ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 137 โกงได้โกงดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 140 ข้อเสนอ

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 139 ทำไมกัน


หลังจากที่นั่งรอมาสักพัก ราชิณีภูติก็เดินเข้ามาพร้อมกับเฮสเฟรียร์ที่เดินตามหลังมา ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องผมก็ลุกขั้นและก้มหัวลงเล็กน้อยทันทีเพื่อเป็นการให้เกียติเธอ แต่ทางนั้นก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรมาและยังคงเดินมาทางด้านหน้าของผมและนั่งลงไป โดยมีเฮสเฟียร์ยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้

กดดันจังแหะ! ตอนแรกคิดว่าจะคุยได้ง่ายๆ แต่แบบนี้ชักไม่ง่ายแล้วสิ ตามข้อมูลที่ผมมีอยู่ตอนนี้นั่นก็คือราชิณีภูติไม่ค่อยชอบมนุษย์เท่าไหร่นักมันก็เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่เธอพยามเมินผมอยู่ก็ได้ แต่เป็นเพราะเดฟีเรียขอร้องมาก็เลยต้องมาพบกับผมแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะมีเหตุผลอะ-

" เพราะอะไร? " ระหว่างที่ผมกำลังใช้ความคิดหาเหตุผลที่มาอธิบายท่าทางของเธอในตอนนี้อยู่นั้น ราชิณีภูติก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ เหมือนกับว่าโมโหอยู่ด้วยซ้ำแล้วก็เริ่มพูดต่อ " ทำไมท่านโอรอสถึงได้เลือกนายกัน? ทำไมท่านไม่เลือกเผ่าภูติที่มีพลังเวทย์มหาศาลแทน? "

อออ~ ถามเรื่องนี้เองเหรอ! ฉันจะไปรู้ได้ยังไง อยากรู้ทำไมไม่ไปถามเองสะเลย ผมละอยากพูดออกไปแบบนี้แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะอะไรก็น่าจะรู้ แต่ฟังจากที่เธอพูดมาที่โอทารอสเลือกผมก็น่าจะเพราะพลังเวทย์นั่นแหละ ตอนนั้นพลังเเวทย์ผมเกินระดับคนปกติไปมากแถมยังมี 6 ธาตุ ในร่างกายอีก ต่อให้เป็นเด็กอัจฉริยะของเผ่าภูติก็คงไม่เท่าผมตอนนั้นหรอก เหอะๆ แต่ถ้าพูดไปก็จะดูเป็นการอวดตัวเองมากไป เพราะงั้นอย่าดีกว่า ....แต่นิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก

" เรื่องนั้นข้าคิดว่าคงเป็นพลังเวทย์ อย่างที่ท่านพูดมา [ ทำไมไม่เป็นเผ่าภูติที่มีพลังมหาศาล ] อาจเป็นเพราะตอนนั้นพลังเวทย์ของข้ามันเกินมาตฐานก็ได้ "

หลังจากที่ผมตอบไปสีหน้าของราชิณีภูติก็สแยะยิ้มออกมา ราวกับว่าชอบใจอะไรบ้างอย่าง ยัยนี่ต้องคิดอะไรไม่เข้าท่าอยู่แน่สัญชาตญาณของผมมันบอกเอาไว้แบบนั้น

" ก็จริงอยู่ที่เจ้ามีพลังเวทย์ 6 ธาตุ อยู่ในตัว แต่เมื่อคิดตามการเติบโตมันก็ไม่น่าจะเท่าภูติได้ เพราะแบบนี้ไงข้าถึงได้ถามว่าเพราะอะไร แล้วอีกอย่าง ไอพลังเวทย์ปั่นป่วนรอบร่างกายจนไม่สามาตรวจสอบพลังได้แบบนั้นมันอะไรกัน "

ระหว่างที่เธอพูดออกมาก็ชี้นิ้วมาทางผมพร้อมกับดวงตาที่มองจริงจังมองมาด้วย ส่วนเรื่องพลังปั่นป่วนในร่างกายผมก็เป็นคนทำเอาไว้เองเพื่อใช้ป้องกันการตรวจสอบจากเธอถึงแม้ว่ามันจะเสียพลังเวทย์จำนวนไม่น้อยก็ตามที่ทำแบบนี้ แต่ได้ยินว่ามันสามารถป้องกันการตรวจสอบพลังของราชิณีภูติได้แบบผมสบายใจขึ้นเยอะ เพราะตอนนี้ผมมีข้อต่อรองในการถามข้อมูลกับเธอแล้ว หึหึ!

" สื่งที่ท่านกำลังเห็นตอนนี้ผมเรียกมันว่า [ เวทย์ป่วนปั่น ] มันจะสามารถปั่นพลังเวทย์ในร่างกายได้โดยไม่ให้คนอื่นรู้ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีพลังเวทย์มากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม "

" โห่ว! มั่นใจในเวทย์ของตัวเองจริงนะ "

" ครับ เพราะเราไม่รู้ว่ามิตรหรือศัตรูกำลังจ้องมองเราอยู่ อย่างช่นเฮสเฟียร์ที่พยามตรวจสอบพลังเวทย์ของผมตั้งแต่เข้ามา ที่ด้านหลังของท่าน "

พูดจบเฮสเฟียร์ก็สะดุงเหมือนกับว่าตกใจอะไรบ้างอย่าง พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ " ระ.... รู้ได้ยังไง " ตามจริงคนปกติก็ไม่รู้หรอก แต่ฉันมันไม่ปกตินะสิมันก็เลยรู้ได้ไม่ยาก แล้วอีกอย่าง ตั้งแต่เดินเข้ามาใยห้องมาเธอก็ทำหน้าจริงจังมองมาทางฉันตลอดดูยังไงก็ไม่น่าจะพลาด

จากนั้นราชิณีภูติก็ชูมือขวาขึ้นมา และพูดว่า " เลิกตรวจสอบเข้าได้แล้วเฮสเฟียร์ผู้ชายคนนี้เป็นร่างจำแรงอสูรของท่านโอรอสไม่ผิดแน่ "

" ค่ะ "

เห๋~ ที่ตรวจสอบนี้ตรวจสอบเรื่องนี้เองเหรอ? ว่าแต่ว่ามันมีคนปลอมพลังของสัตว์เทพได้ด้วยหรือไง???

" เอาละถ้างั้นพวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า การที่เจ้าต้องการพบข้าแบบนี้ก็แปลว่าอยากรู็ข้อมูลอะไรสินะ "

ราชิณีภูติเริ่มเปิดคำถามเข้าประเด็นแบบไม่รอช้า แต่ก็ทำเอาผมแปลกใจเหมือนกันที่เธอเริ่มถามมาแบบนี้ตอนแรกคิดว่ากว่าจะบอกข้อมูลต้องมีเงื่อนไขอะไรสะอีก ผมก็เลยวางแผนในการเจรจามาสะเยอะแต่พอมาเจอแบบนี้รู้สึกเซ็งเหมือนกันที่ไม่ได้ใช้แผนที่วางมา แต่แบบนี้มันก็ดี จะได้ไม่ต้องไปปวดหัวเรื่องพวกนั้น

" ถ้างั้นช่วยบอกมาหน่อยครับอีก 10 ปี ต่อจากนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพลังของข้าต้องเข้าไปอยู่ในระดับชั้นตำนานด้วย เพราะก่อนที่โอทา... ท่านโอทารอสจะหลับไปอีกครั้งพูดเอาไว้แบบนั้น และให้ผมมาถามเรื่องทั้งหมดกับท่านเองถ้าเกิดสงสัย? "

" อื้ม! ต้องพูดว่าสมแล้วละนะที่เป็นคนที่ท่านโอทารอสเลือกเอาไว้ แต่ก่อนหน้านั้นข้าขอถามเจ้าหน่อยได้ไหมว่าไปรววมร่างกับท่านตอนไหน เพราะเมื่อกี้เจ้าบอกว่าตื่นขึ้นมาแปลว่าไม่ใช่ตอนอายุ 10 ปี แบบปกติที่พวกมนุษย์นิยมกันใช่ไหม? "

[นิยม] คิดเอาไว้แล้วว่าการรวมร่างมันสามารถทำได้ก่อนหน้านั้น ได้เรื่องสนใจสะแล้วสิ แบบนี้จะให้เอ็ดเน่ร่วมร่างกับสัตว์อสูรก็ไม่ใช่ความฝัน หึหึ!

" อายุ 3 ปี ครับ "

" เอ่ะ! "

" เอ่ะ! "

ทั้งราชิณีภูติและเฮสเฟียร์พากันร้องอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ จากนั้นราชิณีภูติก็พรึมพรัมออกมาแบบแพรวเบาอีกว่า " ...ไม่คิดเลยว่าจะมีคนแบบนี้ในหมู่มนุษย์ เท่านี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพลังเวทย์ของเจ้าเด็กนี่ถึงได้มากมายขนาดนั้น ที่สามาถใช้บอลเวทย์ได้ทั้ง 6 ธาตุพร้อมกัน " ราชิณีภูติพรึมพรัมออกมาเหมือนกับว่าพูดคนเดียว พร้อมกับแววตาที่ก้มมองต่ำ อะไร? นี่ไปตรวจสอบพลังของฉันได้ตอนไหนอีก? ...หรือว่าจะรู้มาจากเดฟีเรีย ไม่ผิดแน่! เฮ้อ~

หลังจากนั้นไม่นานราชิณีภูติก็เงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่ต่างไปปจากเดิมนิดหน่อยเหมือนความรู้สึกเย็นชาจะหายไปแล้วว่า " งั้นก็ได้เดี๋ยวข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แต่ก่อนที่จะฟังเจ้าต้องตกลงรับข้อเสนอของข้าสองอย่างก่อน " ระหว่างพูดเธอก็ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว

หึหึ! ในที่สุดก็มาจนได้

" ครับ! เชิญท่านพูดข้อเสนอมาได้เลยถ้าสามารถยอมรับได้ข้าก็ยินดีรับข้อเสนอพวกนั้น แต่ถ้ามันมากเกินไปข้าก็คงต้องปฏิเสธ! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด