ตอนที่แล้วEp.1049 สมบัติของทุกคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.1051 - พัฒนาความแข็งแกร่ง

Ep.1050 - มือจากในที่มืด


Ep.1050 - มือจากในที่มืด

ฉินเฟิงเข้าใจได้ในทันที

“สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล SSS พวกเขาทุกคนมีความสามารถในการดูดซับแกนมิติอยู่กับตัว แต่ไม่สามารถโยกย้ายแกนมิติได้ เพราะไม่มีความช่วยเหลือจากสัตว์ยักษ์มิติ  อย่างไรก็ตาม พวกเขามีสมบัติที่สามารถใช้เดินทางไปถึงโซนชั้นพลังงานของเหลวได้โดยไม่มีอุปสรรคใด ไม่น่าแปลกใจเลย คนพวกนี้มาที่นี่เพื่อแบ่งสรรทรัพยากร!”

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่สนใจ บางทีหากเป็นในมิติอื่น ถ้าไม่มีไป๋หลีฉินเฟิงคงไม่สามารถบุกไปถึงพื้นที่แกนกลางมิติได้จริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ ในทวีปบาฮามุท ฉินเฟิงเคยบุกเข้าไปสำเร็จแล้ว ดังนั้นคราวนี้เขาย่อมสามารถใช้วิธีเดิมเดินทางไปได้

กระแสธารทมิฬไหลเชี่ยว เลเวล SSS พวกนั้นลอยไปทางต้นน้ำ ในไม่ช้าพวกเขาก็จะไปถึงภูเขาสูงที่ฉินเฟิงพบในตอนแรก

และเบื้องหลังภูเขา คือตำแหน่งโซนแกนกลางมิติ บนพื้นเกลื่อนไปด้วยศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืด ส่วนบนเนินเขาร่างเงาสัตว์ยักษ์ที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัว

ซึ่งคราวก่อน ในสายตาของฉินเฟิง สัตว์ยักษ์เหล่านั้นน่ากลัวมาก

แต่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ปัจจุบันนี้ สัตว์ยักษ์ทั้งหมดไม่ต่างจากเหยื่อที่ฉินเฟิงสามารถล่าได้ตามต้องการ

ทว่าในสายตาของเหล่าเลเวล SSS ที่บุกเข้ามา เห็นได้ชัดว่าสัตว์ยักษ์เหล่านี้ เป็นการดำรงอยู่ที่ยากจะรับมือ หากคิดก้าวเข้าสู่โซนพื้นที่แกนกลาง พวกเขาไม่อาจรอดพ้นสายตา กลบซ่อนกลิ่นอายจากพวกมันได้ ไม่เหมือนกับฉินเฟิงที่กำลังสวมชุดเกราะที่สร้างจากศิลานรก

“คราวนี้ใครจะไปก่อนเป็นคนแรก?”

“ถึงตานายแล้ว!”

“ฉันจะไป! ฉันจะไปก็ได้! แต่ถือว่ารู้กันนะ ถ้าไม่มีคนมารับช่วงต่อฉัน อย่าหวังเลยว่าทุกคนจะรอดชีวิตไปได้!”

“เออน่ารู้แล้ว  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อยที่พวกเราร่วมมือกัน รีบเข้าไปซักทีเถอะ!”

หลังจากที่คนพวกนี้โต้เถียงกันพักหนึ่ง ปีศาจเสพวิญญาณในกลุ่มเลเวล SSS ก็ก้าวออกมา มันควบคุมเรือที่เหมือนกับชามใบใหญ่ พุ่งผ่านเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เงาแห่งความตายเหล่านั้นเติบโตขึ้นที่นี่ และพวกมันมีเศษเสี้ยวเจตจำนงที่เหลืออยู่ของบาฮามุทในร่างกาย ดังนั้นย่อมไม่ต้องการให้แกนกลางถูกผู้อื่นกลืนกิน

ดังนั้นเมื่อจู่ๆมีผู้ใช้พลังเลเวล SSS ปรากฏขึ้นตรงหน้า มันเลยให้ความรู้สึกไม่ต่างจากยื่นการเหยียบย่างเข้าอาณาเขตของสัตว์ร้าย เงาแห่งความตายเหล่านั้นเริ่มไล่ตาม โถมโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

ตูม ตูม ตูมมมม! เรือชามใบใหญ่ของปีศาจเสพวิญญาณ ด้านนอกเกิดกาารสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สีหน้าของปีศาจเสพวิญญาณก็ดูน่าเกลียดไม่แพ้กัน  เจ้าตัวคว้าสิ่งหนึ่งขึ้นมาในมือ แล้วโยนมันออกไปอย่างแรง

พริบตานั้นสิ่งมีชีวิตหนึ่งโผล่ออกมา มันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยกลิ่นอายของเลือดอันเข้มข้น

“อ๊าาา!” เสียงกรีดร้องดังนั้นจากตำแหน่งนั้น เงาแห่งความตายมากมายกระโจนเข้ารุมทึ้งมัน ร่างที่เพิ่งปรากฏขึ้นกลายเป็นโครงกระดูกทันที เริ่มหลอมละลายลง

มิใช่ใดอื่น เหยื่อเมื่อครู่คือมนุษย์!

เป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง มีเลเวลอย่างน้อย SS ทว่ามันก็ไม่มากพอที่จะต้านทานกระแสธารทมิฬ หรือต้านทานการโจมตีจากพวกสัตว์ยักษ์ได้

ทำได้เพียงเปล่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามดิ้นรนจนดึงดูดเงาแห่งความตายเหล่านั้นไป

อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเงาสัตว์ยักษ์อีกหนึ่งถึงสองตัวที่ยังคงไล่ตามปีศาจเสพวิญญาณ ปีศาจเสพวิญญาณทำตามที่ตกลงกันไว้ มันช่วยลากผู้พิทักษ์แกนกลางมิติเหล่านี้ออกไป

ฉินเฟิงหรี่ตาลง มุมปากผุดยิ้มเย็นชา เริ่มดำดิ่งลึกลงไปในธารทมิฬอย่างรวดเร็ว ตรงเข้าหาปีศาจเสพวิญญาณอย่างเงียบๆโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกต และคนอื่นๆก็เช่นกัน

ชามใบใหญ่ของปีศาจเสพวิญญาณ เวลานี้ลอยอยู่เหนือหัวของฉินเฟิง ฉินเฟิงไม่เคยเห็นมันมาก่อน ไม่ทราบว่าทำจากวัสดุอะไร  หรือหล่อหลอมขึ้นจากอบิลิตี้ใดกันแน่

ฉินเฟิงยกฝ่ามือขึ้น รีดเร้นกำลังภายในไหลมายังจุดเดียว พลังงานทรงอำนาจถูกอีดฉีดลงบนฝ่ามือ จากนั้นฟาดเสยขึ้นใส่ใต้ท้องเรือชามใบใหญ่!

ตูมมมม!!!

บังเกิดเสียงอู้อี้หนักทึบ โล่เกราะป้องกันบนชามใบใหญ่ กระพริบถี่รัวทันที

ทราบหรือไม่ว่า แม้สมบัติชนิดนี้จะสามารถต้านทานการรุกรานจากพลังงานของเหลวในแกนกลางมิติได้ แต่จริงๆแล้วพลังป้องกันของมันไม่สูงมากมายอะไร ฉินเฟิงแค่ฟาดฝ่ามือลงใต้ท้องเรือ ก้นชามใบใหญ่ใต้เท้าของปีศาจเสพวิญญาณก็เกิดเสียงคลิกคลิกของรอยปริร้าวขึ้นทันที

“เกิดอะไรขึ้น?” ปีศาจเสพวิญญาณตกใจหน้าซีดเผือด ก้มลงมองเบื้องล่าง  สัมผัสได้เพียงบรรยากาศอันเย็นเยียบที่ลอยขึ้นมา ในหัวใจคุกรุ่นไปด้วยความโกรธแค้น!

“นี่ฉันโดนตลบหลังสินะ!” ดวงตาของปีศาจเสพวิญญาณแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเรือของเขาถูกลอบโจมตี

ปีศาจเสพวิญญาณระเบิดพลังสมาธิล็อคมือมืดที่อยู่เบื้องหลังมันโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด แต่มันรู้ดี ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต่อสู้  แต่จำเป็นต้องหลบหนี

มิฉะนั้น ต่อให้ตัวมันเป็นผู้ใช้พลังเลเวล SSS  แต่หากตกลงไปในธารทิมฬของบาฮามุท ก็ถึงตายเช่นกัน

ปีศาจเสพวิญญาณล่าถอยอย่างรวดเร็ว คนอื่นๆแปลกใจว่าทำไมจู่ๆอีกฝ่ายถึงหนีกลับมา หรือว่าจะมีเงาแห่งความตายน่ากลัวอยู่ข้างหน้า?

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามาที่นี่ ดังนั้นต่อให้มีรูปแบบชีวิตที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น ก็ไม่น่าจะมีท่าทีตื่นตระหนกขนาดนี้ ขบคิดสักพักหนึ่ง ก็ได้ข้อสรุปว่าปีศาจเสพวิญญาณอาจมีแผนอะไรบางอย่าง ดังนั้นทั้งหมดจึงพยายามหยุดอีกฝ่าย

ซึ่งการกระทำเช่นนั้น ไม่ต่างจากการแหย่รังแตน

“หลีกไปให้พ้น! ไม่อย่างนั้นก็มาตายพร้อมกันซะ!”

“นายกำลังทำบ้าอะไร หยุดเดี๋ยวนี้ อย่าสร้างปัญหาให้พวกเรา!”

“เหอะ! เป็นพวกแกเองต่างหากที่ลงมือก่อน!”

ท่ามกลางความโกลาหล ไม่มีเวลาให้ใครอธิบาย กลุ่มเลเวล SSS ตกอยู่ในความวุ่นวายสับสน

มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้น ที่ลอบหัวเราะเยาะเย็นชา เริ่มปีนขึ้นไปบนภูเขา จากนั้นก้าวเข้าสู่ท้องทะเลแห่งความมืดมิด

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคนอื่นสังเกตเห็น ฉินเฟิงเริ่มเร่งความเร็วอีกครั้ง ว่ายไปตามทิศทางของกระแสธารทมิฬ

มาเยือนครั้งก่อนเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ แต่ตอนนี้ โล่ปราณกำลังภายในของเขาที่ปลดปล่อยออกมา มันสามารถสลายกระแสน้ำอันบ้าคลั่งในพื้นที่ของเหลวพลังงานแห่งความมืดมิดได้แล้ว สามารถแหวกว่ายอย่างอิสระตามใจนึก

เดินทางไม่ถึงชั่วโมง แกนมิติที่ตอนแรกใช้เวลาลอยคอถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ในที่สุดก็มาถึง

มันยังคงเป็นดาวเคราะห์ดวงใหญ่ ในปีนี้ คาดว่าพวกเลเวล SSS คงบุกมาที่นี่บ่อยแล้ว แต่ได้ศิลานรกไปเพียงน้อยนิดเท่านั้น ส่วนขนาดของดาวเคราะห์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก

แต่ตอนนี้มันกำลังจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

เพราะฉินเฟิงอยู่ที่นี่!

“ทักษะลับกลืนดารา : ปลดปล่อยแรงผลัก!”

บังเกิดกระแสอากาศปะทุขึ้น ทะลวงแหวกของเหลวพลังงานอันมืดมิด

ตูมมมม!

ดาวเคราะห์ทมิฬสั่นสะท้าน ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดกระจายออกมารอบๆ

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

พลังสมาธิของฉินเฟิงเสมือนดั่งมือใหญ่ คว้าจับศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดเหล่านั้นไว้ในกุมมือ จากนั้นไหลเข้ามาผสานรวมเข้ากับระหว่างคิ้วของเขา

“มาลองกันอีกครั้ง!”

ฉินเฟิงอาศัยความความจริงที่ว่าเขามีดารากำลังภายในมากถึงเก้าดวงในร่างกาย ดังนั้นระเบิดอำนาจโจมตีอย่างรุนแรง ตบแกนมิติขนาดใหญ่เบื้องหน้าเขา

ภายใต้ผลกระทบของพลังงาน ศิลานรกมากมายบนดาวเคราะห์ยักษ์หลุดลอกออกมา ปล่อยให้ฉินเฟิงดูดซับอย่างตะกละตะกลาม

เปรี๊ยะ!

พื้นผิวบนแกนกลางของมิติบาฮามุท เกิดรอยแตกร้าวในพริบตา ฉากนี้ไม่ต่างจากแผ่นดินแยก ให้ความรู้สึกเหมือนแผ่นดินใหญ่กำลังล่มสลาย

ฉินเฟิงไม่คิดเกรงใจ กลืนกินพลังงานที่เล็ดลอดออกมา ส่งมันเข้ามารวมในจักรวาลแห่งจิตสำนึกของเขา

ณ จุดนี้ โคตรดาวเคราะห์ทมิฬของฉินเฟิง ค่อยๆขยายขนาดขึ้นด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เส้นผ่านศูนย์กลางของมันค่อยๆกางออกมา

ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดระเบิดออก แปรสภาพกลายเป็นอักษรรูน ผสานรวมเข้ากับแก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิงอย่างต่อเนื่อง

จากเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร

เพิ่มเป็น 6 เมตร … 7 เมตร และ 10 เมตร!

ในที่สุด อบิลิตี้ของฉินเฟิงก็หวนคืนสู่สถานะเดิมอีกครั้ง!

ยังไม่จบเท่านี้ พลังพิเศษดูดกลืนยังคงทำงานต่อไป แก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิง เริ่มขยายจนใหญ่กว่า 10 เมตร เพิ่มปริมมาณมากยิ่งขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด