ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 93 คุณฉิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 95 พบกับยัยหลินซื่อบื้อ

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 94 คมดาบที่พุ่งใส่เหวินเทา


ตอนที่ 94 คมดาบที่พุ่งใส่เหวินเทา

เมืองซงเจียงนั้นอยู่ห่างจากเมืองหลวงเฟิ่งเป่ยประมาณ 600 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ารางเบา หากไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วจนเป็นอุปสรรคกับเส้นทางจราจรแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น

ฉินหยู่ แมวแก่ และกวนฉี ติดต่อหมาเหล่าเอ้อทันทีหลังจากที่พวกเขาออกจากสถานีรถไฟแล้ว

“ฮัลโหล?” เสียงของหมาเหล่าเอ้อดังมาตามสายโทรศัพท์

“นายอยู่ที่ไหน” ฉินหยู่ถาม

“ฉันเพิ่งเจอกับคนส่งอาวุธที่เอ็มจีคาร์นิวัล”

หมาเหล่าเอ้อตอบด้วยเสียงต่ำ “ฉันขอให้ลุงจื่อเข้าไปถามแล้ว วันนี้เพื่อนของเสี่ยวฉู่ไม่ได้ทำงานกะกลางคืน”

ฉินหยู่ตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นั่นหมายความว่าเขาอาจได้พบกับเสี่ยวฉู่”

“ใช่” หมาเหล่าเอ้อพยักหน้า “ฉันไม่ยังไป ฉันว่าจะรอเขาอยู่ที่นี่แหละ”

“คืนนี้คงยากที่เขาจะปรากฏตัว” ฉินหยู่เกลี้ยกล่อมทันที “เอางี้เป็นไง นายมาหาเราก่อน มารวมหัวกันเรียนรู้สถานการณ์กันก่อนดีไหม?”

“นายจะต้องเรียนรู้อะไรอีก หา? ขณะนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากจับเสี่ยวฉู่กลับไป” หมาเหล่าเอ้อขมวดคิ้วและพูดต่อ “แล้วถ้าหากเด็กคนนี้กลับมาที่คาร์นิวัลกลางดึกล่ะ ฉันจะไม่พลาดโอกาสเหรอถ้าฉันไปซะก่อน? ไม่ต้องเรียนรู้อะไรแล้ว ฉันจะนั่งยองๆ รอเขาอยู่นี่แหละ”

“หมาเหล่าเอ้อ นายต้องไม่รีบร้อนในการทำงานพวกนี้ นายมาที่นี่ด้วยรถไฟฟ้ารางเบา ถ้าเกิดมีเรื่องโฉ่งฉ่างขึ้นมา นายจะถูกจับขังได้ง่ายๆ เลยนะ” ฉินหยู่ยังคงจู้จี้ “นายควรจะแน่ใจว่ามันจะเป็นไปตามที่คิดเสียก่อน”

“ฉันรู้น่า ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่” หมาเหล่าเอ้อคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “นายไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจที่ฉันทั้งหมดหรอกน่า ถ้าเป็นไปได้ นายควรใช้ทางลัดดีกว่า”

“จะไปทางไหนล่ะ?” ฉินหยู่อึ้งไปไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

“ก็เราแทบไม่มีคอนเน็กชันที่นี่เลย ถ้าต้องการซื้ออาวุธ นายต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน” หมาเหล่าเอ้อตอบห้วนๆ “ถ้านายรู้จักคนในท้องถิ่นที่มีพลัง สามารถช่วยฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับเอ็มจีคาร์นิวัลได้ เรื่องนี้ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นทีเดียว”

“ถามเกี่ยวกับเพื่อนของเสี่ยวฉู่เหรอ?” ฉินหยู่ถาม

“ใช่เลย” หมาเหล่าเอ้อพยักหน้าทันที “เสี่ยวฉู่มันเพิ่งมาถึง และเพื่อนเขาก็อาจจะลาหยุดสองสามวันเพื่อไปฉลองกับเขา แต่ตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีรถใช้ที่นี่ ก็เลยได้แค่นั่งยองๆ รอไปเรื่อยๆ เท่านั้น... ถ้าเป็นอย่างงี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ทำให้ฉันช้าเท่านั้น มันยังกลายเป็นการขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายด้วย แต่ถ้านายสามารถหาคนรู้จัก หรือเพื่อนในท้องถิ่นให้มาช่วยสอบถาม หาที่อยู่ของเด็กคนนี้ได้ เราก็จะไม่ต้องรอแบบนี้หรอก”

ฉินหยู่ตอบด้วยความขายหน้าเล็กน้อย “อืม เอาละ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อนของเสี่ยวฉู่ชื่ออะไร?”

“เหวินเทา”

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

“เอาละเรามาทำนี่ก่อน”

“อ้อ เกือบลืม ลุงหม่าก็มาที่นี่ด้วย” ฉินหยู่เตือน

หมาเหล่าเอ้อตกตะลึงอยู่นานและพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนเล็กน้อย “เขายังไม่เชื่อฉันสักอย่าง ช่างมัน! อยากมาก็มาวะ”

“พวกเรามาทำเรื่องนี้ให้เสร็จด้วยกันดีกว่า”

“ขอบใจ เสี่ยวหยู่” หมาเหล่าเอ้อตอบอย่างเงียบๆ “นายต้องแบกรับความกดดันมากกว่าใครจากผู้กำกับหลี่ในเรื่องที่ฉันก่อ ฉันรู้อยู่แก่ใจ... พี่ชาย ถ้านายผ่านเรื่องนี้ไปได้ นายจะรู้ว่าต่อไปฉันจะทำอะไรให้นายได้บ้าง”

“เรื่องนั้นไว้วันหลังเถอะ”

“คงมีเท่านี้แหละ”

ทั้งสองพูดคุยปิดท้ายสองสามคำแล้ววางสาย

……

ทางเข้าสถานีรถไฟ

แมวแก่มองไปที่ฉินหยู่พร้อมถามว่า “หมาเหล่าเอ้อบอกว่าไง?”

“เพื่อนของเสี่ยวฉู่ ไม่ได้เข้ากะงานคืนนี้”

ฉินหยู่หันกลับมาตอบว่า “พวกหมาเหล่าเอ้อกับลุงจื่อกำลังนั่งยองๆ ซุ่มรอกันอยู่ในหลุม แต่เขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะกลับไปที่คลับเอ็มจีอีกเมื่อไหร่ เขาเลยอยากให้เราลองหาคนใน ที่พอรู้อะไรๆ เพื่อเราจะได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหวินเทาได้บ้าง”

“ถ้างั้น เราก็มีแค่เฒ่าหลี่เท่านั้นแหละที่จะถามได้” แมวแก่ตอบเบาๆ “ไม่สำคัญว่าฉันจะอยู่ในเฟิ่งเป่ยหรือที่ไหน”

“นายลุย ฉันลุย?” ฉินหยู่ถาม

“ไอ้เวร พูดแบบนั้น เพราะแกอยากให้ฉันลุยกับแกล่ะสิ”

แมวแก่กลอกตาเหมือนรู้ทัน

“ถ้าอย่างนั้นนายก็ลุย” ฉินหยู่พยักหน้า

หลังจากที่ทั้งสองคุยกันแล้ว แมวแก่ก็เดินหลบไปข้างๆ และกดหมายเลขของผู้กำกับหลี่

แม้ว่าฉินหยู่และกวนฉีจะมีคนรู้จักในซงเจียง แต่พวกเขาไม่กล้าติดต่อทางโน้นง่ายๆ เพราะถ้ามีข่าวรั่วไหลออกไปแม้แต่นิดเดียว มันจะยิ่งลำบากมากขึ้น

หลังจากนั้นประมาณสิบนาที แมวแก่ก็วางสายโทรศัพท์แล้วเดินกลับมามองหน้าฉินหยู่เป็นเชิงวัดใจ “เฒ่าหลี่สัญญาว่าจะช่วย”

“เอาล่ะ” ฉินหยู่เหลือบมองไปที่นาฬิกาข้อมือ “งั้นเข้าเมืองแล้วหาที่พัก รอลุงหม่า!”

“ไปกันเลย”

แมวแก่พยักหน้า แล้วทุกคนก็เดินตามฉินหยู่ไปตามถนน

……

บนรถไฟฟ้ารางเบา

หย่งตงกำลังนั่งอยู่ในตู้โดยสารส่วนตัวอันหรูหรา เขายกน้ำขึ้นดื่มขณะที่ลูกน้องผู้ติดตามเปิดประตูเดินเข้ามา

“พี่ตง ฉันสอบถามมาหมดแล้ว เพื่อนของเสี่ยวฉู่ทำงานเป็นเด็กสวนที่เอ็มจีคาร์นิวัล และวันนี้ไม่ได้ทำงานกะกลางคืน” ผู้ติดตามเข้ามานั่งลงแล้วรายงานความคืบหน้าให้ฟัง

หย่งตงคิดอยู่นานแล้วจึงถามขึ้น “นายพอจะรู้ไหมว่าเด็กคนนี้อาศัยอยู่ที่ไหน?”

“เพื่อนที่ช่วยฉันถาม เขาอยู่ในย่านเขตที่สองใหม่ เขาไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ของเอ็มจีมากนัก เลยน่าจะไม่ได้อะไรมาก” ผู้ติดตามส่ายหัว

หย่งตงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับถามขึ้น “เพื่อนของเสี่ยวฉู่ชื่ออะไร?”

“เหวินเทา” ผู้ติดตามตอบ

หย่งตงพยักหน้าและกดหมายเลขโทรศัพท์ของฉิงจื่อหาว

“ฮัลโหล?”

“เฮ้ คุณฉิง ฉันต้องรบกวนคุณแล้ว เหะเหะ…”

“ว่ามา”

“คุณรู้จักเอ็มจีคาร์นิวัลไหม?” หย่งตงถาม

“คุณต้องถามสถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ทั้งหมดในเฟิ่งเป่ย ว่าใครไม่รู้จักฉันบ้าง”

ฉิงจื่อหาวแบะปากพร้อมตอบกลับ

“เยี่ยมจริงๆ” หย่งตงพูดทันที “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยฉันหาคนสักหน่อย เขาทำงานเป็นเสมียนคลังสินค้าที่เอ็มจี เขาชื่อเหวินเทา ฉันอยากรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหนและสถานการณ์ทั่วไปของเขา”

“เขามีอะไรเกี่ยวข้องกับตลาดยาหรือเปล่า?” ฉิงจื่อหาวขมวดคิ้วถาม

“เกี่ยวสิ” หย่งตงอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ “เด็กคนนี้เกี่ยวข้องกับว่า เราจะกำจัดคู่แข่งของเราในซงเจียงได้หรือไม่ ไม่งั้นฉันคงไม่รบกวนคุณหรอก”

“ได้ โทรหาฉันเมื่อคุณถึงที่นั่นแล้ว” ฉิงจื่อหาววางสายโทรศัพท์

เมื่อหย่งตงเห็นว่าวางสายไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที “ฉันทำงานหนักมากว่าสิบปี แต่คำพูดของฉันยังไม่มีน้ำหนักมากเท่าคำพูดของเจ้าเด็กคนนี้เลย นายคิดว่าสังคมนี้ยุติธรรมไหม?”

“เขาแค่เกาะพ่อของเขาไม่ใช่เหรอครับ?” ผู้ติดตามพูดอย่างประจบสอพลอ “เขาเทียบพี่ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว”

“เอาแค่พ่อเขาคนนี้ ถ้าฉันไล่ตามเขามากว่าสิบปี ฉันอาจจะไม่มีวันตามเขาทันเลยก็ได้” หย่งตงวางโทรศัพท์ลง หันไปมองออกไปนอกหน้าต่างรถและเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “นายคิดว่าเฒ่าหม่ากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้”

ผู้ติดตามอึ้งเงียบไปครู่หนึ่งราวกับว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจคำพูดนั้น

หย่งตงหยิบกล่องบุหรี่ของเขาออกมา ขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฟังนะ ฉันจะบอกบางอย่างให้ฟัง”

“พูดมาสิพี่ตง”

“โทรหาพี่สามให้ไปตรวจตราที่สถานีเหนือและจุดตรวจ…” หย่งตงให้คำแนะนำแก่ผู้ติดตามของเขาด้วยน้ำเสียงต่ำ

……

เมืองเฟิ่งเป่ย

เมื่อฉินหยู่กำลังจะโบกรถแท็กซี่ จู่ๆ แมวแก่ก็ตะโกนมาจากด้านหลัง “เฮ้ ฉันจำอะไรบางอย่างได้”

“หา?” ฉินหยู่หันกลับมา

“นางฟ้าตัวน้อยกลับมาที่เฟิ่งเป่ยแล้วเหรอ?” แมวแก่ถามด้วยดวงตาที่สดใส

“นายกำลังพูดถึง ยัยหลินซื่อบื้อเหรอ?” ฉินหยู่ฉุกคิดและจำได้ทันทีว่าหลินเนี่ยนเหล่ยเพิ่งกลับมาที่เฟิ่งเป่ยก่อนหน้านี้ และเขาขอให้เธอซื้อเครื่องสำอางให้โคโค่ “ฉันไม่ได้เจอเธอมาหลายวันแล้ว เธอน่าจะกลับมาที่นี่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเราไปถามเธอเกี่ยวกับเหวินเทากันดีกว่า น่าจะช่วยให้เราเสร็จเรื่องไวขึ้นนะ ใช่มั้ย?” แมวแก่พูดอย่างตื่นเต้น “ครั้งสุดท้ายนายไม่ได้บอกฉันเหรอว่า ตระกูลของเธอโด่งดังมากในเฟิ่งเป่ย และเป็นตระกูลเก่าแก่ซะด้วย เพราะงั้น เราไม่รู้ว่าเธออาจมีเพื่อนหรือเส้นสายที่สามารถช่วยเราหาตรวจสอบก็เป็นได้นะ นายว่าไง?”

ฉินหยู่อึ้งเงียบไป

“ฉันจะโทรหาเธอแล้วถาม” แมวแก่ทำตามที่เขาพูด หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพลางพึมพำ “ตอนนี้เรากำลังขี่ลาไปหาม้า ใครอยากจะช่วยบ้าง”

……

บนถนนสายหนึ่ง

หลินเนี่ยนเหล่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถามด้วยความไม่พอใจอย่างมาก “หลินเนี่ยนเนี่ยน คุณจะมาไหม? ฉันกำลังจะแข็งตายอยู่แล้วนะ!!”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด