ตอนที่แล้วCD บทที่ 60 พ่อของฉันป่วยจริง ๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 62 ใช้ความรุนแรงขจัดความรุนแรง

CD บทที่ 61 ยอดเยี่ยม! สุดยอด! ขอบคุณ!


‘นี่คงเป็นผลจากระบบปฏิหาริย์ใช่ไหมเนี่ย!’

ภายในใจของจ้าวหยู่ยังคงคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แม้ว่าตอนนี้ตัวเขาเองจะขึ้นมาอยู่บนรถของคูปิงแบบงง ๆ ก็ตาม

ตั้งแต่มีระบบปาฏิหาริย์เข้ามาในชีวิต เขาก็ตัดเรื่องความบังเอิญออกไปได้เลย! การปลอมเป็นพ่อหลอก ๆ ของเสี่ยวเฉินเพิ่งจบไปได้ไม่นาน คูปิงก็โผล่ออกมาแบบกะทันหันซะอย่างนั้น ระบบปาฏิหาริย์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแน่นอน!

นี่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ทั่วไปแต่มันคือวันหยุดพักผ่อนสำหรับจ้าวหยู่โดยเฉพาะ เขาไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องออกไปทำงานด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อตอนที่เขาถูกคูปิงเรียกให้ขึ้นรถไป เขาคิดว่าอาจจะมีเรื่องฉุกเฉินบางอย่างเกิดขึ้นแล้วคูปิงต้องการตัวเขาให้ไปช่วยสืบสวนก็เท่านั้น

“ฮิฮิ” จ้าวหยู่แอบส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกมาพลางคิดกับตัวเองว่า ‘สงสัยแค่ช่วยปิดคดีมือที่หายไปคงยังไม่พอ ต้องการให้ฉันไปช่วยคดีอื่นอีกสินะเนี่ย อ่า นี่เราสุดยอดขนาดนี้เลยหรือไงกันนะ’

แต่เมื่อรถซูบารุสีขาวได้ขับออกไปสักพักจ้าวหยู่ก็ตระหนักได้ว่า ทำไมคูปิงถึงขับรถส่วนตัวออกมา? เจ้าหน้าที่ต้องขับรถสายตรวจเวลาลงพื้นที่สืบสวนไม่ใช่หรอ? เขาเคยได้ยินมาว่าหัวหน้าทีมคูปิงเพิ่งถอยรถซูบารุออกมาได้เพียงสัปดาห์เดียว ยังไม่ได้รับป้ายทะเบียนรถเลยด้วยซ้ำ! ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องตำรวจจริง ๆ ทำไมเธอถึงขับรถตัวเองแบบนี้ล่ะ?

‘ถ้าเป็นเรื่องสืบสวนจริง ทำไมเธอถึงมารับเราด้วยล่ะ? คนในทีม B ก็มีตั้งเยอะแยะ’ จ้าวหยู่คิดกับตัวเอง ‘แล้วก็…’ จ้าวหยู่ค่อย ๆ มองไปยังหัวหน้าทีมคูปิงช้า ๆ ก็พบว่าเธอกำลังสวมยูนิฟอร์มอยู่ มันดูน่าสนใจมาก โดยเฉพาะวันนี้เธอดูเหมือนจะแต่งหน้าอ่อน ๆ และก็…ลิปสติกนั่น! ‘หะ? นี่มันวันอะไรเนี่ย มีฝูงหมูบินได้บนท้องฟ้าหรือไงกัน?’

จ้าวหยู่จ้องมองคูปิงไปมาไม่ยอมหยุดเสียที โดยปกติแล้วเธอมักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องรูปลักษณ์เท่าไหร่นัก โดยปกติเธอไม่ค่อยจะแต่งหน้าด้วยซ้ำ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพอเธอจะแต่งหน้าอ่อน ๆ แล้วจะดูดีได้มากถึงขนาดนี้!

“มีอะไรติดหน้าฉันหรือไง?” คูปิงสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของจ้าวหยู่ เธอเอ่ยคำถามออกไปโดยไม่หันหน้าไปมาเขา

“เปล่านี่ ไม่มีอะไร!” จ้าวหยู่ครุ่นคิดอย่างจริงจัง ก่อนจะเอ่ยคำถามที่สงสัยมานานออกไป “เอ่อ…พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกัน?”

“คุณยอดนับสืบค่ะ!” คูปิงส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณช่วยเช็คโทรศัพท์ตัวเองให้บ่อยกว่านี้หน่อยจะได้ไหม? ฉันส่งข้อความไปบอกคุณไว้แล้วนี่ไง!”

“เอ๋?” จ้าวหยู่รีบควานหาโทรศัพท์ตัวเองมาตรวจสอบแล้วก็พบข้อความของคูปิงเข้าจริง ๆ เธอส่งข้อมูลมาบอกว่าพวกเขาจะต้องไปที่สภาเทศบาลเมืองเพื่อทำพิธีเชิดชูเกียรติซึ่งทางการได้ขอให้พวกเขาไปรับรางวัลภายในเวลา 10 โมงเช้า

“อะไรเนี่ย? พิธีเชิดชูเกียรติ?” จ้าวหยู่ยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นคำว่า ‘เชิดชูเกียรติ’ เขารู้สึกว่ามันเป็นคำที่น่าสนใจมาก เพราะในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยได้รับประกาศนียบัตรใด ๆ มาก่อน แต่พอได้มาใช้ชีวิตแบบนี้ อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมด! ทั้งโอกาสในการทำงานและการรับรางวัลต่าง ๆ

“ฉันติดตามตำแหน่งของคุณและพบว่าอยู่ที่บ้าน เลยเดาว่าคุณคงไม่ได้เห็นข้อความแน่ ๆ” หัวหน้าทีมคูปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “ฉันเลยตัดสินใจมารับคุณแต่ตอนที่เห็นคุณเหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรอยู่ คุณกำลังจะไปที่ไหนงั้นหรือ?”

“โอ้…ผมกำลังออกไปหาอะไรกินนะ!” จ้าวหยู่ตอบตามความจริง “โทรศัพท์มันไม่แจ้งเตือนอะไรเลย สงสัยต้องไปซื้อเครื่องใหม่แล้วล่ะ”

“ไม่จำเป็นหรอก” คูปิงพูด “เดี๋ยวส่วนกลางจะส่งโทรศัพท์ชุดใหม่มาให้ เราจะได้รับมันเร็ว ๆ นี้ ทั้งข้อความและข้อมูลสัญญาณอินเตอร์เน็ต เราจะสามารถใช้ได้แบบฟรี ๆ ถ้ายังไม่เห็นข้อความอีก นั่นก็เพราะตัวคุณที่ไม่แตะโทรศัพท์เลย!”

“ว้าว ฟรี ๆ เลยเหรอ?” จ้าวหยู่เริ่มชื่นชมคูปิง “ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล! ไม่งั้นผมคงต้องเสียเงินแบบใช่เหตุไปแล้ว โอ้ จริงสิ งานที่เราจะไปคืองานอะไร? ทำไมผมถึงได้ไปด้วย? พวกเขาจะมอบประกาศนียบัตรกับช่อดอกไม้โต ๆ ให้ผมใช่ไหม?”

ทันทีที่เมื่อเขาได้มาเข้าร่วมงานที่สำนักความมั่นคงมณฑลฉินชาน จ้าวหยู่ก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่เคยได้รับประสบการณ์แบบนี้มาก่อน มีทั้งผู้อำนวยการ ผู้ว่าการและผู้หลัก ผู้ใหญ่ของเมืองต่างก็มาเข้าร่วมที่งานนี้ด้วย คลื่นนักข่าวและกล้องจำนวนมากมายนั่นอีก มันยิ่งทำให้เขาตาพร่ามัวขึ้นไปกันใหญ่

ที่พิธีการนี้ยิ่งใหญ่มากนักนั่นก็เพราะส่วนหนึ่งมาจากวันครบรอบการก่อตั้งสำนักงานตำรวจในมณฑลฉินชานแห่งนี้ นอกเหนือจากการให้รางวัลแก่นายตำรวจและสถานีตำรวจยอดเยี่ยมแล้ว ทางผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจที่จะให้รางวัลแก่หน่วยงานหลักที่สามารถปิดคดีข่มขืนปืนช็อตไฟฟ้าและมือที่หายไปอีกด้วยเช่นกัน

ทั้งคูปิงและจ้าวหยู่เลยเป็นตัวแทนของสถานีที่มารับรางวัลนี้ด้วยกัน สำหรับการนำทีมสืบสวน คูปิงได้รับรางวัลเกรียติยศมากมาย แต่จ้าวหยู่กลับแตกต่างออกไป ทางเบื้องบนได้ลงมติเห็นชอบให้ผู้ที่สามารถแก้ไขคดีนี้สมควรได้รับมากกว่ารางวัลเกรียติยศทั่วไป ดังนั้นจ้าวหยู่จึงไม่เพียงแต่ได้รับสายสะพายและใบประกาศกิตติมศักดิ์จากผู้อำนวยการเท่านั้น เขายังได้รับรางวัลเช็คเงินสดเพิ่มอีก 2 รางวัลด้วย!

เมื่อจ้าวหยู่ลองเปิดดูรางวัลที่ได้มา ดวงตาเขาก็เปิดกว้างในทันที “ว้าว พระเจ้า นี่มัน!” เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเงินรางวัลมากมากนักแต่สิ่งที่เขาได้รับคือ เงินสด 20,000 หยวน และอีกอันคือ 8,000 หยวน รวมแล้วเขาได้รับเงินทั้งหมด 28,000 หยวน!

จ้าวหยู่เคยได้ยินเรื่องเงินรางวัลมาก่อนแต่ไม่คิดว่าจะได้รับมากถึงขนาดนี้ การจับผู้ร้ายได้สามารถทำเงินให้เขาได้จริง ๆ ด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพอมีผู้ต้องสงสัยรายใหม่เข้ามา คนในแผนกสืบสวนถึงมีไฟในการทำงานกันมากขนาดนั้น

การเข้าจับกุมคนร้ายมีความเสี่ยงสูง เลยเป็นเหตุผลที่ทีมตำรวจฉินชานมีระบบการให้รางวัลเช่นนี้ แต่การแก้ไขคดีได้ส่วนใหญ่มักมาจากความพยายามของคนในทีมทำงานร่วมกัน หลังจบคดี พวกเขาก็เอาเงินที่ได้ไปแบ่งให้เท่า ๆ กัน แต่กรณีของจ้าวหยู่นั้นพิเศษออกไป ทั้งสองคดีที่เพิ่งปิดไปล้วนได้รับการแก้ไขโดยตัวจ้าวหยู่เองทั้งสิ้น เงินรางวัลที่ได้เลยตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

การถือเช็คเงินสดไว้ในมือแบบนี้ ทำให้จ้าวหยู่รู้สึกกับว่าตัวเขาค่อย ๆ เบาขึ้นมาเรื่อย ๆ ถ้าเขากางแขนออกไป เขาอาจจะสามารถบินขึ้นฟ้าไปเลยก็ได้

เขาคว้าเงินรางวัลและกลับลงไปหลังเวทีทันทีหลังจากที่หัวหน้าโจวได้พูดอะไรบางอย่างกับเขาแต่เขาไม่สามารถจดจำอะไรได้เลยนอกจาก

“ยอดเยี่ยม! สุดยอด! ขอบคุณ!”

อันที่จริงแล้วหัวหน้าโจวไม่ได้สรรเสริญเขาแต่อย่างได้ แต่กำลังบ่นเขาแบบเงียบ ๆ ซะมากกว่าว่า

“คุณมางานนี้โดยไม่สวมเครื่องแบบได้ยังไงกัน? แล้วผมเผ้านั่นอีกคุณกำลังทำให้พวกเราเสียหน้านะรู้ตัวไหม”

แต่สิ่งที่จ้าวหยู่ทำลงไปคือหัวเราะอย่างกับคนไร้สติและพอหลังจากจับมือกับท่านหัวหน้าเสร็จเขาก็พูดแต่เพียง

“ยอดเยี่ยม! สุดยอด! ขอบคุณครับ!”

ระหว่างทางกลับ จ้าวหยู่ยังคงโดยสารด้วยรถซูบารุของหัวหน้าคูปิงเช่นเดิม เขากอดเช็คเงินสดไว้ในมือไม่ยอมห่างตัวเลยสักนิด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการปิดคดีสองคดีลงได้จะทำเงินให้เขามากขนาดนี้ การมีชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลว! โดยเฉพาะเมื่อเขาได้รางวัลควบคู่ไปด้วย ยิ่งทำให้เขารู้สึกภูมิใจกับมันมากขึ้นตามไปอีก

การได้มาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริง ๆ ไม่เพียงแต่ดูดีและทำเงินได้เท่านั้น แต่ยังสามารถวิ่งไล่จับคนร้ายได้อีก มันดีกว่าชีวิตเก่าของเขามาก!

‘เอาล่ะ ถ้ามันเป็นแบบล่ะก็ ฉันก็จะตั้งใจทำมันต่อไป! ทั้งไขคดีทั้งจับคนร้าย ฉันจะทำให้หมดเลย!’ จ้าวหยู่คิดภายในใจ เขาเริ่มฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี

“จ้าวหยู่” คูปิงหันหน้าไปทางจ้าวหยู่ที่กำลังชื่นชมตัวเองพร้อมถอนหายใจออกมา “ฉันไม่เข้าใจในตัวคุณเลยจริง ๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด