ตอนที่แล้วEp.1050 - มือจากในที่มืด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1052 - ยกระดับอย่างรวดเร็ว

Ep.1051 - พัฒนาความแข็งแกร่ง


Ep.1051 - พัฒนาความแข็งแกร่ง

ฉินเฟิงยังคงดูดซับศิลานรกอย่างต่อเนื่อง

โคตรดาวเคราะห์ทมิฬในร่างเขา ค่อยๆเติบโตขึ้นเช่นกัน แกนกลางของมิติบาฮามุทมีขนาดใหญ่มาก ปัจจุบันฉินเฟิงเพิ่งขุดได้แค่ชั้นนอกของมันเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่คือแกนมิติขนาดใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางเต็มที่ถึง 900 เมตร

ปฏิบัติการขุดแกนมิติยังคงดำเนินต่อไป แก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิงขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งมันใหญ่ขึ้น อบิลิตี้และพลังพิเศษดูดกลืนของเขาก็ย่อมแข็งแกร่งขึ้นตามธรรมชาติ

ผ่านมาได้หนึ่งวัน ปัจจุบันเส้นผ่านศูนย์กลางโคตรดาวเคราะห์ทมิฬของฉินเฟิง ได้ขยับมาเป็น 20 เมตรแล้ว

แต่ในตอนนั้นเอง ท่ามกลางมหาสมุทรอันมืดมิด จุดแสงระยิบระยับที่ไม่น่าจะมี จู่ๆก็ปรากฏ ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่าภายในกระแสของเหลวพลังงานอันบริสุทธิ์ มีสิ่งมีชีวิตอื่นบุกรุกเข้ามา

มิใช่ใครอื่น เป็นกลุ่มผู้ใช้พลังเลเวล SSS ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสมาชิกจะหายไปคนหนึ่ง --ปีศาจเสพวิญญาณผู้แสนโชคร้าย มันได้รับบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายถูกบังคับให้ถอนตัวจากการสำรวจในครั้งนี้

แม้ตระหนักถึงผู้มาเยือน แต่ฉินเฟิงยังคงเลาะแกนมิติบาฮามุทเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เนื่องจากการอาละวาดของปีศาจเสพวิญญาณ ทำให้ทุกคนในกลุ่มได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย ผลกระทบที่ตามมา ส่งผลให้การเดินทางเข้าสู่โซนพื้นแกนกลาง จากเดิมที่สมควรราบรื่น ในครั้งนี้กลับยากลำบาก หลังจากบากบั่นทั้งวี่วัน พลังงานในร่างกายพวกเขาก็ใกล้จะหมดลง นั่นหมายความว่า สุดท้ายแม้พวกเขาสามารถเข้ามาถึงแกนกลางของบาฮามุทได้ แต่ก็ไม่อาจรั้งอยู่ได้นานเกินไปนัก

แรงกดดันที่นี่รุนแรงมาก ดังนั้นพลังงานที่ใช้สร้างโล่คุ้มภัยบนเรือสมบัติของพวกเขา จึงสิ้นเปลืองอย่างมหาศาล การมาเยือนในแต่ละครั้ง หลังหักลบผลได้ผลเสีย สามารถจากไปพร้อมกำไรเล็กน้อยเท่านั้น

“ทำไมกัน? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคราวนี้แกนมิติมันหดเล็กกว่าครั้งก่อนนิดหน่อย?”

โคตรดาวเคราะห์ทมิฬของฉินเฟิง ดูดซับพลังงานเข้ามาจนมีเส้นผ่านศูนย์ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 20 เมตรแล้วก็จริง แต่มันยังเทียบไม่ได้เลยกับดาวเคราะห์บาฮามุทที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 900 เมตร ในขณะที่พลังสมาธิของทุกคนในที่นี้แข็งแกร่งพอสมควร ดังนั้นเพียงกวาดตามองเล็กน้อย ก็สามารถเห็นได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น

เพียงแต่พวกเขาคงนึกไม่ถึง ว่าสาเหตุที่ทำให้ดาวเคราะห์หดเล็กลง จริงๆแล้วเกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์!

“ทวีปบาฮามุทกำลังวิวัฒนาการ แกนมิติอาจหดเล็ก นี่ถือเป็นเรื่องปกติ รีบเร่งมือเถอะ กระจายกันออกไป!” มนุษย์กินคนกล่าว

ตัวตนทรงอำนาจเหล่านี้ แม้ร่วมมือกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะแบ่งสมบัติที่ได้มาเท่าๆกัน ดังนั้นแยกย้ายกันไปยังตำแหน่งต่างๆเพื่อขุดศิลาศักดิ์สิทธิ์

มนุษย์กินคนล่องเรือมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ในเวลานั้นเอง บังเกิดเสียงโครม!ดังขึ้น ซึ่งการที่เสียงสามารถสะท้อนเข้ามาถึงภายในเรือ จนเขาสามารถได้ยินเสียงเช่นนี้ สามารถบ่งบอกให้เห็น ว่าพลังที่แฝงมากับมันทรงพลังเพียงใด

“ใครกัน?” มนุษย์กินคนตกใจ ต้องรู้นะว่า ทุกคนในที่นี้เขารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่มันไม่เคยรู้เลย ว่าในกลุ่มจะมีคนที่ครอบครองพลังป่าเถือนรุนแรงเช่นนี้รวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังเสียงโครม!จบลง มนุษย์กินคนหันไปเห็นกลุ่มก้อนศิลาศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งหลุดลอกจากดาวเคราะห์ บางอันใหญ่มากมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 1 เมตร ดวงตาของมันก็เบิกกว้าง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันโชคดีจริงๆ เสียงเมื่อกี้น่าจะแค่คิดไปเอง งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ!”

พลังสมาธิของมนุษย์กินคนกวาดออกไปด้านนอกเรือ พยายามคว้าศิลาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไว้

แต่ไม่นาน มนุษย์กินคนก็พบว่า แม้พลังสมาธิของเขาจะสามารถห่อหุ้มรอบศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดเอาไว้ได้ แต่ตัวศิลากลับไม่ตอบสนองเลย ตรงกันข้าม กลับเป็นพลังสมาธิของเขาที่แตกสลายลง นี่ทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดเซียว

มันให้ความรู้สึกประมาณว่ามีของหนักกำลังร่วงลงพื้น แต่เขาดันก้าวเข้าไปรับมันไว้ ผลลัพธ์คือข้อมือเคล็ด ได้รับบาดเจ็บไป

มนุษย์กินคนเฝ้ามองศิลาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นลอยออกมา ไปตกลงในตำแหน่งที่อยู่ห่างจากเขาเพียง 200 เมตร จากนั้นก็หายวับไป ถึงจุดนี้ มนุษย์กินคนถึงค่อยมองเห็น ว่ามีร่างที่ปกคลุมไปด้วยศิลาแห่งความมืดอยู่ที่นี่ด้วย อีกฝ่ายกำลังยืนอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรทมิฬ

อึ้งไปพักหนึ่ง มนุษย์กินคนถึงค่อยสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้

“มีคนอยู่ที่นี่จริงๆด้วย!”

มนุษย์กินคนรู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจ ต้องรู้นะว่า เขาไม่เคยพบเคยเห็นคนเบื้องหน้ามาก่อนเลย

แต่สังเกตจากรูปร่าง คาดว่าน่าจะเป็นมนุษย์

ยังไม่พอ หากไม่ได้มองด้วยตาเปล่าคงไม่มีทางเห็น พลังการรับรู้ของมนุษย์กินคน ไม่สามารถตรวจจับอีกฝ่ายได้เลย  คาดว่านี่คงเป็นเพราะอีกฝ่ายมีเลเวลเยอะกว่าตนเองมาก ไม่ก็แก่นอบิลิตี้มืดของอีกฝ่าย มันทรงพลังเกินกว่าขอบเขตพลังสมาธิของมนุษย์กินคนจะตรวจสอบได้

แต่ ณ จุดนี้ ไม่ว่าจะกรณีไหน มันก็อันตรายทั้งนั้น

ในเวลานี้ มนุษย์กินคนเฝ้ามองฉินเฟิงลอยล่องอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแห่งความมืด ระหว่างคิ้วของอีกฝ่ายคล้ายปรากฏกระแสวังวน คอยสูบพลังงานรอบๆและศิลาศักดิ์สิทธิ์เข้าไป

ตูมมมม!

เงื่อนไขพลังสมาธิของฉินเฟิงถูกเติมเต็ม ยกระดับไปอีกขั้น!

ก้าวขึ้นสู่เลเวล SS1!!

ใช้เวลาแต่หนึ่งวัน ในที่สุดพลังสมาธิของฉินเฟิงก็เลื่อนระดับไปอีกขั้น

ที่สามารถรวดเร็วเช่นนี้ได้ เพราะถึงอย่างไรครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงแข็งแกร่งทนทานมากพอที่จะต่อต้านแรงกดดันของมหาสมุทรแห่งความมืด ไม่เหมือนในครั้งที่แล้ว

ฉินเฟิงสามารถดูดซับพลังงานจากมหาสมทุรโดยรอบเพื่อเติมเต็มพลังสมาธิ ขณะเดียวกันคอยดูดซับศิลาศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องเพื่อขยายโคตรดาวเคราะห์เพชรของเขา

“มังกรตะปบ!”

ฉินเฟิงฟาดฝ่ามือออกไป ปลดปล่อยกระบวนท่าวรยุทธที่เขาเคยเรียนรู้เมื่อครั้งยังอ่อนแอ ทว่าเวลานี้ฉินเฟิงครอบครองกำลังภายในที่มากกว่าเลเวล SSS9 ถึง 9 เท่า! ดังนั้นกระบวนท่านี้จึงสามารถระเบิดพลังทำลายล้างรุนแรง น่าพรั่นพรึงอย่างหาที่เปรียบมิได้

โครมมมม!

แกนกลางมิติบาฮามุทสั่นสะเทือนอีกครั้ง บังเกิดรอยปริร้าวและหลุมลึกบนพื้นผิว ศิลาศักดิ์สิทธิ์ถูกเลาะ กระเด็นออกมา

พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป  คว้าศิลาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเอาไว้

กระบวนการเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

มนุษย์กินคนที่คอยดูอยู่ข้างๆ อ้าปากตาค้าง เจ้าตัวไม่เคยพบเห็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนเลย สามารถเลาะแกนมิติได้ด้วยมือเดียว และกลืนกินพลังงานโดยรอบได้ง่ายดายเหมือนดื่มน้ำเย็น

เมื่อถึงจุดนี้ ข้างในใจของมนุษย์กินคนเกิดความคิดบางอย่าง หลังจากเห็นฉินเฟิงกวาดเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ออกไป มันก็เริ่มขยายพลังสมาธิอย่างระแวดระวัง รวบรวมเอาเศษเล็กเศษน้อยของศิลาศักดิ์สิทธิ์เข้าหาตน

ฉินเฟิงที่ลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแห่งความมืด ชำเลืองมองมนุษย์กินคน แต่ไม่ได้ท้วงติงใดๆ ยังคงโจมตีแกนมิติต่อไป

อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนี้ของเขา มันสร้างความวุ่นวายใหญ่โตเกินไปจริงๆ ผู้ใช้พลังเลเวล SSS บางคนเลยแล่นเรือเข้ามาดูด้วยความสงสัย และพบว่าฉินเฟิงกำลังขุดศิลาศักดิ์สิทธิ์ก้อนใหญ่ และเรียกมันเข้าหาตัว

และตำแหน่งพื้นผิวแกนมิติที่อยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง เวลานี้บุบลงไปเป็นหลุมลึก

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? แล้วแกเป็นใคร??” ผู้ใช้พลังเลเวล SSS จากกองกำลังมืดร้องโวยวาย

และเลเวล SSS ผู้นี้ ไม่ใช่ใครอื่น เป็นมนุษย์หมาป่านั่นเอง

ฉินเฟิงเมินอีกฝ่าย ยังคงรวบรวมศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืด สูบมันเข้าสู่หว่างคิ้วของเขา มนุษย์หมาป่าเริ่มร้อนรน เพราะศิลาที่อยู่เบื้องหน้า คือตัวแทนของความมั่งคั่งมหาศาล!

เขาโคตรอยากได้มันมาครอง แต่ตอนนี้ของที่ว่าดันอยู่ในมือคนอื่น ดังนั้นมีเพียงวิธีเดียว--

--นั่นคือต้องปล้นชิง!

“ตายซะ!”

มนุษย์หมาป่าเลเวล SSS บังคับเรือสมบัติพุ่งเข้าชนฉินเฟิง

“แส่หาที่ตาย?” ฉินเฟิงเหลียวมองมนุษย์หมาป่าเลเวล SSS ง้างฝ่ามืออย่างไม่ลังเล

ตูมมมม!

ฉินเฟิงอัดฉีดกำลังภายใน ฟาดโจมตีลงบนเรือลำนั้น

ขณะเดียวกัน มนุษย์หมาป่าบนเรือก็กางกรงเล็บอันแหลมคมของมัน ตะปบเข้าใส่ฉินเฟิงอย่างรุนแรง

หึ่ง!

ฉินเฟิงเปิดใช้งานโล่ปราณกำลังภายในของเขาทันที ดารากำลังภายในขยายออกเป็นช่วงกว้างกว่า 10 เมตร ความหนาเต็มที่ 3 เมตร

นับเป็นอะไรที่น่าหวาดหวั่นมาก

กี๊ดดดดด!

กรงเล็บทรงพลังของมนุษย์หมาป่า กรีดลงบนโล่ปราณกำลังภายใน ส่งเสียงหวีดไม่ต่างจากการเสียดสีของโลหะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด