ตอนที่แล้วบทที่ 24: เจียงเหอโต้กลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26: ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน!

บทที่ 25: ลืมไว้ชีวิตพวกมันซะได้


เจียงเหอพบว่าตอนนี้เขาอยู่ในที่ค่อนข้างสูง

ลมฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงกรอบแกรบ

ใต้แสงจันทร์  เขายืนอยู่บนสันเขาและพึมพำกับตัวเองว่า “นี่ตูใจร้อนไปไหมวะ? ตูอยู่ในที่แจ้ง  แต่ศัตรูอยู่ในที่ลับแถมยังไม่รู้ว่าพวกมันแข็งแกร่งขนาดไหนอีกต่างหาก  ถ้าตูชนะก็แล้วไป  แต่ถ้าแพ้ล่ะก็…”

เขาเรียกเอ้อเหลิงจื่อโดยกะว่าจะกลับบ้านไปก่อน  ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่  เขาจะมาจัดการกับพวกมันเมื่อไหร่ก็ได้  เมื่อเขากลับบ้านและคิดหาวิธีที่จะปลูกโอสถได้แล้วกินมันทุกวัน  เขายังจะต้องกลัวนิกายเทียนโหมวอยู่อีกหรือ?

แต่ว่าเอ้อเหลิงจื่อก็ไม่ขยับ  แต่มันกลับหมอบลงตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะกระโจน  และแยกเขี้ยวคำรามออกมาอย่างดุร้าย  แมวปีศาจสามหางเองก็ส่งเสียงร้องขู่ฟ่อ ๆ อีกด้วย  มันยังขยายตัวขึ้นข้าง ๆ เอ้อเหลิงจื่อเพื่อปกป้องเจียงเหอ

ใบหน้าของเจียงเหอกระตุกเมื่อมองไปข้างหน้า  มีเสียงดังสวบสาบมาจากทุ่งข้าวโพด  และในไม่ช้าร่างสองร่างก็ได้ก้าวออกมา  โดยมีสุนัขท่างทางดุร้ายเลเวล 2 ตามหลังพวกมันมาด้วย

คอร์โดควงใบมีดโค้งสองสามครั้งเมื่อมันเห็นว่ามีกลุ่มผู้ที่ยืนต้อนรับอยู่ “เลเวล 1 กับ 3” มันต้องอุทานด้วยความประหลาดใจ “นี่แกยังกล้าบอกว่ามันไม่ใช่ผู้ฝึกอสูรอีก?”

คนชุดดำไม่พูดอะไร  มันเอานิ้วจิ้มที่มุมปากและผิวปากเสียงดังออกมา  ในวินาทีต่อมาได้มีเสียงกรอบแกรบก้องไปทั่วทุกทิศทุกทาง  เมื่อมีสัตว์อสูรเป็นโหลโผล่ออกมาจากทุ่งข้าวโพด

ส่วนใหญ่เป็นสุนัขกับแมว  พร้อมด้วยหมาป่าสีเทาและงูยักษ์ที่มีความยาวหลายสิบเมตรลำตัวหนาครึ่งเมตร  มันผู้นี้เป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรอย่างแน่นอน  เพียงแต่มันคงพึ่งจะปลุกพลังได้ยังไม่นานสักเท่าไหร่  มันจึงยังไม่สามารถควบคุมสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตัวมันเองได้  สิ่งสำคัญที่สุดคือแถวนี้มีสัตว์อสูรที่มันจะเอามาใช้งานได้ไม่มากนัก

ที่ปลายอีกด้านของทุ่งข้าวโพด  สีหน้าของเจียงเหอค่อนข้างเคร่งขรึม  ผู้ฝึกยุทธระดับสี่  ผู้ฝึกอสูรแสนจะลึกลับ  และเหล่าสัตว์อสูรอีกเป็นโหล  ในฐานะผู้ฝึกยุทธมือใหม่  มีที่ไหนที่เขาจะเคยเจอภาพเหตการณ์แบบนี้มาก่อน?

"อันตรายว่ะ!  อันตรายเกินไปแล้ว!  ถึงตูจะไม่กากก็เถอะ  แต่ก็ไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้จริงมากมายอะไร  จะยั้งมือไม่ได้… จะยั้งมือไว้ไม่ได้เด็ดขาด  จู่โจมแต่ละครั้งจะต้องลงมือแบบกะฆ่าให้ตายเผื่อไว้ก่อนเลย!”

เหงื่อไหลออกจากคิ้วของเจียงเหอ  เขาขยับมือและมีถั่วปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วพร้อมกับตะโกน "เอ้อเหลิงจื่อ  ซานเหลิงจื่อ  หนีไป!"

ด้วยความที่เชื่อฟังเจียงเหอทุกคำพูด  เจ้าซานเหลิงจื่อมันหันหลังและวิ่งหนีไปทันที  ขณะที่เอ้อเหลิงจื่อมองดูเจียงเหออย่างสับสนก่อนจะใส่เกียร์หมาเผ่นไปเช่นกัน  สัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ก็ไม่ได้หยุดพวกมันไว้  อันที่จริงบางทีผู้ฝึกสัตว์นั่นคงรู้สึกว่าการปล่อยให้สัตว์อสูรเลเวล 1 กับ 3 หนีไปอาจทำให้ฝ่ายของพวกมันเองได้เปรียบมากกว่า

ในเวลาเดียวกันคอร์โดได้ก้าวไปข้างหน้า  ออร่าขั้นสุดยอดระดับสี่ของมันระเบิดออกมาและทำให้ต้นข้าวโพดรอบ ๆ โดนกดจนแบนราบไปกับพื้น

มันจ้องมองด้วยแววตาอันดุร้ายและเยาะเย้ยออกมา “ไอ้เด็กเปรต  สวรรค์มีทางให้เดินไปดันไม่ไป  นรกไม่มีประตูดันอยากเข้ามา  กล้ามายุ่งเรื่องของนิกายศักดิ์สิทธิ์แบบนี้  แสดงว่าแกคงคิดวิธีตายเอาไว้แล้วสินะหา?”

เจียงเหอกำถั่วและตะคอกสวนอย่างเดือดดาล “อย่าขยับ  ขืนเอ็งเข้ามาอีกก้าวเอ็งโดนบึ้มแน่!”

“ระเบิดมือ?”

คอร์โดกระพริบตาปริบ ๆ เขาเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่เหมือนกับเจียงเหอซึ่งมีประสิทธิภาพการมองเห็นเหนือมนุษย์ธรรมดา  และสามารถมองเห็นถั่วในมือของเจียงเหอได้อย่างชัดเจน  มันคือถั่วขนาดใหญ่  มีลักษณะเป็นผลึกสีเขียว

คอร์โดหัวเราะเสียงดัง “ไอ้เด็กเวรนี่  ถึงข้าจะไม่ได้มีการศึกษาแต่แกคิดว่าจะเอาไอ้เม็ดถั่วกาก ๆ นั่นมาตบตะ… เชรี่ย!”

ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ  เมล็ดถั่วก็บินมาตรงหน้าแล้ว  และความรู้สึกถึงอันตรายอันแสนจะเย็นยะเยือกก็ปะทุขึ้นในกาย  คอร์โดรีบถอยหนีตามสัญชาตญาณ  มันรีบชาร์จพลังเจินฉีเพื่อปกป้องร่างกายในทันที

ในชั่วพริบตาต่อมา  เมล็ดถั่วก็ตกลงบนพื้น

ตู้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับเปลวเพลิงที่ปะทุออกมาอย่างรุนแรงพัดเอาเหล่าสัตว์อสูรเลเวล 1 ที่อยู่รอบ ๆ ปลิวกระเด็นขึ้นไปบนอากาศ  แรงกระแทกนั้นรุนแรงมากจนแม้แต่แผ่นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย

ในทางกลับกัน  ผู้ฝึกสัตว์อสูรที่สวมเสื้อคลุมสีดำและสุนัขตัวใหญ่นั่นอยู่ใกล้กับการระเบิดมากกว่าไอ้เจ้าคอร์โดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว  และถอยห่างออกไปหลายสิบเมตรเสียอีก

แต่ว่าเจ้าผู้ฝึกสัตว์ทำไม่ได้

ทั้งหมดที่มันเห็นคือความสว่างวาบออกมาอย่างกะทันหัน  แสงที่ลุกโชติช่วงขนาดทำให้ตาพร่า  ตามด้วยแรงสั่นสะเทือนที่พุ่งเข้าใส่ร่างกาย  เป่ามันให้ปลิวขึ้นฟ้าไปราวกับเศษขยะ  ด้วยสภาพที่ร่างกายทั้งสองซีกที่กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

เช่นเดียวกับสุนัขตัวใหญ่ที่มันพยายามอย่างมากในการชุบเลี้ยง  ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเศษเนื้อเพราะโดนระเบิดเข้าไปเต็ม ๆ เรียบร้อย

เสื้อคลุมสีดำโดนแรงระเบิดเป่าจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่ร่างผอมยาวจะตกลงไปท่ามกลางต้นข้าวโพด  ตอนนั้นเองที่มันนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

“เอ๊ะ  นั่นมันส่วนล่างของขะ…”

นั่นคือความคิดสุดท้ายของมัน

***

“อะไรวะ...”

เจียงเหอเองก็ตกตะลึงกับพลังทำลายล้างของระเบิดถั่ว

เขาลืมไอ้ 'คำเตือน' จากระบบไปแล้ว  อย่างน้อยเขาก็ได้ใช้วิชากายาวัชระคงกระพันและวิชาเก้าเอี้ยงโดยสัญชาตญาณเพื่อปกป้องตัวเอง  ถึงกระนั้นเมื่อคลื่นกระแทกที่รุนแรงและมาพร้อมความร้อนแผดเผาเข้ามากระทบร่างกาย…

การป้องกันด้วยกายาวัชระคงกระพันถูกทำลาย!

มีเสียงแตกลั่นออกมาเล็กน้อยแล้วเจียงเหอก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก  เขาถอยหลังไปหลายสิบก้าวก่อนจะหยุดตัวเองได้  แล้วจึงใช้เจินฉีระงับเลือดลมในกายและใช้กายาวัชระคงกระพันอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน  เขาก็พบจุดศูนย์กลางของการระเบิดซึ่งเป็นจุดที่ 'ถั่ว' ของเขาตกใส่

ตอนนี้มีสภาพเหมือนปล่องภูเขาไฟกว้างสามเมตรและลึกหนึ่งเมตรอยู่ตรงกลางทุ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสีมรกต  ทางเดินและต้นข้าวโพดรอบ ๆ ถูกระเบิดจนไม่เหลือ  และซากของสุนัขตัวใหญ่ที่ตอนนี้กระจัดกระจายจนดูไม่ออกว่ามันเคยมีรูปร่างเหมือนสุนัขมาก่อน  รวมไปถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ก็เกลื่อนไปทั่วเช่นกัน

โอ้โฮ!

เจียงเหออ้าปากค้างและพูดงึมงำ “นี่แค่ถั่วเดิม ๆ นะเว้ย? นี่ขนาดอยู่ห่างตั้งเป็นยี่สิบเมตร  แรงระเบิดมันยังเจาทะลุกายาวัชระคงกระพันของตูได้  ทำเอาภายในตูปั่นป่วนจนต้องกระอักเลือดซะขนาดนี้! แล้วถ้าเป็นไอ้ถั่วเวอร์ชันปรับปรุงที่มีสรรพคุณห้าเท่าล่ะวะ… ถ้าปาไปตูไม่ตายห่านไปด้วยเลยเรอะ?”

เขาหยุดมองไปรอบ ๆ “เดี๋ยวดิ๊… แล้วไอ้เตี้ยมันไปอยู่ไหนแล้ววะ”

ใบหน้าของเจียงเหอหมองลงในทันที  เขาหันไปทันทีเมื่อเงาดำพุ่งเข้ามาพร้อมกับพระจันทร์เสี้ยว   ใบมีดในมือของเงาดำนั่นฟาดลงมาที่เจียงเหอด้วยแววตาที่ดุร้าย  คมมีดนั้นฟันโดนหน้าอกของเจียงเหอเต็ม ๆ

เขาผงะถอยออกไปสองก้าว  โดยสายตายังคงจับจ้องไปที่เงาดำและถามว่า “ยังไม่ตายอีกเหรอวะ  ไอ้เตี้ย?”

"หา?"

คอร์โดถูกยั่วยุเพราะคำด่า

มันกำลังจะกดดันต่อ  แต่ดันถอยหลังทันทีแม้ในขณะที่กำลังก้าวเท้าข้างหนึ่ง  มันยังร้องออกมาโดยไม่ตั้งใจว่า “ไม่มีทาง! แกไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธระดับห้าแท้ ๆ ไม่มีทางที่จะโดนคมมีดของข้าแล้วจะไม่เป็นอะไรเลย!”

“ไม่เป็นอะไรเลย?”

นิ้วมือของเจียงเหอสัมผัสหน้าอกและพบเลือดหยดหนึ่ง

“เอ็งมาหลอนอะไรวะหา  ไอ้เตี้ย? มีดของเอ็งทรงพลังพอที่จะเฉือนกายาวัชระคงกระพันของตูจนทะลุ… ถลอกขนาดนี้  เอ็งยังหาว่าไม่เป็นไรอีกเหรอวะ?” เขาตอบหน้าบึ้ง

เจ้าคอร์โดที่รู้สึกว่าตนเองกำลังโดนดูถูกจึงตะคอกออกมา “ข้ายอมตายดีกว่าทนรับความอัปยศอดสูนี้!  เข้ามาสิวะไอ้เด็กนรก!  คอร์โดผู้นี้จะฆ่าแกเพื่อขจัดอุปสรรคของนิกายศักดิ์สิทธิ์เอง!”

มันเงื้อมีดพร้อมกับพุ่งเข้าใส่เจียงเหออีกครั้ง  แต่มันพึ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ไม่เท่าไหร่  มันกลับได้ยินเสียงมังกรคำรามดังสนั่นลั่นทุ่ง  และมีเงาของมังกรทองตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่  ทลวงหน้าอกของมันเต็ม ๆ

***

“มังกรผยองได้สำนึก  ทรงพลังเบอร์นี้เลยเหรอวะเนี่ย?”

เจียงเหอหันไปทางร่างไร้ชีวิตของชายร่างเตี้ยที่ลอยกระเด็นออกไปไกลกว่ายี่สิบเมตร

“ซวยละ” เขาบ่น “ตูมัวแต่คิดว่าจะต้องป้องกันภัยคุกคามก็เลยใส่เต็มเหนี่ยว  แต่ดันลืมสนิทไปเลยว่าต้องเหลือชีวิตพวกมันไว้บ้าง  จะได้เอาไว้สอบปากคำเพื่อเปิดโปงว่าใครมันอยู่เบื้องหลัง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด