ตอนที่แล้วตอนที่ 240 บังคับเป็นทหารเดนตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 242 วินามองดู

ตอนที่ 241 วินาฟื้น?


ตอนที่ 241 วินาฟื้น?

ในที่สุดตอนนี้ผู้อพยพก็รู้ตัวว่าพวกเขาถูกบังคับเข้ามาเป็นทหารเดนตายที่สู้กับซอมบี้ จะถอยก็ไม่มีทาง จะหนีก็ไม่ได้ ตอนนี้คนที่พยายามต่อต้านต่างก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ อันที่จริงแล้วจากผู้อพยพหลายหมื่นที่ไม่พอใจ แต่ตอนเกิดเรื่องกลับมีแค่ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ที่สร้างความวุ่นวาย

“ฆ่าคนที่ไม่ยอมสู้ให้หมด” เสียงของชายรอยสักดังขึ้น

คนหลายร้อยโดนฆ่าตายในทันที ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยคนพวกนี้เลยแม้แต่น้อย หลายคนรู้สึกเสียใจที่ตามทหารพวกนี้มาที่ปราการสุดท้าย บางที่พวกเขาอาจจะเร่รอนอยู่ในทวีปโรเลน่า แต่อาจจะมีชีวิตนานมากกว่านี้

หลังจากทหารของปราการสุดท้ายเชือดไก่ให้พวกเขาดูแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งอะไรอีก หลายคนรู้แล้วว่าทำไมคนที่อยู่มาก่อนถึงอยู่แบบเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา ก็ถ้ารู้ว่าทุก ๆ 24 ชั่วโมงตัวเองมีโอกาสตายใครจะมีอารมณ์มาพูดกัน

ส่วนนายทหารร้อยเอกคนนั้นก็มองอย่างพึงพอใจ บางครั้งการแสดงให้เห็นก็ได้ผลมากกว่าการบอกด้วยปากเปล่า

...

ในมุมหนึ่งเมสันกำลังพูดกับชารอนเรื่องสัญญาณเตือนที่ดังไปอีกครั้ง นั้นหมายความว่าการต่อสู้ของอีกกลุ่มดังเริ่มขึ้นมาแล้ว ทั้งสองรู้ว่าต้องมีคนตายอีกมาก แม้แต่ระดับอย่างพวกเขาเองก็อาจจะตายได้เช่นกัน

ส่วนคนอื่น ๆ นั้นกำลังแยกย้ายนั่งพักผ่อน หนึ่งในนั้นคืออลันที่เดินไปดูว่าวินาเป็นอย่างไรบ้าง วินาหมดสติมาเกือบจะหนึ่งวันแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมา

“วินาเป็นอย่างไรบ้าง” อลันถามวินเอลและเวลด้า ที่กำลังผลัดกันดูแลน้องเล็กสุดของกลุ่มด้วยความเป็นห่วง

“เธอไม่มีอาการอะไรเลย ยกเว้นว่ายังไม่ฟื้นขึ้นมาก็เท่านั้น”

แต่แล้วอยู่ ๆ วินาก็ฟื้นขึ้นมา อย่างน่าแปลกใจ หลายคนเห็นแบบนั้นก็ดีใจรีบเข้ามาดูเธอ

“วินาเธอเป็นอะไรมากไหม”

“ฉัน...ไม่เป็นอะไรมาก แค่เวียนหัวกับคอแห้งมาก” วินาจับจับไปที่มือของวินเอล เพราะเธอรู้สึกมึน ๆ เหมือนโลกหมุน ซึ่งเป็นการหาอะไรจับเพื่อทรงตัวนั่ง

วินเอลรีบประคองวินา ส่วนเวลด้าก็เอาน้ำให้กับเธอ วินารับน้ำมาและค่อย ๆ ดื่มมันอย่างช้า ๆ หลังจากนั่งพักสักครู่เธอก็ดีขึ้นมาก ชารอนจึงเดินเอาอาหารกระป๋องมาให้วินาได้กิน เพราะตั้งแต่สลบไปเธอไม่ได้กินอะไรเลย

“ขอบคุณค่ะ” วินารับมาอย่างขอบคุณก่อนจะรีบกินด้วยความหิว

ในระหว่างนั้นวินาก็ถามว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง พวกเขาก็เล่าเรื่อง ๆ หลาย ๆ อย่างตอนที่วินาหมดสติอยู่ให้เธอฟัง ในตอนนั้นวินเอลก็ถามวินา

“วินาเธอเห็นอะไรบ้างไหม ลองใช้ความสามารถดูได้ไหม”

วินาส่ายหัว ตอนนี้เธอปวดหัวมาก แถมยังไม่เห็นภาพอะไรเลยแม้แต่น้อย ทุกคนจึงให้วินานั่งพักไปก่อนที่จะเริ่มทำการสำรวจรอบ ๆ

ผ่านมา 3 ชั่วโมง

วินานั่งมองเมสันกำลังใช้กระป๋องอาหารเคาะพื้นโลหะที่พวกเขายืนอยู่ วินามองการกระทำของเมสันด้วยความสนใจ

“ปู่กำลังทำอะไร”

“พื้นนี่น่าสนใจเลยกำลังทดสอบมันอยู่ จริงสินังหนูเธอควรลดน้ำหนักบ้างนะ” เมสันกลับไปให้ความสนใจพื้นโลหะต่อ

วินารู้สึกไม่พอใจที่เมสันว่าเธออ้วนแต่ถึงแบบนั้นเธอก็บอกขอบคุณเมสันที่แบกเธอมาถึงที่ปราการสุดท้ายนี้ ซึ่งชารอนเป็นคนบอกเรื่องนี้กับวินา เธอจึงขอบคุณชายชรา แน่นอนว่าเมสันไม่สนใจคำพูดเธอตอนนี้เขากำลังทำการทดลองกับพื้นโลหะอยู่

ในตอนนั้นเองก็เกิดสัญญาณเตือน มันยังไม่ถึง 6 ชั่วโมงเลยหลังจากดังครั้งที่สองผ่านไป แต่แทนที่จะดังครั้งที่ 3 เท่านั้น แต่ในพื้นที่ของพวกทหารเดนตายหน่วย 4 ก็ดังขึ้นด้วย ถ้าพูดให้ถูกต้องมันดังขึ้นทุกจุดของปราการสุดท้าย

กลุ่มของเมสันรีบวิ่งมารวมตัวกันทันที่

ในตอนนั้นเองร้อยเอกที่ควบคุมพวกเขาก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับทหารอีกจำนวนนักพันคนออกมาจากที่พักพลางร้องตะโกนให้ทุกคนไปที่ยืนที่จุดรวมพล

นั้นทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ทุกคนรู้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น ปราการที่เหมือนกลับเมืองขนาดใหญ่กลายเป็นวุ่นวายจนน่ากลัว

ขณะนั้นเองทุกคนก็หันไปมองยังทิศทางหนึ่ง มันเหมือนกับฝูงนกที่บินอยู่บนท้องฟ้าปิดบังจนมืดไปหมด แต่พอพวกมันเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พวกเข้ารู้ในที่สุดว่ามันคือฝูงซอมบี้ปีก ฝูงซอมบี้ปีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านตัวกำลังตรงเข้ามาที่ปราการสุดท้าย

ตูม!ตูม!ตูม!ตูม!

เสียงปืนใหญ่ที่อยู่ภายในปราการดังขึ้นอย่างต่อเนื่องยิง เกิดแสงวูบวาบจากพลังงานที่ถูกยิงใส่ฝูงซอมบี้พวกมันแยกตัวออกเพื่อหลบกระสุนปืนใหญ่นั้นแสดงให้เห็นว่ามีซอมบี้สติปัญญาที่ควบคุมพวกมันอยู่ แต่นอกจากซอมบี้ปีกแล้วที่ตัวมันยังมีซอมบี้สายพันธุ์อื่น ๆ ติดมาด้วย

พอมันหล่นลงมาในปราการสุดท้ายซอมบี้พวกนั้นก็ไล่ฆ่าคน

การกระทำของพวกมันไม่ต่างจากฝูงบินทิ้งระเบิดโดยเฉพาะซอมบี้ระเบิดชีวิภาพที่ตกลงมาและกระจายหมอกพิษเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ในทันที

สถานการณ์เริ่มโกลาหล ผู้คนเริ่มแตกตื่น

“หยุดวิ่งใครที่สร้างความวุ่นวายตาย”

“ไมรอบกันยังจุดที่บอก พวกเราต้องต้านซ้อมบี้ไว้ให้ได้”

ร้อยเอกคนนั้นบอกไม่ต้องกลัวไปประจำตำแหน่ง เขารีบส่งทหารเข้าไปควบคุมสถานการณ์

คนอื่น ๆ ไม่มีทางเลือกต่างใส่ชุดเกราะที่ได้รับแจกจากนั้นก็วิ่งไปที่ประตูโดยเร็วที่สุด

ทุกคนวิ่งผ่านประตูก็ปรากฏว่ามารวมกับคนอื่น ๆ นับแสนคน ยังมีคนมารวมเรื่อย ๆ หลายคนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่าพวกเขายังต้องออกไปสู้อีก

แต่ก็หลายคนรู้ว่าตรงนี่มันคืออะไร มันคือลานที่รวมตัวก่อนประตูนรกจะเปิดออก ที่กำแพงเบื้องหน้ามีตัวเลขนับถอยหลังอยู่ เสียงปืนใหญ่ถูกยิงออกไปอย่างต่อเนื่องตามแนวกำแพง ตรงนี้พวกเขาได้ยินเสียงคำรามร้องของฝูงซอมบี้ อันที่จริงมันแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นเสียงซอมบี้หรือมนุษย์

วินาวิ่งตามทุกคนมาติด ๆ ตอนนี้ในกลุ่มพวกเขามี เมสัน อลัน ชารอน วินเอล เวลด้า และตัววินา แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีกลุ่มคนวิ่งมาทางพวกเขา เมื่อมองดี ๆ ก็คือกลุ่มโนเนท มีอยู่ด้วยกัน เวนดี้ผู้มีวิญญาณอารักษ์ เวสลี่ผู้มีความสามารถเสียงแห่งสัตว์ป่า วันน่าผู้มีความสามารถอาณาเขตแห่งการรับรู้ วินเอล เวลด้า ผู้มีความสามารถล่องหนและสลับร่าง สุดท้ายคือวันน่าผู้มีความสามารถอาณาเขตแห่งการรับรู้

ทั้ง 6 คนยังคงปลอดภัยดี พวกเธอเห็นกลุ่มของชารอนตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว เพียงแต่อยู่ไกลเกินไปกว่าจะทักทายได้

“ทุกคนมาที่นี่นานหรือยัง” ชารอนถาม

“เมื่อสองวันก่อน พวกเธอสู้มาสองรอบแล้ว แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ปกติจะเป็นฝูงซอมบี้แค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นพวกระดับต่ำ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปดูท่าจะมีซอมบี้เยอะจริง ๆ เพราะแค่ซอมบี้ปีกกว่ามากกว่าเมื่อครั้งก่อน ๆ แล้ว” เวนดี้ผู้มีวิญญาณอารักษ์อธิบาย

“พวกเธอเห็นทางออกจากที่นี่ไหม เราต้องไปที่หอคอยใจกลางปราการนั้น ตอนนี้ท่านไนเรลถูกจับตัวไปโดยมนุษย์ชั้นสูงระดับสีทอง”

คนอื่น ๆ ที่พึ่งทราบข่าวก็ดูจะตกใจ ในตอนนั้นเองเมสันก็ดูเหมือนจะทำบางอย่างได้

“ตอนนี้ฉันกระจายข้อมูลไปแล้ว ดูเหมือนคนอื่น ๆ ที่แยกตัวไปจะอยู่ในระยะ 300 กิโลเมตรรอบปราการสุดท้ายแห่งนี้”

ดูเหมือนเมสันจะใช้ชุดรบที่พวกนี้แจกมาดัดแปลง แม้มันจะส่งสัญญาณได้แค่ 300 กิโลเมตรก็ตามแต่มันก็เกินพอ พวกเขาต้องการให้ทุกคนมาช่วยไนเรลได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ โลกใบนี้มันเริ่มบ้าคลั่งแล้ว

ในตอนนั้นเองที่กำแพงโลหะสูงนับ 1000 เมตรด้านหน้าทุกคนก็เริ่มนับถอยหลัง 10...9...8...7...6...5...4...3...2...1....พอตัวเลขนับถึง 0 กำแพงบางส่วนก็จมลงเปิดออกเป็นประตูสู้ด้านนอก

สิ่งแรกที่ทุกคนเห็นคือฝูงซอมบี้ที่ออกมาจากหมอกอย่างหนาแน่นจนมองเห็นที่ว่าง พวกมันวิ่งกันเข้ามาอย่างไม่กลัว แม้ปืนใหญ่พลังงานจะยิงถล่ม แต่ก็ไม่อาจจะกำจัดพวกมันได้หมด อีกทางหนึ่งยังมีกลุ่มมนุษย์ที่สู้ตายอยู่กับพวกมัน คนเหล่านั้นคือคนที่ออกมาสู้ก่อนพวกเขา

ตอนแรกก็มีหลายนับแสน แต่ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

“เดินหน้า ฆ่าซอมบี้ ไม่งั้นพวกเราก็ตายกันทั้งหมด” เจ้าหน้าที่ทหารบอกให้ทุกคนเดินหน้า ฆ่าให้หมด ทุกคนต่างมองหน้ากัน ยังไม่มีใครกล้าก้าวเดินไป ทุกคนได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความกลัว มองภาพเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่สู้อย่างไม่ลดละ

“ตายก็ตายสิวะ” หนึ่งในผู้อพยพเดินวิ่งออกไปทันที เขามีพลังในการสนับสนุน เมื่อรวมกับชุดสูทรบทำให้พลังของเขาเพิ่มไม่ต่ำกว่าครึ่ง

คนที่คิดจะสู้ต่างพากันวิ่งออกไป เจ้าหน้าที่ทหารก็วิ่งออกไปเช่นกัน แน่นอนว่ามีบางคนที่คิดว่าอยู่ตรงนี้แล้วจะปลอดภัย แต่ในตอนนั้นเองก็มีพวกซอมบี้ตกลงมาที่นี่อย่างต่อเนื่องจากบนท้องฟ้า ซึ่งมาจากซอมบี้ปีกที่โดนยิงหล่นลงมา

ซอมบี้ต่างเข้าไปฆ่าคนที่ยืนอยู่กับที่ทัน มันทำให้จุดที่พวกเขารวมกันอยู่กลายเป็นโรงเชือดไม่ต่างจากข้างนอก

“หลบเร็ว ซอมบี้ระเบิดชีวภาพ”

มีคนร้องตะโกนแต่ไม่ทันแล้ว ร่างของซอมบี้ระเบิดชีวะภาพตกลงมาใส่ยังจุดที่ผู้คนรวมกันอยู่ มันทำให้พิษกระจายออกเป็นวงกว้าง หลายคนที่ไม่ได้หยิบหน้ากากมาส่วนสูดหมอกสีเขียวเข้าไปกลายเป็นซอมบี้ในทันที

พวกที่กลายเป็นซอมบี้วิ่งเข้าใส่คนอื่น ๆ ทำให้เกิดการตายอย่างต่อเนื่อง

หลายคนต่างวิ่งกลับหลัง แต่ประตูมันถูกปิดไปแล้ว เจ้าหน้าที่หารฆ่าซอมบี้ทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคนที่คิดจะหนีด้วย แต่พอผ่านไปสักพักตอนนี้คนตายมากขึ้นซอมบี้มากขึ้น ก็มีเสียงซีโร่สั่งการลงมา ซึ่งเป็นข้อความจากเอิร์ลดาโก้

“ไม่ต้องไปสนใจคนที่ถอยหนี รีบฆ่าซอมบี้ให้หมด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด