ตอนที่แล้วตอนที่ 181 ความโกรธที่ไม่อาจควบคุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 183 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร (2)

ตอนที่ 182 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร(1)


ตอนที่ 182 เริ่มต้นสงครามเผ่าเจ้าสมุทร(1)

ไนเรลมองไปที่ภาพที่ฉายอยู่บนข้อมือ ขณะที่เมืองด้านล่างเต็มไปด้วยซากเรือเหาะและฝุ่นควันที่ฟุ้งขึ้นมา แต่ตอนนี้ตัวเขาไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นด้านล่างเลย

“ฉันไม่อาจจะช่วยปู่ได้”

ในความคิดของเขามีแต่ต้องแก้แค้น ฆ่าจีนาสทั้งหมด เขาอยากจะทำลายเมืองนี้ให้สิ้นซาก เขาไม่สนใจว่าตอนนี้จะฆ่าคนจำนวนมากแค่ไหนขอแค่ได้ฆ่าก็พอ จิตสังหารของไนเรลถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด ท้องฟ้าเริ่มหม่นแสงลง บรรยากาศรอบ ๆ เย็นยะเยือกซะยิ่งกว่าตอนที่หิมะตกหนักซะอีก

ไนเรลกวาดตามองไปยังการต่อสู้ด้านล่าง เขามองเห็นมาราคอฟและเหล่าทหารผู้โดนสะกดกำลังฆ่ากันอย่างไม่คิดชีวิต ห่างออกไปมีอาบิเกลยืนอยู่ หนึ่งในคนสนิทของอาบิเกลอย่างเคเดนก็ไม่อาจจะทนอยู่เฉย ๆ ได้จึงเข้าร่วมด้วย

ซึ่งเอวาก็กำลังตรงไปหาเคเดนและสู้กันอย่างดุเดือด ในขณะที่ผู้พิทักษ์ก็ไม่เข้าใกล้อาบิเกลแม้แต่น้อย เพราะกลัวจะโดนสะกดจากความสามารถของอาบิเกล

ไนเรลจ้องไปที่อาบิเกลซึ่งเขาตัดสินใจแล้วว่าจะฆ่าเป็นเป้าหมายแรก อาบิเกลก็รับรู้ได้ถึงสายตาของไนเรลเช่นกัน

“นั้นคือไนเรล ประธานสมาพันธ์นักล่า พลังที่เห็นนี่มันอะไร...ฉันต้องการมัน ถ้าข้าได้มาก็ไม่มีใครหยุดข้าได้อย่างแน่นอน” อาบิเกลมองไปที่ไนเรลด้วยความโลภ เพราะในสายตาของอาบิเกลสัมผัสได้ถึงบางสิ่งในตัวของไนเรล เขาคิดว่ายังไงก็ต้องสะกดไนเรลให้ได้ อาบิเกลได้ตัดสินใจเลือกไนเรลทันที ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องได้ไนเรลมาให้ได้

‘แต่การจะสะกดพวกที่มีระดับเท่ากันมันไม่ใช่เรื่องง่าย’ อาบิเกลเคยได้ยินเรื่องของไนเรลมามากมายและยังมีข้อมูลที่รวบรวมไว้ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็มีแผนของตัวเอง

ขณะที่ไนเรลกำลังจะลงมือ แต่แล้วดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ต้องการให้ไนเรลมือเปื้อนเลือดมนุษย์จำนวนมากดังนั้นจึงส่งบางสิ่งมาให้

..........

โฮกกกกกกกกกกก.....

เสียงร้องคำรามของสัตว์กลายพันธุ์ดังก้องไปทั่วทั้งเมืองหลวงใหม่ไทกีล่า ถ้าให้เจาะจงก็คือดังมาจากส่วนที่เป็นประตูทิศใต้ของเมือง สถานที่ซึ่งอามิวกัสยึดครอง อยู่ทางด้านใต้ของไทกีล่าที่มีประเทศอามิวกัสตั้งอยู่ แต่ตอนนี้มันไม่มีเหลืออีกแล้ว

ส่วนที่ไนเรลและกลุ่มของเขาอยู่นี้คือประตูทางทิศตะวันตกของเมือง ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกมาราคอฟยึดมาไม่นาน

พื้นที่ภายในเมืองที่ทั้งสามประเทศยึดครองอยู่ แบ่งตามประตูทางออกของเมืองก็คือ จีนาสยึดทางประตูทิศเหนือและตะวันออก คิดเป็น 50 % ของเมืองซึ่งต้องบอกว่ามันมาจากการทรยศของรัฐบาลไทกีล่าและพาราซัสในตอนแรก

มาราคอฟที่พึ่งยึดทางประตูตะวันตกได้ไม่กี่วัน ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่นี้มีกองกำลังที่ก่อตั้งมาจากประชาชนไทกีล่าที่ต่อต้านจีนาสต่อสู้อยู่ก่อนและล่างสุดประตูทิศใต้ คือชาวอามิวกัสที่อาศัยโอกาสที่จีนาสยังรวบรวมเมืองนี้เป็นหนึ่งไม่สำเร็จเข้ามาแย่งเค้กก้อนนี้ไปด้วยส่วนหนึ่ง

แต่ตอนนี้ดูเหมือนอามิวกัสจะต้องเจอกับปัญหาที่ตามหลอกหล่อนพวกมันอีกครั้ง ไม่สิต้องบอกว่าทุกคนที่มีผลประโยชน์ภายในเมืองหลวงใหม่นี้ ทั้งประชาชนไทกีล่า 5 ล้านคนที่ส่วนใหญ่เป็ฌนเพียงคนธรรมดา ประชาชนจีนาสเกือบ ๆ 3 ล้านที่กว่าครึ่งเป็นทหารและอามิวกัสอีก 2 ล้านที่เป็นผู้เหลือรอดจากประเทศที่ตายไปแล้ว

คนสิบล้านภายในเมืองที่ทอดยาวนับร้อย ๆ กิโลกำลังเจอกับสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 ซึ่งถ้าไม่นับสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 7 ที่มักจะอยู่เหนือท้องฟ้าขึ้นไป มันก็คือสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดบนผืนดิน

หวอ.....วู้ด...วิ้ว..................

เสียงสัญญาณดังไปทั่วทั้งเมืองทุกคนต่างพากันตื่นตระหนก โดยเฉพาะผู้คนในส่วนทางใต้ของเมืองพวกเขาไม่เคยเจอกับเสียงร้องคำรามที่ดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้อง มันทำให้พวกเขาหวาดกลัวและสิ้นหวัง

ที่ผ่านมาคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจและสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองต่างก็ใช้ชีวิตที่ยากลำบาก ในแต่ละวันต่างก็ต้องอยู่ให้รอดในโลกที่โหดร้ายนี้

มันมีทั้งโจร อาชญากรที่มักจะปล้นคนอ่อนแอหรือคนต่างเชื้อที่พอเห็นหน้ากันก็ฆ่ากัน ยังมีทหารแต่ละฝ่ายที่มักจะสู้กันโดยไม่สนใจผู้คนบริสุทธิ์ของอีกฝั่ง

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป พอเสียงคำรามของสัตว์ระดับ 6 ดังขึ้นทุกคนก็เกิดความกลัวขึ้นเหมือนกัน และจนถึงตอนนี้มีหลายคนที่คิดได้ว่าศัตรูของพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ด้วยกัน

“ระดับ 6, มาจากทางใต้,เผ่าเจ้าสมุทร,ดูเหมือนฟ้าจะไม่ต้องการให้ฉันสังหารมนุษย์ด้วยกันเอง” ไนเรลบินตรงไปทางใต้ด้วยความเร็วสูงสุดด้วยอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดออกมา เขาหาที่ลงได้แล้ว

“ตามไป” เอวากระโดดขึ้นไปบนหลังของม้ายักษ์กลายพันธุ์เคลื่อนที่ไปทางใต้โดยมีกองกำลังผู้พิทักษ์ร้อยคนตามไปด้วย

............

“เอาไงกันดี เราจะไปด้วยใหม่” เคเดนถามอาบิเกล มนุษย์ชั้นสูงในกลุ่มก็รอฟังคำตอบด้วยเช่นกัน

“เราเลือกฝั่งแล้วยังไงก็เสียเมืองนี้ไปไม่ได้ รีบตามไป” อาบิเกลสั่งให้ทหารผู้โดนสะกดทุกคนถอยกลับมาจากนั้นก็มุ่งลงใต้เช่นกัน

“ตาย...” มาราคอฟต่อยเข้าที่หัวของทหารผู้โดนสะกด ซึ่งเป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลตายในหนึ่งหมัด ก็สังเกตว่าทหารผู้โดนสะกดต่างพากันถอยกลับออกไปเหลือเพียงแต่ศพที่ทิ้งไว้เท่านั้น

“แฮ่ก ๆ พวกมันจะไปไหน” นายทหารที่สู้จนเหนื่อยถามออกมา

“มันมุ่งลงไปที่ประตูทิศใต้” มาราคอฟเดินไปหยิบหอกเหล็กขนาดใหญ่ยาวกว่า 3 เมตรหนัก 80 กิโลกรัมขึ้นมาขณะที่กล่าว

“พวกเราจะเอายังไงกันดี”

“ช่วยคนเจ็บ ส่งคนไปรวมกองกำลังประชาชนไทกีล่าที่หลบอยู่รอบ ๆ มาให้หมด ส่งคนไปตามกองกำลังทหารที่นอกกำแพงของเรามาด้วย ตอนนี้เราต้องไปช่วยประชาชนไทกีล่าในเมือง” มาราคอฟบอก

“ท่านหมายความว่าเราจะไปสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ตัวนั้นงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าประธานสมาพันธ์นักล่าไปสู้กับมันแล้ว...”

“สัตว์กลายพันธุ์นั้นไม่ใช่ระดับ 5 แม้แต่ฉันที่เป็นระดับ 5 ขั้นกลางก็ยังคงรู้สึกกลัวกับเสียงร้องคำรามของมัน ดังนั้นเราต้องไปช่วยไนเรลฆ่ามัน”

“บางทีมันอาจจะเป็นระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ก็ได้”

“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น” มาราคอฟพูดออกมาขณะที่มองไปทางใต้ เขาอยากให้มันเป็นแค่ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์จริง ๆ แต่มาราคอฟไม่ใช่คนโง่ ด้วยการที่เขาอยู่มาจนอายุขนาดนี้ ดำรงตำแน่งพลเอกของไทกีล่า มีข้อมูลในมืออยู่มากมาย ดังนั้นเขารู้ว่าสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้ต้องเกี่ยวกับอามิวกัสอย่างแน่นอน

หรือจะพูดให้ถูกมันคือตัวการที่ทำให้อามิวกัสล่มสลาย

‘สงครามกำลังมา มนุษย์ก็คือมนุษย์เหมือนกัน พวกที่ต้องการฆ่าเผ่าพันธุ์มนุษย์คิดแค่นี้ ส่วนซอมบี้พวกเราคืออาหาร’ มาราคอฟคิดถึงคำพูดของไนเรลที่ฝากซามูเอลมาบอกเขา

“บางทีพวกเราไม่ควรจะมาฆ่ากันเอง แต่มนุษย์ควรจะช่วยกันสู้กับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ แต่........ใครกันที่จะสามารถทำให้ทุกคนคิดแบบนั้นได้”

.................

ไนเรลบินมาถึงทางประตูทิศใต้ก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มีจุดหนึ่งของกำแพงที่ดูยิ่งใหญ่พังถล่มราบไปกับพื้น มีซากของคนที่หนีไม่ทันแหลกเละเป็นกองเลือดอยู่ใต้ซากมันไม่ใช่ฉากที่น่าเป็นอย่างยิ่ง

ห่างออกไปผู้คนพยายามวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ ส่วนทหารอามิวกัสต่างพากันหันไปสู้สุดชีวิตเพื่อปกป้องชาวอามิวกัสด้านหลังพวกเขา

บูม! บูม! บูม!

ห่างออกไปไกล ตามกำแพงเมืองซึ่งยังไม่พังลง ปืนใหญ่พลังงานในรัศมี 10 กิโลเมตรต่างพากันหันไปยิ่งสัตว์กลายพันธืระดับ 6 ตัวนั้น

“มันคือ...จระเข้” ด้านหน้าของไนเรลเป็นจระเข้ขนาดไม่ต่ำกว่า 100 เมตร ผิวหนังของมันเหมือนกับเหล็กกล้าสีดำทมิฬ ไนเรลคิดว่าเกล็ดพวกนี้มันอาจจะเทียบได้กับโลหะใต้พิภพ บนหลังของมันยังมีสันเกล็ดที่แหลมคมราวกับใบดาบขนาดใหญ่ยาวไปจนสุดลำตัวและหาง

ปากของมันเต็มไปด้วยฝันที่แทรกตัวสลับไปมาจนดูน่าขนลุก มันคือจระเข้น้ำเค็มยักษ์กลายพันธุ์ระดับ 6 ขั้นต้น

แต่ยังไม่หมดห่างออกไปนอกกำแพง ไนเรลเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างคลายกับมนุษย์ สูง 3 เมตรมีบางตัวที่สูงกว่านั้นอยู่บ้าง ตัวสีฟ้าออกดำ ใบหน้าและผิวหนังเป็นเกล็ด มีสิ่งที่คล้ายกับเหงือกบริเวณคอสองข้าง ในมือแต่ละตนถืออาวุธที่เหมือนจะทำขึ้นมาจากกระดูกของสัตว์กลายพันธุ์ใต้ทะเล มันทั้งดูป่าเถื่อนและสวยงามในเวลาเดียวกัน

พวกมันมีกันอยู่ราว ๆ 50,000 กว่าตัว เคลื่อนที่เป็นรูปขบวนทัพออกมาจากป่าที่มีหิมะตกตรงเข้ามาทางกำแพงที่พังถล่ม ด้านหลังสุดมีตัวที่ดูเหมือนหัวหน้าซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ขี่งูทะเลสีรุ้งระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ตัวยาวกว่า 70 เมตรตามมาด้วย

ทันทีที่พวกมันเข้ามาได้ก็คำรามใส่ทหารอามิวกัส

อ๊ากกก!!!

หลังจากนั้นก็มันก็กระโจนเข้าหาทหารคนนั้นใช้อาวุธในมือที่เหมือนหอกฟันจนหัวทหารนายนั้นขาด

“เผ่าเจ้าสมุทร” ไนเรลตะลึงกับสิ่งที่เห็นไม่คิดว่าพวกมันจะขึ้นจากทะเลมากันเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนพวกมันจะเป็นแนวหน้าที่ส่งตามหลังสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 6 มา

“เผ่าเจ้าสมุทรคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของทหารพวกนั้นไปก่อน แต่...แกลองมาเจอกับฉันหน่อย” ไนเรลมองไปที่จระเข้ระดับ 6 ขั้นต้นด้วยสายตาที่เย็นชา ไนเรลอยากจะระบายความโกรธ ความเศร้าของเขาเป็นอย่างมาก ตอนนี้ดูเหมือนจระเข้ตัวนี้จะมาได้จังหวะพอดี

.......................................

Witterry : ช่วงนี้ไรท์ลงตอนน้อยต้องขอโทษด้วยครับ พอดีเกิดอาการบาดเจ็บ ปวดหลังจากการนั่งนาน บางครั้งคือปวดมากจนนั่งไม่ได้ เลยหยุด ๆ หาย ๆ ไปบ้างต้องขอโทษนักอ่านทุกคนด้วยนะครับ เดี๋ยวจะรีบหายรีบเขียนนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด