ตอนที่แล้วตอนที่ 126 กลุ่มทนายความชั้นนำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 128 สามัคคีคือพลัง

ตอนที่ 127 เตะจนเป็นคนไร้สมรรถภาพ


กำลังโหลดไฟล์

ในขณะที่เย่เทียนและพรรคพวกกำลังไปที่โรงพยาบาล หวังเหว่ยไห่ที่เป็นลมด้วยความเจ็บปวดจากการโดนเตะน้องชายก็ตื่นขึ้นแล้ว

แม้เขาจะเป็นผู้ชายทั้งแท่งแต่ก็ไม่อาจทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้ เขาดิ้นเตะคณบดีตอนที่ทายาให้เขา “คุณเป็นใครน่ะตาแก่ ออกไปนะ ออกไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องหรรมของนายน้อยคนนี้ อ๊าก เจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่พวกแกทำอะไรกับฉันเนี่ย ถ้าหรรมฉันผิดปกติขึ้นมาหมอไร้ความสามารถอย่างพวกแกอย่าคิดว่าจะรอดไปได้ ฉันจะให้พ่อกับปู่ไล่พวกแกออกให้หมด โอ๊ย โอ๊ย เบาๆหน่อยหมอ หมอหูหนวกหรือไงบอกให้เบาๆไง...”

คณบดีถานเป็นนักวิชาการชั้นนำทางการแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งแรกมาหลายปีและเขาได้เจอกับผู้ป่วยหัวเสียทุกประเภท แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่วัยหนุ่มอย่างหวังเหว่ยไห่

หวังเหว่ยไห่คนนี้ช่างหน้าละอายใจแทนผู้ว่าการหวังที่เป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ถ้าคืนนี้ผู้ว่าการหวังไม่ได้โทรหาเขาเป็นการส่วนตัวเขาคงไม่มาสนใจคนไข้แบบนี้ด้วยซ้ำ

มันก็แค่โดนเตะน้องชายจนพิการ ในอนาคตถ้าคุณแต่งงานกับภรรยามีความรู้และรับลูกเลี้ยงด้วยกันคุณก็สามารถรักกันจนแก่เฒ่าได้แล้ว ครอบครัวที่มีบุตรยากในปัจจุบันก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะมาโวยวายเพื่ออะไร?

อวัยวะตรงนี้ถ้าพิการขึ้นมาต่อให้เป็นนักวิชาการชั้นนำของโลกก็ช่วยอะไรไม่ได้ อย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่ทำตามคำของของผู้ป่วยและครอบครัวโดยให้ยาแก้ปวดเพื่อระงับความเจ็บชั่วคราว แต่พอยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ความเจ็บปวดก็ยังอยู่อยู่ดี สำหรับปัญหาเล็กๆนี้ไม่จำเป็นต้องฉีดยาและไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปผ่าตัดเลย ชายหนุ่มคนนี้คงได้ร้องลั่นแน่

หวังเหว่ยไห่มองคณบดีถานที่กำลังส่ายหัวถอนหายใจ เขาถามอีกครั้งอย่างไม่ท้อแท้ “ตาแก่ นายน้อยคนนี้ขอถามอะไรคุณหน่อย ฉัน...โอ๊ย น้องชายของฉันเป็นอะไรมากไหม ไม่สิ ห้ามให้มันเป็นอะไรเด็ดขาด น้องชายของฉันแข็งแรงจนถูกเรียกว่าหนึ่งคืนหกครั้ง แกหลอกฉันไม่ได้หรอกตาแก่ ถ้าฉันหายดีเมื่อไหร่ก็ระวังฉันมารื้อโรงบาลทิ้งแล้วกัน...”

ขณะที่หวังเหว่ยไห่ยกย่องเรื่องบนเตียงของตัวเองย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อพยาบาลสาวสวยหลายคนได้ยินแบบนั้นก็หันมองหน้ากันแล้วยิ้มพร้อมกับหน้าแดง

แต่คณบดีถานมองหวังเหว่ยไห่ด้วยความโกรธ เขาเพิ่มแรงในการพันแผลทำให้หวังเหว่ยไห่เจ็บจนพูดไร้สาระไม่ได้อีก

หลังจากคณบดีถานรักษาจุดที่ได้รับการกระแทกของหวังเหว่ยไห่แล้ว เขาก็สั่งให้หมอในห้องฉุกเฉินสองคนย้ายหวังเหว่ยไห่ไปที่เตียงนอนของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกจากห้องฉุกเฉินเขาก็รายงานสภาพล่าสุดของหวังเหว่ยไห่ให้กับหวังอี้และภรรยา

“คุณ คุณบอกว่าอะไรนะ? อาไห่ของฉันถูกไอ้สารเลวเย่เทียนนั่นเตะจนพัง จากนี้ไปตระกูลหวังกับตระกูลโจวของฉันจะจบสิ้นแล้ว? ไม่ เป็นไปไม่ได้ คณบดีถานต้องวินิจฉัยผิดแน่ อาไห่ของฉันสุขภาพแข็งแรงดีเสมอ เมื่อก่อนมีผู้หญิงตั้งเยอะวิ่งไล่ตามอาไห่แถมพวกเธอยังไม่ได้แต่งเข้าครอบครัวฉันเลย เขาจะโดนเตะจนกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศได้ยังไง?

คณบดีถานเป็นคนชั้นนำทางการแพทย์ไม่ใช่เหรอ คุณรีบหาวิธีรักษาให้อาไห่เร็วเข้า ฉันไม่เชื่อว่าอาไห่จะกลายเป็นคนพิการแบบนี้ ทำได้ใช่ไหมคณบดีถาน คุณอย่าทิ้งครอบครัวฉันเลยนะ เขาพึ่งแค่20ปีเท่านั้นเองจะให้มาเป็นขันทีแบบนี้ได้ยังไง ฉันขอร้องล่ะคณบดีถาน...”

คุณนายหวังถามอย่างเย่อหยิ่งแต่พอหลังจากนั้นเธอก็ขอร้องอ้อนวอนอย่างขมขื่น เธอจะยอมรับได้ยังไงที่ลูกชายที่เธอเลี้ยงดูด้วยการทำงานหนักกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศ ตั้งแต่คืนนี้ไปเขาจะกลายเป็นขันที แล้วแบบนี้ตระกูลโจวกับตระกูลหวังจะไม่ถูกทำลายด้วยมือเขาเหรอ?

“โปรดยกโทษให้คนแก่ไร้ความสามารถอย่างฉันด้วย ลูกชายของพวกคุณตื่นแล้วเชิญเข้าเยี่ยมไปได้เลย ฉันเสียใจด้วยจริงๆ” คณบดีถานไม่โดนคุณนายหวังดึงให้อยู่อยู่ต่อจึงบอกลาผู้ว่าการหวังอี้โดยตรง แต่ไม่ว่าเขาออกแรงแค่ไหนคุณนายหวังก็ไม่ยอมปล่อยมือที่ดึงเสื้อกราวน์สีขาวของเขา

“เธอยังมีปัญหาไม่พอใช่ไหมโจวเจี๋ยฉง ที่นี่คือโรงพยาบาลนะช่วยทำตัวให้เหมาะสมด้วย คณบดีถานพูดชัดเจนขนาดนี้แล้วทำไมเธอยังไม่ปล่อยอีก ดึงดันให้เขาอยู่ต่อแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” หวังอี้กวาดสายตามองตำรวจหนุ่มสองคนและผู้ป่วยคนอื่นๆที่เดินเข้าออกจากห้องฉุกเฉิน ดูเหมือนผู้ป่วยหลายคนจะจำเขาได้จึงแอบถ่ายรูปของพวกเขาไว้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับภรรยาเขาที่พูดไม่หยุดและร้องไห้เหมือนโรงพยาบาลเป็นที่บ้าน

ลูกชายของเขาถูกเตะจนกลายเป็นหมันและเป็นการทำลายธูปของตระกูลหวัง เขารู้สึกไม่สบายใจและมีไฟโกรธพุ่งออกมา เขาพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อระบายความโกรธ

และทางออกสำหรับการระบายความโกรธต้องไม่ใช่คณบดีถาน ด้วยคุณสมบัติและภูมิหลังของคณบดีถานจึงทำให้หวังอี้รู้สึกขอบคุณมากที่เขามารักษาหวังเหว่ยไห่ด้วยตัวเอง ด้วยความอารมณ์เสียนี้จึงทำให้เขาต่อว่าภรรยาเป็นครั้งแรกและสั่งให้เธอปล่อยคณบดีถาน

โจวเจี๋ยฉงที่พึ่งเจอเรื่องแย่ๆมาจะทนได้ยังไงเมื่อเห็นหวังอี้ที่ยอมจำนนมาตลอดหลายปีกล้าจะสั่งเธอ เธอจึงหันกลับมาทันทีและใช้มือตีเข้าไปสุดแรง “ดีมากหวังอี้ นายปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ถึงกล้าว่าฉันต่อหน้าคนนอก ฉันจะตีนายให้ตายไอ้สารเลว ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของนายนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะนายไร้ความสามารถแล้วอาไห่จะกลายเป็นแบบนี้เหรอ? พรุ่งนี้ฉันจะอธิบายให้พ่อของฉันฟังยังไงดี พ่อยิ่งรักอาไห่มากอยู่ด้วย ถ้าพ่อรู้ว่าอาไห่สานต่อธูปตระกูลโจวไม่ได้ตำแหน่งผู้ว่าการห่วยๆของนายคงถึงจุดจบแน่ ไสหัวไปให้พ้นเลย พอเห็นหน้าคนไร้ประโยชน์อย่างนายแล้วมันยิ่งทำให้ฉันโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย...”

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหน้าและร่างกายของผู้ว่าการหวังอี้ก็มีรอยขีดข่วนสีแดงเต็มไปหมด และเป็นรอยแดงที่เห็นได้ชัดด้วย

หวังอี้ในขณะนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะศักดิ์ศรีในฐานะผู้ชายหรือฐานะผู้ว่าการ เขาได้ผลักภรรยาของเขาออกไปอย่างหมดความอดทน “หุบปาก รีบเข้าไปดูลูกก่อน”

อับอายที่บ้านไม่เป็นไรแต่ตอนนี้อยู่นอกห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คน แล้วโจวเจี๋ยฉงจะเต็มใจยอมแพ้ที่เธอต้องเสียหน้าให้หวังอี้ไหม?

ในท้ายที่สุดหวังอี้ก็พาภรรยาที่นั่งอยู่บนพื้นทางเดินของโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉินแล้วสั่งให้หมอกับพยาบาลทุกคนออกไปก่อนเพราะพวกเขาทั้งคู่มีเรื่องจะคุยกับลูกชาย

ส่วนตำรวจหนุ่มสองคนที่รออยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉินเป็นเวลานานก็ปิดประตูแล้วกันให้พวกเขาออกไป

เมื่อหมอและพยาบาลทั้งหมดออกจากห้องฉุกเฉิน รถหรูสิบสองคันก็ขับเข้ามาที่ประตูโรงพยาบาลแห่งแรก...

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด