ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 136 คาร์เคีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 139 ทำไมกัน

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 137 โกงได้โกงดี


ในเวลาต่อมา

หลังจากทั้ผมระดมการโจมตีด้วยกรงเล็บใส้ก้อนหิน... ไม่สิ! จะเรียกว่าก้อนหินมันก็ไม่ถูก เพราะหมอนี่ถึงจะทำตัวเหมือนก้อนหินให้ผมตีอยู่เฉยๆ แต่มันก็เป็นถึงองค์ชายของประเทสเอลฟ์ หลังจากที่ผมระดมโจมตีมันสักพักก็ไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาเหมือนกับว่ามันตั้งใจจะป้องกันแบบนี้อย่างเดียว แบบไม่มีความคิดที่จะสู้เลย ราวกับว่า ( ถ้าไม่แพ้ก่อนหมดเวลาก็ชนะแน่ ) นี่คงเป็นสิ่งที่มันคิดอยู่แน่ๆ

แต่หลังจากที่ผมโจมตีไปได้สักพักตรงบริเวณขนของมันก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาบ้างแล้วเล็กน้อย แต่ก็เหมือนว่ามันจะสามารถรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็วไปด้วย ไม่ง่ายแบบที่คิดจริงๆ แต่ถึงยังไงมันก็ต้องใช้พลังเวทย์ในการรักษาอยู่ดี อีกไม่นานพลังของมันก็คงหมด พลังเวทย์ของสัตว์อสูรคาร์เคียมันมีอยู๋จำนวนมหาศาลจึงเรียกว่าป้องกันสมบูรณ์แบบได้ แต่ของฟารอสมันไม่ใช่่เพราะอีกไม่นานพลังเวทย์ของมันก็หมด และเมื่อนั้นก็จะถึงตาของผม หึหึ!

...

.....

.......

เกินคาด! หลังจากที่ผมเริ่มโจมตีมาก็่ผ่านมาอย่างน้อย 30 นาที เข้าไปแล้ว แต่บาดแผลของมันก็ยังคงรักษาแบบต่อเนื้องตามจริงมันไม่น่าจะทนได้ถึง 10 นาทีเลยด้วยซ้ำ แต่แล้วทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้? แบบนี้ไม่ดีแน่ต้องรีบหาสาเหตุให้ได้ก่อน!

หลังจากคิดได้ผมก้เว้นระยะห่างจากฟารอสมันที่ เพื่อพยามคิดหาสาเหตุที่มันมีพลังเวทย์จำนวนมหาศาลขนาดนี้ ในระหว่างที่ผมเว้นระยะห่างออกมาจากฟารอสเดียโรมันก็เริ่มพูดขึ้นทันทีว่า" ตอนนี้องค์ชายดรารอน์ถอยออกมาแล้วครับ นี่หรือว่าแม้แต่ร่างอสูรระดับ 4 ก็ยังไม่สามารถจัดการการป้องกันสมบูณร์แบบขององค์ชายฟารอสได้กันครับเนี่ย "

ไม่ใช่ทำลายไม่ได้ แต่ยังไมมีวิธีทำลายต่างหาก ในตอนนี้เหลือเวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะครบเวลาการตัดสินโดยกรรมการของเอลฟ์ ในตอนนี้ผมต้องหาให้ได้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้พลังของมันไม่หมดสักที อุปกรณ์เวทย์! คนส่งพลังให้! มันสามารถคิดได้สองอย่างนี้ งั้นก็ลองตรวจด้วยเวทย์ตรวจสอบดูก่อนแล้วกัน แต่ข้อให้อย่าเป็นอุปกรณ์เวทย์เลยเเพราะยังไงมันก็ไม่มีโดนปรับแพ้แน่ เมื่อถึงเวลานั้น ผมก็ต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อจัดการมนเหมือนกัน และถ้าไปถึงขั้นนั้นก็คงรับรองชีวิตของมันไม่ได้แล้วเพราะมันอาจถึงชีวิตถ้าผมทุ่มพลังจัการจริงก็คุ้มพลังไม่ได้เหมือนกัน

' เวทย์ตรวจสอบ '

...

....

.....

จริงด้วย! หลังจากที่ผมใช้เวทย์ตรวจสอบเรื่องมันก็เป็นแบบที่ผมคิด ตอนนี้มีกลุ่มเอลฟ์หลายสิบคนกำลังส่งพลังเวทย์ให้กับมันอยู่โดยผ่านอะไรบางอย่างเข้าตัวของมันโดยตรง โกงได้โกงดีจริงๆ นี่พวกมันจะโกงไปขนาดไหน ถ้าผมไม่มีเงิน 30,000 เหรียญทอง รออยู่ ก็คงยอมแพ้ให้พวกมันไปแล้วถ้าจะมีความพยามโกงขนาดนี้ เหอะๆ

แต่ยังไงก็ไม่ได้ ถ้างั้นต้องทำลายวิธีส่งพลังของพวกมันก่อน!

จากนั้นผมก็ยกมือซ้ายซูขึ้นฟ้าเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีเรื่องต้องการจะพูด แล้วทางเดียโรก็เริ่มถามมาทันทีหลังจากที่ผมยกมือขึ้นไปว่า " มีเรื่องอะไรครับองค์ชาย? "

" มีคนส่งพลังให้องค์ชายฟารอสอยู่ แบบนี้มันผิดกฏไม่ใช่หรือไง? "

" ไม่ผิดครับ! ตามกฏคือห้ามแทรกแซงจากคนนอก แต่นี้มันเป็นพลังเวทย์ของคนนอกครับ และเมื่อเอามาหักล้างกับข้อมูลของท่านมที่สมัครมาแบบผิดๆ ทางเราจึงอนุญาตให้ใช้พลังเวทย์ช่วยสนับสนุนได้ครับ เพราะงั้นมันก็เลยไม่ผิดอะไร "

เดียโรมันตอบออกมาเหมือนกับว่ารู้เรื่องนี้... ไม่สิ! มันเตรียมคำพูดสำหรับเรื่องนี้เอาไว้พร้อมเลยด้วยซ้ำ เอาตามตรงจะว่ามันโกงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ในรอบนี้ เพราะทางผมเองก็กรอกใบสมัครด้วยพลังปลอมเหมือนกัน แต่นี้มันแทรกแซงช่วยเหลือแบบช่วยให้ชนะชัดๆ ก็จริงอยู่ที่ผมปลอมพลังตอนสมัครแต่มันก็เป็นพลังของผมเอง กลับกันตอนนี้ฟารอสมันกับกำลังใช้พลังของคนอื่นแทน แถมยังบอกว่าไม่ผิดอีก พูดตามตรงตอนนี้ผมเริ่มมีน้ำโหแล้วละแ้วการแทระแซงพลังช่วยเหลือมันก็คือการแทรกแซงจากคนนอกไม่ใช่หรือไง ชิ!

ไม่สนแล้ว! ในเมื่อมันรู้พลังของเรากันแล้วก็ช่วยไม่ได้ เฮ้อ~ ตอนแรก็ว่าจะเอาชนะมันแบบเห็แก่หน้าที่มันเป็นองค์ชายสักหน่อย แต่แบบนี้ไม่ต้องแล้ว หมดอารมณ์!

" งั้นเจ้าก็ลงไปจากเวทีได้เลย และบอกพวกคนที่ยืนอยู่บริเวฌโดยรอบให้ถอยไปด้วย! "

ผมหันไปพูดกับเดียโรด้วยสีหน้าจริงจัง ทางเดียโรก็เหมือนจะเข้าใจอารมณ์ของผมดี มันก็เลยรีบสิ่งลงสนามประลองทันทีพร้อมทั้งบอกพวกทหารที่ยืนตามขอบสนามให้ถอยออกไปกันให้หมด เท่านี้ก็น่าจะพอ ก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะรอดจากการโจมตีนี้ไหม แต่มันเป็นคนทำให้ผมเลือกทางนี้เอง ผมคิดในใจขณะที่กำลังมองฟารอสที่นอนกับพื้นอยู่ จากนั้นผมก็ใช้เวทย์ลมลอยขึ้นฟ้าแบบที่เป็นแรงผลักร่างกายของตัวเองรอยขึ้นบนอากาศ ระบบการทำงานมันก็เหมือนกับแรงระเบิดขนาดเล็กที่ระเบิดการขาทั้งสองของผมและดันตัวของผมขึ้นไปบนอากาศ เพราะยังใช้เวทย์บินไม่ได้เลยต้องทำแบบนี้

หลังจากที่ร่างกายของผมลอยขึ้นมาได้ประมาณ 200 เมตร ผมก็หยุดกลางอากาศ แล้วเริ่มใช้เวทย์บอลขนาดใหญที่ป็นเวทย์ทั้งหมด 6 ธาตุ ที่ด้านหลังโดยเล็งมันไปยังพื้นของสนามประลองด้านล่างโดยเน้นไปจุดที่ฟารอสกำลังนอนอยู่ ขนาดของบอลเวทย์ด้านหลังของผม ใหญ่ประมาณลูกละ 20 - 30 เมตร ทำให้ตอนนี้ทั่วทั้งสนามประลองเต็มไปด้วยเงาสีดำปกคลุมทั่วทั้งสนาม สายตาของเอลฟ์ที่นั่งดูอยู่ต่างก็อึ้งกับสิ่งที่พวกตนกำลังเห็นตอนนี้ ทางด้านพวกผู้นำประเทศเองก็มีอาการตกใจออกมาเล็กน้อย ยกเว้นดิวนีสันต์ที่กำลังเอามือกุมขมับและส่ายหน้าไปมาแบบช้าๆ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าดิวนีสันต์ทำแบบนั้นเพื่ออะไร แต่ก็ช่างเถอะ!

จากนั้นเมื่อร่ายเวทย์เสร็จ และอยู่ในระดับความสูงที่พอเหมาะ บอลเวทย์ขนาดใหญ่ทั้ง 6 ลูก ก็พุ่งลงไปยังสนามประลองด้านล่างของผมทันทีโดนเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ จนเมื่อสัมผัสกับพื้นสนามประลองก็เกิดเสียงระเบิดที่รุนแรงดังขึ้นมา

บูม!!!!!!!!!!

ตอนที่ 138

เดียโรมันก็เริ่มประกาศชื่อของผู้ชนะ

หลังจากการการระเบิดของเวทย์ทั้ง  6 ธาตุที่ผมได้โจมตีไปเมื่อครู่ ก็ได้มีกลุ่มควันสีดำปรากฏออกมาให้เห็นจำนวนมากแทนบนจุดที่ฟารอสมันยืนอยู่เมื่อครู่ แต่ผมก็คิดเอาไว้อยู่แล้วละว่าแค่นี้นะทำอะไรมันไม่ได้หรอก เพราะงั้นผมก็เลยเตรียมแผนอีกแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

จากนั้น

“ละ… เหลือเชื่อครับ พลังขององค์ชายดรารอน์มีทั้งหมดหกธาตุ แถมยังสามารถโจมตีได้รุนแรงขนาดนี้”

เดียโรก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดๆ แต่ผู้คนตามสนามต่างรู้สึกต่างออกไป เพราะตามจริงหลังจากที่หมอนี้พูดอะไรออกมาพวกผู้คนก็จะ[ โอวววว ] โหวร้องกันออกมาแบบนี้แล้ว แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช้เพราะผู้คนเงียบสนิทหลังจากที่ได้เห็นเรื่องทั้งหมดไป แต่มันก็แน่ละมันต้องตกใจอยู่แล้ว เหอะๆ

จากนั้นผมก็เริ่มลดระดับความสูงของตัวเองลงไป และใช้ข้าทั้งสองข้างเหยรบพื้นสนามประลองทั้งสองข้างที่ยังหลงเหลืออยู่ ตัวของสนามประลองตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 5 เมตร จากสนามทั้งมดที่มีเมื่อกี้หลังจากทีผมใช้บอลเวทย์เผ่าพวกมันออกไป และนี้แหละที่เป็นแผนของผมในการที่จะจัดการกับฟารอสและพวกเอลฟ์ที่เป็นกรรมการ

โดยตามกฏของสนามประลองแล้วผู้เข้าแข่งขันที่อยู่นอกสนามประลองเป็นเวลามากว่า 5 นาที โดยที่ร่างกายส่วนใดส่วนนึ่งไม่ได้สัมผัสกับสนามประลองจะถือว่าแพ้ทันที และเหมือนว่าแผนนี้จะได้ผลด้วย เพราะหลังจากที่ผมลงมาฟารอสก็ก็ทำสีหน้าเจ็บใจมองมาทางผม หึหึ! ในที่สุดก็โผ่ลหัวออกมาจนเคิดว่าจะไม่โผ่ลออกมาจนเวลาหมดสะอีก

‘ เวทย์ดิน ‘

‘ เวทย์ไฟ ‘

ผมเริ่มใช้เวทย์ต่อเพื่อป้องกัยสนามประลองเอาไว้ โดยเวทยดินที่ใช้ไปเป็นเวทย์ดินที่มีหนามแหลมคมงอกขึ้นมา และเวทย์ไปก็เป็นไฟที่ติดอยู่กับหนามที่งอกออกไปจากดิน ทำให้บริเวณรอบสนามประลองที่เหืออยู่เพียง 5 เมตร เต็มไปด้วยหนามไฟจำนวนหลายร้อยอันปรากฏออกมา

หึหึ!

สะใจจริงๆ

ใบหน้าของฟารอสตอนนีก็ยังทำสีหน้าเจ็บใจออกมาอยู่ ตามจริงถ้ามันยอมเจ็บสักหน่อยแล้ววิ่งเข้ามามันก็ได้อยู่หรอก แต่ว่า ถ้ามันบ้าวิ้งเข้ามาแบบนั้นผมก็มีวิธีจัดการกับมันวิธีอื่นเช่นกัน เพราะงั้นผลแพ้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้มันออกมาเรียบร้อยแล้ว

“อย่ามาทำตัวขี้ขลาดแบบนี้สิ!”

หลังจากที่เวลาผ่านไปได้ไม่นานฟารอสมันก็เริ่มพูดออกมา โดยระหว่างที่พูดออกมาก็ชี้นิ้วของมันตรงมาทางผมไปด้วย

..“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่”

.“ก็เจ้าคิดจะรอให้หมดเวลาแล้วชนะใช่ไหมละ แบบนี้ยังมีหน้าเรียกตัวเองว่าองค์ชายได้อีกเหรอ ไอขี้ขลาด!!!”

เหอะๆ

นี่มันเอาจริงเหรอเนี่ย มันกล้าพูดออกมาได้ยังไงนี่มัคิดว่าสิ่งที่ตัวเองมุดหัวอยู่ในกระดองแบบนั้นเพื่อรอเวลาหมดและให้คนของตัวเองตัดสินว่าให้ตัวมันชนะมันต่างจากที่เราทำอยู่หรือไง เฮ้อ~

“ก่อนจะว่าข้าเจ้าช่วยมองย้อนดูตัวเองก่อนไหม”

“ดูอะไร! …เมื่อกี้ข้าก็แค่รอพลังเวทย์เพิ่มขึ้นเท่านั้น”

ยังมีหน้ามาเนียลได้อีกยอมใจกับคนแบบมันเลยจริงๆ นี่คิดว่าฉันคนนี้เป็นเด็กน้อยที่จะเชื่อคำพูดบ้าแบบนั้นหรือไง แต่ก้เอาเถอะ เล่นกับมันหน่อยก็แล้วกัน

“ข้าเองก็พลังเวทย์หมด ขอเวลาพักเพื่อฟื้นก่อนแล้วกัน”

“จะใช้เวลาเท่าไหร่?”

“ก็คงประมาณ 5 นาที น่าจะพื้นพอสู้ได้!”

.“นี่แกจะบ้าหรือไงนานขนาดนั้น ข้าก็โดนปรับแพ้เพราะอยู่นอกสนามไปแล้วนะสิ!!! .”

“แล้วนั่นมันเป็นปัญหาของข้าตรงไหน?”

พูดจบผมก็เปลี่ยนร่างเป็นร่างมนุษย์ปกติ และนั่งลงกับพื้นโดยมองหน้ามันพร้อมกับสแยะยิ้มแบบชั่วร้ายออกไป หึหึ!

….

…..

ในเวลาต่อมา

“หมดเวลาแล้วครับ! ผู้ชนะองค์ชายดรารอน์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด