ตอนที่แล้วตอนที่ 180 อาบิเกลแปรพักตร์?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 182 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร(1)

ตอนที่ 181 ความโกรธที่ไม่อาจควบคุม


ตอนที่ 181 ความโกรธที่ไม่อาจควบคุม

ไนเรลกระพือปีกด้านหลังบินตรงเข้าหาเรือเหาะหมายเลขสองของจีนาสอย่างรวดเร็ว แต่ทางเรือเหาะก็ไม่คิดจะให้เขาขึ้นไปบนเรือเหาะได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในขณะที่พวกมันกำลังสนับสนุนอาบิเกลฆ่ามาราคอฟและทหารไทกีล่าที่เหลือรอดและกำลังตีฝ่าวงล้อมอยู่

ปัง!

เสียงปืนใหญ่พลังงาน E3 ยิงถล่มเขากลางอากาศอย่างต่อเนื่อง แต่ความเร็วของไนเรลก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

“หึ...น่ารำคาญ” ไนเรลยกมือขึ้น หิมะที่ตกลงมาในอากาศก็หลอมกลั่นกลายเป็นหยดน้ำจากหยดน้ำก็กลายเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่

“ใบมีดวารี”

มวลน้ำทั้งหมดกลายเป็นใบมีดวารีนับร้อยที่ตรงเข้าหาปืนใหญ่พลังงาน ด้วยระยะห่างแค่ 1000 เมตร ใบมีดวารีจึงเหมือนหายไปและโผล่อยู่หน้าของเป้าหมาย ซึ่งก็คือปืนใหญ่พลังงานทั้ง 10 กระบอก

กึก!

ใบมีดวารีเฉือนเข้าไปที่กระบอกปืนใหญ่ แต่มันก็ไม่สามราถตัดได้ในการฟันเพียงครั้งเดียว ถึงแบบนั้นมันก็มีใบมีมากกว่า 10 ที่โจมตีปืนใหญ่พลังงานแต่ละกระบอก

ตูม!

ปืนใหญ่พลังงานทั้ง 10 ที่เสียหายจากการโจมตีของไนเรลเพียงแค่ไม่กีวินาทีเท่านั้น

เมื่อไม่มีปืนใหญ่พลังงาน ไนเรลก็สามารถบินขึ้นไปบนเรือเหาะหมายเลขสองได้อย่างราบรื่น

ตอนนี้เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรือเหาะมีเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่หลายละ เฮลิคอปเตอร์พวกนี้ไม่ได้ใช้น้ำมันแต่เป็นพลังงานทางเลือกอย่างแกนพลังงานที่หาได้ในยุควันสิ้นโลกแบบนี้

ในขณะที่เขามองสำรวจสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจอยู่นั้น มนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียว 10 คนก็กรูกันออกมาจาก

“ฆ่ามันอย่าให้เข้ามาด้านในได้”

“ฆ่า...”

มนุษย์ชั้นสูงทั้งสิบล้อมไนเรลและโจมตีเขาด้วยพลังทั้งหมด

แต่ไนเรลกับต่างออกไป เขาเพียงแต่ยืนนิ่ง แต่ก่อนที่มนุษย์ชั้นสูงเหล่านั้นจะได้ดีใจร่างจิตของไนเรลก็พุ่งออกไปมันเร็วมาก พร้อมกับที่ร่างของไนเรลหายไปกลับกับที่ร่างจิตพุ่งผ่านจากคนหนึ่ง ไปคนที่สอง จากคนที่สองไปคนที่สาม...และสุดท้ายคนที่สิบ ซึ่งใช้เวลาแค่ห้าวินาทีไนเรลก็ผ่านร่างมนุษย์ชั้นสูงครบทุกคนและเดินไปยังประตูที่พวกมันออกมา

ตุบ! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หลังจากชายหนุ่มเดินผ่านเข้าประตูไปร่างมนุษย์ชั้นสูงทั้งสิบคนก็ล้มลง โดยที่ทุกคนเอามือจับที่ท้องไว้เลือดสีดำไหลออกมา มันราวกับพวกเขาโดนแทงที่ท้อง แต่อันที่จริงแล้วพวกเขาโดนความสามารถ [นิ้วเหล็กในพิษ A] ของไนเรลต่อยเข้าที่ท้อง

ร่างทั้งสิบของมนุษย์ชั้นสูงระดับสีเขียวที่ล้มลงน้ำลายฟูปากมีบาดแผลไหม้และเน่าจากการโดนพิษของไนเรลตายลงไปเพียงไม่ถึงวินาที

ไนเรลเดินลงมาในชั้น A1 ของเรือเหาะ แต่หลังจากเขามาถึงเสียงสัญญาณเตือนภัยภาวะฉุกเฉินก็ดังไปทั่วทั้งเรือเหาะ

ปัง! ปัง! ปัง!

และตามมาด้วยประตูเรือเหาะในแต่ละส่วนปิดล๊อคทันที ภายในเรือเหาะถูกแบ่งออกเป็นชั้น ๆ เหมือนตึก ในแต่ละชั้นไม่ได้แพงเป็นห้องขนาดเล็ก แต่สร้างเป็นแบบห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อบรรจุคนให้ได้มากที่สุด และมันยังมีอีกเหตุผลนั้นก็คือ การที่มีกำแพงน้อยช่วยลดน้ำหนักของตัวเรือเหาะได้มากกว่า 20%

นั้นคือเหตุผลที่เรือเหาะสามารถอัดผู้คนมาได้นับแสนคน แต่ในตอนนี้ดูเหมือนผู้อพยพจะลงจากเรือเหาะไปแล้วจะเหลือก็แต่เจ้าหน้าที่ทหารและมนุษย์ชั้นสูงที่ประจำอยู่ภายในเรือเหาะ ซึ่งมีหลายส่วนที่เริ่มเปลี่ยนไปติดตั้งและจัดเก็บอาวุธแล้ว

“ซีโร่ ฉันต้องเชื่อมต่อนายเข้ากับที่ไหน” ไนเรลถามซีโร่

“ต้องเชื่อมต่อที่ระบบส่วนกลางของเรือเหาะจะดีที่สุด”

“ซีโร่รู้เส้นทางในเรือเหาะไหม” ไนเรลถาม

“ข้อมูลของเรือเหาะมีไม่พอ แต่สามารถคำนวณจากโครงสร้างของเรือเหาะและระบุห้องควบคุมกลางได้” ซีโร่ตอบกลับมาผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่ข้อมือของไนเรล

ซึ่งก็คือเครื่องวัดระดับพลังงานรุ่นไหมที่พัฒนาขึ้นมาล่าสุด

“ต้องการให้แสดงเส้นทางหรือไม่”

“แสดงเส้นทาง”

ซีโร่แสดงภาพโฮโลแกรมโครงสร้างของเรือเหาะและจุดที่ห้องควบคุมกลาง ซึ่งสามารถเชื่อมเข้าระบบส่วนกลางของเรือเหาะได้

“ไปกัน” ไนเรลใช้จิตเคลื่อนย้ายทะลุผ่านกำแพงตรงไปยังตำแหน่งที่ซีโร่ระบุไว้ทันที

........

ห้องควบคุมกลาง เรือเหาะหมายเลขสอง มันเป็นขนาดใหญ่ 20 เมตรเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่และเครื่องมือควบคุมส่วนต่างของเรือเหาะ

กัปตันเรือเหาะหมายเลขสองผู้นั่งอยู่ที่เก้าอี้กัปตันสั่งการออกมาด้วยท่าทีร้อนรน

“หยุดมันให้ได้ เปิดระบบป้องกันทั้งหมด อย่าให้ผ่านเข้ามาห้องควบคุมกลางได้”

“เปิดระบบป้องกันทั้งหมดแล้วครับ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งผู้บุกรุกได้เลยครับ”

“รายงานผู้บุกรุกไปถึงชั้น B1 แล้วครับ”

“ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปขวางหรือยัง”

“ส่งไปแล้ว 10 สองหน่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสิบก็ตายแล้วครับ”

“รายงานผู้บุกรุกไปถึงชั้น B7 แล้วครับ”

“บัดซบ” กัปตันเรือเหาะหมายเลขสองสบถด้วยความไม่พอใจ ภาพจอด้านหน้าตัดสลับไปมาอย่างต่อเนื่อง มันคือภาพไนเรลที่ทะลุผ่านกำแพงได้อย่างอิสระ

“แจ้งไปส่วนกลางขอให้คนมาช่วยเราโดยด่วน...” แต่ยังไม่ทันพูดจบเสียงของกัปตันเรือเหาะหมายเลขสองก็หายไป เพราะด้านหน้าของเขามีชายคนหนึ่งยืนอยู่

ตอนนี้ทุกคนในห้องหวาดกลัวการปรากฏของไนเรลเช่นเดียวไม่ต่างจากกัปตันเรือเหาะหมายเลขสอง ผู้บุกรุกที่พวกเขาพยายามจะหยุดตอนนี้มายืนอยู่ภายในห้องควบคุมกลางแล้ว และยังมองไปรอบ ๆ ราวกับคนมาเดินสำรวจห้องพักก่อนย้ายเข้ามาอาศัยไม่มีผิด

แต่ถึงจะเห็นแบบนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปขัดขวางไนเรล เพราะทุกคนในห้องเป็นแค่คนธรรมดาหรือไม่ก็มนุษย์ชั้นสูงสีเทาเท่านั้น ยกเว้นก็แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้องส่วนกลางทั้งสี่คน

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้องส่วนกลางทั้งสี่คนหยิบอาวุธของตัวเองตรงเข้ามาหาไนเรล

“หมอบ” เสียงของไนเรลดังขึ้นทั่วทั้งห้องควบคุมส่วนกลางไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้องส่วนกลาง กัปตันเรือเหาะหมายเลขสอง หรือเจ้าหน้าที่ธรรมดาทุกคนต่างได้ยินเสียงไนเรลดังกังวานอยู่ในหัว

ร่างกายเหมือนขยับไปเองจากนั้นตัวพวกเขาก็พากันทรุดลงกับพื้นแขนขาอ่อนแรงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก

ไนเรลใช้ความสามารถคำบัญชาเผ่าพันธุ์สั่งคนให้ห้องหมอบลง ซึ่งมันพัฒนาขึ้นมาเป็นระดับ A แล้วมันจึงทรงพลังเป็นอย่างมาก ไม่มีใครต้านได้แม้แต่น้อย

หลังจากนั้นเขาก็จัดการเชื่อมต่อให้ซีโร่เข้ากับเข้าสู่ระบบของเรือเหาะหมายเลขสอง ซึ่งหลังจากนั้นภาพทุกอย่างในห้องควบคุมก็เต็มไปด้วยโค๊ดที่ไม่อาจจะเข้าใจได้วิ่งไปมาเป็นแถวอย่างต่อเนื่อง

“เชื่อมต่อระบบเรือเหาะหมายเลขสองเสร็จสิ้น”

“เชื่อมเข้าระบบส่วนกลางของจีนาส พบข้อมูลบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้”

“ค้นหาข้อมูลเนโค อาโรเดียล่าสุด...พบข้อมูลที่ตรงกัน 13 ไฟล์”

“ดึงไฟล์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด....”

“การดึงไฟล์เสร็จสิ้น”

หลังจากนั้นซีโร่ก็แสดงทุกอย่างบนภาพหน้าจอ มันมีทั้งภาพขีปนาวุธโจมตีทุ่งหญ้ากอเซีย ภาพการค้นหาคนรอดชีวิตจากโดรน จนถึงภาพซากของปู่เนโค

“นี่มัน....ไม่ ไม่ ไม่เรื่องนี้มันควรจะ...” ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งไปเมื่อไนเรลเห็นภาพซากศพที่ผิวหนังทั้งหมดไหม เขารู้สึกกลัวอย่างมาก มือสั่นไม่หยุดโดย ไนเรลตกอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่มั่นคงนี้อยู่สักพัก เขาก็สงบลงมันราวกับเป็นการสงบก่อนพายุจะมาไม่มีผิด

“ใครเป็นคนสั่ง” เขาถามออกมาด้วยเสียงที่รอดผ่านฟัน มันทั้งเย็นชาและน่ากลัว

“ท่านผู้นำสูงสุดเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด ได้โปรดคนบนเรือเหาะนี้ไม่ได้ทำ ตอนนั้นเราแค่พาประชาชนจีนาอพยพมาเท่านั้น นี้คือเรือเหาะหมายเลขสอง ท่านผู้นำอยู่เรือเหาะหมายเลขหนึ่ง...ได้โปรดเรือลำนี้มีลูกเรือจีนาสนับพันชีวิต” กัปตันเรือเหาะหมายเลขสองพูดออกมาด้วยความกลัว เพราะดูเหมือนเขาจะรู้ว่าไนเรลจะทำอะไรต่อไป

แต่แล้วแก้วกาแฟที่อยู่ในที่นั่งของกัปตันสั่นจากนั้นก็มีใบมีดขนาดเล็กบางราวกับปีกจักจั่นบินออกมาเข้าที่ศีรษะของทุกคนที่หมอบอยู่กับพื้นร่วงลงทีละคน ๆ

น้ำที่อยู่ในเรือเหาะทั้งห้องน้ำ ห้องเครื่อง ในตู้กดน้ำ ในขวดต่างพากันกลายเป็นใบมีดหันยานเป็นชิ้น ๆ ลูกเรือทั้งหมดไม่มีใครสามารถหลบความเร็วของใบมีดวารีพ้น

“บัดซบ อ๊ากกก!!!!!!!!! ตายไปซะ”

ไนเรลระเบิดทุกอย่างออกมา แม้แต่ความสามารถเพลิงก็ปลดปล่อยออกมา

ตูม!!!!!!!!!!!!!!

เรือเหาะแยกเป็นเสียง ๆ ระเบิดกลางอากาศเหมือนกับลูกโปร่งรวดเร็วและหมดจด

.......

ซากของเรือเหาะที่เทียบเท่ากับตึกหลายชั้นยาวหลายนับพันเมตร แตกกระจายหล่นลงไปด้านล่างทำลายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทั้งทหารไทกีล่า จีนาสและอาบิเกล ซึ่งอยู่ในตึกและมีชิ้นส่วนเรือเหาะพุ่งเข้าชนเช่นกัน

การระเบิดของเรือเหาะหมายเลขสองนี้น่ากลัวเป็นอย่างมากมันทำลายพื้นที่กว่า 10 กิโลเมตรด้านล่างไม่มีเหลือ ยังมีชิ้นส่วนที่หล่นไกลออกไปไกลกว่านั้น

แต่ยังโชคดีที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่จะย้ายออกไปไกลจากจุดที่ปะทะกันของทหารไทกีล่าและทหารจีนาสานแล้ว

ทำให้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมที่น่าสลดขึ้น

“ไนเรล” เอวาตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าเรือเหาะจะระเบิด ซึ่งเธอรู้ว่าไนเรลยังอยู่ด้านในดังนั้นจึงเป็นห่วงอย่างมากผู้พิทักษ์ทั้ง 100 พากันถอยหนีออกมา

ซึ่งทางฝั่งคนอื่น ๆ ก็ถอยออกมาเช่นกันนั้นจึงสร้างโอกาสให้มาราคอฟพาทหารฝั่งของตัวเองหนีออกมาได้

แต่ที่โชคร้ายสุดคือกองกำลังที่ปิดล้อมมาราคอฟไว้ในตอนแรกซึ่งอยู่ใต้เรือเหาะหมายเลขสองพอดี มั้นจึงทำให้ทหารจีนาสภายในกองกำลังของพวกเขาตายไปกว่า 4,000 นาย

“บ้าเอ๊ยเกิดอะไรขึ้น ทำไมเรือเหาะถึงระเบิด” เคเดนยกซากตึกที่ทับตัวเองออก

“ข้าไม่รู้ แต่มันต้องไม่ใช่เรื่องดี” อาบิเกลเดินออกมาด้วยตัวที่ไร้รอยขีดข่วน เพราะรอบ ๆ เขามีทหารผู้ที่โดนสะกดอยู่ต่างเป็นคนรับความเสียหายจากซากซึกที่ถล่มลงมา

“แต่ตอนนี้เราต้องไปจัดการงานให้เสร็จ” อาบิเกลทำท่าทางยกมือขึ้น ดวงตาสาดประกายไปด้วยแสง ทันใดนั้นทหารที่อยู่รอบ ๆ ก็วิ่งมารวมตัวกันอยู่ข้างหน้าเขา

มันเริ่มจากหนึ่งไปสิบและร้อยภายในไม่ถึงนาที ทหารนับร้อย ๆ นายที่รอดตายตอนนี้ตกอยู่ภายใต้การสะกดของความสามารถจิตใจของอาบิเกล พวกเขาไม่ต่างจากซอมบี้แม้แต่คนที่แขนขาหักจนกระดูกฉีกออกมาก็เหมือนจะไม่รู้สึกเจ็บและร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาไม่ต่างจากซอมบี้เลย จะต่างอย่างเดียวก็คือพวกเขายังมีชีวิตเพียงแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

“ไปจับตัวมาราคอฟมา”

“ครับนายท่าน”

ทหารผู้อยู่ใต้การสะกดกระจายตัวออกไปทันที

..............

“มีบางอย่างกำลังมา” มาราคอฟมองดูรอบ ๆ เขารับรู้ถึงมันได้ แม้ว่ารอบตัวตอนนี้จะเต็มไปด้วยฝุ่นควันและซากตึก ทหารระดับสูงที่เหลือรอด 700 กว่าต่างพากันหยุดและหาที่แอบในทันที

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย”

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย”

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย”

เสียงตะโกนดังมาในอากาศและเข้ามาใกล้กลุ่มของมาราคอฟเรื่อย ๆ

“เตรียมตัวปะทะ...” มาราคอฟสั่งการขณะที่ร่างของเขาอัดแน่นไปด้วยพลัง เขารู้ว่ากำลังเจอกับทหารที่โดนอาบิเกลสะกด

ทุกคนมองไปรอบ ๆ ด้วยความตึงเครียดมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจ ทำไมอาบิเกลถึงทรยศพวกเขาทั้งที่มีความสามารถและพลังขนาดนี้อีกทั้งอาบิเกลยังเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีไทกีล่า ถ้าอาบิเกลเลือกจะหันพลังนี้ใส่จีนาสมันจะต้องทำให้พวกเขาชนะได้อย่างแน่นอน

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย”

ทหารผู้โดนสะกดกระโดดออกมาจากหลังกำแพงวิ่งตรงเข้าหามาราคอฟ มาราคอฟหยิบเหล็กเส้นจากซากตึกด้านข้างซึ่งด้านหนึ่งของเหล็กเส้นยังมีปูนขนาดเมตรกว่า ๆ ติดอยู่ด้วย

มาราคอฟฟาดเข้าไปที่ร่างของทหารที่โดนสะกดอย่างแรงจนปูนที่ติดอยู่แตกกระจาย ร่างของทหารคนนั้นลอยละลิ่วกลับไปทางที่พึ่งจะกระโดดออกมากระแทกเข้ากับผนังตึกเลือดไหลกระจาย

แต่ยังไม่หมดแค่นั้นมาราคอฟใช้ปาเหล็กเส้นในมือไม่ต่างจากหอกปักเข้ากลางหน้าอกของทหารผู้โดนสะกดซึ่งตามมาด้านหลังจนร่างของมันติดกับกำแพงข้าง ๆ ทหารผู้โดนสะกดคนก่อน

“พวกที่ไม่ศรัทธาต้องตาย” ทหารคนนั้นยังไม่ตายมันไม่สนใจอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยยังคงพยายามดึงตัวเองออกมาจากเหล็กเส้นไม่สนใจเลือดที่ไหลตรงหน้าอก

“พวกมันอึดกว่าเดิมมาก นี่สินะศักยภาพร่างกายของมนุษย์เมื่อไร้ความกลัวและความเจ็บปวด” มาราคอฟพูดออกมามองไปที่ทหารที่โดนสะกดอย่างเย็นชาและหันไปกล่าวกับทหารของตัวเองทางด้านหลังทั้ง 700 นายว่า

“พวกมันเป็นแค่หุ่นเชิดของอาบิเกลแล้ว ฆ่าทิ้งให้หมด”

“ท่านจะทำแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้าเราฆ่าอาบิเกลได้พวกนี้อาจจะคืนสติมาได้”

“แต่ก่อนนั้นเราคงตายกันหมด ไม่ต้องสนเราจะต้องไปรวมกับพวกนอกกำแพงให้ได้ อีกอย่างฉันคิดว่าความสามารถของอาบิเกลต้องมีจุดอ่อนบางอย่าง บางทีมันอาจจะมีขีดจำกัดในการควบคุมไม่อย่างนั้นทั้งกองทัพเราคงโดนควบคุมไปแล้ว หรือไม่ก็ทหารระดับสูงก็คงเป็นเป้าหมายในการควบคุม คงไม่ใช่ทหารระดับสีน้ำตาลหรือระดับต่ำพวกนี้อย่างแน่นอน” มาราคอฟบอกกับทหารด้านหลัง

แต่มันมีเวลาให้เขาอธิบายไม่มากนักทหารที่โดนสะกดก็มารวมตัวกันในจุดที่พวกเขาอยู่เรื่อย ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด