ตอนที่แล้วตอนที่ 30 อย่าลังเล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 ใจดี

ตอนที่ 31 พี่ชาย โหดไปหน่อยแล้ว


“แค่พูดนั่นสิง่าย เก่งนักก็มาลองดูหน่อยไหม!” เจียงเล่ยร้องครวญ สายตาจ้องไปที่เจียงเหยาด้วยความขุ่นเคือง เมื่อเห็นเธอหัวเราะคิกคัก เขาทำได้เพียงพ่นลมหายใจออกมา

“คิดว่าฉันต้องยุ่งยากก็เพราะใครกัน? ยังจะมาหัวเราะอีก”

เจียงเล่ยรู้จากเสียงของเธอที่หัวเราะชอบใจ แสดงว่าเธอกำลังมีความสุขจริง ๆ เรื่องที่เธออยู่บ้านลู่อย่างมีความสุขก็คงจะเป็นเรื่องจริง

5 โมงเย็นแล้ว เจียงเจียทีทำงานสหกรณ์ในเมืองคงได้เวลากลับบ้านแล้ว ทันทีที่เขาเข้ามาในบ้าน ก็ได้ยินเสียงหยอกล้อระหว่างเจียงเล่ยและเจียงเหยาที่ดังลอดออกมาถึงหน้าบ้าน

“พ่อครับ แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว” เจียงเจียเข้ามาในบ้านพร้อมกับห่ออาหารร้อน ๆ ในมือ เขานำห่ออาหารเข้าไปในครัวและหันหน้ามุ่งไปที่ลานบ้าน

“เหยาเหยา ชิงสี อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

เจียงเล่ยมักจะแต่งกายแปลก ๆ เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาว ทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่และดูฉลาด

“พี่ใหญ่!” ทันทีที่เธอเห็นเจียงเจีย เจียงเหยาผละจากเจียงเล่ยและวิ่งตรงไปหาเขา เธอโอบแขนของเจียงเจีย ในขณะที่ทำหน้าบึ้งใส่เจียงเล่ย

“พี่ใหญ่ เจียงเล่ยโง่มากเลยล่ะ! เขาว่าหมอคนอื่น ๆ ช่วยคนเจ็บ รักษาคนป่วย ส่วนฉันคงมีแต่คนป่วยที่อยู่แต่ในแฟ้มผลงาน!”

“เอาน่า ๆ หลังจากที่เธอเรียนจบ ก็ให้เขานั่นล่ะเป็นผู้ป่วยรายแรกของเธอ ฝึกกับร่างกายของเขานั่นแหละจนกวาจะชำนาญ” เจียงเจียหัวเราะ “ลองดูว่าเขายังจะพูดว่าเธอเป็นหมอที่ไม่ดีอยู่อีกรึเปล่า”

“พี่ใหญ่ โหดเกินไปแล้ว” เจียงเล่ยมุ่นหน้าและบ่นว่าเขา

“พี่ใหญ่” ลู่ชิงสีเรียก เขาและเจียงเจียอายุห่างกันเพียงไม่กี่เดือนทว่าคนละปี ทว่าลู่ชิงสีเป็นเด็กที่ฉลาด โดดเด่นในด้านการเรียน ทำให้ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันถึงสองปีตอนเรียน ม.ปลาย ทำให้ลู่ชิงสีรู้สึกสนิทกับเจียงเจียมากที่สุดในตระกูลเจียง

ในปีสุดท้ายของการภาคการเรียน ลู่ชิงสีถูกโยกไปเรียนในห้องเรียนสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี ทำให้พวกเขาไม่ได้เรียนห้องเดียวกันอีกต่อไป

ในความคิดของเจียงเจีย ลู่ชิงสีเป็นคนนิ่ง ๆ เขาเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ครูและนักเรียนหญิง ก่อนที่เจียงเหยาจะแต่งงานกับลู่ชิงสี เจียงเจียไม่เคยคาดคิดถึงวันนั้นเลย เพื่อนร่วมชั้นของเขา ต้องมาเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ เหมือนที่น้องสาวคนเล็กของเขาเรียก

เจียงเจียยังจำได้ว่าก่อนงานแต่งงาน ลู่ชิงสีได้พบกับเขาและแสดงความตั้งใจที่จะแต่งงานกับเจียงเหยา เขาห่อตัวด้วยความตกใจและท่าทีในทีแรกของเขาคือไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

นั่นก็เพราะลู่ชิงสีเป็นคนที่น่าเบื่อและความรู้สึช้า ตรงกันข้ามกับนิสัยกระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวาของน้องสาวคนเล็กของเขา บางครั้งที่เธออยู่กับเขา เธอยังรู้สึกเบื่อที่พี่ชายคนโตอย่างเขาเป็นคนที่เงียบ ไม่ค่อยพูด ถ้าเธอแต่งงานกับลู่ชิงสี ทั้งชีวิตของเธอไม่ต้องเบื่อไปตลอดหรอกหรือ?

เจียงเจียคิดว่าผู้ชายที่มีบุคลิกอย่างเจียงเล่ย ถึงจะเหมาะสมกับน้องสาวของเขามากกว่า เพราะพวกเขาจะได้มีชีวิตที่สนุกสนานร่วมกัน

“อยู่ในกองทัพเป็นยังไงบ้าง กลับมาคราวนี้ อยู่นานไหม” เมื่อเขาหันกลับไปพูดกับลู่ชิงสี ท่าทีของเจียงเจียก็เปลี่ยนไปเป็นสุภาพขึ้น

“สองวัน พรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้ว” ลู่ชิงสีตอบ

เจียงเจียพยักนห้า พวกเขายืนอยู่ด้วยกันท่ามกลางความเงียบ

เจียงเจียไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับลู่ชิงสีอีก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนนั้น ที่โรงเรียนพวกเขาคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการบ้านและเรื่องการเรียนอื่น ๆ ตอนนี้พวกเขาทำงานในสาขาที่ตัวเองเลือกมาหลายปีแล้ว จึงไม่รู้จะหาหัวข้อสนทนาอะไรมาพูดคุยกันมากนัก

โชคยังดีที่หลังจากนั้นไม่นาน แม่เจียงก็ตะโกนเรียกให้ทุกคนเข้ามาทานข้าวเย็น คนทั้งหกนั่งล้อมรอบโต๊ะอาหาร บรรยากาศพลุกพล่าน เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ

หลังอาหารเย็น เจียงเหยาและลู่ชิงสีออกเดินทางกลับบ้านลู่ พร้อมกับผักและผลไม้เต็มตะกร้า

ขณะที่เจียงเจียกำลังเดินทางกลับหอพักของเขาที่อยู่ในเมืองด้วยเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด