ตอนที่แล้วราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 2 : ประวัติสหพันธ์โลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 4 : พ่อ เรามีเรื่องต้องคุยกัน....

ราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 3 : ถ้าใจกากอย่าปากเก่ง


ตอนที่ 3 : ถ้าใจกากอย่าปากเก่ง

เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นต้องการที่จะหาเรื่องเธอและความทรงจำที่หลงเหลือจากประสบการณ์ในอดีตเกี่ยวกับขุนนางพวกนี้ทำให้มือของเธอสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความกลัว

โซฟีสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วรีบซ่อนมือไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการให้สาวๆพวกนั้นเห็นถึงความอ่อนแอใดๆ

“โทษทีนะนังโสโครก ! รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ !” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนใส่เธอด้วยน้ำเสียงบงการ

“แกไม่เห็นเหรอว่าคุณลีโอน่าเขาต้องการใช้พ็อดนั้น” หญิงสาวอีกคนพูดแทรก

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังออกมาจากกลุ่ม และโซฟีเริ่มกำหมัดแน่น ถ้าเป็นบุคลิกเก่าของเธออาจจะแค่ก้มหัวให้และจากไปในทันที

แต่ซุย เหมิงเชื่ออย่างแน่วแน่ในการตอบแทนความดีด้วยความเมตตา และความชั่วร้ายด้วยหมัดหนักๆ

“ก่อนอื่น ฉันคงต้องหาให้ได้ก่อนว่าใครคือหัวหน้ากลุ่ม” โซฟีพึมพำกับตัวเองช้าๆ

มีขุนนางสาวหกคนอยู่ตรงหน้าเธอ ซึ่งแต่ละคนมีความงามและรูปร่างที่ดูมาจากต่างโลก ในยุคของการเดินทางข้ามดวงดาว นับเป็นเรื่องปกติที่ทารกจะได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมและเขียน ดีเอ็นเอของพวกเขาขึ้นใหม่เพื่อปรับปรุงความสามารถและรูปร่างหน้าตาให้ดีขึ้น

ดังนั้นระดับความน่าดึงดูดของทุกคนที่โซฟีเห็นที่นี่จึงสูงกว่าที่ซุย เหมิงเคยชินที่โลกของเธอมาก

เธอไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นผู้นำ เพียงจากการแค่มองรูปลักษณ์ดังนั้นเธอจึงรีบกวาดสายตาสำรวจเครื่องแบบของแต่ละคนในกลุ่ม

แล้วเธอก็ได้คำตอบ !

หญิงสาวห้าคนสวมเครื่องแบบสีแดงมีริ้วสีเงินเหมือนที่เธอเห็นบนตัวของนักเรียนกลางห้องโถง ในขณะที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มสวมเครื่องแบบสีขาวอย่างภาคภูมิใจซึ่งมีดาวแปดดวงปักไว้ที่ปลายแขนของเธออย่างประณีตเพื่อบ่งบอกถึงพลังชี่ทางกายขั้นที่แปด

เธอมีปอยผมเป็นลอนสีม่วงและทำสีหน้าเย่อหยิ่ง แม้ว่าเธอยังไม่ทันเอ่ยอะไรเลยสักคำ แต่สายตาที่จับจ้องไปทางโซฟีนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ขยะแขยงและความเกลียดชัง

รูปร่างผอมเพรียวของเธอและผิวสีดาร์กช็อกโกแลตทำให้เธอดูแปลกตาเหมือนว่ามาจากต่างถิ่น

โซฟีใช้สมองพยายามค้นหาตัวตนของผู้หญิงตรงหน้า ถึงแม้ว่าตัวเธอจะมีสองบุคลิกที่ปะปนกันอยู่ แต่ความทรงจำบางส่วนก็ถูกล็อกเอาไว้มากมาย และจำเป็นต้องค้นหาอย่างจริงจังถึงจะเข้าถึงความทรงจำพวกนั้นได้ เธอไม่แน่ใจว่านี่เป็นผลข้างเคียงหรือความทรงจำอาจจะค่อยๆ ถูกคลายผนึกโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

ทันใดนั้นก็มีชื่อคนแวบเข้ามาในหัวของเธอ และความโกรธก็ปรากฏบนใบหน้าของโซฟี แต่โชคดีที่มันถูกซ่อนเอาไว้ใต้ผมยาวของเธอ

ชื่อของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนนี้คือ ‘ ลีโอน่า เบรฟฮาร์ท ’ ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลดยุคด้วย

เธอเคยเป็นเพื่อนเล่นของโซฟีเมื่อตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แต่เมื่อพวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกันทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

โซฟีถูกนักเรียนคนอื่นๆหัวเราะเยาะเย้ยอย่างไม่ลดละด้วยเรื่องใบหูแหลม และดวงตาทรงแปลก ๆ ของเธอ และนั่นทำให้ลีโอน่าเพื่อนของเธอก็ถูกล้อด้วยเช่นกัน

ลีโอน่าถูกหลอกหลอนด้วยรอยยิ้มที่เข้าอกเข้าใจของโซฟีที่มอบให้ เมื่อตอนที่เธอตัดสินใจทิ้งเพื่อนสนิทของเธอ

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความสำนึกผิดทุกครั้งที่เธอเห็นโซฟีนั่งอยู่คนเดียวในชั้นเรียน แยกตัวจากเพื่อนคนอื่นๆ ของเธอ และเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกเหล่านี้กลับกลายเป็นความเกลียดชังและโยนความผิดให้

‘ ทั้งหมดนี่มันเป็นความผิดของโซฟี ! กล้าดียังไงมามองเธอด้วยสายตาปรักปรำแบบนั้น ! ’

การขาดความสามารถในการฝึกฝนอย่างชัดเจนของโซฟีทำให้ลีโอน่ามั่นใจว่าเธอได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ทำแบบนั้น

อันที่จริง ทั้งหมดนี้เป็นแค่สิ่งที่อยู่ในหัวของลีโอน่าเท่านั้น เนื่องจากโซฟีไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเกลียดชังอดีตเพื่อนของเธอเลยแม้แต่น้อย อารมณ์เดียวที่เธอรู้สึกคือความอ้างว้างและว่างเปล่า

“อย่ามายืนนิ่งเป็นใบ้อยู่อย่างนั้นนะ รีบขอโทษลีโอน่าที่เสียเวลากับการจะใช้ห้องสมุดเร็วเข้าสิ !” เสียงแหลมดังก้องออกมาจากฝูงชน ทำให้โซฟีหลุดจากอาการมึนงงของเธอ

‘ เป๊าะ ! ‘

บุคลิกด้านซุย เหมิงของเธอออกมาในขณะที่ร่างกายของเธอเหยียดตรงขึ้นมาทันที และเดินตรงไปที่กลุ่มสาว ๆ ด้วยท่าทางมั่นใจบนใบหน้าและรอยยิ้มอวดดี

“ขอโทษทีนะ แต่ขอฉันคุยด้วยหน่อยได้ไหม” โซฟีถามอย่างสุภาพ

“ก็... เท่าที่ฉันรู้ มันไม่มีลูกผสมอัปยศคนอื่น ๆในมหาลัยแล้วนี่ ใครจะรู้ ?” คราวนี้ลีโอน่า ตอบกลับแทนคนในกลุ่มด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

กลุ่มผู้ชมที่อยากรู้อยากเห็นได้รวมตัวกันมานานแล้วและกำลังดูโชว์อย่างกระตือรือร้น เพื่อรอดูขยะลูกผสมถูกเอากลับไปไว้ในที่ที่ควรอยู่

ด้วยเอกลักษณ์ของโซฟีในฐานะลูกสาวของดยุค พวกเขาจึงไม่สามารถรังแกเธอเป็นการส่วนตัวได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับผลกรรมจากผู้เป็นพ่อของเธอ

มันเป็นเรื่องที่ต่างออกไปสำหรับขุนนางจากตระกูลดยุคขึ้นไป เนื่องจากพวกผู้ใหญ่ในตระกูลของพวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทะเลาะกันระหว่างคนรุ่นหลัง

โซฟีรวบผมยาวของเธอออกจากใบหน้า และสาวๆพวกนั้นก็ตกใจกับหน้าตาที่ดูละเอียดอ่อนและเย้ายวนของเธอ เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยการแสดงออกถึงความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์ที่จะทำให้หัวใจของทั้งชายและหญิงต่างเต้นระรัว

โซฟีมองไปยังกลุ่มคนข้างหลังที่เรียกเธอว่าขยะลูกผสมและพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่เรียบสงบ

อย่างไรก็ตาม คำพูดที่เธอเอ่ยออกมาได้ทำลายภาพลักษณ์ที่สงบสุขุมในทันที และทำให้ผู้ชมทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“รู้สึกยังไงกันบ้างล่ะที่ถูกมองว่าเป็นหนุ่มสาวชนชั้นสูงที่สุดแสนจะน่าภาคภูมิใจ แต่ความจริงแล้วก็เป็นได้แค่หมาที่น่าสมเพช ?”

จากนั้นเธอก็หันไปหาลีโอน่าที่มองข้ามฉากนั้นไปราวกับว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้กังวลอะไรเหมือนเดิม

" มันก็เกือบจะน่าประทับใจแล้วนะ ที่เธอสามารถถูกห้อมล้อมและฝึกยัยพวกนี้ให้เชื่องจนเชื่อฟังทุกคำสั่งของเธอได้ "

“ก็น่าจะประมาณ ‘ เจ้านายกับขี้ข้า ’อะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง”

…เงียบกริบ

คลื่นความสงบแผ่ซ่านไปทั่วห้องสมุดด้วยบรรยากาศที่เกือบจะเกินจริง ไม่มีขุนนางคนใดในที่นี้เคยใช้การดูหมิ่นเหยียดหยามแบบนี้ในที่สาธารณะ ลีโอน่า และกลุ่มของเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องตอบโต้อย่างไร

‘ ทำไมไม่เป็นไปตามสคริปต์ล่ะ ? ’

ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาหาโซฟีที่ห้องสมุดหรอก แต่มาเพื่อค้นคว้าเทคนิคการฝึกฝนใหม่ๆ สำหรับการประเมินชั้นเรียนที่กำลังจะเกิดขึ้น

เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแมรี่ หนึ่งในผู้ติดตามของลีโอน่า ที่เป็นเห็นคนนอกคอกลูกผสมกำลังจะออกจากพ็อดทางด้านขวาของพวกเขา ดังนั้นพวกเธอจึงตัดสินใจจะแกล้งเยาะเย้ยเธอสักเล็กน้อย

ลีโอน่าเยาะเย้ยและพูดว่า “เอาล่ะ เดาว่าเธอน่าจะเก่งเรื่องการใช้คำพูดใช่ไหม ถ้าเพียงแค่การฝึกฝนของเธอทำได้ดีพอๆ กับคำดูถูกที่พูดละก็นะ”

เพียงแค่มีฝ่ามือเดียวยกขึ้น แต่โซฟีรู้สึกได้ถึงอันตรายจากมือที่อยู่ตรงหน้าเธอ ลีโอน่าค่อยๆง้างปลายนิ้วมือขึ้นไปในอากาศแล้วจึงฟาดมันลงไปทางโซฟีด้วยท่าทางที่ฝึกฝนมาอย่างลื่นไหล

ลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเธอ และก่อนที่โซฟีจะตอบสนองได้ทันเวลา มันก็ปะทะเข้ากับหน้าอกของเธอเต็มๆ

โซฟีล้มลงกับพื้น และไถลไปไกลราวๆเจ็ดเมตร ก่อนที่หลังของเธอจะกระแทกเข้ากับผนังของพ็อดพร้อมกับเสียงดัง ‘ ตุ้บ ! ’

รสชาติสนิมจากเลือดได้ไหลเข้าไปในปากของเธอ จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ใช้มือเช็ดริมฝีปากของเธอเพื่อกำจัดร่องรอยนั้น

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือเมื่อมือที่เปื้อนเลือดของเธอสัมผัสกับสร้อยคอที่หน้าอกซึ่งดูดซับหยดเลือดไปด้วยแสงสีน้ำเงินอ่อนๆ

เสียงหัวเราะอย่างรุนแรงดังออกมาจากฝูงชนที่อยู่รอบๆนั้นดังบาดหูของโซฟี และทุกที่ที่เธอมองไปก็มีคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางเย้ยหยัน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภายใต้สภาพแวดล้อมนี้ เจ้าของร่างเดิมถึงได้กลายมาเป็นคนที่อ่อนแอและขี้ขลาด

ชีวิตสำหรับลูกผสมไม่ได้เลวร้ายแม้แต่น้อยสำหรับพวกที่เหลือในสหพันธ์ โดยทั่วไปแล้วถือว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์และมีสิทธิเช่นเดียวกับสามัญชน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของขุนนางและชนชั้นปกครองได้

โซฟียืนขึ้น อดทนต่อความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ออกมาจากหน้าอกของเธอ และพ่นคำพูดออกมาสองสามคำใส่พวกที่สาวๆที่เยาะเย้ยเธอ

"ในการประเมินชั้นเรียน เธอก็อธิษฐานต่อเทพเจ้าองค์ไหนก็ตามที่เธอนับถือเอาแล้วกันนะ ว่าขออย่าให้โชคร้ายมาเจอฉัน "

เธอหันไปหาลีโอน่าพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ และพูดเบา ๆ

“เมื่อหลายปีก่อนฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนของฉันจริงๆ และฉันไม่เคยโทษการตัดสินใจของเธอเลย แต่ตอนนี้ฉันเองจะทำเธอให้มั่นใจว่าเธอจะไม่ได้ใส่ชุดนั้นอีก”

โซฟีหันกลับมาหลังจากประกาศออกไป โดยไม่สนใจว่าลีโอน่าจะรับรู้หรือไม่ และเดินกะเผลกออกไปจากห้องสมุด

เธอกรีดกรายร่างที่อ้างว้างแต่ภาคภูมิใจของเธอ ที่ถึงแม้จะตัวโยกเอนไปมาด้วยแรงใจที่จะไม่ยอมล้มลงไปก่อนจะกลับถึงหอพัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด