ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 457
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 459

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 458


บทที่ 458:ย้อนกลับไปยังเมืองหวาย

"แม่ของหนูบอกว่าไนท์เอลฟ์จะมีผมสีเขียว แต่ผมของคุณไม่ได้มีสีเขียว" เบ็คกี้ตัวน้อยกล่าวขณะที่เธอวางมือลงบนศีรษะของลูหลี่และลูบผมสีดำของเขา

"แม่ของหนูยังบอกอีกว่า ... "

เสียงของเธอเริ่มแผ่วเบาลง เพราะเมื่อเธอพูดถึงแม่ของเธอ มันจึงทำให้เธอเริ่มคิดถึงแม่ของเธออีกครั้ง

"ข้าอยู่ที่นี้แล้ว เจ้าอยากให้ข้าช่วยอะไรก็ได้นะ" โชคดี ที่ลูหลี่นั้นมีประสบการณ์มากมายในการปลอบโยนเด็กสาวตัวน้อย

"หนูต้องการพ่อกับแม่" เบ็กกี้ร้องไห้ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นไปมองลูหลี่

ลูหลี่รู้ดีว่าเขานั้นพูดผิดไป เพราะระบบยังไม่ได้ให้เควสกับเขาเลย

"พ่อแม่ของเจ้าอยู่ในสถานที่ที่แสนจะห่างไกล พวกเขาคงจะไม่กลับมาสักพัก เจ้าจะต้องเข้มแข็งให้มากขึ้น เพราะพวกเขาจะกลับมาในตอนที่เจ้าโตขึ้นแล้ว "ลูหลี่รู้สึกเห็นใจในตัวของเด็กสาว เพราะเขาและเธอต่างก็สูญเสียพ่อแม่ไปในตอนที่ยังเด็กกันทั้งคู่

"งั้นหนูก็จะโตให้ไวกว่านี้!"ดวงตาของเบ็คกี้เปล่งประกายและเธอก็พยักหน้า

"เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าอยากจะได้อะไรอีกล่ะ?"ลูหลี่ถามเด็กสาวอย่างรอบคอบ

มีสิ่งที่เด็กอายุ 5-6 ขวบต้องการไม่มากนัก เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาว่า "แม่เคยบอกหนูว่าเธอจะชื้อเค้กผลไม้ให้หนูในวันเกิด แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่อยู่แล้ว"

"ข้าสามารถพาเจ้าไปกินเค้กผลไม้ได้นะ" ลูหลี่พูดออกมาด้วยความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

นี่อาจเป็นภารกิจที่ง่ายที่สุดที่ลูหลี่เคยทำมา ทั้งหมดที่เขาต้องทำ ก็แค่การพาเด็กสาวไปกินเค้กเท่านั้น

เมืองส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยโบสถ์และเด็กกำพร้า ดังนั้นแล้ว จึงไม่ได้มีร้านเค้กตั้งอยู่มากนักในเมือง ลูหลี่จึงได้ทำการเปิดแผนที่ขึ้นมา ก่อนที่จะตรวจสอบร้านเค้กที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งมันอยู่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากเลยทีเดียว

มันจะใช้เวลานานมากแน่ในการเดินทางไป นอกจากนี้แล้ว เขายังต้องอุ้มเธอไปตลอดทางอีก ลูหลี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการอัญเชิญม้าสงครามของพาลาดินไร้หัวออกมา

พาหนะเป็นของๆผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้สามารถใช้ได้แต่กับผู้เล่นด้วยกันเท่านั้น เด็กสาวตัวน้อยเป็น NPC เธอจึงสามารถขึ้นพาหนะของลูหลี่ได้ ซึ่งอานม้าก็ปลอดภัยสำหรับเบ็คกี้มากเลยและนั้นทำให้พวกเขาได้มาถึงร้านเค้กที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่มีคนไม่มากนัก ม้าสงครามจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆเท่าไหร่

จนถึงตอนนี้ มีคนร้อยกว่าคนเท่านั้นที่มีพาหนะ ครึ่งหนึ่งของคนพวกนี้อยู่ในฝ่ายเผ่าพันธุ์กัน ไม่ว่าจะเป็น ซอวโรวเลส กริชสีเลือด ฯลฯ และส่วนใหญ่ก็จะได้รับพาหนะจากกิจกรรมฮาโลวีนกันทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นเมืองหลวงของฝ่ายพันธมิตร นั้นจึงทำให้มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยเห็นม้าสงครามของลูหลี่

ลูหลี่ไม่แน่ใจว่าสิ่งไหนเป็นเรื่องธรรมดาๆสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆกัน สำหรับเรื่องของ พาหนะ หรือว่าเรื่องที่เขากำลังขี่ม้านี้มากับเด็กสาวตัวน้อย

หลังจากที่ขี่ม้ามาตามทางเรื่อยๆ ลูหลี่ก็พอจะมองเห็นร้านเค้กแล้ว

กลิ่นหอมหวานของเค้กที่พึ่งจะอบใหม่ๆลอยมาตามสายลม พวกเขาทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล ลูหลี่จึงได้ตัดสินใจที่จะชื้อมา

เขาได้ให้เบ็คกี้เลือกอันที่เธอชอบ จากนั้นเขาก็ได้จ่ายเงินให้กับร้านขายเค้ก

แม้ว่าจะเป็นเค้กชิ้นเล็กๆที่สามารถหาซื้อได้ด้วยเหรียญเงินสองเหรียญ แต่เด็กสาวตัวน้อยก็กินมันเพียงไม่กี่วินาทีในขณะที่ร้องไห้ออกมา

ลูหลี่ค่อนข้างที่จะรู้สึกสงสารเธอเลยทีเดียว

"มีอะไรที่เจ้าอยากจะให้ข้าทำไหม เด็กน้อย?"ลูหลี่ถามเธอเบาๆขณะที่เขาคุกเข่าลงข้างๆเธอ

"ก่อนที่พ่อของหนูจะได้รับบาดเจ็บ เขาเป็นกะลาสีและเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการแล่นเรือใบไปยังเมืองหวายและอ่าวโจร หนูมักจะฝันว่าได้ไปเที่ยวทะเลกับคุณพ่อเสมอๆ คุณช่วยกรุณาพาหนูไปที่เมืองหวายได้หรือเปล่าคะ? หนูสัญญาว่าจะไม่ตกลงไปในน้ำหรือสร้างปัญหาอะไรเลย หนูแค่อยากเห็นเรือลำใหญ่ที่คุณพ่อเคยแล่นก็เท่านั้นเอง"

เด็กสาวตัวน้อยมองไปที่ลูหลี่อย่างคาดหวัง บางที เธอคงคิดว่าเธอจะพบกับพ่อของเธออยู่ในที่แห่งนั้น

"ตกลง ข้าจะพาเจ้าไปยังเมืองหวายเอง"

ถึงแม้ว่าลูหลี่จะไม่ชอบเมืองหวาย แต่ที่เมืองแห่งนั่นก็ได้ทำให้เขาได้รับพิมพ์เขียวระเบิดเลยนะ

ซึ่งด้วยเหตุนี้แล้ว ลูหลี่จึงได้ระดมพลกว่าพันคนจากสมาคมกฏแห่งดาบ เพื่อที่เขาจะได้ไปยังเมืองหวาย

ชาวเมืองแห่งนี้ต่างก็ไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย เพราะไม่มีใครคิดเลยว่า ยามก็อบลินระดับ 60 จะถูกรุกราน

ผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์จำนวนมากที่อยู่แถวๆนั้น ก็ได้กลับไปยังพื้นที่ปลอดภัยกันในทันที

สมาคมกฏแห่งดาบ หนึ่งในสมาคมระดับสูงของฝ่ายพันธมิตรกำลังวางแผนยึดเมืองหวาย ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่ว จนไปถึงหูของซอวโรวเลสแห่งสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ

เขาคิดว่า ลูหลี่คงจะหนทางในการยึดเมืองอย่างแน่นอน

ในความเป็นจริงแล้ว ลูหลี่แค่กลัวว่าเขาจะถูกก็อบลินจากเมืองหวายโจมตีเท่านั้น เขาไม่ได้วางแผนที่จะบุกเมืองหวายเลย เขาแค่เอาจำนวนคนมาขู่พวกก็อบลินเฉยๆ

ก็อบลินมักจะเคารพแต่คนที่แข็งแกร่งกว่าตัวของพวกเขาเท่านั้น

เมื่อออกจากแท่นเทเลพอร์ตแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ถูกทำท่ารังเกียจหรือได้ยินคำพูดหยาบคายจากเหล่ายามเหมือนที่มาในครั้งก่อนเลย ในตอนนี้ พวกยามต่างก็พูดอย่างนอบน้อมและนำพวกเขาไปในเมือง

"ดูสิ เบ็คกี้นี่คือเมืองหวายและก็มีเรือที่แล่นจากทะเลด้วย" ลูหลี่กล่าวและชี้ไปที่เรือที่กำลังแล่นมายังตัวของเมือง

เรือขนาดใหญ่ได้ตั้งตระหง่านตรงหน้าของเบ็คกี้ เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เลยที่เธอจะจ้องมองไปที่มันอย่างหวาดกลัว

"เป็นเจ้านั้นเอง! เจ้ากล้ากลับมาที่นี้ได้ยังไงกัน?!"อะคาเร่อุทานขึ้นมาในขณะที่เขากระโดดออกมาจากร้านวิศวกรรมของเขาพร้อมกับรีบวิ่งไปหาลูหลี่ จากนั้นก็คว้าคอเสื้อของตัวลูหลี่

"แกต้องการอะไร?! ปล่อยบอสของเราซะ!"

"แกต้องการที่จะตายงั้นเหรอ? พี่น้องของเรา ไปทำลายบ้านของมันกัน!"

"ก็อบลินกำลังโจมตีผู้เล่นว่ะ!"

ทันทีที่เขาจับคอเสื้อของลูหลี่ ก็ได้มีผู้เล่นหลายร้อยคนล้อมรอบตัวเขาไว้ ผู้เล่นพวกนี้มาจากสมาคมกฏแห่งดาบ ซึ่งก็ได้มากับลูหลี่เพื่อปกป้องเขาภายใต้คำสั่งของสแควรูทสาม

นี่เป็นภารกิจที่แสนมีเกียรติ การที่ได้ปกป้องหัวหน้าสมาคมเหมือนกับเป็นสิทธิพิเศษเลยทีเดียว

ไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้กับผู้เล่นฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายเผ่าพันธุ์หรือ NPC ผู้เล่นพวกนี้ก็จะยอมใช้ทุกๆอย่างเพื่อปกป้องลูหลี่ เพราะเขานั้นเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับจากทุกๆคนในสมาคม

อะคาเร่รู้สึกถึงอันตรายก็ได้ปล่อยมือที่จับคอเสื้อของลูหลี่ไป ก็อบลินผู้น่าสงสารที่รู้สึกกลัวตาย มันไม่เคยเห็นผู้เล่นที่มีจำนวนมากมายขนาดนี้อาฆาตมาก่อนเลย

ยามก็อบลินลังเลอยู่สักครู่หนึ่ง แต่ก็ได้ตัดสินใจไม่ทำอะไรและยืนอยู่นิ่งๆ

โดยปกติแล้ว เหล่าทหารก๊อบลินระดับ 60 จะไม่มีความเมตตาต่อผู้ที่ทำผิดกฏในเมืองหวาย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้เล่นมากจนเกินไป พวกเขาล้วนแล้วแต่จะทำเป็นมองไม่เห็นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ไม่มีใครอยากจะถูกฆ่าตายในขณะที่กำลังทำงานอยู่หรอกนะ

สำหรับเหล่าก็อบลินแล้ว ไม่มีอะไรมีค่ามากกว่าชีวิต ยกเว้นทองไว้เรื่องหนึ่งอะนะ

"ท่านอะคาเร่ที่แสนจะน่าเคารพ ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกำลังพูดอะไรอยู่" ลูหลี่กล่าวทักทายก็อบลินนักวิศวกรรมด้วยการโค้งคำนับในขณะที่เขายังจับมือของเบ็คกี้อยู่

"เจ้า .. เจ้าขโมยพิมพ์เขียวระเบิดไอวี่ฟูลไป เจ้าโจรหูยาวที่แสนจะน่ารังเกียจ!"

ความโกรธและควาแค้นได้สุมอยู่ในอกของเขาจนถึงทุกวันนี้ อะคาเร่ได้รอมาเนิ่นนานแสนนาน รอให้ลูหลี่ได้มายังเมืองนี้

"ท่านหมายถึงพิมพ์เขียวระเบิดงั้นเหรอ?"ลูหลี่ถามขณะที่เขากระพริบตา

"ก็ท่านขายให้ข้าแค่ 3 เหรียญทองเองนี้"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด