ตอนที่แล้ว179 - มรดกปรากฏ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป181 - หาทางหนี

180 - ศิษย์พี่ใหญ่แห่งยอดเขารกร้าง


180 - ศิษย์พี่ใหญ่แห่งยอดเขารกร้าง

บนยอดเขาหลักที่อยู่ห่างไกลออกไปยอดฝีมือหลายคนจ้องมองการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนใครซึ่งเกิดขึ้นบนยอดเขารกร้าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีเมฆมงคลเต็มท้องฟ้าหรือแสงระยิบระยับปกคลุมทั่วบริเวณ หรือแม้แต่เสียงเพลงจากสวรรค์ มันดูธรรมดาและเป็นธรรมชาติราวกับว่าเป็นมรดกที่ปรากฏขึ้นมาตั้งแต่สมัยสร้างโลก เรื่องนี้แปลกประหลาดมากเกินไป!”

“ครั้งหนึ่งเคยมียอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ที่สามารถได้รับญาณวิเศษและทักษะลับของยอดเขารกร้าง พลังของเขานั้นท้าทายสวรรค์และสามารถเปรียบเทียบได้กับบรรพบุรุษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โบราณได้”

“เป็นไปได้ไหมที่หลี่รุ่ยหยูจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อันดับสองในประวัติศาสตร์ของยอดเขารกร้าง? ผู้อาวุโสคนนั้นถูกเล่าขานว่าเต็มไปด้วยความเฉยชา หลี่รุ่ยหยูก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับเขาไม่ใช่หรือ?”

ยอดฝีมือของยอดเขาหลักอื่นๆพูดคุยกันเบาๆในขณะที่สายตาของพวกเขายังคงจับจ้องไปยังยอดเขารกร้าง

“มรดกที่แสดงออกอย่างเรียบง่ายและธรรมดานั้นเหมาะกับมรดกของยอดเขารกร้างมาก ข้าเดาว่าคนที่มีคุณสมบัติได้รับมรดกบนยอดเขานั้นจะต้องมีนิสัยเฉยชาเหมือนกับหลี่รุ่ยหรู นั่นจึงเป็นเหตุผลให้คนในอดีตไม่มีใครสามารถได้รับมรดกมาก่อน?”

ยอดฝีมือหลายคนของยอดเขาหลักอื่นๆ ต่างตระหนักดีว่ายอดเขารกร้างมีแนวโน้มที่จะผงาดขึ้นอีกครั้งและคงมียอดฝีมืออันทรงพลังเกิดขึ้นเหมือนเช่นในอดีต!

พรสวรรค์ของหลี่รุ่ยหยูนั้นธรรมดามาก ในตอนนั้นการที่เขาได้เป็นศิษย์ของนิกายไท่ซวนก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ไม่คิดว่าท้ายที่สุดแล้วโชควาสนากับบันดาลให้เขาได้รับมรดกสูงสุดของนิกายไท่ซวน

ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน หากหลี่รุ่ยหยูเข้าสู่เส้นทางเต๋าและกลายเป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกับคนผู้นั้นมันก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ตระกูลจี้และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงๆจะไม่รู้สึกยินดีในเรื่องนี้

ไม่นานหลังจากนั้นผู้นำของนิกายไท่ซวนและผู้อาวุโสไท่ซ่างหลายคนซึ่งตามปกติแล้วพวกเขามักจะเก็บตัวฝึกฝนด้วยความสันโดษเป็นเวลาหลายปีก็ปรากฏตัวบนยอดเขารกร้าง

“หลี่รุ่ยหยูไม่ได้ไร้พรสวรรค์อย่างที่เขาพยายามแสดงออกมา ความอุตสาหะของเขาก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง หากว่าเขาสามารถได้รับมรดกโบราณจริงๆ เห็นทีข้าจะต้องยกตำแหน่งผู้พิทักษ์นิกายให้กับเขา”

“หวังว่าเขาจะสามารถนำพวกเราให้ผงาดขึ้นจนอยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลจี้และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้!”

ผู้นำนิกายและผู้อาวุโสหลายคนของนิกายไท่ซวนมีสีหน้าจริงจังและเฝ้ารอ

“ยอดเขารกร้างถูกทอดทิ้งมานานกว่าห้าร้อยปีโดยไม่มีศิษย์ใหม่ ด้วยมรดกที่แสดงให้เห็นอีกครั้งพวกเราคงต้องคัดเลือกศิษย์จากยอดเขาต่างๆเพื่อให้มาเป็นศิษย์ของที่นี่” ประมุขของนิกายไท่ซวนสั่ง

เมื่อเหล่าผู้นำของนิกายไท่ซวนได้ตัดสินใจแล้ว ศิษย์ของยอดเขาหลักต่างๆก็เริ่มพูดคุยกันในทันที

หลายคนที่รู้ประวัติของยอดเขารกร้างตัดสินใจทันทีว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปที่ยอดเขาหลักซึ่งเคยเสื่อมโทรมก่อนหน้านี้

ทุกคนต่างก็มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะผงาดขึ้นกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ด้วยมรดกโบราณที่ไม่มีใครเทียบได้

ในขณะที่ยอดเขาหลักต่างๆกำลังเตรียมการและผู้คนก็เต็มไปด้วยความคิดที่หลากหลาย เย่ฟ่านก็ได้เริ่มคัดลอกทักษะโบราณลงในหม้อของเขาแล้ว

ดวงตาของเย่ฟ่านเปลี่ยนจากความพร่างพรายเป็นสลัว จากเต็มไปด้วยชีวิตไปสู่ความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุด เปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับเต๋าที่ลึกซึ้ง

ในตอนนี้เย่ฟ่านเคลื่อนไหวไม่ได้ จิตวิญญาณเขาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับยอดเขารกร้างและเต๋าที่ไม่มีสิ้นสุดถูกตราตรึงอยู่ในใจของเขา

“ตง……”

หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหวดวงตาของเขากลับมาชัดเจนอีกครั้ง วิชาลึกลับกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ประทับอยู่ในจิตใจของเขารอวันที่เขามีความแข็งแกร่งมากพอและสามารถนำมันออกมาใช้

เมื่อมองดูยอดเขารกร้างอีกครั้ง ภูเขายังคงเป็นภูเขา แม่น้ำยังคงเป็นแม่น้ำ ต้นไม้ยังคงเป็นต้นไม้ ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เย่ฟ่านเป็นเหมือนเมฆที่ลอยอยู่ในสายลมที่อ่อนโยน สภาพจิตใจของเขาว่างเปล่าทักษะลับที่ลึกซึ้งปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในจิตใจของเขา

เย่ฟ่านไม่ได้รับญาณวิเศษดั้งเดิมของยอดเขารกร้าง แต่เขาได้รับหนึ่งในเก้าทักษะลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนรกร้างตะวันออก!

ครึ่งวันต่อมาหลี่รุ่ยหยูก็ลืมตาตื่นขึ้น ในเวลานี้บุคลิกของเขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่สมควรปรากฏอยู่ในโลกมนุษย์

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสลายหายไปในพริบตา เขากลับมาเป็นผู้อาวุโสที่แก่ชราเหมือนเคยไม่มีอะไรผิดปกติไปจากเดิม

หลังจากนั้นไม่นานยอดเขารกร้างก็เต็มไปด้วยผู้คน แต่ไม่มีใครบุกเข้ามาหรือบินขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขารออยู่ใต้ภูเขาอย่างเงียบๆ

ผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพและต้องการเข้าร่วมในมรดกของยอดเขารกร้าง ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดกล้ามองยอดเขารกร้างเหมือนเช่นเมื่อก่อนอีกต่อไป

คนส่วนใหญ่เป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของยอดเขาหลักต่างๆ มีทายาทของยอดเขาหลักหลายแห่งที่นี่ หลี่รุ่ยหยูยืนบนภูเขาอย่างสงบในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ผู้คนด้านล่างก่อนที่จะมองมาที่เย่ฟ่าน

“เจ้ามีร่างกายศักดิ์สิทธิ์โบราณ?”

หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน อีกฝ่ายไม่ได้สัมผัสกับทะเลแห่งความทุกข์ของเขาแล้วผู้อาวุโสคนนี้เข้าใจในรากฐานของเขาได้อย่างไร

“ร่างศักดิ์สิทธิ์ยโบราณนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ทะเลสีทองแห่งความทุกข์ผสมผสานกับสายฟ้า นี่คือสิ่งที่ข้าไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อนในชีวิต” หลี่รุ่ยหยูพูดอย่างใจเย็น

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าท้องฟ้าตกลงมากระแทกร่างกายของเขาอย่างรุนแรง

เขาไม่แน่ใจว่าความลับอื่นๆที่อีกฝ่ายค้นพบมีอะไรบ้าง ก้อนทองเหลืองที่ไม่อาจให้ผู้ใดทราบ พลังปราณปฐพีและคัมภีร์เต๋าสีทองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน หวังว่าสิ่งเหล่านั้นคงยังไม่รั่วไหลออกมา

“อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่ได้เจตนาร้าย”

ใบหน้าที่มีรอยย่นของหลี่รุ่ยหยูแสดงออกถึงเสียงหัวเราะและความเป็นมิตร

เย่ฟ่านรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นลึกลับเกินไป หลังจากได้รับมรดกที่แท้จริงของยอดเขารกร้าง มันก็ยิ่งยากที่จะทำความเข้าใจผู้อาวุโสคนนี้ให้ลึกซึ้ง

“ผู้อาวุโส…… ท่านเห็นมันได้อย่างไร?”

“ก่อนหน้านี้เจ้ากับข้าเป็นหนึ่งเดียวกับยอดเขารกร้าง เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ทำให้ข้าเข้าถึงทะเลแห่งความทุกข์ของเจ้าอย่างเป็นธรรมชาติ” หลี่รุ่ยหยูยิ้ม

ร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณนั้นยอดเยี่ยมมาก หากใครต้องการซ่อนมัน แทบจะแทบจะไม่สามารถมองเห็นมันเลย แต่การปรากฏตัวของมรดกยอดเขารกร้างทำให้ร่างกายของพวกเขาทั้งสองเชื่อมต่อกับยอดเขา หลี่รุ่ยหยูถึงได้ทราบความจริง

“ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะเก็บความลับนี้ไว้ให้ข้า”

เย่ฟ่านไม่แน่ใจในทัศนคติที่ผู้อาวุโสตรงหน้ามีต่อเขา แม้ว่าหลี่รุ่ยหยูจะเป็นมิตร แต่เวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันนั้นสั้นเกินไปสำหรับเย่ฟ่านมันยากที่จะให้ความไว้วางใจต่อคนแปลกหน้าได้

“สบายใจเถอะ”

ในความเป็นจริงแม้ว่าจะค้นพบร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณแต่ก็ไม่ได้มีความหมายมากนัก โลกปัจจุบันให้ความสนใจกับร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนรกร้างตะวันออกเท่านั้น

แต่สิ่งที่มีปัญหาจริงๆก็คือหากมีคนค้นพบว่าเย่ฟ่านสามารถบ่มเพาะโดยไร้สิ่งกีดขวาง คนแรกที่จะมาฆ่าเขาคงเป็นตระกูลจี้ที่ครอบครองร่างศักดิ์สิทธิ์ดินแดนรกร้างตะวันออกอย่างแน่นอน

“เจ้าสามารถฝึกฝนร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณจนมาถึงอาณาจักรสะพานวิญญาณได้นั่นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก มันใช้ความพยายามไม่น้อยจริงๆ” หลี่รุ่ยหยูพยักหน้า

เย่ฟ่านท้องไส้ปั่นป่วนนี่เป็นเรื่องที่เขากังวลมากที่สุด หากผู้อื่นค้นพบสิ่งนี้เขาจะต้องถูกไล่ล่าจนกว่าจะตายอย่างแน่นอน

“อย่าให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือตระกูลขุนนางโบราณรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” หลี่รุ่ยหยูแนะนำด้วยความเมตตา

“พวกเขา……” เย่ฟ่านรู้สึกตื่นตระหนก

“ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายศักดิ์สิทธิ์ถูกมองว่าพิการไปแล้ว มรดกมากมายจากยุคแรกเริ่ม ผู้คนในโลกก็ค่อยๆลืมมันไปเช่นกัน”

“ผู้อาวุโสรู้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงไม่สามารถบ่มเพาะร่างศักดิ์สิทธิ์ได้?” เย่ฟ่านถาม

“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เวลาผ่านไปนานเกินไปและน้อยคนนักที่จะรู้คำตอบ” หลี่รุ่ยหยูมองไปทางเย่ฟ่าน

“ร่างกายศักดิ์สิทธิ์โบราณ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ขัดขวางการฝึกฝนของเจ้า โลกย่อมมีหนทางเสมอ……”

เย่ฟ่านพยักหน้าเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ในความเป็นจริงเขาไม่ได้เผชิญกับอุปสรรคใดๆในการฝึกฝนนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งเซียนทุกอย่างเต็มไปด้วยความราบรื่น

“ตราบใดที่เจ้าเชื่อมั่นว่าเจ้าสามารถฝึกฝนได้ เจ้าก็จะทำสำเร็จ” หลี่รุ่ยหยูถอนหายใจ

“เจ้าคงไม่รู้ ในอดีตพรสวรรค์ของข้าไม่นับว่าแข็งแกร่งอะไรเลย แต่สุดท้ายข้าก็มีความสำเร็จเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันเพราะความพยายามที่มากกว่าคนอื่น

การฝึกฝนต้องทำทีละขั้น วิชาที่ทรงพลังไม่ได้หมายความถึงทุกสิ่ง ไม่ว่าศิลปะจะลึกซึ้งเพียงใดก็ยังต้องการความเข้าใจและใช้เวลาในการฝึกฝน

ร่างกายของเจ้านั้นพิเศษผู้คนทั่วโลกมองว่าร่างกายนั้นเป็นคนพิการ อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกว่าเจ้าอาจสามารถฝึกฝนร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้สำเร็จ”

หลี่รุ่ยหยูจ้องมองไปที่เขาจากนั้นจึงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“เจ้าเต็มใจที่จะเข้าร่วมยอดเขารกร้างด้วยความจริงใจหรือไม่?”

หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้านคำพูดของชายชราทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งในหัวใจ

“ผู้อาวุโส ข้ายินดีกราบท่านเป็นอาจารย์”

“เต๋าของข้าไม่เหมาะกับเจ้า ข้าจะไม่รับเจ้าเป็นศิษย์มันจะเป็นการผูกมัดเจ้าให้อยู่ที่นี่อย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้น!”

เย่ฟ่านตกใจ เขารู้สึกว่าผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้ามีความลึกซึ้งมากกว่าที่เขาคิด

“ผู้อาวุโสอันที่จริงข้าได้รับส่วนหนึ่งของมรดกจากยอดเขารกร้างแล้ว” เย่ฟ่านก็มีความจริงใจเช่นกัน

“ข้ารู้เรื่องนี้แล้ว” หลี่รุ่ยหยูพยักหน้าก่อนจะพูดต่อ “เจ้าได้รับทักษะลับเจ้าสามารถฝึกฝนได้ แต่อย่าเผยแพร่มันให้กับผู้ใด

ในตอนนี้เจ้าในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของยอดเขารกร้างติดตามข้าไปรับศิษย์ใหม่กันเถอะ”

หลี่รุ่ยหยูไม่ได้บินแต่ค่อยๆเดินลงจากภูเขาพร้อมกับเย่ฟ่าน

(VIP 2 เปิดแล้วนะครับ)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด