ตอนที่แล้วบทที่ 26: ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28: ทำอย่างไรผมถึงจะฆ่าปรมาจารย์ได้เหรอครับ?

บทที่ 27: เจียงเหอผู้นี้มีอะไรมากว่าที่ตาเห็น!


หลังจากพึมพำกับตัวเองเสร็จแล้ว  เจียงเหอก็วางสายทันทีและส่งข้อความเสียงวีแชทไปหาหวางซืออวี่แทน

ในไม่ช้า  เธอตอบกลับด้วยข้อความเสียงกลับมา: “ตอนนี้ฉันได้ยินแล้ว  นายอยู่ที่ไหนเจียงเหอ?”

“ทุ่งข้าวโพดฝั่งตะวันออกของหมู่บ้าน”

“ฝั่งตะวันออก?” น้ำเสียงของหวางซืออวี่เปลี่ยนไป  เธอพูดอย่างรวดเร็วว่า “ตอนนี้มีการระเบิดเกิดขึ้น! และฉันก็ได้รับข่าวว่ามีระดับสูงของนิกายเทียนโหมวกำลังมาหานาย  เพราะงั้นนายรีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย! หัวหน้าฉันจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้!”

“ระดับสูงนิกายเทียนโหมว?”

เจียงเหอตอบกลับด้วยข้อความเสียงอีกครั้งก่อนที่จะถ่ายภาพศพของคอร์โด  แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนและมืดมิด  แต่ภาพก็ออกมาได้ชัดเจนจากการใช้แฟลช

หลังจากส่งรูปไปให้หวังซืออวี่แล้วเขาก็ถามว่า “เธอหมายถึงไอ้คนแคระนี่ใช่ป่ะ? ฉันจัดการทุบตีมันจนตายไปพร้อม ๆ กับไอ้ผู้ฝึกสัตว์อสูร  แถมยังมีสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ อีกเป็นโหลเลยนะ… เด๋วดิ๊! ไอ้งูยักษ์มันไปไหนละ? แย่ล่ะสิมีสัตว์อสูรตัวนึงหนี่ไปได้… ฉันจะไปล่ามันแป๊บ  เด๋วค่อยคุยกันนะ”

เจียงเหอเก็บโทรศัพท์และมองหา  แล้วก็พบร่องรอยของมัน  เห็นเป็นร่องรอยต้นข้าวโพดที่ล้มเป็นแนวยาวซึ่งน่าจะเกิดจากไอ้งูยักษ์ที่โดนระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสเลือดไหลโจ้ก ๆ มันเกิดปอดแหกตื่นตระหนกตกใจเลยรีบเลื้อยหนีอย่างไม่คิดชีวิต

เจียงเหอก้าวไปข้างหน้าเพื่อไล่ตาม “ไอ้เชรี่ยนิ! มันหนีไปจริง ๆ ด้วยว่ะ  ไอ้งูนั่นมันเวล 1!  ราคา 10 แต้มบุญ  คิดเป็นเงินแสนหยวน… คิดว่าตูจะยอมปล่อยเอ็งไปจริง ๆ น่ะหรือ!?”

***

กลับมาที่บ้านของเจียงเหอ

เมื่อเสียงแจ้งเตือนวีแชทดังขึ้น  หวางซืออวี่จิ้มที่แชทของเธอกับเจียงเหอ  และเห็นภาพที่เขาส่งให้  เธอกระพริบตาปริบ ๆ แล้วเปิดดู  ก็ได้มีข้อความเสียงที่เจียงเหอแนบมาด้วยดังเข้าหูเธออย่างชัดเจน

“อะไรนะ… เจียงเหอฆ่าระดับสี่ของนิกายเทียนโหมว?  พร้อมกับสัตว์อสูรเป็นโหล  และผู้ปลุกพลังอีกหนึ่งคนด้วย?”

ขณะที่หวางซืออวี่กำลังสับสนกับข้อมูลใหม่ที่ได้มาอยู่นั้นเอง  หัวหน้าต้วนก็โทรมา

“หวางซืออวี่ฉันอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านแล้ว  เธออยู่ไหน?”

“ฉันจะรีบไปค่ะ”

หวังซืออวี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วไปที่ทางเข้าหมู่บ้านและเห็นรถ Passat จอดอยู่  และมีชายวัยกลางคนสวมเสื้อกันฝนยืนอยู่ข้าง ๆ เขาสูงประมาณ 175 เซนติเมตร  และดูเป็นคนสบาย ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเฉียบคมและทรงพลัง

ผู้ฝึกยุทธระดับหกขั้นสูงสุด  ต้วนเทียนเหอ

ไม่ใช่สิ  ตอนนี้เขาเป็นระดับเจ็ดแล้ว!

อันตรายแฝงตัวอยู่ทุกหนทุกแห่งระหว่างการเดินทางไปยังภูต้าตงครั้งล่าสุด  แต่ถึงแม้จะน่าสะพรึงกลัวและมีอันตรายถึงชีวิต  ระดับพลังของต้วนเทียนเหอก็ยังพัฒนาไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ในที่สุด  และเขาก็ไม่ได้โอ้อวดความสำเร็จนี้ให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต

“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ต้วนเทียนเหอดูเคร่งเครียดขณะที่ถามถึงสถานการณ์ในหมู่บ้านจินยินถาน

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเธอควรจะเริ่มอธิบายอย่างไรดี  หวางซืออวี่จึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้ต้วนเทียนเหอ  ภาพที่เจียงเหอส่งให้ก็ปรากฏบนหน้าจอ

สีหน้าของต้วนเทียนเหอเปลี่ยนไปหลังจากเหลือบมองรูปถ่าย “นี่อะไร” เขาขยายภาพและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วอุทานด้วยความประหลาดใจ “คอร์โด?!”

“หัวหน้าต้วนรู้จักเจ้าหมอนี่เหรอคะ?” หวางซืออวี่ถาม

“คอร์โดเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่จากซีเจียง” ต้วนเทียนเหอตอบ “มันเก่งเรื่องวิชาใบมีดและใช้มีดโค้งเป็นอาวุธ  ก่อนการฟื้นคืนพลังวิญญาณ  เจ้าหมอนี่ก็แค่อันธพาลข้างถนนทั่วไปที่ได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ที่สืบทอดในครอบครัว  หลังจากการฟื้นคืนพลังวิญญาณ  ความสามารถของมันก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนแข็งแกร่งขึ้นมาก  มันเป็นฆาตกรที่ฆาตกรรมมาแล้วมากกว่าหนึ่งโหล  และอยู่ในรายชื่อที่ต้องการของสำนักงานจัดการคดีพิเศษ  เมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมาหน่วยพิเศษที่ซีเจียงจับมันได้  แต่กลับถูกนิกายเทียนโหมวโจมตีขณะที่ขนส่งเคลื่อนย้ายมันไปเข้าคุก”

ต้วนเทียนเหอดูโศกเศร้าขณะที่พูด “เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเป็นผู้รับผิดชอบในภารกิจนั้น…” เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “คอร์โดต้องเข้าร่วมนิกายเทียนโหมวหลังจากที่พวกมันถูกช่วยไว้ได้  ว่าแต่เธอไปเอาภาพถ่ายนี้มาจากไหนเหรอ?”

“เจียงเหอส่งมาให้ค่ะ” หวางซืออวี่กล่าว “ดูเหมือนว่าคอร์โดจะเป็นระดับสูงที่นิกายเทียนโหมวส่งมาเพื่อจัดการกับเขา  แต่เจียงเหอสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว  เขาบอกว่าเขาฆ่าคอร์โดพร้อมกับผู้ฝึกสัตว์นิกายเทียนโหมว  และสัตว์อสูรอีกเป็นโหล”

"อะไรนะ?" ต้วนเทียนเหอประหลาดใจ “ไปขึ้นรถ  ฉันอยากไปเจอกับเจียงเหอคนนี้”

แน่นอนที่เขาต้องแปลกใจ  เพราะว่าของมูลของเจียงเหอนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป  ต้วนเทียนเหอเองก็ได้อ่านข้อมูลของเจียงเหอก่อนหน้านี้  และได้รู้ว่าเขาอาจจะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรคลาส C

แต่ไม่กี่วันต่อมา  ข้อมูลของเจียงเหอได้มีการอัปเดตเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรคลาส B และยังเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสองหรือสามอีก  นอกจากนี้เขาเพิ่งได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเจียงเหอเมื่อวานนี้ที่ภูต้าตง

เขาสามารถฆ่าคอร์โดที่เป็นผู้ฝึกยุทธระดับ 4 ในเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไร?

รถ Passat ตัดผ่านหมู่บ้านและในไม่ช้าก็มาถึงทางฝั่งตะวันออก  เมื่อพวกเขาไปถึงทุ่งข้าวโพด  ต้วนเทียนเหอและหวางซืออวี่ก็พบว่ามันเละเทะไปหมด

ศพของสัตว์อสูรเลเวล 1 จำนวน 12 ศพถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นแถวเดียว  โดยมีศพของสัตว์อสูรเลเวล 2 วางอยู่ข้าง ๆ ศพของคอร์โดก็วางอยู่ติดกับศพของสัตว์อสูรเลเวล 2 ที่มีสภาพเละเลือดตัวนั้นเช่นกัน

ต้วนเทียนเหอมองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัว “ดูจากสภาพที่เกิดเหตุแล้ว  อสูรพวกนี้โดนระเบิดตายทั้งหมด  อีกทั้งแรงระเบิดก็ไม่ใช่เบา ๆ…  เจียงเหอไปได้มันมาจากไหนกัน?”

อาวุธปืนและวัตถุระเบิดถูกห้ามซื้อขายในหัวเซี่ย  ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่สามารถมีได้

แต่ต้วนเทียนเหอก็ไม่ได้คอยตรวจสอบเรื่องนี้และหันไปมองที่หน้าอกของคอร์โดและกล่าวว่า “คอร์โดถูกฆ่าด้วยฝ่ามือเดียวที่ทะลวงอวัยวะภายในทั้งหมด  และทำลายพลังชีวิต… ไม่มีบาดแผลอื่น ๆ บนร่างกาย  นี่คือการสังหารในพริบตาจากฝ่ามือเดียว”

“สังหารในพริบตา?” หวางซืออวี่อุทานด้วยความประหลาดใจ “เจียงเหอพึ่งไปถึงระดับสี่  คนที่พึ่งเป็นระดับสี่สามารถสังหารระดับสี่ขั้นสุดยอดในพริบตาได้ด้วยเหรอคะ?”

“ถ้าหากซุ่มโจมตีก็มีโอกาสสำเร็จอยู่เล็กน้อย  แต่ว่าจากบาดแผลที่เห็นนี่บอกได้เลยว่าพวกเขาสู้กันซึ่ง ๆ หน้า…” ต้วนเทียนเหอถอนหายใจยาว “เจียงเหอคนนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น  เธอแน่ใจนะว่าเขาพึ่งเป็นระดับสี่วันนี้น่ะ?  แม้แต่ระดับห้าขั้นสุดยอดทั่ว ๆ ไปก็ยังฆ่าคอร์โดด้วยฝ่ามือเดียวไม่ได้…  เธอบอกว่าเจียงเหอฆ่าผู้ฝึกสัตว์อสูรของนิกายเทียนโหมวด้วยไม่ใช่เหรอ?”

“แล้วเจียงเหอล่ะ? ทำไมไม่เห็นเขา?”

จากนั้นก็มีเสียงสวบสาบ ๆ ดังขึ้น  เสียงนี้เกิดจากเจียงเหอที่กำลังลากงูยักษ์ที่หนาครึ่งเมตรและยาวกว่าสิบเมตรออกจากทุ่งข้าวโพด  แต่กลับมีเสียงบ่นของเขาดังมาถึงหูก่อนที่ตัวคนจะมาถึงเสียอีก

“ไงล่ะไอ้งูผี! หนีเก่งนักนะเอ็ง  เก่งขนาดทำลายทุ่งข้าวโพดไปตั้งหลาร้อยหมู่…”

เจียงเหอทิ้งศพของงูรวมกับกองซากศพอื่น ๆ เขาหันมองต้วนเทียนเหอและยิ้มกว้าง “ไอ้ผู้ฝึกสัตว์อสูรคนนั้นมันตายอย่างน่าสยดสยองเกินไปหน่อย  ผมรู้สึกขยะแขยงก็เลยไม่อยากไปแตะต้องศพของมันน่ะครับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด