ตอนที่แล้วตอนที่ 85+86 จำเป็นสิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 497+498 พยายามให้ดีที่สุด

ตอนที่ 87+88 คุณเป็นห่วงผมเหรอ?


กำลังโหลดไฟล์

“ประมาณตีห้าค่ะ อรุณสวัสดิ์คะแม่..” เจียงเหยาตื่น เธอลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตา เธอใช้ขาที่อยู่ใต้ผ้าห่มเตะลู่ชิงสี ที่ยังนอนอยู่ท่าเดิม เธอกระซิบแระบอกว่า “ตื่นได้แล้ว คุณควรกลับไปกับแม่ แล้วงีบหลับเสียหน่อย หลังอาหารกลางวันค่อยกลับมาหาฉัน บางทีบ่ายนี้ฉันก็คงได้กลับบ้านแล้วล่ะ”

เธอนอนอยู่บนเตียงเดียวกับลู่ชิงสีอย่างเป็นธรรมชาติและสบาย ๆ ตอนที่ไม่มีใครอยู่ในห้องพักคนป่วย แต่เธอก็ไม่ชอบที่จะแสดงความรักต่อสามี ต่อหน้าผู้อาวุโส

ลู่ชิงสีชำเลืองมองผู้หญิงคนนี้ที่กำลังกระตุ้นให้เขากลับไปพักที่บ้าน จากนั้นก็ตื่นและลงจากเตียง แต่เขาไม่ยอมกลับบ้านตามที่เจียงเหยาต้องการ

แม่ครับ แม่จะนอนพักที่โรงพยาบาลนี่แหละ วันนี้แม่กลับบ้านเถอะครับ ถ้าบ่ายนี้เธอได้ออกจากโรงพยาบาล ผมจะโทรหาแม่ แค่ให้คนขับรถมารับก็พอแล้วครับ”

แม่ลู่รู้ดีว่าลูกชายของเธอหมายความว่าอะไร หลังจากรู้ข่าวว่าเจียงเหยาได้รับบาดเจ็บ เขาก็รีบกลับมาทันที แม้จะจากกันไปเพียงไม่กี่วัน ตอนนี้เขาพอจะมีเวลาได้อยู่กับเจียงเหยามากขึ้น และไม่ต้องสงสัยว่าเขาคงอยากอยู่กับเธอเพียงลำพัง

แม่ลู่ยิ้มและพยักหน้า

“เอาล่ะ ผมจะวางอาหารเช้าไว้ให้ที่นี่ ทั้งสองคนก็อย่าลืมหาอะไรกินสักหน่อย ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่” จากนั้นแม่ลู่ก็เดินออกจาห้องพักคนป่วยไปอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไหร่

“คุณเดินทางมาทั้งคืนนะ พักผ่อนก็ไม่พอ ทำไมไม่กลับบ้านไปงีบเสียหน่อยล่ะ”

เจียงเหยานั่งบนเตียง จ้องมองไปที่ลู่ชิงสี

“เตียงที่นี่เล็กนิดเดียว ตอนกลางวันที่นี่เสียงดังด้วย อยู่ที่นี่จะพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ได้ยังไงกัน”

ลู่ชิงสีไม่ตอบเธอและเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็กลับมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะจัดการกับอาหารเช้าที่แม่ลู่เอามาให้

เจียงเหยาเห็นว่าเขาไม่คิดที่จะกลับไป จึงเริ่มจู้จี้อีกครั้ง

“กินข้าวเช้าแล้วก็กลับเลยนะ”

ลู่ชิงสีหยุดจัดอาหารเช้าทันที เขามองขึ้นและจ้องไปที่เจียงเหยาราวกับว่าเขาพร้อมที่จะทนต่อเสียงบ่นของเธอ ขณะที่เธอยังจู้จี้ต่อ เขาปรับท่านั่งมานั่งตัวตรงเหมือนนักเรียนที่กำลังฟังครูในชั้นเรียน

ในเวลานั้น ไม่ยากเลยที่บอกว่าลู่ชิงสีไม่ได้ใส่ใจกับการจู้จี้ของผู้หญิงคนนี้เลย แต่กลับมีสีหน้าแห่งความสุขส่องประกายผ่านดวงตาของเขา

เขาดึงเก้าอี้ไปข้างหน้าและขยับเข้าไปใกล้เจียงเหยา

หญิงสาวเห็นปฏิกิริยาของเขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

บ่นไปโดยที่ผู้ชายคนนี้ไม่ให้ความสำคัญ เขาไม่ได้ป้องกันตัว โกรธ และไม่ตอบอะไรเธอ เขาแค่จ้องมองเธอจนเธอไม่สามารถบ่นต่อได้อีก

“เจียงเหยา..” ลู่ชิงสีพูดขึ้นมาทันทีและเรียกชื่อเธอ เสียงของเขาแหบเล็กน้อย

“คุณเป็นห่วงว่าผมจะนอนไม่พอเหรอ?”

ก่อนที่เจียงเหยาจะพูดอะไร เขาลุกขึ้นยืน เอามือข้างหนึ่งวางบันหลังศีรษะของเธอแล้วกดใบหน้าของตัวเองลงบนใบหน้าของเธอ เขาปิดผนึกริมฝีปากของเธอ ซึ่ก่อนหน้านี้เปิดปากพูดบ่นเขา ด้วยริมฝีปากของเขา

จูบนี้กะทันหัน ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกัน เขาจูบเธอเบา ๆ ในครั้งแรก จากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นและเริ่มสำรวจเข้าไปโพรงปากของเธอให้ลึกขึ้น เขาดูดดุนลิ้นของเธออย่างกระตือรือร้น พร้อมกับดึงเธอเข้ามาใกล้ตัว แต่ยังคงกังวลเรื่องบาดแผลที่หลังของเธอ เขาเพียงแค่ดึงแขนของเธอเท่านั้น

เจียงเหยาไม่รู้ว่าลู่ชิงสีโหยหาอะไร แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นของเขา

เธอจูบเขากลับอย่างงุ่มง่าม ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากจนดวงตามองไม่เห็นสิ่งอื่นนอกจากใบหน้าของเขา

__

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจูบกัน แต่เจียงเหยายังเงอะงะเหมือนหมี

เธอคว้าคอเสื้อของเขาด้วยสองมืออย่างกังวล

ดวงตาของพวกเขาสบกัน ภาพของเธอสะท้อนในดวงตาของเขา

หลังจากนั้นไม่นานลู่ชิงสีจึงหยุดจูบเธอ ดูเหมือนเขาจะมีความสุข เขายกมือขึ้นขยี้ผมของเธอ พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “คราวหน้าต้องหายใจด้วยนะ อย่ากลั้นหายใจสิ ถ้าผมจูบคุณสักชั่วโมงละ ไม่ขาดใจกันพอดี”

ใบหน้าของเจียงเหยาแดง เธอผลักเขาออกเบา ๆ ทั้งรู้สึกอับอายปนรู้สึกโกรธ “ก็คุณยังไม่ได้แปรงฟันนี่! ฉันต้องกลั้นหายใจก็เพราะกลิ่นปากของคุณนั่นแหละ!”

“ฮะ...” ลู่ชิงสีโค้งริมฝีปากของเขาและหัวเราะ “ผมแปรงฟันแล้ว คุณต่างหากล่ะที่ยังไม่ได้แปรงฟัน”

เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดเสริม “อืมมม รสชาติของคุณออกขมนะ”

“ฉันขอให้คุณจูบฉันหรือไง? ฉันอนุญาตให้คุณจูบฉันหรือยัง?” เจียงเหยางอนขึ้นมาจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ยังคงล้อเลียนเธอหลังจากที่เอาเปรียบเธอ แย่ที่สุด ฮึ่ม!

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ชิงสีปรากฏเด่นชัดขึ้น “ผมโอเคหรอกน่า” ดูเหมือนว่าเขาอยากจะง้อและปลอบโยนเธอ ทว่าด้วยรอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยแสดงให้เห็น มันทำให้เจียงเหยารู้สึกว่าเขาล้อเลียนเธอ แทนที่จะปลอบโยน

“กินข้าวเถอะ” ดูเหมือนว่าลู่ชิงสีจะไม่สังเกตเห็นว่าเจียงเหยายังโกรธอยู่ เขาบอกเธอ หลังจากที่เขาจัดเตรียมอาหารเช้าของแม่ลู่เสร็จแล้ว “ไปล้างหน้า แปรงฟัน เสร็จแล้วมากินข้าว”

เจียงเหยาจ้องมองไปที่ลู่ชิงสี “ฉันรู้น่า ว่าต้องไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนทานข้าว คุณไม่ต้องเตือนก็ได้!” จากนั้นเธอก็ลงจากเตียงไปที่ห้องน้ำ

หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืนจนเพียงพอ เจียงเหยารู้สึกดีขึ้นมาก ร่างกายของเธอผ่อนคลายมากขึ้น อาการปวดหลังของเธอก็ไม่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับเมื่อวันก่อน

เจียงเหยาเป็นหมอในชาติก่อน เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าบาดแผลที่หลังของเธอเป็นเพียงแผลที่น่ากลัวเฉย ๆ วันนี้เธอก็ได้กลับบ้านแล้ว เพียงแต่เธอไม่แน่ใจกับบาดแผลบนใบหน้าของเธอว่าจะหายก่อนวันเปิดเรียนหรือไม่ หากไปมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้าที่เป็นแผลก็ค่อนข้างน่าอายไม่น้อย

หลังจากที่เธออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงสียังนั่งอยู่ที่เดิมราวกับว่าเขาไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย ยกเว้นดวงตาของเขาที่มองมาทางเธอ

อาหารเช้าถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ เขาไม่ได้แตะต้องมันเลย ดูเหมือนว่าเขากำลังรอทานข้าวพร้อมเธออยู่

แม้แม่ลู่จะไม่แน่ใจว่าลู่ชิงสีจะมาทันหรือไม่ แต่เธอก็เดาว่าหากเขามา เขาจะต้องตรงมาที่โรงพยาบาลทันที เธอจึงเตรียมอาหารมาเผื่อลู่ชิงสีด้วย

มีโจ๊ะ เครื่องเคียง และซาลาเปาที่ทำโดยพ่อครัวบ้านลู่ไห่ชิง กลิ่นอาหารทำให้เจียงเหยารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น

ลู่ชิงสีเห็นสายตาของเจียงเหยา เขาก็เดาได้ว่าสาวน้อยคนนี้คงจะอยากทานซาลาเปา หลังจากที่เธอนั่งลง เขาหยิบซาลาเปาใส่จานให้เธอ ดวงตาของเขาจับข้องไปที่เจียงเหยา ขณะที่เธอใช้สองมือจับซาลาเปาและกัดแลมทีละนิด ราวกับหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อย เมื่อเธอเห็นเขากำลังจ้องมองมาที่เธอ เธอจ้องตาเขากลับและทำเสียงในลำคอ “ฮึ่ม!”

ในตอนนั้นเอง ลู่ชิงสีรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยบางสิ่งบางอย่าง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยพรที่เรียกว่า ‘ความสุข’

เจียงเหยาก้มศีรษะลงและกินโจ๊กที่ลู่ชิงสีตักให้หมดไปครึ่งชาม

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอยืดตัวขึ้นด้วยความพอใจ ราวกับร่างกายได้พลังงานทั้งหมดกลับคืนมาแล้ว

เธอเห็นว่ามีซาลาเปาอีกอันวางอยู่ตรงหน้า เจียงเหยาผลักมันตรงไปทางลู่ชิงสี แล้วถามขึ้น

“คุณจะอยู่กี่วันคะ?”

ลู่ชิงสีคว้าซาลาเปาที่เจียงเหยาส่งให้พร้อมกับกัด เขาเหลือบตาขึ้นมองเจียงเหยาแล้วตอบเธอ

“ผมจะกลับไปกองทัพหลังจากที่ผมไปส่งคุณที่มหาวิทยาลัย อย่าลืมบอกพี่ ๆ ของคุณล่ะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด