ตอนที่แล้วตอนที่ 241 วินาฟื้น?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 243 ปราการสุดท้ายบินขึ้น

ตอนที่ 242 วินามองดู


ตอนที่ 242 วินามองดู

สนามรบกระจายออกไปนับล้านนับล้านล้านตารางกิโลเมตรเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด มีซอมบี้ตายอย่างต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนมนุษย์จะได้เปรียบ แต่อันที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น พวกซอมบี้มีมากเกินไป ฆ่าไปหนึ่งพวกมันก็วิ่งมาแทนที่นับสิบ

ทางด้านของฝั่งเมสันและกลุ่มโนเนทนั้นไม่ได้วิ่งออกไป พวกเขายังอยู่หลังกำแพง เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่การเป็นวีรบุรุษสู้ตายกับซอมบี้ แต่ที่ต้องการคือช่วยไนเรล

“ทำยังไงต่อดี” อลันพูดด้วยความกลัว เขาแม้จะกล้า แต่ก็ยังเป็นเด็กหนุ่ม สงครามด้านหน้าของพวกเขานั้นมันมากเกินกว่าที่ความกล้าของอลันจะทำให้เขาไม่กลัวสิ่งที่เกิดขึ้น

“ไปที่นั่น” ชารอนชี้ไปยังจุดที่หนึ่ง มันคือประตูที่เชื่อมทางเดินที่กลับไปยังค่ายพักก่อนหน้านี้ และค่ายพักก่อนหน้าหลังจากที่พวกเขาสำรวจมันมีทางเดินไปจนถึงหอคอยที่อยู่กลางปราการสุดท้ายอยู่

กลุ่มของพวกเขาเคลื่อนไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว ชารอนสั่งเวลด้าทันที

“เวลด้าจัดการเลย”

หลังสิ้นเสียงชารอน เวลด้าก็เหมือนจะหมดสติลงไป เวนดี้รีบวิ่งมารับตัวของเธอไว้ ก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนที่ต่อ

ภายในป้อมที่ควบคุมประตู ทหารกำลังจัดการสังหารซอมบี้ที่หล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือร้อยเอกที่เคยเป็นผู้สั่งการผู้อพยพก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนั้นเองร้อยเอกคนนั้นก็หยุดนิ่งไปวินาทีหนึ่งก่อนที่ท่าทีของเขาจะเปลี่ยนไป

ร้อยเอกเก็บปืนก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูให้กับกลุ่มของเมสัน

“ท่านทำอะไร?” ทหารด้วยกันถามด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้รับคำตอบ ร้อยเอกคนนั้นหันไปหักคอทหารคนนั้นตายทันที

“เขา ๆ ฆ่าคนฝั่งตนเอง จับท่านร้อยเอกไว้”

หลังจากนั้นไม่นานพอเมสันเปิดประตูเข้ามาก็เห็นทหารทั้งหมดโดนฆ่าตายไปแล้ว ด้านในมีร้อยเอกที่ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ที่ตัวของเขามีบาดแผลหลายแห่งก่อนที่ตัวของเขาจะล้มลงไป เวลด้าก็ฟื้นขึ้นมา เธอกระอักเลือดออกมา เพราะการบาดเจ็บของร้อยเอกที่เธอสลับร่างก็ส่งผลกับเธอไม่มากก็น้อยเช่นกัน

“ฉันไม่เป็นอะไรมาก” เวลด้าลุกขึ้นมาขณะที่เช็ดเลือดที่ปาก

ตอนนี้ที่ทั้งกลุ่มวิ่งหนีไปทางประตูที่ตอนนี้ไม่มีใครเฝ้า อยู่แล้ว แต่มันกลับล็อกไว้

“อุปกรณ์สื่อสารของเขา” เมสันชี้ไปที่อุปกรณ์สื่อสาร ก่อนที่จัดข้อมือเอาอุปกรณ์สื่อสารมาเทียบติดกับประตู เมสันใช้เวลาไม่นานประตูเหล็กหนาก็เปิดออก

ทุกคนวิ่งออกไปตามทาง มันเป็นเส้นทางเดิมตอนที่พวกเขาเข้ามาในตอนแรก เส้นทางนี้ยังเชื่อมไปจนถึงหอคอยที่อยู่ตรงกลาง ที่นี่แม้จะมีทหารอยู่จำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจพวกเขา ทุกคนกำลังหันความสนใจทั้งหมดไปที่การต่อสู้กับกองทัพซอมบี้ด้านนอก

จึงเหลือทหารไม่กี่หมื่นนาย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่คอยจัดการซอมบี้ที่ตกลงมาด้านใน

ในขณะนั้นเองซอมบี้ไททันตัวระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์หนึ่งก็ตกลงมากระแทกกับพื้นโหละด้านหน้าของพวกเขา สภาพมันบาดเจ็บหนักมาก แขนขาดไปข้าง เลือดสีดำไหลออกมาไม่หยุด แต่ในแววตาที่ใหญ่ยักษ์ของมันกลับไปด้วยความกระหาย

ซอมบี้ไททันจู่โจมใส่พวกเขาทันที

แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวของทุกคนก็โดนวิลด้า และวิลม่าใช้ความสามารถ เส้นใยพันร่าง เส้นใยนั้นเป็นเหมือนกับใบมีดยาว ๆ เริ่มกดเฉือนเข้าไปในผิวหนังที่หนาของมันก่อนจะตัดเข้าเนื้อและหันซอมบี้ไททันออกเป็นชิ้น ๆ

ซอมบี้ไททันระดับ 5 ที่เหลือแค่โครงกระดูกไม่อาจจะยืนต่อไปได้มันล้มลงตายไป พวกเขาวิ่งกันต่อ ปราการแห่งนี้กล้าวงมาก อย่างน้อยก็เกือบ ๆ 10,000 ตารางกิโลเมตร เส้นทางที่จะไปถึงยังหอคอยยักษ์ใหญ่นั้นก็เกือบ 30 กิโลเมตรแล้ว

ในระหว่างที่วิ่งอยู่ทุกคนไม่ทันได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่ามีใครบางคนตรวจจับพวกเขาได้

10 นาทีต่อมาด้วยความเร็วของทุกคนก็มาถึงถึงจุดที่กักขังพวกอสูรกลายพันธุ์ไว้ วินายังคงมองสำรวจไปรอบ ๆ ราวกับต้องการจำทุกอย่างไว้ในหัว

“เอายังไงดีไปช่วยกัสก่อนไหม”

“ไม่ เราไม่มีเวลาที่นั่นมีทหารไม่ต่ำกว่า 100 นาย แต่ละคนเป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียวขึ้น มันเสียเวลาเกินไป” ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของเมสัน อีกอย่างที่นั่นยังปลอดภัยอยู่ พวกเขาควรจะห่วงตัวเองมากกว่า

ตูม! ตูม! ตูม!

ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง ซอมบี้ที่บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือพวกเขาต่างระเบิดแตกตายกลายเป็นฝนเลือด ห่างออกไปไม่ไกลมีหญิงสาวโรคจิตกำลังยกมือเหมือนปืนจากนั้นก็ทำท่ายิงชี้ไปที่ซอมบี้บนท้องฟ้า

ร่างของซอมบี้แตกกระจายไปอย่างต่อเนื่อง เธอไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นสาวโรคจิตผู้มีพลังระดับสีทอง

“ดูเหมือนจะมีพวกปลาเล็กปลาน้อยกำลังรนหาที่ตายอยู่”

“ซวยแล้วไง”

ทุกคนมองไปอย่างไม่เชื่อพวกเขามาเจอกับสาวโรคจิต คนที่เป็นระดับสีทอง ในตอนนั้นเองวินาก็ตะโกนบอกทุกคน

“หมอบลง”

ทุกคนหมอบลงไปทันใดนั้นด้านหลังของพวกเขาก็ระเบิดดังตูมแรงอัดอากาศทำให้แต่ละคนกระเด็นไปคนระทางวินารู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก แต่ยังดีเพราะนั้นหมายความว่าเธอยังไม่ตาย

ทุกคนมองไปที่ด้านหลังกรงที่ขังกัสและอสูรตนอื่น ๆ ต่างแหลกไม่เหลือชิ้นดี เลือดและเศษซากกระจายไปทั่ว พื้นโลหะที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการโจมตีมากนัก

“กัส บัดซบเอ๊ย” อลันด่าทอออกมาด้วยความเสียใจ เขารู้สึกจุก แมกัสจะไม่ใช่มนุษย์ แต่เขาก็เป็นสลายร่วมรบ เคยช่วยชีวิตตนเองครั้งหนึ่ง ตอนนี้กัสตายไปแล้ว

อลันลุกขึ้นมาด้วยความโกรธวิ่งตรงเข้าหาสาวโรคจิต แต่แล้ววินาก็วิ่งกระโดดดึงตัวของอลันหลบบได้ทันก่อนที่ตรงที่อลันอยู่จะระเบิดออกอีกครั้ง

ตูม!

“คิ ๆ เจ้าน่าสนใจ” สาวโรคจิตมองไปที่วินาและกล่าวต่อ “คิ ๆ พวกหมอดู หรือพยากรณ์สินะ เหลือเชื่อที่ยังมีคนแบบนี้รอดมาจนถึงตอนนี้ ข้านึกว่าจะเหลือแค่มนุษย์ชั้นสูง แค่พวกพลังธาตุ กลายร่าง สนับสนุนกลับควบคุมจิตใจ ซะอีก ดูแล้วคงจะมีพวกลึกลับเหลืออยู่อีก หรือว่าเจ้าก็มาจากอีกโลกด้วย” ไม่นานสาวโรคจิตก็เชื่อมโยงวินาเข้ากับคนที่มาจากอีกโลกได้

แม้เธอจะไม่เต็มแต่ก็ไม่โง่

“คิ ๆ ถ้างั้นพวกเจ้าทุกคนก็ด้วยสินะ”

หญิงสาวโรคจิตมองไปที่ทุกคน วินาที่อยู่ทางด้านข้างอลันมองไปที่เธอ เหงื่อของวินาชุ่มไปทั่วหลัง เธอพยายามหาทางออกไปสถานการณ์ตรงนี้ แต่มันกลับไม่มีที่ให้หนีเลย มันกลับกลายเป็นว่าพวกเธอหนีจากซอมบี้เพื่อหาทางช่วยไนเรล แต่กลับมาเจอนักฆ่าที่เดาอารมณ์ไม่ได้ดักอยู่

ว๊ากกกก!!!!!

แต่แล้วก็มีเสียงดังกังวานของซอมบี้สติปัญญาดังขึ้น ตอนนี้การต่อสู้ยกขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว ซอมบี้สติปัญญาลงสนามด้วยตัวเองแล้ว

หญิงสาวโรคจิตรีบยกอุปกรณ์สื่อสารของตนเองขึ้นมาเรื่องจากซีโร่ในรูปร่างจูเรียส่งข้อความมาว่าเอิร์ลดาโก้สั่งให้เธอออกไปต้านพวกมันไว้ให้นานที่สุด

“ชิ พวกเจ้าโชคดี เดียวข้าจะกลับมารอก่อนนะ คิ ๆ”

พูดจบสาวโรคจิตก็หายไปในยังทิศทางสนามรบ ตอนนี้ที่นั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก เมฆหมอกพิษจากซอมบี้ก็เข้าใกล้มาเรื่อย ๆ มนุษย์ต่างล้มตายกันหลายหมื่นคนในเวลาไม่นาน เสียงสั่งการให้ถอยทัพดังมาอย่างต่อเนื่อง พวกซอมบี้ต่างวิ่งไล่กัดกินมนุษย์อย่างเมามัน

แม้แต่วินาที่อยู่ไกลถึงตรงนี้ยังได้กลิ่นคาวเลือดและเหมือนเน่าจากซากศพ เธอมองไปยังทิศทางนั้นด้วยความหวาดหวั่น ทุกอย่างวุ่นวายไปหมดแล้ว แต่วินาก็ยังคงมองไปรอบ ๆ ต่อไป ด้วยความแน่วแน่ จักรพรรดิซอมบี้ผู้มีพลังไม่อาจจะคาดเดาได้มาพร้อมกับกองทัพหลักของฝูงซอมบี้แล้ว มันสั่งให้ซอมบี้สติปัญญาระดับ 7 สิบตัวฆ่ามนุษย์ให้หมด ด้านหลังยังมีซอมบี้หลากหลายสายพันธุ์

แต่ทุกตัวกลับต่างไปจากซอมบี้ที่โจมตีก่อนหน้านั้น พวกนี้มันเดินกันอย่างเป็นระเบียบ มีรูปแบบการโจมตีที่แน่ชัด ซอมบี้เงาหลบอยู่หลังซอมบี้โล่และซอมบี้ไททัน รอบตัวของซอมบี้ไททันยังมีซอมบี้ระเบิดชีวะภาพอยู่มากมาย เหนือขึ้นฝูงซอมบี้ปีกบินรอเวลาอยู่ไม่ได้ลงมือโจมตีมั่วซั่วอีกแล้ว

มนุษย์ที่ถอยกลับมาได้เริ่มสิ้นหวังเมื่อเห็นภาพข้างหน้า ขนาดฝูงซอมบี้ที่ไม่เป็นระเบียบยังสร้างความเสียหายให้พวกเขาได้มากขนาดนี้แล้วถ้ามีการควบคุมจากซอมบี้สติปัญญา พวกมันมีความนึกคิดพวกเขาคงพ่ายแพ้เป็นแน่

ในตอนที่อารามณ์ของมนุษย์สิ้นหวังตอนนั้นเอง ฝั่งของปราการสุดท้ายที่ยิดหอคอยก็มีคนบินออกมา ด้วยรูปแบบที่ต่างกันออกไปตามตัวปราการต่าง ๆ เหมือนจะมีประตูลับใต้พื้นโลหะอยู่ ประตูถูกเปิดออกกองทัพทหารที่แต่งกายด้วยชุดสูบรบที่ทันสมัยก้าวเดินออกมาที่ละกอง

พวกเขามีกันมากกว่า 100,000 คน แม้ปริมาณไม่มาก แต่คุณภาพนั้นถือว่าจัดเต็ม ทุกคนคือระดับสีน้ำเงินขั้นต้นเป็นอย่างต่ำ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกองทัพที่แท้จริงของปราการสุดท้ายนี้แล้ว

ด้านหน้าฝูงซอมบี้มี สาวโรคจิต ชายรอยสัก อารอน ตาเดียว และชารอนคอยสั่งการกองทัพของปราการสุดท้ายอยู่

ทั้งสองฝั่งไม่พูดอะไรมาก พวกเขาคือความแตกต่างของสองเผ่าพันธุ์ ฝั่งหนึ่งถูกมองเป็นอาหาร อีกฝั่งถูกมองเป็นปีศาจมันมีแต่ความตายเท่านั้นที่เป็นคำตอบในการต่อสู้

“ฆ่า”

“ว๊ากกกก!!!!!!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด