ตอนที่แล้วตอนที่ 12 ค้าขาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 เวทมนตร์ระดับเงิน

ตอนที่ 13 ภูตวารี


ตอนที่ 13 ภูตวารี

ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

“นายท่าน พวกเราจับเด็กสองคนนั้นได้แล้ว พวกนั้นมาพร้อมกับแป้งกว่าร้อยชั่งและยังมีเนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อวัวอีกหลายสิบตัว เหรียญทองอีก 150 เหรียญ และที่สำคัญยังมีไข่ของไก่หอมหวนห้าสีอีก 90 กว่าฟอง” คนงานคนนั้นคุกเข่าก่อนที่จะเลียริมฝีปากของตัวเอง

ไข่ของไก่หอมหวนห้าสีมีกว่า 90 ฟอง

คนงานคนนั้นรวมไปถึงคนงานทั้งหลายได้รวบรวมเงินเพื่อที่จะซื้อไข่เพียงสองฟอง เพียงแค่ไข่คำเดียวก็มากพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายของทุกคนอบอุ่นและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากเศษเสี้ยวของไข่ยังให้ผลดีถึงขนาดนี้ เมื่อได้กินไข่ทั้งหมดที่มีจะแข็งแกร่งมากขึ้นแค่ไหน? ถ้าหากคนงานทุกคนรู้ว่าเด็กทั้งสองจะมีไข่ล้ำค่ามากถึงขนาดนี้ ทุกคนก็คงจะไม่ยอมใช้เงินทั้งหมดที่มีแน่ โชคยังดีที่เจ้านายของพวกเขาฉลาดพอ เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงได้เงินทั้งหมดกลับมา

คนงานคนนั้นกำลังรอการตัดสินของผู้เป็นเจ้านาย ในตอนนี้ไมล์กำลังเอาหลังมือถูกับใบหน้าของตัวเอง ดูเหมือนว่าดวงตาของเขาจะร่องรอยไปยังที่ไหนสักแห่ง

“นายท่าน? นายท่านไมล์?”

ไมล์กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังถูกเรียก “หาคนขนของทั้งหมดกลับไปทีหลัง อย่าบอกใครล่ะว่าพวกเราจับเด็กทั้งสองคนนี้ได้! เพื่อเก็บเรื่องนี้ไว้ความลับฉันจะมอบไข่ของไก่หอมห้าสีให้กับแกเอง”

“ขอบคุณมากนายท่าน ฉันน่ะตั้งหน้าตั้งตารอชิมไข่เต็มฟองมานานแล้ว”

คนงานคนนั้นรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็น

ไมล์ขมวดคิ้วก่อนที่จะเอ่ยปากถามออกมา “เด็กพวกนี้คิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมพวกมันถึงต้องแบ่งขายไข่พวกนี้ให้กับพวกแกด้วย?” คนงานที่ถูกถามไม่กล้าที่จะตอบกลับ

“เด็กสองคนนี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทรุดโทรม แค่มองครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าพวกมันไม่ได้มาจากตระกูลผู้ร่ำรวย เด็กพวกนี้ยังแอบอ้างถึงเรื่องเมืองมอนเตอีกด้วย เจ้าเด็กพวกนี้ก็แค่พวกขี้โกหกก็เท่านั้น! ฮาฮ่า! ตราบใดที่เด็กพวกนี้ไม่ได้มีภูมิหลังที่สูงส่งอะไร ไข่และทรัพย์สินทั้งหมดจะต้องตกเป็นของฟาร์มพวกเราแน่”

ยิ่งไมล์ได้พูดมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น “การที่เจ้าพวกนี้มีไข่กว่า 90 ฟองไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ บางทีพวกมันอาจจะมีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับไก่หอมหวนห้าสีด้วย”

แม้ว่าไมล์จะมีความสุขมากที่ได้รับเหรียญทองกว่าร้อยเหรียญ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับไก่หอมหวนห้าสี สัตว์ล้ำค่าอย่างไก่หอมหวนห้าสีมีเพียงขุนนางผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ครอบครอง แน่นอนว่าไก่ตัวนั้นมักจะถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่เสมอ เด็กทั้งสองคนนี้อาจจะขโมยไข่ 2-3 ฟองได้ แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขโมยไข่กว่า 90 ฟอง มีเพียงการรู้สถานที่ของไก่หอมหวนห้าสีเท่านั้นที่จะทำให้ได้รับไข่มากมายแบบนี้ได้

การหายใจของไมล์เริ่มหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ยิ่งคิดถึงสัตว์วิเศษมากเท่าไหร่ตัวเขาก็ยิ่งตื่นเต้น

“นายท่าน พวกเราจะสอบปากคำเจ้าเด็กพวกนั้นยังไงดี?”

“ยังไงก็ได้ เพียงแค่อย่าฆ่าพวกมันเท่านั้นที่เหลือก็ทำตามต้องการเถอะ”

ไมล์โบกมือพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย แม้ว่าตัวเขาจะโลภมากแต่ไมล์ก็ยังไม่ได้โหดร้ายไปซะทีเดียว

...

สามวันผ่านไปนับตั้งแต่ที่ซีคและซีโน่หายสาบสูญ

ในช่วงเวลาสามวันมานี้ วัตสันได้เรียนรู้การใช้เวทมนตร์น้ำระดับเหล็กอีก 2 บทจากหนังสือเวทมนตร์ หนึ่งในเวทมนตร์ที่ได้เรียนรู้มีชื่อว่าเวทอัญเชิญภูตน้ำ มันเป็นเวทมนตร์ที่จะทำให้ผู้ใช้อัญเชิญภูตน้ำขนาดเท่ากำปั้นออกมาได้ ภูตน้ำสามารถช่วยสอดแนมนำทางและยังตรวจสอบภัยอันตรายได้ด้วย

อีกเวทมนตร์ที่ได้เรียนรู้มีชื่อว่าโล่วารี มันเป็นเวทมนตร์ที่ใช้สร้างโล่ขนาดใหญ่ขึ้นมา โล่วารีสามารถสกัดกั้นการโจมตีของผู้ที่มีพลังระดับเหล็กได้

วัตสันที่ยืนอยู่บนฟาร์มได้โบกมือออกมาเบาๆ ภูตน้ำที่มีรูปร่างคล้ายปลาปรากฏขึ้นก่อนที่จะโบยบินไปรอบตัววัตสัน มันกระดิกหางก่อนที่จะมีหยดน้ำโปรยปรายไปทั่ว

ในมือขวาของวัตสันเองได้ถือโล่ที่ดูแข็งแกร่งเอาไว้ มันเป็นโล่ที่มีสีฟ้าคราม บนตัวโล่ดูคล้ายกับน้ำวน

วัตสันปรบมือ ท้ายที่สุดแล้วโล่ในมือรวมไปถึงภูติน้ำก็ได้หายจางไป “หนังสือเวทมนตร์พื้นฐานนั่นมีเพียงเวทระดับเหล็กแค่ 4 บทเท่านั้น แม้ว่าจะมีเวทย์ของธาตุอื่นบันทึกเอาไว้แต่ฉันก็ไม่สามารถฝึกฝนได้อยู่ดี”

คนเราจะสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ที่สอดคล้องกับธาตุเฉพาะตัวได้เท่านั้น เพราะแบบนั้นวัตสันจึงเรียนรู้ได้แต่เวทมนตร์ธาตุน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นหนังสือที่ครอบครัวของเขามีก็ยังเป็นเพียงหนังสือพื้นฐาน แต่โชคยังดีที่วัตสันยังมีระบบฟิวชั่นอยู่

“เอาล่ะเวทมนตร์ระดับเหล็กจะฟิวชั่นได้อะไร เริ่มการฟิวชั่นได้”

[ฟิวชั่นเวทมนตร์ระดับเหล็กสำเร็จ ได้รับเวทมนตร์ระดับทองแดง: เวทมนตร์อัญเชิญผองภูตน้ำ]

[เวทมนตร์ระดับทองแดง: เวทมนตร์อัญเชิญผองภูติน้ำ]

[ผล: สามารถอัญเชิญภูตน้ำได้ตั้งแต่ 1-100 ตน ภูตน้ำแต่ละตัวจะมีพลังการต่อสู้เทียบเท่าได้กับผู้มีพลังต่อสู้ระดับเหล็ก นอกจากนี้ภูตแต่ละตัวยังสามารถสำรวจพื้นที่ได้ไกลกว่าพันเมตร และยังสามารถรวมตัวกันเป็นอาวุธวิเศษอย่างมีด ดาบ โล่ ขวาน เพื่อสร้างความเสียหายที่รุนแรงขึ้นได้]

เมื่อฟิวชั่นเวทมนตร์สำเร็จข้อความเนื้อหาก็ได้ปรากฏขึ้น เวทมนตร์ที่เกิดจากการหลอมรวมไม่จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนใช้ เวทมนตร์ที่ได้จะเป็นเวทมนตร์ระดับสูงสุดเสมอ

วัตสันอดไม่ได้ที่จะทดลองใช้เวทมนตร์บทใหม่ ท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็ได้อัญเชิญกลุ่มภูตน้ำจำนวนมากออกมา ปลาสีฟ้าที่ดูคล้ายเดิมปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันปรากฏมากขึ้นจนมีกว่าร้อยตัว

แม้ว่าจะอยู่ในตอนกลางวันแต่รอบตัวของวัตสันก็ยังเต็มไปด้วยแสงสีฟ้า แสงสีฟ้าที่มีมากขึ้นได้ทำให้วัตสันรู้สึกเหมือนได้อยู่ในใต้ทะเลลึก

วัตสันโบกมืออีกครั้ง ภูตน้ำทั้ง 100 ตนรวมตัวกันก่อนที่จะกลายเป็นสายน้ำสีฟ้า สายน้ำได้ลอยขึ้นสูงก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างจนกลายเป็นกำปั้นขนาดใหญ่ที่ กำปั้นทั้งหมดร่วงหล่นสู่พื้น ถ้าหากรวมน้ำหนักของน้ำและแรงที่กำลังร่วงหล่นพลังการโจมตีที่เห็นจะต้องมีแรงกว่าหลายพันชั่งแน่ ทันทีที่กำปั้นกระแทกกับพื้น กำปั้นทั้งหลายก็สลายหายไป

ตู๊ม!

บนพื้นดินรอบตัววัตสันเกิดรอบแตกร้าวกว่าหลายเมตรปรากฏขึ้น มันได้สั่นไหวไปถึงร่างกายของวัตสัน พลังกำปั้นยังสามารถกลายเป็นดาบและขวานยักษ์บดขยี้พื้นดินได้อีกด้วย

“กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก”

ไก่หอมหวนห้าสีกำลังเดินเล่นอยู่ภายในฟาร์ม หลังจากที่ได้ยินเสียงพลังทำลายตัวมันก็ได้แต่ส่งเสียงก่อนที่จะพยายามหลีกหนี มันไม่รู้เลยว่าผู้เป็นเจ้านายของมันกำลังคิดอะไรอยู่

“ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่ทุกคนจะบอกว่านักเวทย์เป็นผู้มีพลังการโจมตีที่สูงที่สุด”

หลังจากที่สร้างความเสียหายไปได้สักพัก ร่างกายของวัตสันก็เริ่มสั่น ตัวเขากำลังเหนื่อยล้าไปถึงจิตวิญญาณ

นักรบระดับทองแดงธรรมดาสามารถสังหารผู้ที่อยู่ในระยะทาง 10 เมตรได้แน่ สิ่งที่นักรบเหล่านั้นใช้นั่นก็คือเทคนิคการเคลื่อนไหวรวมไปถึงทักษะดาบ เพียงแค่ใช้ดาบผนวกเข้ากับทักษะทั้งหลายก็เพียงพอแล้วที่จะใช้สังหารผู้คนจำนวนมากได้ แต่นั่นก็เป็นแค่การโจมตีธรรมดา เมื่อเทียบกับพลังการโจมตีของเหล่าภูตน้ำแล้วมันยังต่างกันมาก เพียงแค่การใช้งานอาวุธเวทมนตร์ของภูตน้ำครั้งเดียว ผู้คนจำนวนมากจะต้องได้รับความเสียหายไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ในตอนนี้ฉันก็กลายเป็นนักเวทระดับทองแดงแล้ว แต่มันก็ยังไม่มากพอ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากฟิวชั่นเวทมนตร์ระดับทองแดงทั้ง 2 อย่าง?”

วัตสันลูบคางก่อนที่จะครุ่นคิด หลังจากที่ตัวเขาเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์ระดับทองแดงได้แล้ว ตัวเขาในตอนนี้ก็เป็นเหมือนกับผู้ใช้เวทระดับทองแดงผู้ทรงพลัง แต่สำหรับวัตสันมันก็ยังไม่มากพอ เมื่อไม่กี่วันก่อนเวสลีย์ก็เพิ่งจะมาปล้นไก่ของตัวเขา ในภายภาคหน้าจะต้องมีศัตรูมากกว่านี้แน่ วัตสันที่คิดแบบนั้นมีแต่จะต้องแข็งแกร่งขึ้น

ก่อนที่จะฟิวชั่นต่อ ในตอนนั้นเสียงของผู้เป็นพี่ชายก็ดังขึ้นมาซะก่อน “ทำอะไรน่ะวัตสัน? พ่อให้ฉันมาดูว่านายทำให้แผ่นดินไหวรึเปล่าน่ะ”

วินเซนต์ พี่ชายของวัตสันอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เมื่อมองไปยังฟาร์มไก่ตัวเขาก็พบกับวัตสันที่กำลังยืนอยู่ ฟาร์มไก่ในตอนนี้มีสภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ วินเซนต์รู้ดีว่าน้องชายคนนี้ได้รับหน้าที่ดูแลไก่ และน้องชายคนนี้ยังฝึกฝนการใช้เวทมนตร์อีกด้วย แล้วเวทมนตร์แบบไหนกันล่ะที่ทรงพลังมากพอจนทำให้แผ่นดินสั่นไหวได้?

“พี่ครับ ผมก็แค่ฝึกฝนเวทมนตร์ระดับเหล็กอยู่น่ะครับ ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้เสียงดังขนาดนี้” วัตสันเกาหัวอย่างเขินอาย

วินเซนต์ที่ได้ฟังแบบนั้นมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป วัตสันกำลังทำเหมือนกับตัวเขาเป็นคนโง่ ใครจะเชื่อกันว่าเวทมนตร์ระดับเหล็กจะทำให้แผ่นดินไหวได้?

วินเซนต์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินไปตบไหล่ของผู้เป็นน้อง “วัตสัน ฉันมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับนาย นายน่ะไปเรียนการใช้เวทมนตร์ที่ไหนกัน? แล้วเรื่องของไก่หอมหวนห้าสีด้วย ไก่ตัวนี้มันมาจากไหนกันแน่ บอกความจริงพี่มาเถอะ!”

ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด