ตอนที่แล้วราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 1: นี่ฉันอยู่ที่ไหน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 3 : ถ้าใจกากอย่าปากเก่ง

ราชินีอารัคเน่ ตอนที่ 2 : ประวัติสหพันธ์โลก


เธอเหลือบมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก แต่มีเพียงหน้าจอเล็กๆ โผล่ขึ้นมาจากโต๊ะ และมีแถบว่างเปล่าปรากฎขึ้นมาพร้อมคำว่า ' ป้อนหมายเลขประจำตัวนักเรียน '

โซฟีดูหมายเลขบนสายรัดข้อมือของเธอก่อนจะพิมพ์ตัวเลขนั้นลงไปอย่างรวดเร็ว ตัวเลขปรากฏอยู่บนหน้าจอครู่หนึ่งก่อนที่จะหายไป และสายรัดข้อมือของเธอก็สั่นเป็นจังหวะช้าๆ เป็นการตอบกลับ

" ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์กลางของห้องสมุด ! " จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“คุณต้องการค้นหาข้อมูลใด”

โซฟีเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วไตร่ตรองว่าควรหาข้อมูลอะไรก่อน เธอค้นดูความทรงจำใหม่ของเธอและแยกแยะว่าสิ่งไหนคือความรู้ที่เธอรู้และสิ่งไหนที่เธอต้องการการยืนยัน จากนั้นเธอจึงเอ่ยออกมาอย่างลังเล

" ค้นประวัติสหพันธ์โลก "

เธอได้ยินเสียง ‘ ติ๊ง ’ เล็กๆตอบสนอง และเสียงกลไกก็ตอบกลับเธอ

" การเข้าถึงคลังข้อมูลของสหพันธ์โลก "

“ตรวจพบความปลอดภัยระดับห้า...... ข้อมูลได้รับการอนุมัติบางส่วน !”

พื้นผิวด้านในของพ็อดสว่างขึ้นด้วยแสงไฟหลากสีและม่านข้อความที่ลอยอยู่ในอากาศก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

โซฟีสะบัดมือไปทางตัวหนังสือแล้วเห็นว่าแขนของเธอทะลุผ่านมันไปราวกับว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา

เธอยิ้มด้วยความประหลาดใจกับความพิลึกและความแตกต่างของเทคโนโลยีในโลกใบนี้

จากนั้นก็มีภาพเด็กสาวคนหนึ่งในพ็อดโบกไม้โบกมือไปมาราวกับเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ จนกระทั่งเธอค่อยๆ นั่งลงและฟังเสียงที่เริ่มอ่านข้อความ

“ ในช่วงราวๆปี 2050 โลกตกอยู่ในภาวะล่มสลาย ประชากรมีการเพิ่มจำนวนอย่างมหาศาลมากกว่า 15,000 ล้านคน และอุตสาหกรรมการเกษตรไม่สามารถผลิตผลผลิตได้ทัน

สงครามขนาดย่อมและขนาดใหญ่เกี่ยวกับทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดเพิ่มขึ้นจนกระทั่งอาวุธนิวเคลียร์เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

ประเทศสำคัญๆ ทั้งหมด เช่น อเมริกา จีน รัสเซีย และอินเดีย ต่างถูกทำลายโดยความไม่สงบและความขัดแย้งทางสังคม

มนุษยชาติกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่มืดมิด และนักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าจุดจบของมนุษยชาติขึ้นอยู่กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในยุคนั้น

จนกระทั่งพวกเขามาถึง

เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวที่เรียกว่า แดร็กซ์ ได้ลงจอดบนดาวเคราะห์โลกในปี 2089 และรู้สึกทึ่งกับรูปแบบสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่

พวกเขาทำการลักพาตัวและศึกษาสรีรวิทยาของมนุษย์ และค้นพบว่ามนุษย์มีพรสวรรค์แฝงในการฝึกฝนอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

แม้ว่ามนุษย์จะอ่อนแอเมื่อยามกำเนิดเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆในกาแลคซี่ แต่ความโหดเหี้ยมและความตั้งใจที่จะอยู่รอดของพวกเขาก็ไม่มีใครเทียบได้

แดร็กซ์ เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ได้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์หากแต่มีลักษณะคล้ายกับงู ซึ่งพวกเขากดขี่เผ่าพันธุ์อื่นๆ ให้ต่อสู้และทำสงครามเพื่อขยายอาณาเขตของพวกเขา

การทดลองกองทัพมนุษย์นั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับกำลังทหารของจักรวรรดิ

ถึงแม้ว่าไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่จะสามารถฝึกฝนได้ แต่ก็มีผู้ที่มีพรสวรรค์ที่สามารถเพิ่มขึ้นจากพลังชี่ทางกาย ไปเป็นพลังชี่ทางจิตวิญญาณ และไปจนถึงขั้นสภาวะว่างเปล่า

แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนที่สามารถไปได้ไกลกว่านั้นจะต้องถูกคัดออกอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อจลาจล

หรือถูกเชื่ออย่างนั้น....

มนุษย์ต้องต่อสู้ในสงครามเพื่อเจ้านายคนใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งระบบ ในเรื่องธรรมชาติอันดุร้ายของพวกเขา หลายร้อยปีผ่านไป พวกแดร็กซ์ก็หยิ่งผยองและเสื่อมทราม

ไม่มีแรงผลักดันในการพิชิตโดยผู้นำของจักรวรรดิอีกต่อไป และมนุษย์ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป พวกตำแหน่งเบื้องบนก็ได้ออกคำสั่งให้ฆ่ากำจัดมนุษย์ทั้งหมดในกองทัพ

และนั่นเป็นความผิดพลาดร้ายแรง

สิ่งที่พวกแดร็กซ์ไม่รู้ก็คือ มนุษยชาติไม่เคยมองพวกเขาเป็นนายท่านผู้มีเมตตาที่พวกเขาจะยอมตายแทนได้

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ทาสก็ยังคงเป็นทาส กลุ่มย่อยหลากหลายกลุ่มได้ก่อตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายเพื่ออิสรภาพและเสรีภาพจากอาณาจักรแดร็กซี

บางคนไตร่ตรองถึงวิธีการประท้วงอย่างสันติในขณะที่บางคนต้องการหลุดพ้นด้วยความรุนแรง

เมื่อการปฏิวัติเริ่มขึ้น พวกทหารแดร็กซ์ได้นำปืนพลาสม่าของพวกเขาไปสังหารชีวิตกบฏมนุษย์ พวกเขาถูกบุกรุกอย่างอุกอาจและถูกสังหารโดยการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว

มนุษย์ได้ร่วมมือกับเผ่าพันธุ์ทาสอื่น ๆ เช่น เซิร์ฟวี ,แมนโดเลซา, และ เควฟส์

ซึ่งต่อมาในประวัติศาสตร์เป็นที่รู้จักในฐานะสมาชิกร่วมก่อตั้งของสหพันธ์โลก

พวกแดร็กซ์ซึ่งไม่ได้เตรียมตัวรับมือไว้ และอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ บนดาวเคราะห์บ้านเกิด ‘ ลิเธีย ’ ก็ถูกทำลายราบคาบ

การเรียกร้องขอกำลังเสริมจากกองยานอวกาศถูกส่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อกัปตันเรือเป็นแดร็กซ์แต่ลูกเรือทั้งลำเป็นมนุษย์

ยานส่วนใหญ่ลุกขึ้นก่อกบฏและโค่นล้มผู้บังคับบัญชาที่อยู่ที่นั่น จากนั้นมนุษยชาติจึงตัดสินใจว่า… ”

“ข้อมูลถูกจำกัด !”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับอาณาจักรแดร็กซี ?” โซฟีถามด้วยความสงสัย

“ข้อมูลถูกจำกัด !”

โซฟีขมวดคิ้วกับคำสีแดงที่ฉายผ่านหน้าจอ มีหลายสิ่งให้ซึมซับข้อมูลจากเรื่องราวที่เห็น แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดดูเหมือนจะถูกล็อกเอาไว้หลังการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1 ซึ่งเธอไม่มี

“ดำเนินเรื่องประวัติศาสตร์ต่อและแสดงข้อมูลที่เข้าถึงได้ทั้งหมด” โซฟีออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง

เสียงฮัมดังขึ้นขณะที่คอมพิวเตอร์สแกนผ่านข้อมูลด้านความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อนำเสนอบทเรียนประวัติศาสตร์ที่เหลือ

" ภายในปี 3000 ดาวเคราะห์ทุกดวงของอดีตจักรวรรดิ [ถูกลบ] โดยคำสั่งของสหพันธ์โลก ดังนั้นจึงถือว่าไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิตใดๆ

ทั้งสี่เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันแต่ละเผ่าต่างมีดาวเคราะห์บ้านเกิดของตนเอง และจำเป็นจะต้องส่งประชากรจำนวนหนึ่งเพื่อเข้าร่วมกองบินจักรวรรดิ

มนุษยชาติได้พิชิตดาวเคราะห์ขนาดเล็ก ดาวเคราะห์นอกระบบ และดวงจันทร์หลายร้อยดวง รวมทั้งดาวเคราะห์หลักแปดสิบห้าดวงและสองซุปเปอร์โนวา

ขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้งโดยตรงระหว่างสี่อาณาจักรหลัก ได้แก่ เฟเดอร์รีน อินเซคทอดย์ ยูโนวา และ สหพันธ์โลก เกี่ยวกับข้อพิพาทด้านอาณาเขตในระบบดาวบางดวง

( รายการข้อพิพาทเรื่องดินแดนทั้งหมดสามารถเข้าถึงแยกต่างหากได้ ) "

" เหล่าตระกูลชั้นสูงของมนุษยชาติได้สร้างความสามารถในการฝึกฝนที่แข็งแกร่งที่สุด และเหนือชั้นกว่ามนุษย์ทั่วๆไป ทั้งในด้านพันธุกรรมและตามธรรมชาติ

เหล่าชั้นสูงยังคงเป็นแสงสว่างเจิดจ้าของจักรวาลและจะนำพามนุษยชาติไปสู่การเป็นเจ้าโลกเหนือทุกคนที่ต่อต้านเรา ! "

มีการโฆษณาชวนเชื่อสั้นๆ อยู่ท้ายข้อความ แต่โซฟีไม่ได้เก็บมาใส่ใจเมื่อมีคำถามผุดขึ้นในใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้รู้

“ทำไมข้อมูลเกี่ยวกับการสิ้นสุดของการกบฏถึงถูกจำกัด ?”

“เกิดอะไรขึ้นกับผู้รอดชีวิตจากอาณาจักรแดร็กซี ?”

โซฟีคร่ำครวญด้วยความหงุดหงิดเพราะเห็นได้ชัดว่าไม่มีคำตอบพวกนี้สำหรับเธอ เธอตัดสินใจว่าจะกลับไปถามคำถามกับพ่อของเธอเมื่อเธอกลับบ้านในช่วงปิดเทอมฤดูหนาว

รอยัล อคาเดมี เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยบนโลกของซุย เหมิง

มันเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงบนดาวไกอา ที่ซึ่งพวกราชวงศ์ของมนุษย์อาศัยอยู่ ไม่มีสามัญชนในมหาวิทยาลัยและภายในมีเพียงชนชั้นสูงระดับสูงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต และเท่าที่เธอรู้ โซฟีเป็นลูกผสมเพียงคนเดียวในชั้นปีสุดท้าย

ในกระเป๋าของเธอไม่มีปากกาสักด้าม แต่โซฟีดึงแท็บเล็ตของเธอออกมา และเริ่มจดบันทึกข้อมูลสองสามอย่างเพื่อที่เธอจะได้กลับไปอ่านมันซ้ำเมื่อกลับถึงหอพัก เมื่อเธอจดเสร็จ ม่านข้อความก็กระพริบสองสามครั้งก่อนที่จะหายไป และแถบสอบถามการค้นหาก็เข้ามาแทนที่

โซฟีกำลังจะค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกฝนแต่ถูกความง่วงนอนเข้าจู่โจม ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจว่าจะกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แทน เธอเก็บกระเป๋าใบเล็กๆ ของเธอและออกจากพ็อดในขณะที่หาวอย่างหนัก

มีเสียงซุบซิบบางอย่างอยู่ด้านนอกพ็อด และโซฟีมองขึ้นไปเห็นกลุ่มสาวสวยผู้สูงศักดิ์ หนึ่งในนั้นยิ้มอย่างสนุกสนานพร้อมกับเรียกเธอว่า

" แหม... แหม... นั่นใช่ลูกผสมโสโครกรึเปล่านะ ! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด