ตอนที่แล้วตอนที่ 201 ดอกไม้บนเสาหิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประตู

ตอนที่ 202 มะลิกับเส้นทางวิวัฒนาการ


ตอนที่ 202 มะลิกับเส้นทางวิวัฒนาการ

ไนเรลมองดูเสาหิน แต่ผ่านไปหลายนาทีมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งกุญแจมันหลุดออกจากช่องใส่หล่นลง ไนเรลยืนมือไปคว้ามันไว้

“ทำไมถึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือว่าต้องใช้กุญแจทั้ง 8 ดอกเพื่อให้มันทำงาน เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เอิร์ลดาโก้ต้องมาตามเอากุญแจดอกนี้แล้ว แทนที่จะตรงมาที่นี่ มันต้องมีเงื่อนไขอย่างอื่นแน่นอน ฉันพลาดอะไรไป?” ไนเรลพูดกับตัวเอง

“เส้นพวกนี้เหมือนกับวงจรไฟฟ้า” เมสันที่ไม่รู้ขึ้นมาตอนไหนพูดขึ้นมา

ไนเรลหันไปมองเมสันด้วยความสนใจ “วงจรไฟฟ้า”

“ใช่ ดูนี่มันวิ่งผ่านช่องที่ใส่ลูกกุญแจใช่ไหม จากนั้นมันก็ยาววนลงมาเรื่อย ๆ ไปรวมกันที่แท่น จากนั้นก็ลากยาวหายไปในมุมของแต่ละด้านของพีระมิด ซึ่งหนึ่งด้านหนึ่งมุมมีหนึ่งเส้นรวมกันเป็นแปดเส้นวงจร เหมือนกับการทำงานของวงจรพลังงานที่ใช้แก่นพลังงานเป็นพลังงานที่ปืนใหญ่พลังงาน” เมสันอธิบายด้วยความสนใจและกล่าวต่อว่า “น่าสนใจ ดูเหมือนเรื่องปืนใหญ่พลังงานจะเกี่ยวกับพวกนี้ด้วยแล้ว”

“แบบนี้เองสินะ ถึงว่าทำไมแต่ละประเทศถึงสามารถผลิตปืนใหญ่พลังงานกันได้ มันไม่ได้เกิดจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่มันมาจากการวิจัยที่นี่ ซึ่งตอนแรกมันเป็นแค่ต้นแบบก่อนที่จะพัฒนาเป็น E1 หลังจากมีแหล่งพลังงานแล้วนั้นก็คือแก่นพลังงาน”

“แหล่งพลังงานของมันน่าจะไม่ได้มีจุดเดียว บนเสาหินนั้นหนึ่งจุด” เมสันชี้ไปด้านบนเสาหัน

ไนเรลกระโดดขึ้นไปดูมันมี

“มีจริงด้วย” ไนเรลบอกกับเมสัน

“แน่นอน ฉันไม่เคยผิดพลาด” เมสันพูดด้วยสีหน้าปกติ

บนเสาหินมีช่องให้ใส่แก่นพลังงานอยู่ 10 ชิ้น ไนเรลหยิบแก่นพลังงานระดับ 5 ขั้นต้นออกมาซึ่งได้มาจากทะเลตะวันตก เขามีแก่นพลังงานระดับ 5 ขั้นต้นอยู่หลาย

หลังจากใส่แก่นพลังงานไปแล้วทุกช่องไนเรลกำลังจะใส่กุญแจเข้าไปใหม่ แต่เมสันก็บอกว่า “มันคงใช้ไม่ได้ เพราะยังมีพลังงานจุดอื่นอีก ถ้าไม่ใส่พลังงานในจุดพวกนั้นมันก็คงไม่ทำงาน อีกอย่างมันอาจจะมีเงื่อนไขพิเศษอะไรอีกก็ได้”

“เรากลับไปที่ฐานกันก่อน แล้วแจ้งทุกคนให้ค้นหาตามเส้นพลังงานไป” ไนเรลบอกกับทุกคน

“พี่...หนูจะไปบนยอดของพีระมิดเพื่อดูภาพมุมสูงก่อน” นิเรียแยกตัวออกไปในระหว่างทาง เอวาด้วยความเป็นห่วงจึงขออาสาไปด้วย ซึ่งไนเรลก็เห็นด้วย แม้เขาจะรู้ว่านิเรียดูแลตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่สบายใจ ถ้าทั้งสองไปด้วยกันน่าจะดีกว่า

ไนเรลและเมสันเดินกลับมาที่จุดรวมพล ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็ทยอยกลับมาแล้วเช่นกัน แต่ในตอนนั้นเองก็เกิดเสียงคำรามดังขึ้นอย่างรุนแรง

กรรรร!!!

“เกิดอะไรขั้น”

“สัตว์กลายพันธุ์”

ทุกคนมีท่าทีระวังตัวกันทันที

ไนเรลเองก็เช่นกันเสียงนั้นดังมาจากด้านในสุดของโบราณสถาน ซึ่งอยู่คนละตำแหน่งกับจุดที่นิเรียและเอวาอยู่ ดุเหมือนว่าจะมีคนไปปลุกสัตว์กลายพันธุ์ขึ้นมา

“มะลิ ธีโอ กับจูเรียไปไหน” ไนเรลหันไปถามทุกคนเมื่อเขาไม่เห็นตัวป่วนอยู่ที่นี่

ทุกคนได้แต่มองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบกับเขาได้ และในตอนนั้นเองเสียงกรีดร้องก็ดังมาจากจุดที่เสียงคำรามดังขึ้น ซึ่งมันคือเสียงของจูเรีย

“ไปเร็ว”

ไนเรลบินไปด้วยความเร็วสูงในเวลาไม่ถึง 1 นาทีก็มาถึงด้านในสุดของโบราณสถานแห่งนี้

“มะลิระวัง มันมาข้างหลังและ อีกตัวด้านข้าง ธีโอจัดการเลย” จูเรียเชียร์อยู่หลังกำแพงหิน

“แม้วๆๆ มิ้ววว (มาสิ แกต้องโดนนี่)” มะลิวิ่งไปตามตัวของงูพยายามจ้องตามัน

“...” ธีโอกินใบไม้คริสตัลอย่างเชื่องช้าโดยไม่สนใจการต่อสู้อยู่กลางการต่อสู้เหมือนปกติ

ไนเรลมองภาพตรงหน้าอย่างแปลก ๆ 1 คนที่ทำอะไรแบบเด็ก ๆ 1 ตนที่เป็นตัวป่วน และอีกตนที่สงบนิ่งได้ทุกสถานการณ์

นอกจากทั้งสามแล้วยังมีงูมีขายาวกว่า 10 เมตรอยู่สองตัว สีของมันตัวหนึ่งดำอีกตัวหนึ่งสีน้ำตาล บนหัวของมันมีใบหน้าที่เหมือนมนุษย์นูนออกมา มันคืองูใบหน้าศพกลายพันธุ์

“งูใบหน้าศพกลายพันธุ์ พวกมันโด่งดังมากในชีวิตที่แล้ว เพราะพวกมันจะกินแต่ซากศพเท่านั้น เล่ากันว่าพวกมันได้กลิ่นความตายและจะตามเหยื่อที่ใกล้ตายอยู่ห่าง ๆ รอจนเหยื่อตายแล้วมันจึงจะไปกิน ดังนั้นใครที่โดนมันตามมักจะหมายถึงตอกอยู่ในอันตรายหรือใกล้ตาย” ไนเรลทบทวนความคิดของตัวเอง

ไนเรลลงไปที่พื้นข้าง ๆ จูเรีย

“จูเรีย มะลิกำลังทำอะไร” ไนเรลไม่ได้เข้าหยุดการต่อสู้ทันที เพราะเขาเห็นว่ามะลิยังสู้ได้ อีกอย่างธีโอก็อยู่ด้วยและงูใบหน้าศพ ตัวสีดำอยู่ระดับ 5 ขั้นต้น ตัวสีน้ำตาลอยู่ระดับ 4 ทั้งสองน่าจะรับมือไหว

จูเรียสดุ้งตกใจเล็กน้อยเหมือนคนทำผิดโดนจับได้ แต่พอคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรจึงมีท่าทีกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“มะลิบอกทำภารกิจยกวิวัฒนาการ”

“วิวัฒนาการ?”

“ฉันก็ไม่รู้มาก มะลิบอกแค่นี้ก่อนจะเข้าไปสู้กับเจ้างู และต้องฆ่ามันด้วยตัวเอง”

“งูพวกนี้มาจากไหน”

“ไม่รู้ พวกเราเห็นมันนอนหลับอยู่ในพีระมิดด้านหลังตรงนั้น”

ไนเรลมองดูการต่อสู้อยู่ด้านข้าง ถ้าเกิดการผิดพลาดอะไรขึ้นมาเขาจะลงมือช่วยทันที

ขณะเดียวกันคนอื่น ๆ ก็มาถึงแล้วเช่นกัน ไนเรลจึงบอกให้ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปก่อน เพื่อไม่ให้ไปรบกวนมะลิ

งูทั้งสองตัวสีดำโดนธีโอดึงไว้ ส่วนสีน้ำตาลโดนมะลิสะกดอยู่

...

ในโลกมายาของมะลิ

งูหน้าศพกลายพันธุ์มองดูทุกอย่างด้วยความงุนงง มันพยายามเลื้อยหาทางออกไปเรื่อย ๆ แต่ในทุก ๆ ครั่งก็กลับมาที่เดิมเสมอ

กรรร!!!

งูหน้าศพร้องด้วยความโมโห มันงงมากกับสิ่งที่เจอ ในตอนนั้นเองก็มีชายร่างกำยำนับร้อยนับพันคนหล่นลงมาจากบนท้องฟ้าและร้องเสียงแปลกออกมา

เจ้างูคิดว่าแม้มันจะไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับชายกำยำพวกนี้ก็ยังรู้สึกขนลุก แต่แล้วชายร่างกำยำพวกนั้นก็วิ่งเข้าโจมตีงูยักษ์อย่างสุดชีวิต

งูหน้าศพกลายพันธุ์ดิ้นไปมาไม่หยุด ไม่รู้เพราะสัญชาตญาณหรือเพราะมันมีสติปัญญาสูงกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไหนมันก็พยายามไม่ใช้ตัวเองโดนคนพวกนี้จับได้

ชายกำยำพยายามจับงูหน้าศพ ในตอนแรกงูหน้าศพก็หลบและฆ่าชายกำยำได้ แต่พอชายกำยำตาย ร่างนั้นก็จะแบ่งตัวเป็นสองและฟื้นคืนขึ้นมาไล่ล่างูหน้าศพกลายพันธุ์ต่อ

ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วัน ทั้งตัวงูกลายพันธุ์ไม่ต่างจากปลาที่โดนถอดเกล็ด แต่มันก็ยังดิ้นรนอย่างสุดชีวิต

แต่ในตอนนั้นเองหน้ามนุษย์บนหัวของมันก็กรีดร้องออกมาทำลายภาพมายาของชายกำยำทั้งหมด งูยักษ์สามารถทำลายภาพมายาได้

กรรร!!!

มันรู้สึกโมโหมากหลังจากกลับมาที่โบราณสถานได้ ร่างกายของมันยังปกติดีทุกอย่าง มันรีบมองหาร่างจริงของแมวน้อยทันที

มะลิมองมันด้วยความตกใจจนหน้าซีดวิ่งหนีด้วยความกระวนกระวายใจ งูหน้าศพเลือยด้วยความรวดเร็วชนเข้าหาร่างเล็ก ๆ ของมะลิจนแหลกไม่มีชิ้นดี มันใช้ลิ้นตวัดเลือดที่มีอยู่น้อย ๆ ขึ้นมาชิมด้วยลิ้นสองแฉก แต่แล้วก็เหมือนจะรู้สึกของความผิดปกติ

เพราะที่นี่ไม่มีเพื่อนของมันอยู่ อีกอย่างก่อนที่มันจะโดนสะกดมันจำได้ว่ายังมีสัตว์กลายพันธุ์อีกตัว และมนุษย์จำนวนมาก

ในสายตาของงูหน้าศพกลายพันธุ์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันเริ่มกลัวแล้วจริง ๆ ในตอนนี้

ในตอนนั้นเองอุ้งเท้าสีขาวขนาดใหญ่ยักษ์ปิดบังท้องฟ้าก็ตกลงมาที่ตัวของงูหน้าศพกลายพันธุ์

......

ที่โลกความจริง ไนเรลมือดูงูยักษ์ที่โดนมะลิจะกดจากนั้นมันไม่กี่นาทีมันก็ทิ้งตัวลงตายไปทั้งอย่างนั้น มะลิยืนอยู่บนหัวของมันด้วยความเหนื่อยหอบ แต่ก็ดูเหมือนจะดีใจเป็นอย่างมากที่ฆ่ามันได้

กรรร!!!

ขณะเดียวกันงูหน้าศพกลายพันธุ์ตัวสีดำก็ร้องออกมาด้วยความโกรธแค้นที่เห็นคู่หูของตัวเองตาย มันพยายามตรงเข้าหามะลิ แต่ก็ถูกธีโอหยุดไว้

งูหน้าศพกลายพันธุ์พุ่งตรงเข้าหาธีโอที่ขวางมันอยู่ แต่พอมันเข้าใกล้เรื่อย ๆ ทุกอย่างก็ช้าลง...ช้าลง...

กล้ามเนื้องูเริ่มสั่นไหว มันบิดตัวกันอย่างรุนแรง เหมือนกับพยายามต้านทานการไหลของเวลาเกิดรอยฉีกไปทั่วตัว

เลือดไหลซึมออกมา ดวงตาของงูสีดำปูดออกมาแต่มันก็ยังไม่หยุด หรืออาจจะเพราะมันแทบไม่รู้สึกตัว งูหน้าศพกลายพันธุ์บิดตัวไปมาอย่างรวดเร็ว แต่ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งช้ามากเท่านั้น

สุดท้ายร่างของมันก็บิดผิดรูปตายไปด้วยสภาพที่สยดสยอง

หลังจากงูหน้าศพสีดำตายไป ธีโอก็หยิบผลไม้บางอย่างออกมาและกินอย่างอร่อย ไนเรลมองผลไม้ในมือของธีโอก็ตากระตุกเล็กน้อย มันคือผลยกระดับ ดูเหมือนธีโอจะเก็บมันมาด้วยเช่นกัน

เขาหันไปมองชารอน ที่ตอนนี้ก็ยิ้ม ๆ ออกมาราวกับจะบอกว่า “ท่านกล้าไปแย่งมาไหมล่ะ” จากนั้นเธอก็พาคนและเข้าหน้าที่เข้าไปจัดการกับศพงูหน้าศพกลายพันธุ์ตัวสีดำ

“มะลิ เธอเจอวิธีการวิวัฒนาการแล้วใช่ไหม บอกหน่อยได้ไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง” ไนเรลเดินถามมะลิที่หน้าซีดอยู่

“แม้ววววว! เมี้ยว มี้ ม้าว แม้วๆๆ ม้าว มิ้วววว…เหมียว มี้ๆ แม้วๆๆๆ ม้าว เหมียว ม้าว (มะลิรู้สึกได้ว่าต้องจัดการกับสามสิ่ง นั้นคือ งู 1 ตัว หนู 1 ตัว และ นก 1 ตัว ที่มีระดับพลังเท่า ๆ กัน จากนั้นก็กินมัน ถึงจะไปต่อได้)” มะลิไม่ได้คิดอะไรมาก แม้จะดูหน้าซีดจากการสู้กับงูหน้าศพกลายพันธุ์ แต่ก็ตั้งใจอธิบายให้กับไนเรลฟังขณะที่กระโดดขึ้นไปที่ไหลของไนเรล

‘งู หนู นก ไม่ใช่ว่ามันคือสิ่งที่แมวก่อนเกิดภัยพิบัติชอบล่าหรอกเหรอ อย่าบอกว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คิด ส่วนไปต่อได้ ที่มะลิพูดน่าจะหมายถึง วิวัฒนาการ ดูเหมือนอสูรแบบมะลิจะรับรู้เส้นทางได้ด้วยตัวเอง’

“มี้ๆๆ แม้ว ม้าว...มิๆ แม้ว ม้าว (ไนเรลช่วยมะลิเอาแก่นพลังงานออกมาหน่อยสิ)” มะลิวาดขาไปมาด้วยขาสั่น ๆ นั้น มันดูน่ารักเป็นอย่างมาก

ไนเรลยิ้ม ๆ เอามือไปลูบหัวแมวน้อยจากนั้นก็เดินเข้าไปเผ่าหัวงูหน้าศพกลายพันธุ์ หยิบแก่นพลังงานออกมา

มะลิใช้อุ้งเท้าหน้าทั้งสองรีบรับมาด้วยสายตาที่เป็นประกาย จากนั้นก็พยายามกินแก่นพลังงาน แต่เพราะตัวที่เล็กจึงกินแก่นพลังงานไม่ได้ มะลิจึงเลือกจะเลียมันเป็นลูกอมแทน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด