตา

เปิดมาด้วยคำว่า ช็อค! เช่นเคย ดูเหมือนนี่จะเป็นคำนำหน้าเพื่อใช้ดึงดูดความสนใจของผู้คนไปซะแล้ว

ฮังอวี่อ้าปากเตรียมจะดุเจ้าหมาที่ทำตัวแตกตื่นเกินจำเป็น แต่สายตาเขาหันไปเห็นรายละเอียดเสียก่อน  “หือ ... แปลกจริง นี่มันบัญชีทางการของสมาคมโลกวิญญาณไม่ใช่หรอ?”

โพสต์ที่ใช้ลูกเล่นดึงดูดคนอ่านนี้ แท้จริงแล้วมาจากสมาคมโลกวิญญาณ?

สมาคมโลกวิญญาณพึ่งก่อตั้งขึ้น ดังนั้นพวกเขาไม่ควรล้อเล่นหรือทำอะไรให้เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือ

โพสต์นี้น่าจะอัพลงเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่มันมียอดถูกใจถึง 100K และส่งต่ออีกกว่า 10K

จากมุมมองทางการตลาด นี่คือโพสต์ที่ได้รับความนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เห็นได้ชัดว่าสมาคมโลกวิญญาณไม่ได้ใช้สิ่งนี้เพื่อทำการตลาด สามารถกล่าวได้ว่าเรื่องนี้โพสต์ขึ้นเพื่อกระตุ้นเตือนชาวเมืองเจียงเฉิงให้ระวัง

ฮังอวี่ขังตัวเองอยู่ในห้องกลั่นยาตลอดทั้งคืน ดังนั้นไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย

“เหมือนจะจำได้ว่าอาจารย์ซูก็เคยชวนฉันสำรวจพื้นที่เลียบแม่น้ำเหมือนกัน”

“หรือว่าเรื่องที่เธอพูดจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?”

ฮังอวี่ยกมือขึ้นลูบคาง จมอยู่ในห้วงความคิด ก่อนเริ่มกดเข้าอ่านเนื้อความของโพสต์อย่างรวดเร็ว

สามวันก่อน หลายพื้นที่แถบแม่น้ำแยงซีเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น จู่ๆในหลายจุดเริ่มมีละอองหมอก และหลายแห่งหมอกหนาเป็นพิเศษ หนาชนิดที่ว่าหากก้มหน้าลง จะไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือตัวเอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

แต่ท่ามกลางยุคสมัยเช่นนี้ วิทยาศาสตร์จะอธิบายเหตุผลได้ซักกี่เรื่องกัน? ตอนนี้พวกเรายังพึ่งพาวิทยาศาสตร์ได้อีกหรือ?

เหตุการณ์นี้ตอนแรกไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก จนเมื่อวานจู่ๆก็มีการค้นพบครั้งสำคัญ และมันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน

เรือผีลึกลับไม่ทราบที่มาปรากฏขึ้นบนแม่น้ำแยงซี มีหลายลำล่องมาตามแม่น้ำเมืองเจียงเฉิง ถูกประชาชนหลายคนพบเห็น ถ่ายรูปและอัปโหลดวิดีโอลงกระทู้ของเมืองเจียงเฉิง

หลังเริ่มเกิดเรื่องได้วันสองวัน ก็มีข่าวลือเกิดขึ้นมากมาย ในกระทู้ประจำเมืองเจียงเฉิงเกิดข้อถกเถียงเป็นวงกว้าง ดังนั้นเพื่อประกาศข้อมูลที่ถูกต้อง ข้อความนี้จึงถูกโพสต์ผ่านบัญชีทางการของสมาคมโลกวิญญาณ

“เรือผี?”

“เรื่องแปลกๆแบบนี้ก็มีแฮะ”

ฮังอวี่งุนงง แต่ลึกๆก็เกิดความสนใจ เขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง

หวังเอ๋อยืนแลบลิ้นอยู่นาน เห็นแบบนั้นก็ยื่นหน้าสุนัขเข้ามาใกล้ “ฮ่ง! ลองเลื่อนลง มีวิดีโอด้วย!”

ฮังอวี่ดันหัวหวังเอ๋อกลับไป จากนั้นคลิกวิดีโอหลายรายการตามลำดับ

วิดีโอเหล่านี้ถูกถ่ายไว้ได้โดยชาวเจียงเฉิงจากสถานที่ต่างๆ

เวลาที่ถ่ายได้เป็นช่วงพลบค่ำ เหนือผิวน้ำเต็มไปด้วยละอองหมอกจางๆ ทำให้มองไม่ค่อยชัด แต่ก็ยังพอสามารถระบุรูปลักษณ์ของเรือได้

จากโครงสร้าง วัสดุ และรูปทรง ล้วนมีสไตล์ที่เป็นมนต์ขลัง ตัวเครื่องทำจากไม้ มีเสากระโดงสูง และมีกะโหลกวาฬขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ตรงหัวเรือ บนเรือเต็มไปด้วยการประดับตกแต่งที่ดูแปลกตาและเข้าใจยาก เหมือนหลุดมาจากในหนัง

คนสมัยใหม่ไม่มีทางใช้เรือแบบนี้แน่ๆ และปรากฏการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น มีผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก นี่ย่อมทำให้เกิดข่าวลือและความตื่นตระหนกบนเน็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

มันคือเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยประสบมาก่อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงตัดสินใจอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หมอกออกมาเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ส่งโดรนสำรวจและเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจมัน

ทางสมาคมโลกวิญญาณเองก็มีแผนที่จะจัดตั้งหลายทีมเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เช่นกัน

“ที่มั่นใจได้ก็คือ”

“นั่นไม่ใช่เรือมนุษย์อย่างแน่นอน”

“แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ธรรมดา พวกมันก็ไม่น่าจะสามารถสร้างเรือได้เช่นกัน ดังนั้นข้อสรุปเดียวก็คือ สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากโลกวิญญาณได้ถูกส่งเข้ามาในโลกมนุษย์ สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน ...”

ฮัสกี้เห็นฮังอวี่เอาแต่พึมพำกับตัวเองก็อดถามขึ้นไม่ได้ “ฮ่ง! เจ้านาย โลกเรากำลังถูกเอเลี่ยนบุกใช่ไหม? แล้วเปิ่นหวังฉลาดแบบนี้ แถมยังเป็นหมามากพรสวรรค์อีก จะไม่ถูกพวกมันจับไปผ่าร่างศึกษาเอาหรอ?”

ฮังอวี่เหม่อมองมัน  “เจ้าหมาโง่ นี่นายเริ่มดูหนังแนววิทยาศาสตร์แล้วหรอ?”

“เรื่องเอเลี่ยนจะจับนายไปผ่ารึเปล่า อันนั้นฉันไม่รู้ แต่ถ้ายังไม่หยุดพูด ฉันนี่แหละจะจับนายไปเชือดจริงๆ”

“แล้วอีกอย่าง นายโง่รึเปล่า ต่อให้พวกมันคิดจะจับจริงๆ สิ่งแรกที่จะถูกจับไปคือมนุษย์ ไม่ใช่หมา”

“ยังไงก็ตาม รอยร้าวจากโลกวิญญาณในตอนนี้ยังถือว่าแคบมาก ตัวตนที่ทรงพลังมากๆยังไม่สามารถข้ามมาได้ ดังนั้นต่อให้มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาถูกส่งข้ามมา ตอนนี้น่าจะยังอ่อนแออยู่”

“ฮ่ง! ที่แท้ในเวยป๋อก็โพสต์เป็นตุเป็นตะ ขู่หมากลัวแทบตาย!”

พอทราบข่าวดี ฮัสกี้ส่ายหางอย่างมีความสุขและเอ่ยว่า “สบายใจละ งั้นเปิ่นหวังขอไปเล่นเกมต่อนะ”

ฮังอวี่ดุทันที “เล่นเกมอะไร? วันนี้นายเรียนครบ 8 ชั่วโมงแล้วรึยัง? จำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ไหม?”

“วันนี้เปิ่นหวังท่องจำได้ 300 คำแล้ว เจ้านายอยากฟังสำเนียงลอนดอนแท้ๆของเปิ่นหวังไหม” หวังเอ๋อกระแอม เตรียมร้องแสดง

“ฮ่ง! เปิ่นหวังจะร้องเพลงโฟล์คภาษาอังกฤษให้เจ้านายฟัง!”

“หร่า รา รา ร๊าาาา ---”

ฮังอวี่ไม่ได้อยากฟังสำเนียงลอนดอน และเขายิ่งไม่อยากฟังหมาร้องเพลง!

หลังจากจับฮัสกี้โยนออกจากห้องแล้ว เขารีบเปิดโน๊ตบุ๊คที่ซื้อมาใหม่และลงชื่อเข้าระบบกระทู้ทันที

พิจารณาจากที่มันเป็นกระทู้ร้อนแรง แสดงว่าเหตุการณ์นี้สร้างความปั่นป่วนให้เจียงเฉิงจริงๆ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เจ้าสิ่งประหลาดที่เหมือนเรือนั่น มันเกิดจากอารยธรรม

การที่มันปรากฏขึ้นนั้นเหมือนกับการปรากฏตัวของมอนสเตอร์หรือไม่?

แน่นอนว่าไม่!

มนุษยชาติไม่เคยมีการค้นพบเบาะแสของอารยมธรรมจากต่างดาวในบนโลกใบนี้มาเป็นเวลานับพันปีแล้ว การที่จู่ๆมันปรากฏขึ้น เกรงว่าประวัติศาสตร์ที่กำลังถูกเขียนขึ้นใหม่จะพลิกผันไปตลอดกาล

ใช้เวลาไม่นาน ฮังอวี่ก็เจอข่าวกรองและวิดีโอล่าสุดในกระทู้ ปรากฏว่าหลังจากที่เรือผีสิงโผล่มาบนแม่น้ำ มีคนกล้าตายมากมายอยากร่วมสนุก ถ่ายรูปมอนสเตอร์บนเรือ แล้วโพสต์ลงเน็ต

พิจารณาจากรูปถ่าย พวกมันเป็นอมนุษย์หน้าตาน่าเกลียด ตามตัวเต็มไปด้วยเกล็ด ในมือถืออาวุธ

“นี่มันมนุษย์ปลาไม่ใช่หรอ?”

“ที่แท้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นฝีมือของมนุษย์ปลาระดับต่ำ”

“ถ้าเป็นแค่มอนสเตอร์ระดับนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

ในความทรงจำของฮังอวี่มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับมอนสเตอร์ เพียงแรกเห็น เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

เขารีบรวบรวมอุปกรณ์ที่จำเป็นและเปิดประตูออกไป

“ฮ่ง! เจ้านายจะออกไปเดินเล่นใช่ไหม? พาเปิ่นหวังไปด้วยสิ!”

ฮัสกี้ได้ยินเสียงกุกกักในห้องตั้งแต่แรกแล้ว มันจึงมาดักรอหน้าประตูพร้อมคาบสายจูงเส้นใหม่ในปาก

“สายจูงนี่เปิ่นหวังพึ่งซื้อมา เป็นสายจูงดีไซน์เรียบหรูระดับไฮเอนด์ ถ้าสุนัขใส่จะดูหล่อมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับให้เจ้านายจูงเปิ่นหวัง!”

“อยากไปด้วยกันใช่ไหม? ได้ งั้นไปริมแม่น้ำกัน”

“ฮ่ง?” ฮัสกี้พอได้ยินคำนี้ มันหุบปากลงทันที ขณะเดียวกันถอยไปข้างหลังหลายเมตร

“ปกป้องเมืองเจียงเฉิง คือความรับผิดชอบของทุกคน ในเมื่อนายอยากออกไปข้างนอกนัก งั้นก็มากับฉัน”

“ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! เจ้านายพูดว่า ‘ทุกคน’ แต่เปิ่นหวังไม่ใช่คน เป็นแค่หมา เพราะงั้นไม่ต้องรับผิดชอบ เปิ่นหวังควรทำหน้าที่ของตัวเอง เฝ้าบ้านอย่างว่าง่ายดีกว่า” ฮัสกี้ชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อปกป้องตัวเอง

“ฮ่ง! ทำไมเจ้านายทำหน้าแบบนั้น ... อ้อจริงด้วย เปิ่นหวังพึ่งนึกขึ้นได้ว่ากองทัพพี่หวังมีจัดประชุมสำคัญ จำเป็นต้องเข้าร่วม เปิ่นหวังไม่ว่างจริงๆ ที่ไม่ไปกับเจ้านายไม่ใช่เพราะกลัวอะไรหรอกนะ!”

ฮัสกี้พ่นน้ำลายด้วยใบหน้าจริงจัง เล่นเอาคนฟังยิ่งรู้สึกปวดตับ

นี่มันหมาบ้าอะไรกันวะเนี่ย!

แน่นอน แม้ปากจะเอ่ยแบบนั้น แต่ครั้งนี้ฮังอวี่ไม่คิดพาหวังเอ๋อไป

ตอนนี้ริมแม่น้ำเต็มไปด้วยคนของสกายเน็ตและสมาคมวิญญาณ

หากฮังอวี่พาสุนัขไปที่นั่น คงเป็นอะไรที่เตะตาเอามากๆ

เอาจริงๆฮังอวี่รู้ว่าซูหยุนปิงก็น่าจะกำลังสำรวจเส้นทางเลียบแม่น้ำเช่นกัน พูดกันตามตรงการได้ผจญภัยไปพร้อมกับสาวงามระดับนั้นคงเป็นอะไรที่วิเศษมาก

เป็นความฝันที่คนส่วนใหญ่โหยหา และชวนให้ฮอร์โมนพุ่งพล่าน

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทำตัวให้ติดดินเข้าไว้ของฮังอวี่

เขายังไม่มีแผนที่จะติดต่อกับอีกฝ่าย

ฮังอวี่มีสกิลล่องหนในมือ ดังนั้นออกปฏิบัติการคนเดียวจะสะดวกกว่า และถ้าทำแบบนั้น หากเจอของดีขึ้นมา ก็เข้ากระเป๋าเขาคนเดียว

ดั่งคำกล่าวที่ว่า อย่าทำตัวเตะตา เพราะมีโอกาส 9 ใน 10 ส่วนที่จะถูกเพ่งเล็ง!

ฮังอวี่ไม่ต้องการเป็นเป้าสายตาต่อหน้าสกายเน็ตหรือสมาคมโลกวิญญาณ ดังนั้นเป็นการดีที่สุดถ้าทำตัวเงียบๆเข้าไว้