ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 534
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 536

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 535


บทที่ 535: ความโกรธเกรี้ยวของอะรูเกิล

เมื่อทักษะแรกของเขาได้ถูกขัดจังหวะไป อะรูเกิลก็โกรธมากพร้อมกับเรียกหมอกสีดำออกมา

การโจมตีทางกายภาพที่มาจากลูหลี่และมูนไลท์เริ่มที่จะสร้างความเสียหายได้น้อยลง ซึ่งทักษะของบอสทักษะนี้ก็ไม่สามารถขัดจังหวะได้เลย

ความแข็งแกร่งของอะรูเกิลมีมากกว่าใครในหมู่นักเวทย์แห่งคิรินทัวร์ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เล่นแล้วนั้น นี้เป็นทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก

นักเวทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต้องการทักษะนี้กันทั้งนั้น

เมื่อพวกเขาได้เรียนรู้ทักษะนี้แล้ว ความเสียหายทางกายภาพที่พวกเขาได้รับจะลดลงไปอย่างมากมาย

"บ้าเอ้ย ถ้าเป็นแบบนี้เราจะสู้ยังไงเนี้ย?"อาเซอร์ซีบรีสสบถออกมา เขารู้สึกราวกับว่าเขาไม่สามารถควบคุมค่าความโกรธของบอสได้ เพราะว่าเขาไม่สามารถโจมตีบอสได้

"คนโจมตีระยะไกลให้โจมตีช้าลงหน่อย" ลูหลี่เองก็หมดทางเลือกเช่นกัน

เมื่อความเสียหายกว่าครึ่งของเขาหายไป ความเสียหายที่เขาสร้างจึงต่ำกว่าความฝันที่เหลืออยู่เสียอีก

น่าเสียดายที่ลูหลี่พูดไม่เร็วพอ จนทำให้ดอกไม้อ้างว้างสร้างความเสียหายมากเกินไป ไม่เพียงแต่จะดึงบอสมาโจมตีที่ตัวเอง แต่เขายังทำให้บอสโกรธอีก

อะรูเกิลหยุดสักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะส่งสายฟ้าสีดำพุ่งตรงไปหาดอกไม้อ้างว้าง

"อ๊า!"มาสเรนร้องออกมา ก่อนที่จะพบว่าพี่ชายของเธอได้กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า แต่เพียงครู่เดียว เธอก็นึกได้ว่านี้เป็นแค่เกมและก็ได้วิ่งไปหาพี่ชายของเธอในทันที ทักษะแบบนี้มักจะทำให้เกิดความโกลาหลเสมอๆเลยนะ

หลังจากกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าแล้ว ดอกไม้อ้างว้างก็ทำได้แค่เฝ้ามองตัวเองโจมตีน้องสาวของเขาเท่านั้น

เมื่ออะรูเกิลโกรธ เขาจะเปลี่ยนให้ผู้เล่นที่สร้างความเสียหายได้สูงสุดกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วไปโจมตีผู้เล่นคนอื่น...

โชคดีที่ลูหลี่ได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์นี้ไว้แล้ว นี่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดที่เขาต้องเผชิญมาในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ส่วนวิธีจัดการในตอนนี้คงจะเป็น การฆ่าหรือล่อคนที่ถูกควบคุม

แม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียสมาชิกไปหนึ่งหรือสองคน แต่ก็ดีกว่าการที่มนุษย์หมาป่าสร้างความเสียหายจนพังยับทั้งปาร์ตี้

ความยากลำบากในการเผชิญหน้ากับอะรูเกิลคงจะเป็นที่ทักษะของเขา ทั้งความสามารถดีบัพการโจมตีระยะใกล้และยังทักษะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าที่มีระยะเวลานานมากโข

"มาสเรน ดึงพี่ชายของเธอออกไปและไปซ่อนอยู่ข้างหลังเสาซะ อย่าลืมรักษาตัวเองด้วย "ลูหลี่สั่งออกมา ดอกไม้อ้างว้างเป็นนักเวทย์ ซึ่งมนุษย์หมาป่าเองก็ไม่ได้สร้างความเสียหายกายภาพได้แรงมากนัก มาสเรนจึงสามารถที่จะเอาตัวรอดได้อยู่

ในตอนนี้เหลือผู้เล่น 8 คนแล้ว ฮาชิจังก็ได้กลายมาเป็นฮีลเลอร์หลัก

"ฮาชิ การรักษาของเธอ ... " อาเซอร์ซีบรีสพูดยังไม่ทันขาดคำ เขาก็ต้องใช้ทักษะลดความเสียหายไปซะแล้ว

หลังจากผ่านไปสองนาทีอันแสนเชื่องช้า ดอกไม้อ้างว้างก็ได้คืนมาร่างเดิม ทั้งพี่ชายและน้องสาวได้กลับไปสู่บทบาทของตัวเอง แต่ดอกไม้อ้างว้างก็เริ่มที่จะระมัดระวังมากขึ้นและทำให้มั่นใจว่าเขาไม่สร้างความเสียหายมากจนเกินไป

หลังจากนั้นไม่นานนัก ดีบัพโจมตีระยะใกล้ก็ได้หายไป

ซึ่งด้วยบทเรียนที่ดอกไม้อ้างว้างได้ประสบมา ลูหลี่และมูนไลท์จึงไม่กล้าที่จะสร้างความเสียหายมากนัก พวกเขาทั้งหมดต่างก็ระมัดระวังตัว เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองได้กลายเป็นมนุษย์หมาป่า

"มันคงจะดีถ้าโพลี่มอฟแข็งแกร่งมากกว่านี้" ดอกไม้อ้างว้างพูดออกมาอย่างเยือกเย็น

หลังจากที่เล่นเกมนี้มานานแล้ว เขาก็เริ่มหลงรักอาชีพของเขาจริงๆ เมื่อเขาไม่มีอะไรจะทำ เขาก็จะศึกษาทักษะของอาชีพของเขา แต่ตอนนี้เขาได้เห็นทักษะโพลี่มอฟของอะรูเกิลแล้ว เขาก็รู้สึกอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้

มันเหมือนกับกลายเปลี่ยนฝ่ายตรงข้ามให้กลายเป็นแกะและให้ไปโจมตีเพื่อนร่วมทีม...

ซึ่งนี้ดูจะเป็นคำพูดที่แสนเพ้อฝัน เพราะถ้ามันมีจริง นักเวทย์คงจะครองโลกนี้ไปแล้ว

"นายต้องการให้ฉันใช้ทักษะกระหายเลือดเลยหรือเปล่า?"ซากุระมักจะใช้ทักษะกระหายเลือดเสมอๆยามที่สู้กับบอส แต่ลูหลี่ยังไม่ได้บอกให้เธอใช้เลย เธอจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

"ไม่ๆ เราจะสู้กับบอสตัวนี้อย่างช้าๆไปเรื่อยๆ" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาส่ายหัว

บอสตัวนี้มีเลือด 160,000 จุดและยังฟื้นฟูเลือดได้อีก หากพวกเขาต่อสู้อย่างช้าๆ คงปีกว่าพวกเขาถึงจะทำได้สำเร็จ ซึ่งพวกเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าบอสจะ HP ต่ำๆตอนไหน แต่ลูหลี่ก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เพราะเขายังไม่มีวิธีจัดการกับโพลี่มอฟอย่างจริงๆจังๆเลย

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีเทคนิคไหนในการเอาชนะบอสทั้งหมดในเกมรุ่งอรุณหรอกนะ

บางครั้ง วิธีการแบบช้าๆและมั่นคงอาจจะไม่เหมาะสมที่สุด เพราะมันขึ้นอยู่กับความอดทนของทีม โชคดีที่ระดับของทุกคนใกล้เคียงกับอะรูเกิล ทุกๆคนจึงไม่ได้รับความเสียหายพิเศษ นั้นหมายความว่ามาสเรนจะไม่ได้กดดันอะไรมากนัก

พวกเขายังคงต่อสู้กับอะรูเกิลเป็นอย่างนี้อีก 20 นาที ก่อนที่เขาจะเลือดเหลือต่ำ

ในเวลานั้นเอง อะรูเกิลก็ได้ใช้ทักษะใหม่ อัญเชิญมนุษย์หมาป่า มันเป็นการอัญเชิญมนุษย์หมาป่าออกมาทั้งหมด 7 ตัว แต่พวกมันทั้งหมดได้ถูกดึงไปโดยพเนจรแล้ว ซึ่งพวกเขาทั้งหมดก็ได้มุ่งเป้าโจมตีไปที่พวกมันและจัดการพวกมันอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานั้นเอง อะรูเกิลก็เริ่มที่จะพูดไร้สาระขึ้นมา

"ข้าทำผิดอะไรกัน? เมื่อดาลารันได้ถูกยึดและจอมเวทย์สูงแอนโทนิดัสถูกสังหาร ใครเป็นผู้ปกป้องนักเวทย์? เป็นเคลทาซัส หนึ่งในคนที่ทรยศความศรัทธาที่มีให้อันยาวนานงั้นเหรอ หรือจะเป็นไจน่าแสนสวย? ไม่! มันคือข้า อะรูเกิล!"นักเวทย์ชราตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น

ลูหลี่ไม่เคยมาเคลียร์ดันเจี้ยนในระดับฝันร้ายมาก่อน เขาจึงไม่เคยเห็น NPC อะรูเกิลแบบฉลาดๆเลยสักครั้งเดียว

เกมรุ่งอรุณนั้นเหมือนจริงมากเกินไป แม้แต่ NPC ยังแสดงอารมณ์ราวกับมนุษย์

พวกเขามองไปที่กันและกัน โดยไม่รู้เลยว่าจะตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร ซึ่งดูเหมือนว่านักเวทย์คนนี้จะหลงผิดไปเหมือนกับเคลทาซัสเสียแล้ว

"ข้าได้เรียนที่ดาลารันตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ทุกคนต่างก็เกลียดข้า พวกเขาทั้งหมดบอกว่าข้าไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์และข้าควรจะไปปลูกดอกไม้ในสวนแทน เหล่านักเวทย์ชั้นสูงต่างก็ไม่สนใจข้าและไม่สนใจเลยสักนิด ในโลกนี้ทุกๆคนต่างก็มีเรื่องราวของตัวเอง บางคนได้ถูกบันทึกไว้และบางคนก็ได้เลือนหายไป "

"ข้าต้องการให้เรื่องราวของข้าได้ถูกบันทึกไว้โดยคนรุ่นหลัง ข้าไม่ต้องการให้ชื่อของข้าถูกลืมไป เพราะข้าก็มีชีวิตเหมือนกัน ความจริงไม่ควรเลือนหาย มันเหมือนกับดอกไม้ป่าที่เจ้าเคยพบ เล็กกระจ้อยร่อย แต่มีอยู่จริง"

หลังจากอะรูเกิลพูดจบลง มันก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดอะไรที่ไร้สาระเลย

คนที่อยู่ที่นี้ทั้งหมด แม้แต่เหล่าเด็กสาวต่างก็รู้สึกถึงคำพูดนั้น

อะรูเกิลไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงอย่างแอนโทนิดัส เคลทาซัสหรือไจน่า เขาเป็นเพียงแค่ผู้พิทักษ์ที่หลงใหลเวทย์มนต์ของเหล่านักเวทย์และในท้ายที่สุด เขาก็ได้เดินทางมาไกลมากเลยทีเดียว

เมื่อ HP ของเขาใกล้หมดลง เขาก็ได้โกรธมากๆ "ข้าจะต้องกลายเป็นพระเจ้า! ข้าจะสร้างชีวิต! ข้าจะล้มล้างทุกกฎเกณฑ์ให้มาอยู่ในเส้นทางของข้า มองไปที่มนุษย์หมาป่าพวกนี้สิ ... "

มนุษย์หมาป่ากลุ่มหนึ่งได้ถูกเรียกออกมา แต่ว่ามันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับลูหลี่และคนอื่นๆเลย

ในขณะนั้นเอง ลูหลี่ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่รีรออีกต่อไป เขาสั่งให้ซากุระใช้ทักษะกระหายเลือดในขณะที่พวกเขาโจมตีไปพร้อมกัน เพื่อจัดการกับเลือดอันแสนน้อยนิดของนักเวทย์ชราอะรูเกิล

เมื่ออะรูเกิลได้ล้มลงไป เหล่ามนุษย์หมาป่าก็ได้จางหายไปราวกับวิญญาณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด