ตอนที่ 44 แลกเปลี่ยนม้าศึก
ตอนที่ 44 แลกเปลี่ยนม้าศึก
ลิโป้และเตียวเลี้ยวนำทหารม้าเพลิงอัสนีเข้าสังหารอย่างบ้าคลั่ง
กองทัพกบฏโพกผ้าเหลืองถูกขับไล่ออกไปหลายสิบลี้
จากนั้นพวกเขาได้กลับไปหาเฉิงชง
ชุดเกราะและดาบของพวกเขาเต็มไปด้วยโลหิตศัตรู
กองทหารม้าเผยรังสีอำมหิตจนผู้คนหวาดกลัวเมื่อมองจากระยะไกล
“นายท่าน! ข้ากลับมาแล้ว!”
“พวกเราขับไล่ทัพหน้าของศัตรูออกไปหมดสิ้น ส่วนใหญ่ถูกตัดศีรษะ มีเพียงไม่กี่คนที่วิ่งหนีอย่างไร้ทิศทาง!”
“กองทหารม้าเพลิงอัสนีทั้งสองพันคนไม่มีใครเสียชีวิต!”
ลิโป้ประกบมือและก้มศีรษะขณะรายงาน
ตอนนี้เขาชื่นชมเฉิงชงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทหารห้าพันคนสามารถพิชิตหนึ่งหมื่นได้อย่างง่ายดาย
มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและแทบจะกำจัดทหารโพกผ้าเหลืองทัพหน้าได้ทั้งหมด!
ช่างน่าอภิรมย์ยิ่งนัก!
ในเวลานี้จิวฉองได้วิ่งเข้ามาและกล่าวเสียงต่ำ
“นายท่าน กองซุนจ้านนายอำเภอโหยวเปยผิงต้องการพบท่าน!”
เฉิงชงขมวดคิ้วและประหลาดใจเล็กน้อย
“กองซุนจ้าน? เขามาทำอะไรที่นี่?”
หลังจากลังเลเล็กน้อยเขาก็พยักหน้าเบา ๆ
“เชิญเขามาที่นี่!”
จิวฉองรับคำสั่งและออกไป
ในไม่ช้ากองซุนจ้านก็ถูกนำตัวมาหาเฉิงชง
“น้องอู๋ฮวย!”
กองซุนจ้านทักทายเขา เฉิงชงก็ทำความเคารพกลับ
แม้ว่าเฉิงชงจะเป็นคนหนุ่มที่ไม่มีตำแหน่งอะไร แต่กองซุนจ้านก็ยังถ่อมตนและไม่หยิ่งกับเขา
หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ของเฉิงชง กองซุนจ้านก็ไม่กล้าพูดเบา ๆ กับเขาอีก
เฉิงชงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะมีความเท่าเทียมกับเขา
หรืออาจจะมากกว่าก็ได้!
“พี่ปอกุ้ย(ชื่อรองกองซุนจ้าน)”
เฉิงชงมองไปยังกองซุนจ้านและเอ่ยถามอย่างนุ่มนวล
“เหตุใดท่านถึงมาที่นี่?”
กองซุนจ้านหัวเราะเสียงดังพร้อมเผยใบหน้าชื่นชม
“การเอาชนะกบฏโพกผ้าเหลืองอย่างสมบูรณ์ สังหารแม่ทัพที่นำทัพหน้ามา กล่าวคือน้องอู๋ฮวยได้เปิดโลกข้าด้วยศึกเมื่อครู่”
“ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกองทัพ!”
“ข้าว่าพวกกบฏโพกผ้าเหลืองที่กวนเตาคงจะตกตะลึงไม่น้อย!”
แม้ว่าจะถูกชื่นชมอย่างต่อเนื่อง แต่เฉิงชงก็ยังคงสงบนิ่ง
เขาเหลือบมองกองซุนจ้านด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“พี่ปอกุ้ย เวลานี้อยู่ในการศึกสงครามและต่างคนต่างก็ยุ่ง”
“ข้าคงไม่คิดว่าท่านมาที่นี่เพื่อชื่นชมเพียงอย่างเดียวหรอกนะ?”
“หากมีความจำเป็นอะไร พี่ปอกุ้ยเชิญพูดมาได้เลย หากช่วยได้ ข้าจะไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน”
เมื่อถูกมองออก กองซุนจ้านก็กล่าวอย่างไม่อายอีก
น้ำเสียงของเขาตะกุกตะกัก
“น้องอู๋ฮวยฉลาดจริง ๆ อีกทั้งยังมีจิตใจที่งดงาม!”
“ในเมื่อท่านว่ามาเช่นนี้ ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว!”
“ครั้งนี้ข้ามีเรื่องอยากขอร้องจริง ๆ”
หลังจากพูดจบ กองซุนจ้านก็เงยหน้ามองกองทหารม้าเพลิงอัสนี
เฉิงชงเหลือบเห็นท่าทีนี้ เขารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย
กองซุนจ้านประกบมือและยิ้ม
“น้องอู๋ฮวย ข้าเกิดที่โหยวโจวตั้งแต่เด็ก ข้าเห็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และคุ้นเคยกับม้ามานาน!”
“ข้าอดใจปล่อยให้ม้าศึกคุณภาพสูงเหล่านี้ผ่านไปได้!”
“น้องอู๋ฮวย ข้าเห็นการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ม้าศึกเหล่านั้นควบได้รวดเร็วราวกับสายฟ้า ความดุดันนั้นราวกับเปลวไฟ มันทำให้ข้าอิจฉาจริง ๆ !”
“ดังนั้นข้าจึงมาหาท่านอย่างไร้ยางอาย เพื่ออยากจะขอให้ท่านมอบม้าศึกสีขาวบริสุทธิ์เหล่านั้นให้ข้าได้หรือไม่?”
เฉิงชงยกคิ้วขึ้น
กองซุนจ้านดูเหมือนจะทราบว่าคำขอของตนดูไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นเขาจึงรีบกล่าวต่อ
“น้องอู๋ฮวยไม่ต้องห่วง ข้าไม่ใช่คนโลภไม่รู้จักพอ!”
“ม้าศึกเหล่านี้ไม่ใช่สำหรับซื้อขาย! แต่ข้าก็อยากได้!”
“หากท่านมีข้อแลกเปลี่ยนใด ๆ ก็แค่พูดมาได้เลย หากข้าทำได้ เช่นนั้นจะไม่ปฏิเสธเช่นกัน!”
ลิโป้ที่อยู่ข้าง ๆ เผยรอยยิ้มมุมปาก
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ในฐานะแม่ทัพหลักของเฉิงชงนั้นเขาทราบชัดเจนมาก
ม้าของกองทหารม้าเพลิงอัสนีเป็นม้าศึกธรรมดา และคุณภาพไม่ได้ดีมากนัก
เหตุผลที่พวกเขาแสดงท่าทีเก่งกล้าบนสนามรบเป็นเพราะพลังของค่ายกล
ดังนั้นมูลค่าที่แท้จริงของมันจึงไม่ใช่ม้าศึก
แต่เป็นค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!
กองซุนจ้านมีตาหามีแววไม่ เขาเห็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกและไม่เข้าใจความหมาย!
แน่นอนว่าลิโป้ไม่ได้พูดมันออกไป
กองซุนจ้านเป็นคนมีฐานะและมาหาด้วยตัวเอง นี่เป็นโอกาสดีที่จะตลบหลังเขา!
เฉิงชงขมวดคิ้วแสร้งราวกับว่ากำลังคิดหนัก
หัวใจของกองซุนจ้านแทบจะหยุดเต้นและมองไปที่เฉิงชงอย่างประหม่า
หลังจากนั้นไม่นาน เฉิงชงได้กัดฟันราวกับว่าในที่สุดก็ตัดสินใจได้
“เดิมทีม้าศึกเหล่านี้ได้รับการฝึกมาอย่างดีจากข้า มันเป็นทรัพยากรสำคัญในการศึกและไม่ควรขาย”
“แต่ในเมื่อพี่ปอกุ้ยมาพูดด้วยตัวเองเช่นนี้ ข้าก็ไม่อยากเสียมารยาท!”
“ข้ามีม้าศึกสีขาวสามร้อยสี่สิบสองตัว พี่ปอกุ้ยต้องชดเชยม้าศึกคุณภาพสูงในจำนวนเท่าเดิม โดยไม่ต้องคำนึงถึงสีขน”
“นอกจากนั้นข้าขอหินหนึ่งพันก้อน และเงินสามพันเหรียญทอง”
“นอกจากนี้ข้าอยากจะขอใครสักคนจากพี่ปอกุ้ยด้วย!”
เมื่อเห็นข้อตกลงของเฉิงชง กองซุนจ้านก็ถอนหายใจโล่งอกและรู้สึกขอบคุณอย่างมาก
“การชดเชยเรื่องม้าศึก และการสนับสนุนทั้งเงินและอาหารนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”
“แต่...”
เขาขมวดคิ้ว
“ที่ต้องการใครสักคนนั้น ข้าไม่ทราบว่าน้องอู๋ฮวยต้องการใคร ข้าคงไม่อาจรับปากได้”
เฉิงชงหัวเราะอย่างเคร่งขรึม
“พี่ปอกุ้ยไม่ต้องกังวล คนผู้นี้ไม่ได้สำคัญกับท่านหรอก เขาไม่ใช่แม่ทัพคนโปรด หรือผู้ติดตามที่สนิทสนม!”
“เขาเป็นแค่ทหารคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้กองกำลังม้าขาวของท่านเท่านั้น!”
“เขามาจากฉางซาน มีชื่อว่าจ้าวอวิ๋น หรือชื่อรองจูล่ง!”