ตอนที่แล้วตอนที่ 44 แลกเปลี่ยนม้าศึก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 กองซุนจ้านผู้สงสัยในชีวิตของตน

ตอนที่ 45 ความซื่อสัตย์ของจูล่ง


ตอนที่ 45 ความซื่อสัตย์ของจูล่ง

“จ้าวอวิ๋น?”

กองซุนจ้านขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เขาจำได้เลือนลางว่ามีคนแบบนี้

อย่างไรก็ตาม กองทหารม้าขาวของเขาเองก็เต็มไปด้วยคนมีความสามารถ

จ้าวอวิ๋นมีความกล้าหาญและแข็งแกร่งก็จริงในบรรดาทหารม้าขาว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้พิเศษมากนัก!

ทหารเช่นนี้คุ้มกับคำขอของเฉิงชงหรือไม่?

เขางุนงงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเฉิงชง

เฉิงชงเข้าใจสิ่งที่เขาลังเล ดังนั้นจึงพยายามหาเหตุผลเสริม

“พี่ปอกุ้ยคงไม่ทราบ!”

“บรรพบุรุษของข้าและจ้าวอวิ๋นนั้นรู้จักกัน ดังนั้นก่อนที่จะตาย ท่านพ่อได้บอกให้ข้าไปหาจ้าวอวิ๋น และดูแลเขาให้ดี”

“นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของท่านพ่อ และข้าหวังว่าปอกุ้ยจะช่วยให้สำเร็จ!”

กองซุนจ้านพยักหน้าหลายครั้ง

“ดูเหมือนน้องอู๋ฮวยจะเป็นคนดีและยังกตัญญูอีกด้วย!”

“เนื่องจากเป็นความปรารถนาสุดท้ายของบิดาท่าน เช่นนั้นข้าย่อมต้องช่วยอย่างสุดความสามารถ!”

“ข้าจะให้จ้าวอวิ๋นมารายงานตัวเมื่อข้ากลับไป!”

เขาตกลงทันที

ในความเห็นของเขา จูล่งเป็นเพียงม้าขาวตัวหนึ่งที่มีความสามารถ แต่ไม่ใช่แม่ทัพใหญ่อะไร

การมอบให้เฉิงชงย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่

กลับกัน เขาจะได้รับความโปรดปรานจากเฉิงชง อีกทั้งม้าศึกสีขาวหลายร้อยตัว

นี่ไม่ใช่การสูญเสียเลย แต่กลับดูคุ้มค่าเกินไปด้วยซ้ำ!

“ถ้าเช่นนั้นก็ขอบคุณพี่ปอกุ้ย!”

เฉิงชงคำนับเล็กน้อยพร้อมเผยรอยยิ้มบาง ๆ ตรงมุมปาก

กองซุนจ้านไม่ได้ขาดทุน และเขาเองก็ไม่ได้ขาดทุน!

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เฉิงชงอยากจะเห็นมันกับตาตัวเอง

ในอนาคตเมื่อจูล่งกลายเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงระดับโลก กองซุนจ้านจะเสียใจกับการตัดสินใจนี้หรือไม่!

“เฟิ่งเซียน ท่านมีหน้าที่ส่งม้าขาวให้พี่ปอกุ้ย”

เฉิงชงสั่งอย่างไม่เป็นทางการ

ลิโป้พยักหน้าโดยไม่ลังเล

“ไม่ต้องเป็นห่วงนายท่าน! ปล่อยให้ข้าจัดการเรื่องนี้เอง!”

กองซุนจ้านเดินไปกับลิโป้ด้วยใบหน้าสดใส

ขณะมองด้านหลังของทั้งสองที่เดินจากไป เตียวเลี้ยวได้เอ่ยถาม

“นายท่าน! เหตุใดถึงขอแค่จ้าวอวิ๋นจูล่งคนนั้นโดยเฉพาะ เขามีอดีตกับท่านจริงหรือ?”

เฉิงชงยิ้มเบา ๆ

“แน่นอนว่าไม่”

“แล้วนั่นเป็นเพราะเหตุใด?”

ดวงตาของเฉิงชงเปล่งประกาย

“เวิ่นหยวน จูล่งเป็นทหารม้าที่ไม่ด้อยไปกว่าท่านและเฟิ่งเซียน ในอนาคตเขาจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเหมือนพวกท่านทั้งสอง!”

เตียวเลี้ยวเกาศีรษะด้วยความสงสัยและตื่นเต้นเล็กน้อย เขาตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของจูล่ง

เขาทราบดีว่าเจ้านายของตนไม่พูดล้อเล่น ทุกอย่างมักจะมีนัยแฝงอยู่อย่างน่ากลัว!

ทั้งตัวเขา ลิโป้ จิวฉอง และโกซุ่นต่างก็มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น

ลองคิดดูแล้ว จ้าวอวิ๋นจูล่งคนนี้คงจะไม่เลวร้ายเช่นกัน!

......

การจัดการของกองซุนจ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานก็แจกจ่ายเสร็จ

ม้าศึกสีขาวสี่ร้อยตัวถูกส่งไปในค่ายของกองซุนจ้าน

และม้าศึกคุณภาพสูงจำนวนเท่ากัน เงิน และจ้าวอวิ๋นถูกส่งมาในค่ายของเฉิงชง

“จ้าวอวิ๋น จ้าวจูล่งมาตามคำสั่งของท่านกองซุนจ้านเพื่อรับใช้แม่ทัพเฉิงชง!”

จ้าวอวิ๋นโค้งคำนับพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ

เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าเฉิงชง เขาค่อนข้างประหม่า

อันที่จริงเขายังงุนงงอยู่

เพราะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

เดิมทีเขากำลังฝึกหอกอยู่ในกองทัพ แต่กองซุนจ้านได้เรียกเขาไปที่กระโจมอย่างกะทันหัน

กองซุนจ้านแสร้งทำเป็นให้กำลังใจก่อนจะส่งตัวเขามาให้เฉิงชง

จากนี้ต่อไปเฉิงชงจะเป็นเจ้านายคนใหม่ของเรางั้นหรือ?

ญาติผู้ใหญ่ว่าอย่างไร?

พ่อของเขาไม่เคยพูดถึงว่ารู้จักกับคนตระกูลเฉิงมาก่อน!

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดจูล่งก็มา!”

เฉิงชงก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงจูล่งขึ้นและมองเขาอย่างละเอียด

ผ้าคลุมสีขาว ชุดเกราะสีเงิน ใบหน้าหล่อเหลาและถือหอกยาว

เช่นเดียวกับในตำนานกล่าวไว้ นอกจากมีวิทยายุทธ์ที่สูงส่ง รูปลักษณ์ยังหล่ออย่างมากอีกด้วย

จูล่งกล่าวเบา ๆ

“แม่ทัพเฉิง พ่อของข้าและของท่าน...”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฉิงชงได้หัวเราะขึ้นดัง

“เรื่องไร้สาระพวกนั้นก็แค่ฉากที่ใช้จัดการกองซุนจ้าน!”

“เหตุผลที่ข้าขอจูล่งมาอยู่ด้วยไม่ใช่เพราะเหตุผลไร้สาระเหล่านั้นเลย”

“แท้จริงแล้วเพราะข้าเห็นความสามารถที่แท้จริงของท่าน!”

จ้าวอวิ๋นยังคงสับสนเล็กน้อย

เฉิงชงยกนิ้วของเขาไปด้านข้างและกล่าวเบา ๆ

“จูล่ง ท่านคิดอย่างไรกับกองทหารม้าเพลิงอัสนีของข้า?”

จ้าวอวิ๋นตอบอย่างไม่ลังเล

“จากมุมมองของข้า กองทหารม้าเพลิงอัสนีนั้นไม่น้อยหน้ากองทหารม้าขาวของแม่ทัพกองซุนจ้าน!”

“ในการต่อสู้กลางแม่น้ำฉวี้ก่อนหน้านี้ ทหารม้าเพลิงอัสนีไล่ตามไปในสนามรบเพื่อสังหารพวกกบฏโพกผ้าเหลืองอย่างสง่างามและทรงพลัง!”

“ข้าเฝ้ามองแต่ไกล แม้จะไม่ได้เข้าร่วม แต่ก็ปรารถนาจะทำเช่นนั้น!”

เฉิงชงพยักหน้าพร้อมกล่าว “เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะให้ท่านทำหน้าที่เป็นรองแม่ทัพกองทหารม้าเพลิงอัสนีดีหรือไม่?”

จูล่งตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

ภายใต้คำสั่งของกองซุนจ้านเขาเป็นเพียงทหารม้าธรรมดา

เหตุใดจู่ ๆ ถึงกลายเป็นรองแม่ทัพของกองทหารม้าชั้นยอดได้?

นี่มันยิ่งกว่าการเลื่อนยศธรรมดาเสียอีก!

มันรวดเร็วเกินไป!

เขารีบโค้งคำนับอย่างเร่งรีบ “แม่ทัพเฉิง ข้าน้อยเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก และยังไม่มีผลงานอะไร ท่านจะให้ข้าอยู่ตำแหน่งสูงเช่นนั้นคงไม่ดี!”

“ยิ่งกว่านั้น รองแม่ทัพสำหรับกองทหารม้าเพลิงอัสนีไม่ใช่เรื่องธรรมดา มันเกี่ยวข้องกับชีวิตทหารม้าทั้งสองพันคน คงยากไปสำหรับข้าตอนนี้!”

เฉิงชงยิ้มและไม่กล่าวสิ่งใด

ด้านข้างเตียวเลี้ยวได้หัวเราะออกมาก่อนจะกล่าว

“จูล่ง เจ้าทราบหรือไม่ว่าม้าชั้นดีนั้นปรากฏตัวบ่อยครั้ง! แต่โป๋เล่อนั้นไม่ได้มีบ่อย ๆ !”

*โป๋เล่อคือชื่อเรียกของคนดูโหงวเฮ้งม้า หรือคนดูลักษณะของม้าที่เก่ง ๆ

“ตอนนี้เจ้าเป็นม้าชั้นดี และนายท่านคือโป๋เล่อ”

“สายตาของนายท่านไม่มีพลาด ในเมื่อเขาเลือกเจ้า เช่นนั้นก็แสดงว่าเจ้ามีบางอย่างที่พิเศษจริง ๆ !”

“ดูข้าสิ แต่เดิมข้าเป็นเพียงนายกองในอำเภอหม่าอี้ แต่นายท่านยังดึงข้ามามาเป็นรองแม่ทัพในสนามรบ!”

ลิโป้เองก็กล่าวเบา ๆ

“ถูกต้อง จูล่ง ถึงแม้เจ้าจะไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แต่จงเชื่อมั่นในสายตาของนายท่าน!”

“เวิ่นหยวนเคยเป็นแค่นายกองเล็ก ๆ ข้าเองก็เป็นแม่ทัพของอำเภอจิ่วหยวนเท่านั้น”

“นอกจากนั้นยังมีโกซุ่นป้อผิงที่เคยเป็นแค่ทหารธรรมดา ตอนนี้เขาได้รับมอบหมายให้ฝึกกองทหารชั้นยอดอย่างเต็มที่ จิวฉองหยวนฟู่ที่เคยเป็นกบฏโพกผ้าเหลืองมาก่อนก็ได้เป็นองครักษ์ส่วนตัวของนายท่าน!”

“ดังนั้นพรสวรรค์ของคนที่นายท่านเล็งเห็นนั้นย่อมมีสิ่งพิเศษ และพรสวรรค์ไม่ได้จำกัดแค่รูปแบบเดียว! จูล่ง เจ้าสามารถมั่นใจได้อย่างแน่นอน!”

หลังจากได้ยินคำกล่าวของเตียวเลี้ยวและลิโป้ จ้าวอวิ๋นก็มองไปยังเฉิงชงที่กำลังเผยรอยยิ้ม

จ้าวอวิ๋นไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในใจอีกต่อไป

เขาเข้าใจแล้วว่าตนได้พบกับโป๋เล่อตัวจริง!

นี่คือของขวัญที่หายากที่สุดจากสวรรค์!

ในเวลานี้จ้าวอวิ๋นได้โค้งคำนับและกล่าวเสียงดัง

“เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวอวิ๋นขอขอบคุณนายท่านที่ให้ความไว้วางใจ!”

“ในอนาคตต่อให้ต้องบุกภูเขาดาบและทะเลเพลิง แม้ต้องตาย ข้าก็จะฝ่ามันไปให้ได้!”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด