ตอนที่แล้วตอนที่ 223 พืชที่เติบโตในมือชายหนุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 225 ตามรอยเลือด

ตอนที่ 224 แค่นี้พอหรือไม่


ตอนที่ 224 แค่นี้พอหรือไม่

ทั้งกลุ่มใช้เวลาเดินทางอีก 2 วันกว่าจะเดินทางมาถึงหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเผ่าใหญ่ที่ว่า ยิ่งเข้าใกล้เผ่าใหญ่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจอกับคนมากเท่านั้น แต่ในบางครั้งก็จะมีซอมบี้ที่หลงเข้ามาในเส้นทางของพวกเขาด้วย

“เราใกล้จะถึงแล้ว” เฮกเตอร์ชี้ไปที่หุบเขาด้านหน้า

มันเป็นหุบเขาหิน มีทางลัดเลาะไปตามไหล่เขาพอจะเข้าไปยังจุดนัดพบของพวกเขา ที่นั่นเป็นจุดที่คนที่ยังอยู่ในทะเลทรายไร้ขอบเขตโรเลน่ามารวมตัวกัน สถานที่แห่งนี้ถูกควบคุมโดยเผ่าใหญ่เผ่าหนึ่งที่ชื่อว่า เผ่าสิงโตทองคำ ตามที่เฮกเตอร์บอกมันมีสถานที่แบบนี้ที่ยังเหลือรอดอยู่ 7 แห่ง เมื่อก่อนมีมากกว่านี้แต่พวกซอมบี้พากันมาล่าพวกเขาไปจนหมด

และที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็มีเผ่าใหญ่แบบเผ่าสิงโตทองคำควบคุมอยู่เช่นกัน

“เผ่าสิงโตทองคำพวกนี้มีคนมากแค่ไหน”

“ประมาณ 10,000 คน”

“พวกนี้มีแหล่งน้ำสะอาดใช่ไหม”

“ประมาณนั้น แหล่งน้ำสะอาดแบบนี้หายากมาก มันอาจจะอยู่ที่อื่น ๆ บ้าง ซึ่งมีเผ่าขนาดพันคนควบคุมอยู่ แต่มันมีเรื่องแปลกเกิดขึ้นบ่อยครั้ง”

“เรื่องแปลก?”

“ว่ากันว่าแหล่งน้ำพวกนั้นพอมีคนไปรวมตัวกันมาก ๆ เข้าก็จะเจอกับฝูงซอมบี้บุกโจมตี พวกมันจะจัดการล่าคนกินไม่ต่างจากสัตว์ป่า”

“มันไม่ปกติงั้นเหรอ”

“ไม่ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นกับแหล่งน้ำอื่น ๆ เท่านั้น แต่ที่เผ่าใหญ่นับหมื่นทั้ง 7 แห่งกลับไม่เคยเกิดเรื่องฝูงซอมบี้โจมตีเลย ยกเว้นซอมบี้ที่หลงมาบ้าง” เฮกเตอร์อธิบายให้ไนเรลฟัง

ไนเรลได้ยินแบบนั้นก็คิดว่ามันแปลกจริง ๆ ตามที่เฮกเตอร์บอก ขนาดเผ่าหนอนไฟมีคนแค่ไม่เท่าไหร่ยังดึงดูดซอมบี้ได้ แต่เผ่าใหญ่ทั้ง 7 กลับไม่มีซอมบี้มาโจมตีทั้งที่พวกมันมีคนเป็นหมื่น ๆ ซึ่งแม้แต่คนโง่ก็คิดออกว่ามันต้องมีเหตุผลเบื้องหลังแน่นอน

แต่ไม่มีใครคิดจะไปสนใจมัน เพราะในเมื่อพวกเขาสามารถหาประโยชน์ได้จากสิ่งเหล่านี้แล้วทำไมต้องไปทำอะไรที่มันยุ่งยากด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงธรรมชาติของมนุษย์เท่านั้น

พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันอีกแต่เร่งเดินทางเข้าด้านในหุบเขาแทนเพราะตอนนี้ใกล้จะมืดเข้าไปทุกทีแล้ว

เส้นทางบนเขาอากาศเย็นกว่าปกติมาก ที่นี่มีกลุ่มคนมากมายเดินไปในทิศทางเดียวกัน เป้าหมายของพวกเขาไม่ต่างจากคนเผ่าหนอนไฟ มีหลายคนที่อยู่ในสภาพอ่อนแรงเหมือนขนขาดน้ำ ซึ่งมันถือเป็นเรื่องปกติมากและมีให้เห็นบ่อย ๆ

“ถ้าเราไม่สามารถซื้อน้ไปได้พอก็จะเป็นแบบคนพวกนี้” เฮกเตอร์บอกกับไนเรล ไนเรลเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น

เมื่อเข้ามาใกล้มากพอ ไนเรลก็เห็นภาพตรงหน้ามันต่างจากเผ่าหนอนไฟลิบลับ ที่นี่มีแสงจากหลอดไป มีอาคารสูงหลายแห่งอยู่ในสภาพดูดี มีต้นไม้กลายพันธุ์บางส่วนใหญ่เป็นพวกไม้ยืนต้น และมีกำแพงอยู่สามชั้นล้อมเผ่าไว้ใจกลางหุบเขากินเนื้อที่กว่า 20 กิโลเมตร

“กำแพงทั้งสามนั้นแบ่งออกเป็น ชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก ชั้นนอกคือที่ที่ให้คนนอกเผ่ามาแลกเปลี่ยนกัน มันเสียค่าเข้า 100 G ต่อคน ส่วนชั้นกลางนั้นเป็นที่อยู่ของคนในเผ่าสิงโตแต่ถ้าใครมี G มากพอก็สามารถเข้าไปพักได้ ส่วนชั้นในลึกลับที่สุดว่ากันว่ามันคือที่อยู่ของคนระดับสูง” เฮกเตอร์เล่าให้ไนเรลฟัง

“ท่านไนเรลหลังจากเข้าไปแล้ว ข้าพอมีผู้ซื้อที่เชื่อถือได้อยู่ เราสามารถจ้างเขาเป็นตัวแทนในการขายสินค้าพวกนี้ได้ แม้มันจะได้กำไรน้อยลงสัก 10 % แต่เราสามารถขายของทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว”

“ทำตามที่คุณบอกก็แล้วกัน ถามผู้ซื้อคนนั้นเกี่ยวกับพวกบันทึกเก่า ๆ ด้วยราคาเท่าไหร่ผมยินดีจ่าย” ไนเรลบอกกับเฮกเตอร์

พอมาถึงจุดผ่านประตู ทหารที่เฝ้าไม่ได้ตรวจค้นของ แต่กับนับจำนวนคนและเก็บเงินเท่านั้น พอถึงคิวของเผ่าหนอนไฟ ทหารยามพวกนั้นก็นับจำนวนคน

“32 คน หืม...ไม่สิ! 31 คน พวกเจ้ามีเผ่าอสูรมาด้วย”

“ใช่ท่านหัวหน้ายาม นี่คือค่าผ่านทางของมัน” แฮกเตอร์ยื่นการ์ดเก็บเงินมูลค่า 1000 G ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากไปให้กับหัวหน้าทหารยาม

“หึ เจ้าคิดว่าเงินแค่นี้จะพออย่างนั้นเหรอ อสูรที่เข้าไปต้องให้นายท่านที่มีพลังระดับสีน้ำเงินในการรับรองเจ้ามีหรือไม่ ถ้าไม่มีข้าจะต้องจับมันไปขังไว้เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่แน่นอนว่าเราคุยกันได้...” หัวหน้ายามยื่นมือไปด้านหน้าพร้อมกับแสดงตัวเลขเงิน 10,000 G เป็นการให้เฮกเตอร์โอนให้พวกมัน

“ท่าน...” เฮกเตอร์รู้แล้วว่าคนพวกนี้มันต้องการเงินมากขึ้น แต่เขาไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นการที่ต้องจ่ายให้กับคน 30 คนมันก็แทบจะเป็นเงิน G ทั้งหมดแล้ว

เฮกเตอร์คิดว่าหลังจากขายของทั้งหมดคงได้เงิน G คืนมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้พวกมันกลับมารีดไถ่เอาแบบนี้

“3,000 G ได้หรือไม่”

“ไปจับตัวมันมา” หัวหน้าทหารของเผ่าสิงโตทองคำสั่งออกมาพร้อมกันนั้นมันก็คิดในใจว่า ‘อสูรนี่ถ้าชำแหละขายน่าจะได้ราคาหรือเอาไปขายเป็นทาสก็คงได้ไม่น้อยกว่า 10,000 G ข้าคงไม่โง่เอาเงินแค่ 3000 G’

หัวหน้าทหารยามยิ้มออกมาอย่างสบายใจ มันไม่ได้มีท่าทีกลัวเผ่าเล็ก ๆ อย่างเผ่าหนอนไฟแม้แต่น้อย

อสูรหนูได้ยินดังนั้นมันก็ตั้งท่าเตรียมสู้ แต่แล้วเสียงของไนเรลก็ดังขึ้น “พอแค่นั้นแหละ แค่ต้องให้ระดับสีน้ำเงินรับรองถึงจะเพียงพอใช่ไหม”

“แน่นอน แต่เจ้าเป็นใคร”

“ฉันคือเจ้านายของมัน” ไนเรลเดินเข้าไปหาหัวหน้ายามคนนั้น มันทำให้หัวหน้ายามที่เป็นแค่ระดับสีเขียวถึงกับรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

คนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกไม่ดีจึงพากันถอยออกไปเปิดเป็นช่องระหว่างไนเรลและหัวหน้ายาม

ไนเรลเปิดฮูดที่คุมศีรษะออกเผยให้เห็นคริสตัลพลังงานสีม่องส่องประกายพร้อมด้วยกลิ่นอายที่เหนือกว่าออกมา

“แค่นี้พอหรือไม่” เสียงของไนเรลเย็นชาไปจนถึงกระดูก

หัวหน้ายามคนนั้นกลืนน้ำลายดังเฮือกรีบคุกเข่าลงด้วยความกลัว “พอนายท่านผู้ยิ่งใหญ่มันมากเกินพอ เชิญ ๆ ท่านและคนของท่านเข้าไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องเสียค่าผ่านทาง”

“ขอบคุณ” ไนเรลหันไปบอกกับเฮกเตอร์ว่า “เราเข้าไปกันเถอะ”

“เออ..” เฮกเตอร์พยักหน้างึก ๆ รีบวิ่งตามไนเรลเข้าไปด้านใน โดยหันกลับมาเชิงส่งสายตาบอกหัวหน้ายามว่า ‘ข้ามากับนายท่านน่ะเว้ย เจ้าคิดจะทำอะไรก็คิดให้มันดี ๆ’

คนอื่น ๆ ก็ตามมาเช่นกัน

สายตาของยามมองไปที่เฮกเตอร์ด้วยความแค้น มันอยากจะฉีกเฮกเตอร์ออกเป็นชิ้น ๆ ‘บัดซบ เจ้าติดตามคนระดับนั้นมาทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก’

.......

เขามองไปรอบ ๆ “ที่นี่มีไฟฟ้าใช้อยู่”

“ใช่ พลังงานมาจากแก่นพลังงานของสัตว์กลายพันธุ์ แต่การใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองแบบนี้มีแค่พวกเผ่าใหญ่ ๆ” เฮกเตอร์บอกกับเขา

มันไม่แปลกที่เฮกเตอร์จะรู้เรื่องพวกนี้ เพราะที่ผ่านมาเขาเดินทางมาติดต่อกับที่นี่นานแล้ว

ไนเรลสังเกตคนรอบ ๆ คนทั้งหมดก็เป็นมนุษย์ชั้นสูงเช่นกัน หลายคนอยู่ระดับสีเทาเป็นอย่างต่ำ ส่วนใหญ่เป็นระดับสีน้ำตาล ซึ่งเป็นพวกนักล่าที่คุ้มกันคนของตัวเองเดินทางมาที่นี่

ทั้งกลุ่มเดินมาจนถึงที่พักแห่งหนึ่ง หลังจากที่เฮกเตอร์เข้าไปไม่นานก็ออกมา

“ท่านไนเรล ข้าหาที่พักได้แล้ว เราไปพักที่นั้นกันก่อน หลังจากนั้นเดี๋ยวข้าจะไปติดต่อกับผู้ซื้อคนนั้น”

“อืม” ไนเรลพยักหน้าตกลงไป

พวกเขาเข้าไปพักยังอาคารแห่งนี้ ที่นี่นอกจากพวกของเผ่าหนอนไฟแล้ว ยังมีเผ่าเล็ก ๆ อื่น ๆ อีกมาก หลายคนมากด้วยจุดประสงค์เดียวกัน เฮกเตอร์และพรรคพวก หลังจากวางสำภาระที่จำเป็นไว้ในห้องพักแล้วก็พากันแบกสินค้าที่จะขายออกไปหาผู้ซื้อที่เคยพูดถึงกันทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

โดยก่อนไปได้ทิ้งให้ฮาเดรียน่าให้อยู่กับไนเรล

ไนเรลมองไปด้านนอก “ที่นี่มีคนจำนวนมากจากทุกทิศมารวมกัน เฮกเตอร์บอกว่ามันมีของที่เก็บได้มาขายอยู่จำนวนมาก ฉันควรจะออกไปดูสักหน่อยเผื่อเจอเบาะแสหรือของที่ถูกเคลื่อนย้ายมาด้วย”

ไนเรลหันไปเรียกกัสที่กินแอปเปิลอยู่ จากนั้นก็ไปบอกกับฮาเดรียน่าว่าจะออกไปด้านนอก ซึ่งเธอก็ขอตามมาด้วย ไนเรลไม่ได้คัดค้าน เพราะเขาก็ไม่สบายใจถ้าจะให้เธออยู่ที่นี่คนเดียว

เส้นทางที่นี่พวกเขาไปมันไม่ได้ไกลจากที่พักมากนัก ตลอดสองข้างทางมีแผงตั้งขายของมากมาย ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนเทคโนโลยีเก่า ๆ หนังสัตว์กลายพันธุ์ เนื้อแห้ง กระดูกสัตว์กลายพันธุ์ หรือไม่ก็อาวุธที่มีให้เป็นทั่วไป

ไนเรลเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านแห่งหนึ่ง เขานั่งลงยอง ๆ หยิบหนึ่งในสินค้าที่วางขายขึ้นมาดู มันคือโทรศัพท์

“ท่านสนใจมันหรือไม่ แม้มันจะเป็นของยุคเก่า แต่ข้าซ่อมมันจนสามารถใช้งานได้”

เขาส่ายหัวและวางมันลง อันที่จริงตอนนี้ไนเรลยังไม่มีเงินแม้แต่ G เดียว

เมื่อเดินต่อไปเรื่อย ๆ เขาก็เจอกับร้านที่น่าสนใจ มันมีหนังสือหลายสิบเล่มวางเรียงรายอยู่ ไนเรลหยิบขึ้นมาและคิดจะเปิดมันดู

“เฮ้ ถ้าเจ้าอยากอ่านก็ต้องจ่ายเงินก่อน นี่คือหนังสือทำอาหารในสมัยเก่าก่อนที่จะเกิดโลกาวินาศ” พูดด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าชายสวมฮูดปิดบังใบหน้ามาเปิดอ่านหนังสือที่ตนขาโดยไม่ยอมซื้อ

“ท่านไนเรล พ่อข้าได้ให้เงิน G บางส่วนมาบ้าง บอกว่าเอาไว้ให้ท่านใช้ก่อนที่จะได้เงินจากของที่ขาย” ฮาเดรียน่ายืนการ์ดเก็บเงินให้กับไนเรล มันมีตัวเลขแสดงอยู่ 1000 G

ไนเรลรีบการ์ดเก็บเงินนั้นมาและหันไปถามคนขาย “ราคาเท่าไหร่”

“500 G” คนขายพูดด้วยสายตาที่เป็นประกายเมื่อเห็นว่าไนเรลสนใจหนังสือพวกนี้

ไนเรลจ้องไปที่คนขายตาไม่กะพริบ ของพวกนี้ไม่ต่างจากขยะในสายตาของคนอื่น เพราะหลายคนอ่านหนังสือไม่ออก ดังนั้นราคามันไม่มีทางถึง 500 G แน่นอน ไนเรลไม่ยอมให้ใครมาโกงเขาง่าย ๆ หรอก

“ราคาเท่าไหร่” ไนเรลถามอีกครั้ง

คนขายรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวในสายตาที่อยู่ในเสื้อคลุมนั่น “100 G ไม่สิแค่ 50 G ถ้าไม่เอาข้าก็ไม่ขาย”

“ตกลง” ไนเรลหยิบหนังสือเล่มนั้นมาทันที

“ของเธอ” ไนเรลส่งหนังสือให้กับฮาเดรียน่า

ฮาเดรียน่ารับมาอย่างงง ๆ ในใจคิดว่า ‘ข้าไม่ได้อยากได้สักหน่อย’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด