ตอนที่แล้วตอนที่ 1 กบฏโพกผ้าเหลือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 ฝึกฝนค่ายกลครั้งแรก

ตอนที่ 2 ทหารรักษาการณ์แห่งจงหลิง


ตอนที่ 2 ทหารรักษาการณ์แห่งจงหลิง

เวลานี้ ประตูที่ว่าการของอำเภอปิดสนิท

เฉิงชงก้าวไปข้างหน้าและยกมือขึ้นตบประตูทันที

“เปิดประตู!”

“รีบเปิดประตูเร็วเข้า!”

“ไปรายงานว่าเฉิงชงขอเข้าพบนายอำเภอเนื่องจากมีเรื่องด่วน!”

แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

“เหตุใดต้องส่งเสียงดัง!”

น้ำเสียงที่ฟังดูไม่สบอารมณ์ดังขึ้นจากด้านนอก

ไม่ไกลออกไปนัก มีอาลักษณ์ร่างผอมและผิวขาวนอนอยู่อย่างเกียจคร้านตรงขั้นบันได

เมื่อมองไปยังเฉิงชง เขาค่อย ๆ เปิดปากออกพร้อมแววตาที่แสดงความเยาะเย้ยเล็กน้อย

“เจ้าจะพังประตูไปทำไม?”

“นายอำเภอจงหลิงนั่นหนีออกไปพร้อมกับทองคำและเงินทองแล้ว!”

“การก่อกบฏของพวกกบฏโพกผ้าเหลืองได้ทำลายเขตการปกครองของราชวงศ์ฮั่นทั้งสิบสี่แห่ง ผู้ที่เป็นขุนนางถูกสังหารอย่างไร้ความปรานี นายอำเภอจงหลิงยังพอมีความฉลาดอยู่บ้างที่คิดจะปกป้องตนเอง”

เมื่อเฉิงชงได้ยิน ประกายแห่งโทสะได้ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเขาทันที

เขายกขาขึ้นและถีบประตูอย่างรุนแรง จากนั้นได้เดินตรงเข้าไปยังที่ว่าการ

เสียงตะโกนดังขึ้น

“บัดซบ นายอำเภอที่ไหนถึงรักตัวกลัวตายเช่นนี้!”

“ในวันธรรมดาผู้คนมักจะยกย่องและนับถือ แต่เมื่อประสบปัญหากลับวิ่งหนีหางจุกตูด แล้วจะมันต่างอะไรกับสุนัข!”

“คิดแต่จะหนีเอาตัวรอด และปล่อยให้ชาวบ้านต้องรับเคราะห์จากพวกกบฏโพกผ้าเหลือง!”

“สมควรตาย!”

“ไอ้พวกที่มีสมองเป็นไขมันและร่างกายกินดีอยู่ดี คนพวกนี้เก่งแต่แย่งชิงตำแหน่งระดับสูง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนของตระกูล แต่ความสามารถกลับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน!”

เขาตะโกนออกมาด้วยคำเสียดสีและดูหมิ่นอย่างไม่ลังเล!

ในฐานะผู้ข้ามมิติ เฉิงชงหาได้มีความกลัวต่อราชสำนักไม่

อาลักษณ์ในชุดขาวเหลือบมองเฉิงชงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

จากนั้นเขาได้เอ่ยขึ้นช้า ๆ

“เหตุใดท่านถึงดูไม่สบอารมณ์นัก?”

“ท่านน่าจะทราบถึงสถานการณ์ตอนนี้ของอำเภอจงหลิงดี”

“อำเภอนี้สูงเพียงแค่สามฉื่อ และมีกำลังทหารเพียงสามร้อยนาย ถึงนายอำเภอจะยังอยู่แล้วเขาจะทำการอันใดได้? เขาจะหยุดพวกกบฏโพกผ้าเหลืองได้งั้นหรือ?”

เฉิงชงพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่

“สามร้อยคนก็เพียงพอ!”

“แม้ว่าพวกกบฏโพกผ้าเหลืองจะมีจำนวนที่มาก แต่พวกเขาก็เป็นแค่กองทัพที่เกิดจากกลุ่มคนพาล คนเลว และคนยากไร้เท่านั้น”

“หากเราชนะ เช่นนั้นจะสามารถก้าวไปต่อได้อย่างธรรมชาติ แต่หากแสดงความพ่ายแพ้ ท้ายที่สุดก็ต้องหนีเพียงอย่างเดียว”

“คิดจะจับคนต้องยิงที่ม้า คิดจะจับโจรต้องจับหัวหน้า หากคิดจะเอาชนะพวกกบฏโพกผ้าเหลือง พวกเราก็ต้องจัดการกับแม่ทัพของมันก่อน ตราบใดที่สามารถพาทหารทั้งสามร้อยนายบุกทะลวงไปยังส่วนกลางของกองทัพและสังหารแม่ทัพพวกมันได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวลพวกกบฏที่เหลือแล้ว”

หลังจากนั้นเฉิงชงไม่คิดลังเลอีกต่อไป

เขามุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว

แม้ว่านายอำเภอจะหนีเอาตัวรอดไปแล้ว แต่นายกองและทหารของเมืองย่อมไม่หนีอย่างแน่นอน

เวลานี้พวกเขาต้องทำหน้าที่รักษาการณ์อยู่บนกำแพงเมือง!

สิ่งที่เขาต้องทำอย่างเร่งรัดตอนนี้คือได้รับความไว้วางใจจากนายกองและทหารเหล่านี้!

ขณะมองด้านหลังของเฉิงชง แววตาของอาลักษณ์ผู้นั้นได้เผยความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย

“คิดจะจับคนต้องยิงที่ม้า คิดจะจับโจรต้องจับหัวหน้า? ชายหนุ่มคนนี้ยังดูอายุน้อย เหตุใดถึงมีแนวคิดทางการศึกที่ไม่เลว?”

“อาจารย์กล่าวได้ถูกต้อง ในสิบสี่แคว้นของราชวงศ์ฮั่นต่างมีพยัคฆ์และมังกรซ่อนตัวอยู่ทุกหนแห่ง อำเภอจงหลิงเป็นเขตชายแดนที่รกร้าง แต่กลับมีบุรุษที่โดดเด่นเช่นนี้อาศัยอยู่”

“ดูเหมือนว่าการออกมาจากสถาบันเองฉวนและขึ้นมาทางเหนือจะไม่เสียเปล่าเลย ข้า กุยแกนับว่ามาถูกทางแล้ว!”

แต่ทันใดนั้นความกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้ากุยแก

เขาส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจ

“อย่างไรก็ตาม แม้กองกบฏโพกผ้าเหลืองจะเป็นแค่กลุ่มคนไร้ความสามารถ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝ่าทะลวงไปเด็ดหัวแม่ทัพออกมา”

“ความพร้อมทางทหารของเมืองจงหลิงนั้นหย่อนยาน กองทหารรักษาการณ์ทั้งสามร้อยคนนั้นล้วนไม่คิดจะสู้”

“อาศัยคนเหล่านั้นแล้วจะเอาชนะพวกกบฏโพกผ้าเหลืองและปกป้องเมืองจงหลิงได้อย่างไร! ต่อให้เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจก็อาจจะทำไม่ได้! แล้วเขาจะทำได้งั้นหรือ?”

ณ กำแพงเมือง

บรรดาทหารเริ่มมารวมตัวกัน

ใบหน้าของพวกเขาต่างแสดงความหวาดกลัวออกมาชัดเจน

ความกดดันของกบฏโพกผ้าเหลืองห้าพันคนนั้นหนักอึ้งราวกับก้อนหิน

มันทำให้จิตใจพวกเขาจมดิ่ง!

ทันใดนั้นได้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

เฉิงชงได้ก้าวขึ้นมาบนกำแพงรักษาการณ์

นายกองเจี้ยงเฟิงเหลือบไปมองพร้อมขมวดคิ้ว

เนื่องจากเหตุการณ์ของกบฏโพกผ้าเหลือง อารมณ์ของเขาจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

เมื่อเห็นคนที่ไม่รู้จักปีนกำแพงเมืองขึ้นมาโดยไม่ได้รับอนุญาต เจี้ยงเฟิงยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น

“เจ้าคิดจะมาทำสิ่งใดที่นี่?”

“นี่คือกำแพงสำคัญที่ใช้รักษาการณ์ คนที่ไม่ได้รับอนุญาตกล้าขึ้นมาได้อย่างไร?”

“เจ้าคงไม่อยากจะมีศีรษะอีกแล้วใช่หรือไม่?”

ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งได้เดินออกมาตะคอกอย่างไม่สบอารมณ์

“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าสามารถขึ้นมาได้โดยพลการ!”

“หากยังไม่รีบไสหัวลงไป เช่นนั้นอารมณ์ของข้าอาจจะไม่ดีจนเผลอฟันเจ้าได้!”

เฉิงชงไม่ได้แสดงความกลัว แต่กลับกล่าวเยาะเย้ย

“ฟันข้า?”

“ข้ามาที่นี่เพื่อจะแนะนำวิธีเอาชนะคมดาบของพวกกบฏโพกผ้าเหลือง”

“ย่อมได้หากจะฟันข้าทิ้ง แต่พวกเจ้าจะรอดจากคมดาบของพวกกบฏโพกผ้าเหลืองงั้นหรือ?”

“คนในครอบครัวพวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในจงหลิงจะรอดจากการถูกปล้นสะดมงั้นหรือ?”

คำถามเชิงโวหารของเขาทำให้บรรดาทหารตกตะลึง

เมื่อนายกองเจี้ยงเฟิงได้ยินคำกล่าว เขาจึงรีบเดินมาทันที

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้ที่มีความสามารถด้านกลยุทธ์ ไม่ว่าจะศึกใดก็สามารถตัดสินชัยชนะของสงครามได้เพียงคำพูดไม่กี่คำ

อย่างไรก็ตาม เฉิงชงยังดูอายุน้อยเกินไป

หรือมันยังจะมีหนทางอื่นอยู่อีก?

“ฟังจากที่กล่าวมา เจ้ามีแผนการที่จะหยุดพวกศัตรูงั้นหรือ?”

เฉิงชงเผยรอยยิ้มและกล่าวออกมาอย่างไม่ลังเล

ดวงตาของเขาเผยประกายเจิดจรัส

“เมื่อข้ากล้าที่จะขึ้นมา เช่นนั้นย่อมต้องมีแน่นอน”

“ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าพูด”

“ข้าสามารถรับประกันความปลอดภัยของอำเภอจงหลิงได้”

นายกองเจี้ยงเฟิงกะพริบตา

เขาไม่ใช่คนนิสัยบุ่มบ่ามและยังคิดอย่างรอบคอบ

หากชายตรงหน้าไม่ทำสิ่งใด ท้ายที่สุดเมื่อกบฏโพกผ้าเหลืองเข้ามา พวกเขาก็ต้องตายเช่นเดิม

แค่ต้องลองเสี่ยงดู!

หลังจากนั้นเขาได้ยกมือขึ้น

“ตกลง ข้าจะฟังเจ้า! ชีวิตของพี่น้องหลายร้อยคนรวมทั้งชาวเมืองนี้อยู่ในมือของเจ้าแล้ว!”

“แต่ข้าต้องขอพูดให้ชัดเจนก่อน!”

“หากเจ้าสามารถรักษาอำเภอจงหลิง และปราบกบฏโพกผ้าเหลืองที่กำลังจะมาถึงได้จริง ๆ พี่น้องของข้าจะรับใช้และติดตามเจ้าตลอดไป”

“แต่หากเจ้าแค่พูดจาโอ้อวดไร้ซึ่งทักษะ ข้าจะฟันเจ้าออกเป็นสองท่อนและโยนให้พวกกบฏโพกผ้าเหลืองดู!”

เฉิงชงพยักหน้า

เขาหาได้สนใจคำขู่ของเจี้ยงเฟิงไม่

“เช่นนั้นก็ตกลง”

เมื่อเห็นเฉิงชงยังคงสงบ เจี้ยงเฟิงจึงรู้สึกโล่งอกเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“แล้วแผนของเจ้าคือสิ่งใด?”

“เป็นการมอบหมายให้หน่วยสอดแนมติดตามการเคลื่อนไหวของพวกกบฏอย่างใกล้ชิดหรือไม่?”

“หรือจะบอกว่าเจ้ามีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับซุ่มโจมตี หลังจากได้รับคำสั่งเสียงฆ้องและกลอง ทหารที่ซุ่มอยู่ทั้งหมดจะถูกส่งไปจัดการพวกกบฏโพกผ้าเหลืองเหล่านั้นในคราวเดียวสินะ!”

เขามองเฉิงชงด้วยความคาดหวัง

เฉิงชงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ

“ไม่ใช่ทั้งสอง”

“ตอนนี้เจ้ามีเพียงงานเดียวที่ต้องทำ”

“นั่นคือการฝึกค่ายกล!”

ทุกคนต่างตกตะลึง

เจี้ยงเฟิงเกาศีรษะและถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

“ค่ายกล?”

“มันจะได้ผลหรือ?”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด