ตอนที่แล้วบทที่ 420
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 422

บทที่ 421


เกือบสองชั่วยามทุกอย่างถูกจัดการเสร็จสิ้น ซากศพมากมายเกลื่อนพื้น สภาพโดยรอบถูกทำลายจากการปะทะ กลุ่มโจรหานซุยถูกสังหารจนหมดสิ้น เตียวมู่ถัง ซินหยาง เก่อคัง ต้วนไห่ กำลังตัดศีรษะของคนทั้งหมดเพื่อนำไปขึ้นรางวัลค่าหัว กงหลี่และกงซานทั้งสองช่วยกันตรวจค้นที่พักและบริเวณโดยรอบ เนี่ยฟงนั่งตรวจสอบของในแหวนเกือบสามร้อยวง เขานำของออกมาวางเกลื่อนพื้นด้วยเช่นกัน เนี่ยฟงเอ่ยวาจาเรียกเตียวมู่ถังและต้วนไห่เข้ามาเพราะเขาพบเจอบางอย่าง เป็นจดหมายลับที่องค์ชายรองจางเตียวมู่แห่งแคว้นจางติดต่อกับหานซุย

“ทันทีที่เข้าแคว้นจางรบกวนพี่ชายไห่ปล่อยข่าวเกี่ยวกับองค์ชายรองจางเตียวมู่ถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มโจรหานซุยทีขอรับ”

เนี่ยฟงยื่นจดหมายนับสิบฉบับให้แก่ต้วนไห่

“ส่วนพี่ชายมู่ถังนำศีรษะของกลุ่มโจรทั้งหมดไปขึ้นเงินรางวัล แล้วนำเงินรางวัลทั้งหมดแจกจ่ายให้แก่พี่น้องของเราเท่า ๆ กันส่วนของข้าไม่ต้อง อีกอย่างรบกวนท่านแจกจ่ายสมบัติที่ยึดมาด้วยขอรับ”

“ได้ขอรับ ตอนนี้ข้าให้พวกซินหยางกำลังจัดเก็บศีรษะทั้งหมด”

“ต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”

ไม่นานกงหลี่ก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“คุณชายข้าพบเจอบางอย่างด้านหลังของค่ายรบกวนท่านไปตรวจสอบ”

“พี่ชายหลี่ท่านพบเจอสิ่งใด”

“ข้าไม่แน่ใจขอรับ มันเป็นแท่นหินสีดำที่มีอักขระแปลกประหลาดสลักเอาไว้อยู่”

เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เขาหันไปมองเตียวมู่ถังและต้วนไห่

“เช่นนั้นรบกวนท่านนำทางขอรับ”

หลังจากที่เนี่ยฟงติดตามกงหลี่มาที่ด้านหลังของค่ายก็ได้พบแท่นหินขนาดใหญ่ เมื่อตรวจสอบอักขระจึงได้รู้ว่ามันคืออักขระเคลื่อนย้าย

“รบกวนพี่ชายหลี่ตามคนที่เหลือมาที่นี่ก่อนขอรับ”

หลังจากกงหลี่จากไปเขาก็หันมาเอ่ยวาจาบางอย่างกับกงซาน

“พี่ชายซานแจ้งแก่พวกเขาให้รอข้าที่นี่ก่อน ข้าจะลองใช้อักขระที่แท่นหินก่อนว่าจะนำไปยังที่ใด”

กงซานพยังหน้าตอบรับ ไม่นานได้มีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวาไปยังแท่นหิน ไม่ถึงสามลมหายใจปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีทองสว่างไปทั้งแท่นหิน เนี่ยฟงรีบถีบเท้าพุ่งทะยานไปยืนตรงกลางไม่ถึงสิบลมหายใจเขาก็จางหายไปจากบริเวณ เนี่ยฟงปรากฏตัวยืนอยู่บนแท่นหินในสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ภายในถ้ำ มีแสงสว่างจากตะเกียงไฟติดอยู่ตามผนังทันใดนั้นเองมีชายฉกรรจ์นับสิบพุ่งทะยานเข้ามา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่กำชับอาวุธในมือแน่นจ้องมองมายังเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา

“เจ้าเป็นใครกันแล้วหานซุยอยู่ที่ใด”

เนี่ยฟงรีบก้มคาระพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา

“ต้องขออภัยขอรับ ข้าเป็นเพียงคนรับใช้ที่ต้อยต่ำพวกท่านคงไม่เคยพบเจอ ข้ามีเรื่องสำคัญท่านหัวหน้าให้ข้ารีบมาแจ้งข่าวว่ามีใครบางคนคิดบุกมายังค่ายขอรับ”

“พวกมันเป็นใครกันเจ้าทราบหรือไม่ไอ้หนู”

“ท่านหัวหน้าแจ้งมาว่าเป็นกลุ่มมังกรฟ้าขอรับ”

“กลุ่มของเตียวมู่ถังอย่างนั้นรึ พวกมันมากันทั้งหมดกี่คนเจ้ารู้หรือไม่”

“ข้าไม่ทราบขอรับท่านหัวหน้ารีบให้ข้ามาแจ้งข่าว”

ไม่ถึงสามลมหายใจชายฉกรรจ์ทั้งสิบสามคนก็ถีบเท้าขึ้นมายืนบนแท่นหิน ชายผู้หนึ่งสะบัดมือขวานำบางอย่างถือไว้ในมือเขาเร่งโคจรไปที่มือขวาหลังจากนั้นก็ซัดมันลงไปที่แท่นหิน วูบ! อักขระที่แท่นหินสว่างวาบ ไม่ถึงห้าลมหายใจทั้งหมดก็ปรากฏตัวยังด้านหลังของค่าย

“สังหารพวกมันให้หมด”

เสียงตะโกนของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งดังลั่นออกมา คนทั้งสิบสองคนต่างสะบัดมือขวากำชับอาวุธในมือแน่น กลุ่มของเตียวมู่ถังเองก็นำอาวุธออกมาถือไว้ในมือเช่นกัน เนี่ยฟงแสยะยิ้มใช้ทักษะจิตแห่งเทพมังกรออกมาอย่างเต็มกำลังไปที่ชายฉกรรจ์ทั้งสิบสามคน ทำให้คนพวกนั้นยืนนิ่งตัวแข็งค้างอยู่กับที่ เขาพุ่งเข้าหาจากด้านหลังพร้อมกับจี้สกัดจุดการเคลื่อนไหว

“บัดซบเจ้าทำสิ่งใดกับพวกข้ากัน”

“ใจเย็น ๆ ก่อนพี่ชายทั้งหลาย”

“ไอ้ลูกหมา เจ้ามันคนทรยศ”

เนี่ยฟงหาได้กล่าวสิ่งใดตอบ เขาสะบัดมือขวากำชับมีดสั้นสีดำในมือจ้วงแทงไปที่หน้าอกของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งทางขวามือ

“ข้าสอบถามได้หรือไม่พวกท่านเป็นคนของผู้ใด”

“เหอะ ถึงพวกข้าจะบอกกล่าวต่อเจ้าพวกข้าก็คงไม่รอดอยู่ดี อยากฆ่าก็ลงมือเถอะ”

เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมา

“เช่นนั้นรบกวนพี่ชายมู่ถังสอบสวนพวกเขาทั้งสิบสองคนเถอะ เมื่อได้ความอย่างไรรบกวนแจ้งข้าด้วยก็แล้วกัน”

เตียวมู่ถังพยักหน้าตอบรับสะบัดมือขวาถือขวดยาในมือแน่น เขาได้ป้อนเม็ดยาให้แก่ชายฉกรรจ์ทั้งสิบสองคน ส่วนเนี่ยฟงหลบออกมานั่งโคจรลมปราณใต้ต้นไม้ใหญ่ นานเกือบสองเค่อซินหยางก็รีบมาตามเนี่ยฟงไปที่แท่นหิน เมื่อมาถึงชายฉกรรจ์ทั้งสิบสองคนถูกสังหารนอนจมกองเลือดอยู่ด้านข้างแท่นหิน

“เป็นอย่างไรบ้างพี่ชายมู่ถัง พวกเขาเป็นคนของใคร”

“พวกเขาเป็นกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ทำงานขึ้นตรงกับองค์ชายรองจางเตียวมู่ขอรับ รับผิดชอบดูแลกลุ่มต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำงานสกปรกทั้งหมด สถานที่ที่คุณชายพบเจอพวกมันอยู่ที่ถ้ำลับในแคว้นจาง”

เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ

“มีเรื่องใดที่ข้าควรรู้อีกหรือไม่ ก่อนที่เราจะเข้าสู่แคว้นจาง”

เตียวมู่ถังนำจดหมายฉบับหนึ่งยื่นให้แก่เนี่ยฟง

“ข้าตรวจค้นจากแหวนของชายผู้หนึ่ง องค์หญิงเล็กนามว่าจางเหมยหนิงป่วยเป็นโรคประหลาด มีไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างกายยามค่ำคืน ตอนนี้หลายกลุ่มต่างเสาะหาหมอฝีมือดีมารักษานาง รางวัลสำหรับการรักษาคือสามารถเข้าไปที่คลังสมบัติของแคว้นจางพร้อมกับสามารถนำของออกมาได้สองชิ้นขอรับ”

เนี่ยฟงก้มหน้าครุ่นคิด

“เช่นนั้นข้ามีแผนแล้วขอรับ ขอเวลาข้าสองชั่วยามในการปรุงยา ข้าและพี่ชายซินหยางจะปลอมตัวเป็นหมอเข้าสู่แคว้นจางส่วนพวกท่านทำตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ก็แล้วกัน”

หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็แยกออกมาปรุงยาใต้ต้นไม้อีกครั้ง

“เจ้าทราบรึไอ้หนูว่าแม่นางผู้นั้นป่วยเป็นโรคอะไร”

“หากข้าเดาไม่ผิดคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับธาตุหยินในตัวมากเกินไป”

“หวังว่าจะเป็นเช่นที่เจ้ากล่าว แต่ข้าสงสัยบางอย่าง”

“สงสัยสิ่งใดขอรับท่านลุ่ยกง”

“ข้าคิดว่านางคงถูกวางยาให้เป็นโรคเสียมากกว่า”

เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว

“เหตุใดท่านคิดเช่นนั้นขอรับ”

“อาจเป็นแผนการบางอย่างขององค์ชายรองนั้น เจ้าอย่าลืมมันผู้นั้นแสวงหาอำนาจถึงกับต้องก้มกราบเทพเป็นอาจารย์ เจ้ารู้ดีว่าเทพพวกนั้นบัดซบเพียงใด”

“เมื่อถึงเวลานั้นที่ข้ารักษานางคงได้รับรู้เองแน่ขอรับ หากพบเจอเทพที่แคว้นจางก็ยิ่งดีข้าอยากรู้ว่าตอนนี้ข้ามีความสามารถมากเพียงใดแล้ว”

“เจ้าคิดจะสังหารเทพเพื่อเรียกให้พวกมันพุ่งเป้ามาที่เจ้าอย่างนั้นรึ”

“ข้าเพียงแค่อยากทดสอบฝีมือขอรับ บางทีการปะทะกับพวกเทพอาจทำให้ฝีมือข้าพัฒนาไปได้บ้าง กล่าวตามตรงตั้งแต่มาที่แห่งนี้ข้ายังไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่”

“เหอะ เจ้าทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อยไอ้หนู ไม่แน่เจ้าอาจได้พบเจอเทพที่แคว้นจางก็เป็นได้”

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นขอรับ”

ผ่านไปเกือบสองเค่อเนี่ยฟงก็ปรุงยาธาตุหยางได้สิบกว่าเม็ด เขาทำการปลอมแปลงตัวเองเป็นชายชราผู้หนึ่งสวมชุดสีเทาก้าวเดินเข้าหากลุ่มของเตียวมู่ถัง เนี่ยฟงโยนบางอย่างให้แก่ซินหยางเป็นขวดยาสีขาวนวลขวดหนึ่ง

“พี่ชายหยางใช้สิ่งในขวดยาทาไปที่หน้าของท่านสำหรับปลอมตัว หากคนพวกนั้นจดจำท่านได้เราจะมีปัญหาตามมา ส่วนคนที่เหลือไม่จำเป็นต้องปลอมตัวขอรับ”

ซินหยางพยักหน้าตอบรับ เขารีบเปิดจุดขวดยาเทบางอย่างไปที่ฝ่ามือเป็นผงสีดำมีกลิ่นหอม เขารีบนำมาทาที่ใบหน้าไม่นานใบหน้าของซินหยางก็มีปานสีแดงปรากฏขึ้น

“น้องหยางใบหน้าของเจ้าช่างหล่อเหลายิ่งนัก”

สิ้นเสียงกล่าวของเตียวมู่ถัง ทำให้คนที่เหลือต่างหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“เอาละถึงเวลาที่เราต้องเดินทางแล้ว พวกท่านพร้อมกันแล้วใช่หรือไม่”

ทั้งหมดต่างพยักหน้าตอบรับ เนี่ยฟงก้าวเดินขึ้นไปบนแท่นหินคนที่เหลือก้าวขึ้นมายืนบนแท่นหินเช่นกัน ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวาไปยังแท่นหินไม่ถึงสามลมหายใจปรากฏวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีทองสว่างไปทั้งแท่นหิน ไม่นานคนทั้งหมดก็จางหายไปจากบริเวณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด